หลังจากที่ฆ่ามังกรเสวียนเยวี๋ยนได้แล้ว กลุ่มของหานเซิ่นก็เดินทางออกจากถ้ำ
หานเซิ่นรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เฟิร์สเดย์กับยวิ๋นซู่ซางต่างก็ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ แถมพวกเขายังต้องแบกร่างของมังกรเสวียนเยวี๋ยนกับอสูรกรงเล็บภูติหยกกลับไปอีก
ร่างของมังกรเสวียนเยวี๋ยนนั้นมีประโยชน์มากๆ ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องการเสียมันไปเปล่าๆ
หานเซิ่นผ่าหัวของมังกรเสวียนเยวี๋ยนและนำสมองของมันออกมา ซึ่งมันคือยีนซีโน่เจเนอิคของมังกรตัวนี้
สมองของมังกรเสวียนเยวี๋ยนดูเหมือนกับลูกคริสตัลสีดำที่มีขนาดพอๆกับกำปั้น แต่ที่น่าแปลกก็คือมันมีมังกรเสวียนเยวี๋ยนอยู่ภายในลูกคริสตัลนั้น
เมื่อหานเซิ่นได้รับลูกคริสตัลสีดำมา เสียงประกาศก็ดังขึ้นในหัวของเขา
“คุณได้รับยีนซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์ แต่เนื่องจากยีนระดับมาร์ควิสไม่เพียงพอ ไม่สามารถสกัดได้”
หานเซิ่นประหลาดใจและคิดกับตัวเอง ‘นั่นมันหมายความว่ายังไง? การจะดูดซับยีนกลายพันธุ์เข้าไปจำเป็นต้องมียีนระดับเดียวกันเป็นรากฐานก่อนอย่างนั้นหรอ?’
หานเซิ่นเก็บลูกคริสตัลเข้าไปและเดินทางออกจากถ้ำพร้อมกับคนอื่นๆ
“หานเซิ่น วิชาจีโนที่เจ้าใช้กับมังกรเสวียนเยวี๋ยนคืออะไรกัน? มันดูเป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆ” ยวิ๋นซู่อีพูดกับหานเซิ่นขณะที่เดินทางกลับ
“มันเป็นวิชาจีโนที่ใช้เพื่อลดความเร็วของศัตรู มันมีชื่อว่าวิชาเต่า” หานเซิ่นตอบ
เมื่อได้ยินชื่อ ยวิ๋นซู่อีและคนอื่นๆก็ดูประหลาดใจ ยวิ๋นซู่อียิ้มและพูด
“นั่นเป็นชื่อที่ดี เจ้าทำให้มังกรเสวียนเยวี๋ยนกลายเป็นเต่าตัวหนึ่งจริงๆ”
กระเรียนพันขนและคนอื่นๆรู้สึกแปลกใจ พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าวิชาที่ใช้ลดความเร็วของศัตรูจะมีประสิทธิภาพถึงขนาดนั้น พวกเขาเชื่อว่ามันจะต้องไม่ใช่วิชาจีโนธรรมดาๆอย่างแน่นอน
หลังจากที่พูดคุยกันอยู่สักพัก หานเซิ่นก็ตัดสินใจขายร่างของมังกรเสวียนเยวี๋ยนให้กับยวิ๋นซู่ซาง ยวิ๋นซู่ซางจึงเรียกคนของเธอมาขนมันกลับไป
หานเซิ่นเอาไปแค่ยีนซีโน่เจเนอิคของมังกรกับอสูรกรงเล็บภูติหยกนิดหน่อยเท่านั้น หลักจากนั้นเขาก็ขี่นกไร้ขากลับไปที่เกาะ
ในระหว่างทางกลับ หานเซิ่นก็ตรวจสอบวิญญาณอสูรใหม่ที่เพิ่งได้มา
“อสูรกรงเล็บภูติหยก : อาวุธ”
หานเซิ่นเรียกวิญญาณมันออกมาและพบว่ามันเป็นอาวุธจริงๆ มันดูคล้ายคลึงกับกรงเล็บของอสูรกรงเล็บภูติหยก
มันมีที่จับยาว 3 ฟุต พร้อมกับตัวกรงเล็บที่เหมือนกับใบมีดอยู่ที่ปลายของมัน หานเซิ่นไม่แน่ใจว่ามันเป็นอาวุธประเภทไหนกันแน่
หานเซิ่นเก็บมันกลับไปและเรียกวิญญาณอสูรมังกรเสวียนเยวี๋ยนกลายพันธุ์ออกมา
“มังกรเสวียนเยวี๋ยนกลายพันธุ์ : ปีก”
หลังจากที่หานเซิ่นเรียกมันออกมา เขาก็รู้สึกค่อนข้างผิดหวัง เขาคิดว่ามันจะเป็นปีกขนาดใหญ่ที่ดูเท่ห์ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเขาเรียกมันออกมา มันก็ไม่ได้เป็นปีกสีดำที่อยู่บนของมังกร แต่มันเป็นปีกที่โผล่มาจากข้างหูของเขาแทน
พวกมันไม่ใช่ปีกที่กว้างใหญ่อะไร พวกมันเป็นเพียงแค่ปีกหูเล็กๆ ถึงพวกมันจะดูสวยงาม แต่หานเซิ่นไม่คิดว่าพวกมันจะมีประโยชน์อะไรมากนัก
หานเซิ่นพยายามจะลองบินด้วยปีกนั้น ซึ่งพวกมันรวดเร็วอย่างมากและเกือบจะดีเท่ากับรองเท้าเขี้ยวกระต่ายของเขาเลย
รองเท้าเขี้ยวกระต่ายเพิ่มความเร็วในตอนที่อยู่บนพื้นเท่านั้น แต่ปีกมังกรนี้จะเพิ่มความเร็วในตอนที่เขาอยู่กลางอากาศ ดังนั้นพวกมันเหมาะสำหรับใช้ในปราสาทนภาอย่างมาก วิญญาณอสูรนี้อาจจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากกว่าที่เขาคิด
แต่เมื่อเขาใช้ปีกมังกรนี้ มันก็ทำให้เขาดูตลก
หานเซิ่นละลายยีนของอสูรกรงเล็บภูติหยก หลังจากนั้นเขาก็ดื่มพวกมันเข้าไป ไม่นานเขาก็รู้สึกหนาวเย็นราวกับว่าถูกสาดด้วยน้ำเย็น
“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ล +1”
หานเซิ่นได้ชิ้นส่วนยีนซีโน่เจเนอิคของอสูรกรงเล็บภูติหยกมาทั้งหมด 9 ชิ้นจาก หลังจากที่เขากินพวกมันเข้าไป เขาก็ได้รับยีนซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลมาทั้งหมด 9 พ้อย
แต่ทว่ายีนซีโน่เจเนอิคของมังกรเสวียนเยวี๋ยนกลายพันธุ์ไม่สามารถละลายได้ มันเป็นอย่างที่เสียงประกาศบอก เนื่องจากหานเซิ่นยังไม่มียีนระดับมาร์ควิสมากพอ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสกัดยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ได้
หานเซิ่นพักผ่อนอยู่หนึ่งคืน แต่เมื่อพบว่าไม่มีอะไรให้เขาทำในวันต่อมา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงมีแผนที่จะเข้าไปล่าซีโน่เจเนอิคภายในถ้ำเสวียนเยวี๋ยน เขาต้องการจะเก็บยีนระดับเอิร์ลของเขาให้เต็มเพื่อที่เขาจะได้ฝึกวิชาจีโนไปสู่ขั้นต่อไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
หานเซิ่นขี่นกไร้ขาไปยังถ้ำเสวียนเยวี๋ยน แต่เขาให้มันรออยู่ข้างนอกและเข้าไปในถ้ำตามลำพัง
เนื่องจากกระเรียนพันขนและคนอื่นๆไม่ได้มาด้วย หานเซิ่นก็แค่ค่อยระวังตัวเองเพียงอย่างเดียว เขาใช้รองเท้าเขี้ยวกระต่ายวิ่งลึกเข้าไปถ้ำด้วยความเร็วสูง
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะรองเท้าเขี้ยวกระต่ายรวดเร็วเกินไป Xuan Jade Spiritถึงไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็นเลย หานเซิ่นวิ่งอยู่ 3 ชั่วโมงและผ่านจุดที่พวกเขาสังหารมังกรเสวียนเยวี๋ยนไป แต่มันก็ยังไม่มีวี่แววของซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว
หานเซิ่นไม่กล้าจะชะลอความเร็ว เพราะเขาต้องการจะดึงความสนใจของทุกสิ่งมีชีวิต เขาได้พบคนของปราสาทนภาที่เข้ามาล่าซีโน่เจเนอิคเหมือนกัน แต่พวกเขามากันเป็นกลุ่ม มีเพียงแค่หานเซิ่นเท่านั้นที่เข้ามาตามลำพัง
เมื่อศิษย์ของปราสาทนภาเห็นหานเซิ่นวิ่งไปมาตัวคนเดียว พวกเขาก็รู้สึกแปลกใจ
เนื่องจากXuan Jade Spiritนั้นสามารถปรากฏตัวออกมาได้ทุกหนทุกแห่ง มันจึงเป็นอันตรายที่จะออกล่าตามลำพัง ซึ่งมันหาได้ยากที่จะเห็นคนเข้ามาคนเดียวเหมือนอย่างหานเซิ่น
ขณะที่หานเซิ่นกำลังเดินอยู่ในถ้ำ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากในถ้ำ
หานเซิ่นมองตามเสียงนั้นไปและเห็นชายคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางเขา มันมีมดตัวหนึ่งที่มีหัวใหญ่พอๆกับแมวกำลังวิ่งไล่ตามเขามา
หานเซิ่นเรียกมนตราออกมา หลังจากนั้นเธอก็ยกปืนไรเฟิลขึ้นและยิงกระสุนออกไประเบิดหัวของซีโน่เจเนอิคที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
“ซีโน่เจเนอิคมดหยกระดับไวเคานต์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
“วิ่ง!” ชายคนนั้นยังคงวิ่งเข้ามาและตะโกนบอกหานเซิ่น
“วิ่งทำไม? มันตายไปแล้วนะ” หานเซิ่นพูด
ชายคนนั้นยังคงวิ่งต่อไป เขาตะโกน “พวกมันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว พวกมันมีอยู่หลายตัว!”
“พวกมันมีกันอยู่เท่าไหร่?” หานเซิ่นถาม
“เยอะจนนับไม่ถ้วน วิ่งหนีเร็วเข้า” ชายคนนั้นวิ่งผ่านหานเซิ่นไป
หานเซิ่นไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น ขณะที่เขาเห็นพวกมดกำลังหลั่งไหลออกมาจากภายในถ้ำด้านหลังชายคนนั้น มันมีอยู่มากเกินกว่าที่จะนับได้
“มันเยอะจริงๆด้วย” แต่หานเซิ่นไม่ได้หวาดกลัว เขารู้สึกดีใจแทน ดวงตาของเขาเปล่งประกายออกมา
มนตราเปลี่ยนปืนไรเฟิลของเธอให้กลายเป็นปืนอาร์พีจี เธอวางมันลงบนไหล่และตั้งท่าก่อนที่จะเหนี่ยวไก
จรวดพุ่งออกไปยังใจกลางของฝูงมดที่วิ่งเข้ามา