ตอนที่ 1218 เทเลพอร์ตผิดพลาด
ทะเลฝนดาวตก หอทงเทียน
หมู่เกาะฝนดาวตกไม่ใช่สถานที่ยิ่งใหญ่สำหรับใช้พักผ่อนวันหยุดอีกต่อไป สามเดือนที่แล้วมีความผันผวนของพลังงานที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นที่นี่ เมื่อชาวเผ่าทะเลส่งคนไปตรวจสอบก็ไม่พบอะไร เมื่อคนทั่วไปคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ พวกเขายังคงเพลิดเพลินกับหาดทรายสายลมและแสงแดดอย่างมั่นใจ อย่างไรก็ตามการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อก่อนนี้ส่งผลให้ทะเลฝนดาวตกมีมลทินคาวเลือด
นักรบเผ่าทะเล ทหารรับจ้างและนักสู้พันธมิตรปราณก่อกำเนิดถูกฝังอยู่ที่นี่รวมทั้งนักรบเผ่าทะเล
ในเวลาเดียวกันนั้นที่ทะเลฝนดาวตกมีนักท่องเที่ยวหลายหมื่นมาท่องเที่ยวพักร้อนที่นี่ และที่นี่มีนักรบรุ่นเก่าปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ทะเลฝนดาวตก
พวกเขาถูกทำลายล้างสังหารหมดสิ้น
ไม่มีผู้รอดชีวิตจากคลื่นโจมตีครั้งนี้
การสังหารหมู่ที่โหดเหี้ยมอำมหิตทำให้แตกตื่นตกตะลึงไปทั้งหอทงเทียน
ยอดฝีมือจากเผ่าปีศาจและทวีปมังกรทะยานได้ค้นหาสาเหตุอย่างสุดความสามารถเป็นเวลาหนึ่งเดือนนับแต่มีการซุ่มโจมตี แต่น่าประหลาดใจที่พวกเขาไม่พบเจออะไร
มีข่าวลือต่างๆ ที่แพร่กระจายในหมู่ชาวหอทงเทียน คำกล่าวที่น่าเชื่อถือที่สุดคือมีนักรบโบราณผู้ชั่วร้ายที่ทรงพลังอำมหิต ถูกปล่อยออกมาจากผนึก เพราะเพื่อฟื้นฟูพลังอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการที่ชั่วร้ายอำมหิต สังเวยเลือดของผู้อาศัยและนักท่องเที่ยวใกล้กับทะเลฝนดาวตก สำหรับคลื่นพลังโจมตีอย่างต่อเนื่องทำไมถึงได้หายไป? นั่นเป็นเพราะเลือดและพลังงานที่ต้องการมีเพียงพอแล้ว นักรบโบราณผู้ชั่วร้ายพร้อมจะปรับตัวและดูดซับพลังในที่ซ่อนเร้นเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขา ดังนั้นจึงค้นหาไม่พบอะไรเลย และหากนักฆ่ายุคโบราณนี้ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ เกรงว่าหอทงเทียนจะต้องสั่นสะเทือนภายใต้กรงเล็บจอมมารผู้ชั่วร้าย
ในช่วงเวลาที่น่ากลัวนี้ไม่มีใครสามารถยืนหยัดขึ้นได้
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าคนที่น่าเกรงขามและทรงพลังอย่างคุณชายสามตระกูลเย่ว์ออกจากหอทงเทียนไปหาประสบการณ์แดนสวรรค์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อใด
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ยังมีมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพและแม้แต่จ้าวปีศาจแดนนรกทั้งหลายก็ไม่ได้อยู่คุ้มครองหอทงเทียน
ทุกคนล้วนเดินทางไปแดนสวรรค์
หอทงเทียนตอนนี้ได้รับการคุ้มครองโดยพันธมิตรปราณก่อกำเนิด
เป็นที่น่าเสียดายสถานการณ์ที่เหมือนกับมังกรไม่มีหัว ผู้นำที่น่าเชื่อถืออย่างคุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่อยู่ยืนหยัดเพื่อควบคุมสถานการณ์ นักรบจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ยังขาดความมั่นใจ! ความจริงคือยังไม่แน่ใจนัก นักรบจากกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อาจมีก่อความวุ่นวายอยู่บ้าง ถ้าพบเจอนักรบโบราณผู้ชั่วร้ายจริงๆ ไม่ทราบว่าสถานการณ์จะพัฒนาเป็นไปในทิศทางใด
แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่คนธรรมดาได้เห็นและได้ยิน
ส่วนความจริงไม่เป็นเช่นนั้น
สามเดือนที่แล้ว นับจากวันที่ฮุยไท่หลางออกมาจากรอยแยกมิติเวลาทางทวีปกวงหมิง หัวหน้าชาติพันธุ์ต่างๆ จึงได้รู้ความจริง
กองทัพแดนสวรรค์เตรียมการรุกราน… แม้ว่าฮุยไท่หลางจะพูดไม่ได้ แต่มันมีวิธีการที่ฉลาด มันแค่พาทุกคนไปยังเสาผลึกของหอทงเทียนที่สร้างไว้เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่จักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงรุกรานหอทงเทียน ทุกคนจึงเข้าใจได้ทันที
จากวันนั้นทุกกลุ่มชาติพันธุ์เตรียมพร้อมกับการทำสงคราม
แม้ว่ายังคงเก็บไว้เป็นความลับ เนื่องจากป้องกันไม่ให้คนทั่วไปตื่นตระหนก แต่ชนชั้นปกครองได้รวมตัวผู้มีศักยภาพและรอคอย
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือหอทงเทียนเผชิญกับกองทัพ ความเร็วในการบุกรุกของแดนสวรรค์นั้นรวดเร็วมาก แทบจะทันทีหลังจากฮุยไท่หลางแจ้งข่าว ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่ที่พวกเขาปรากฏนั้น ไม่ใช่สุสานเทพแห่งทวีปกวงหมิง แต่เป็นทะเลฝนดาวตก มีรอยแยกมิติเวลาเชื่อมกับแดนสวรรค์กับทะเลฝนดาวตกได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้! เกาะในทะเลฝนดาวตกถูกบุกโจมตีโดยกองกำลังขนาดเล็กในแดนสวรรค์ เนื่องจากยอดฝีมือชาวเผ่าทะเลถูกย้ายไปเพื่อป้องกันสุสานเทพเจ้าในทวีปกวงหมิง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีกำลังมากพอปกป้องหมู่เกาะฝนดาวตกจึงต้องประสบกับสูญเสียอย่างหนัก
ซากศพนับหมื่นลอยเกลื่อนอยู่ในทะเล
ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มนักรบเก่าหลายคนที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ไม่มีใครรอดชีวิต
เมื่อยอดฝีมือเผ่าทะเลและสมาชิกวังมารทราบข่าวและกลับมาและทราบว่ากองกำลังขนาดเล็กที่รุกรานหอทงเทียนมีพวกหักหลังหอทงเทียนพาไปหลบซ่อนไม่เหลือร่องรอย
“หอทงเทียนตอนนี้มีกำลังเปราะบางเกินไป” เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ผู้เฒ่าหนานกงยืนถอนหายใจอยู่ริมชายฝั่งทะเลฝนดาวตก
“มีบางอย่างผิดปกติ” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าที่ยืนอยู่ข้างเขาขมวดคิ้ว “ศัตรูไม่เพียงแต่ลงมือโจมตีขณะที่เย่ว์หยางไม่อยู่ แต่ยังหลอกให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าจะบุกมาทางสุสานในทวีปกวงหมิง แต่กลับจงใจสังหารหมู่ที่ทะเลฝนดาวตกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเรา ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาต้องการปิดปากพวกเรา ด้วยการลงมือจากภายในที่ลับอย่างนี้ข้ากล้าพูดได้ว่า หากไม่มีคนทรยศก็จะไม่มีผีสางปรากฏ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะป้องกันเราและโจมตีเราสามครั้งติดกัน”
“บางทีในหมู่พวกเขาบางคนอาจมีทักษะความสามารถพิเศษ” เมื่อไม่นานมานี้ผู้อาวุโสใบไม้เขียวมู่ฮัวที่เพิ่งย้ายกลับมาจากแดนสวรรค์ไม่นานมานี้ เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า แดนสวรรค์มีตัวประหลาดอยู่มากมาย พวกเขามีทักษะฝีมือที่พิเศษที่จะสร้างผลกระทบได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ตอนนี้ผู้คนกำลังตื่นตระหนกไม่รู้จะทำอย่างไร?” ท่านหญิงจูเว่ยและท่านหญิงเยี่ยนตามมาสมทบที่นี่
ชาวเผ่าทะเลบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
พวกนางรู้สึกต้องการไห่หลาน แต่ไห่หลานจักรพรรดินีสมุทรไปแดนสวรรค์กับเย่ว์หยาง ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด พวกเขาจนใจ เพราะพวกเขามีพลังไม่มากพอ บารมีไม่มากพอจะข่มชาวเผ่าทะเลทั้งหมดได้อย่างไร?
ผู้เฒ่าหนานกงรู้สึกละอายใจ
เขาไม่รู้จะปลอบโยนอย่างไร
เย่ว์หยางไม่อยู่ที่นั่น มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรก็ไม่อยู่ที่นั่น แม้แต่นักสู้ผู้เยาว์รุ่นหลังอย่างเย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางไม่อยู่ที่นั่น ในขณะที่เขาคิดว่าปลอดภัยที่สุด กองทัพแดนสวรรค์กลับแทงข้างหลังอย่างน่ากลัว พลังคราวนี้น่ากลัวยิ่งกว่าการรุกรานของจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงในช่วงที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ว่าหอทงเทียนอาจถูกถล่มยับเยิน
ความหวังประการเดียวในตอนนี้คือหวังว่าเย่ว์หยางและคนอื่นจะกลับมาทันเวลา
แน่นอนว่าหอทงเทียนยังไม่ถึงกับสิ้นหวัง เพราะจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนก็ยังอยู่ที่นั่น แม้ว่าพวกนางจะฝึกฝนลับอยู่ในดินแดนบันไดสวรรค์ ตราบใดที่พวกนางทราบเหตุการณ์ พวกนางอาจกลับมาช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ได้ “รายงาน” “พบกองทัพแดนสวรรค์มากกว่าหมื่นคนในสุสานเทพทวีปกวงหมิง อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรกำลังต่อสู้อยู่ เราป้องกันทางออกสุสานเทพอย่างเคร่งครัด แต่มีนักรบแดนสวรรค์ปลอมตัวเป็นทหารสิบกว่าคน บุกฝ่าแนวป้องกันและหลบหนีออกไปได้ แม่ทัพปีศาจและจอมพลฟงขวงกำลังไล่ตามและส่งข้ามาขอกำลังสนับสนุน”
“มีนักรบแดนสวรรค์ปะปนในหมู่พวกเจ้า น่าขายหน้านัก!” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าโกรธ
“เจ้ากลับไปรายงานแม่ทัพฟงขวง เราจะป้องกันเส้นทางเทเลพอร์ตลงชั้นเก้าหอทงเทียนเอง” ผู้เฒ่าหนานกงปลอบโยน
เขาเข้าใจ
อัศวินมังกรหนุ่มและนักรบเลือดมังกรที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการรบในสนามเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เด็กหนุ่มฝีมือดีเหล่านี้เป็นกลุ่มทหารหนุ่ม เพื่อรอให้พวกเขาเติบโตเป็นยอดฝีมืออย่างเป็นทางการ บางทีต้องผ่านประสบการณ์ฝึกฝนบ่มเพาะเป็นเวลาช่วงหนึ่งก่อน
จะต้องทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จโดดเด่นเหมือนกับเย่คง เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ
แม้ว่าจะพบอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์อีกครั้ง
แต่คาดถึงความเป็นไปได้ว่าต้องหลังจากผ่านเหตุการณ์รุกรานของแดนสวรรค์
การเติบโตของเย่คง เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ยากเย็นเพียงไหน? นอกจากนี้ความจริงก็คือมีเย่ว์หยางคอยนำร่องให้พวกเขา พวกเขาต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมานับครั้งไม่ถ้วน จนทุกวันนี้ไม่มีอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรที่มีประสบการณ์การต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในสนามรบอย่างแท้จริง พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสกับสนามรบที่ต่อสู้อาบเลือด ซึ่งมีเหตุเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วนสามารถเปลี่ยนแปลงระหว่างเป็นกับตายได้อย่างแท้จริง อาจจะตายและเกิดใหม่ได้
ที่พวกเขาสามารถทำได้ตอนนี้คือ
ไม่ยอมแพ้ต่อศัตรู
มันยากมากที่จะต่อสู้ถึงที่สุดโดยไม่กลัวตาย
“ฮุยไท่หลางอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?” ท่านหญิงทั้งสองกังวลห่วงใยว่าฮุยไท่หลางกำลังต่อสู้อยู่ที่นั่น นักสู้แดนสวรรค์ต่อให้ร้ายกาจก็อาจถูกจับกินได้ ตอนนี้ไม่มีนักสู้ปราณฟ้าคนใดกล้าเผชิญหน้ากับมัน คาดว่าเพราะเหตุผลนี้ดังนั้นทัพหน้าของแดนสวรรค์จึงน่ากลัว ทหารระดับล่างสามารถสู้ได้ แต่ผู้นำเกือบทั้งหมดทำเป็นหลีกเลี่ยงรอโอกาส เห็นได้ว่าข้อมูลของแดนสวรรค์เกี่ยวกับหอทงเทียน ในความเป็นจริงนั้นฝ่ายแดนสวรรค์เก็บไปได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งพลังการต่อสู้ของฮุยไท่หลางก็อยู่ในความคาดการณ์ด้วย
“ใช่ มันเหมือนกับเทพอารักษ์ของเรา!” เมื่อว่าการมาถึงของฮุยไท่หลาง สมาชิกของอัศวินมังกรทั้งหมดกระตือรือร้น มันเป็นหมาป่าเกียจคร้านที่กลืนกินศัตรูที่แข็งแกร่งได้ทีละหลายสิบคน มันสร้างความหวาดกลัวทำให้กระบวนทัพของแดนสวรรค์จนปั่นป่วนวุ่นวาย หลังจากนั้นหัวหน้าของทหารแดนสวรรค์จึงต้องปลอมตัวหนี ถ้าไม่มีฮุยไท่หลางพวกกองทัพแดนสวรรค์คงจะไม่เห็นทหารหอทงเทียนอยู่ในสายตา
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารแนวหน้าเบิกทาง แต่พวกเขาไม่เห็นทหารหอทงเทียนอยู่ในสายตา
ทะเลฝนดาวตก
ก็แค่สถานที่หลอกล่อ
เนื่องจากศัตรูไม่อยู่ที่นั่นก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการซุ่มโจมตีต่อไป
ผู้เฒ่าหนานกงและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าพูดคุยสองสามคำก่อนแยกกันเป็นสี่กลุ่มดำเนินตามแผน
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาด้านล่างของทะเลฝนดาวตกมีหินและเงาปลารูปร่างแปลกประหลาดลอยขึ้นมาจากก้นทะเลอย่างรวดเร็ว พวกเขาแต่ละคนจัดเก็บบริวารไว้ในกำไลเก็บของจนแทบหายใจไม่ออก เขาเกรงคนพวกนี้จะขาดอากาศตาย เขาเตะเท้าดุด่าในเวลาเดียวกัน นังทาสราคาถูกยังไม่รีบจัดเรียงอักขระรูนอีกหรือ วันนี้ใช้คนไปเกือบหมื่นเพื่อหลอกล่อปีศาจเฒ่าเจ้าปัญหา ถ้าแผนนำสิบราชาเข้าหอทงเทียนเสร็จไม่ทันวันนี้ พวกเจ้าจะต้องตายกันทั้งหมด เจ้าพวกโง่!”
ทาสที่ถูกดุด่ารีบจัดการสร้งวงเวทอักขระรูนบนเกาะฝนดาวตก เป็นวงเวทอักขระรูนขนาดใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบร้อยเมตร
หัวหน้าทาสหลายคนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในใจกลางวงเวทอักขระรูน
ใช้เลือดบูชายัญอักขระรูน
ประกายแสงระยิบระยับที่ใจกลางวงเวทรูนฉายลำแสงสีแดงพุ่งขึ้น ลำแสงนี้พุ่งขึ้นไปไม่ถึงท้องฟ้า แต่บิดตัวเป็นเกลียวและพุ่งลงไปในทะเลฝนดาวตกเลื้อยเหมือนงูแต่ไม่รวมตัวกันราวกับว่าไม่มีใครรู้ว่าก้นทะเลมีรอยแยกมิติเวลาเข้าสู่แดนสวรรค์
หลังจากลำแสงเหมือนงูบิดตัวฉายลงไปในทะเล
ในไม่ช้า
ก็มีอาการสนองตอบ
หัวหน้าปฏิบัติการหลายคนหัวเราะกันเอง หัวหน้าที่คล้ายสิงโตคนหนึ่งเยาะเย้ย “พวกโง่หอทงเทียนคิดว่าพวกมันฉลาด พวกมันจะคิดออกได้อย่างไรว่าลึกลงไปในทะเลฝนดาวตกจะมีช่องว่างมิติเวลา จะมีรอยแยกมิติเวลานำเข้าสู่แดนสวรรค์ได้ นายท่านเคลื่อนไหวครั้งนี้จริงเท็จยากจำแนกเป็นกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่หลอกลวงเจ้าพวกบ้านนอกได้ทุกที่และทุกเวลา!”
ในช่วงเวลาแห่งความภูมิใจลำแสงสีทองฉายออกมาจากก้นทะเลพุ่งขึ้นฟ้า
ผู้นำหัวแรดมีสีหน้างงงวย “ไม่, ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้! เจ้าทำเส้นทางเทเลพอร์ตถูกวิธีหรือเปล่า? แม้จะมีความรู้สึกถึงการเทเลพอร์ต แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้สำเร็จในครั้งเดียว อย่างน้อยต้องใช้เวลานานถึงสามชั่วโมงไม่ใช่หรือ?”
“บางทีพลังระดับราชาคงแข็งแกร่ง หรือไม่ก็พวกเขาอาจเทเลพอร์ตโดยตรงก็ได้” หัวหน้าหัวสิงโตประหลาดใจ
แสงในท้องฟ้าหายไป
ไม่มีอะไรนอกจากความว่างเปล่า
มีแต่นกนางนวลตัวหนึ่งที่ตะลีตะลานบินจนอ่อนแรง มันบินยังไม่ถึงชายฝั่งก็ร่วงตก แทบจะหนีไม่พ้นคลื่นทะเล นกนางนวลน้อยออกมาจากช่องเทเลพอร์ตได้อย่างไร? ราชาทั้งสิบเล่า?