นี่เป็นกลุ่มที่แปลกมาก ให้หมาป่าหนุ่มตัวหนึ่งนำทาง ข้างหลังมีคนหนึ่งคน สุนัขหนึ่งตัว ลิงหนึ่งตัว นกสองตัว และแมวหลายตัวตามติดๆ ห่างออกไปช่วงหนึ่งยังมีฝูงกวางขนาดย่อมด้วย ส่วนตรงที่ไกลออกไปในป่าชุกชุม อาจจะมีหมีดำและฝูงหมาป่าไคโยตีที่รอโอกาสแก้แค้นอยู่ด้วย
กลุ่มใหญ่ขนาดนี้ เดินทางยากลำบากอยู่ในป่ากว้างใหญ่ไพศาลกลับเหมือนหยดน้ำเพียงหยดเดียวในทะเล เกรงว่านั่งเฮลิคอปเตอร์บินผ่านไปจากข้างบน ก็มองไม่เห็นวี่แววว่ามีอะไรอยู่
เดินอย่างนี้ไปหนึ่งหรือสองชั่วโมง เฟยหม่าซือก็วิ่งกลับมาข้างๆ แล้วบอกกับจางจื่ออันเสียงต่ำว่า “ข้างหน้ามีกลิ่นหมาป่าตัวอื่น มีกลิ่นของแมว…มีกลิ่นคนด้วย แต่ไม่ใช่กลิ่นเมื่อเร็วๆ นี้”
จางจื่ออันพยักหน้า บอกให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงเพิ่มความระมัดระวัง ฝูงหมาป่าอยู่ข้างหน้า จะเป็นมิตรหรือศัตรูก็ยังตัดสินไม่ได้
เขาเดินไปข้างหลังสองสามก้าว ขวางกวางจ่าฝูงเอาไว้ และชี้ไปข้างๆ ให้พวกมันอยู่ตรงนั้นและอย่าเดินไปข้างหน้า กวางจ่าฝูงยังไม่ค่อยยินยอมนัก จนกระทั่งเขาซ่อนกระเป๋าสะพายไว้ในรูต้นไม้ข้างๆ และบอกว่าเขาจะกลับมาอีก คราวนี้จ่าฝูงกวางถึงจะพาฝูงกวางเข้าสู่โหมดพักผ่อน แล้วก้มหน้าแทะเล็มใบไม้กับผลไม้ป่า
ถ้าไม่ใช่เพราะหมาป่าหายไปจากป่าผืนนี้เกือบร้อยปีแล้ว ฝูงกวางไม่มีทางตามมาถึงที่นี่ตลอดทาง ถึงแม้พวกมันชอบเลียเกลือหรือเชื่อใจเขาอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ พวกมันลืมไปแล้วว่าหมาป่ามีอันตราย เป็นการส่งเนื้อแกะเข้าปากหมาป่าโดยแท้
หมาป่าหนุ่มท่าทางรีบร้อนราวกับอยากเจอทุกคน มันไม่สนใจว่ายังเจ็บแผลที่ถูกเสวี่ยซือจื่อข่วนอยู่ พร้อมทั้งเร่งฝีเท้า ส่วนจางจื่ออันก็นำพวกภูตสัตว์เลี้ยงตามหลังไปติดๆ อย่างง่ายดาย
เดินไปสักพักหนึ่ง ในป่าที่ไม่สามารถตัดสินระยะห่างได้อย่างแม่นยำ ข้างหน้าเป็นที่โล่งกว้าง ไม่มีต้นไม้ช่วงหนึ่ง ที่ปรากฏข้างหน้าคือเนินเขาเตี้ยๆ ที่เกิดจากหินมากมาย
หมาป่าหลายตัววนเวียนอยู่ระหว่างก้อนหิน นับหมาป่าวัยรุ่นได้ทั้งหมดประมาณสิบตัว มีหมาป่าโตเต็มวันและลูกหมาป่าด้วย
ฝูงหมาป่ามักจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งครอบครัวใหญ่ ประกอบไปด้วยสามีภรรยาหมาป่าจ่าฝูง พี่น้องของสามีภรรยาจ่าฝูง ลูกของสามีภรรยาจ่าฝูง อย่างหมาป่าหนุ่มตัวนี้ เพราะยังหนุ่มเกินไป อาจจะเป็นลูกของสามีภรรยาจ่าฝูงที่โตแล้วแต่ยังไม่ได้ออกจากฝูงไป
พูดอย่างจริงจัง ในฝูงหมาป่าอาจจะไม่ได้ปกครองโดยหมาป่าจ่าฝูงตัวผู้ แต่อาจจะเป็นหมาป่าสามีภรรยาปกครองร่วมกัน หมาป่าจ่าฝูงตัวผู้ดูแลหมาป่าตัวผู้ หมาป่าจ่าฝูงตัวเมียดูแลหมาป่าตัวเมีย และปกป้องเลี้ยงดูลูกหมาป่า ก็เหมือนฮ่องเต้และฮองเฮาแบ่งกันดูแลฝ่ายนอกและฝ่ายใน
จางจื่ออันแยกแยะหมาป่าจ่าฝูงได้เร็วมาก เป็นหมาป่าตัวผู้โตเต็มวัยร่างกายแข็งแรงยืนอยู่บนก้อนหินตัวหนึ่ง และคู่ครองของมันก็กำลังดูแลลูกหมาป่าที่เหมือนลูกสุนัขสามตัว หมาป่าตัวอื่นกำลังเล่นไล่จับอยู่บนที่ว่างข้างหน้ากองก้อนหิน แต่คนเห็นการเล่นสนุกของพวกมันแล้วรู้สึกอันตรายมาก เหมือนการฉีกทึ้งจริงจังโดยแท้ จนขนหมาป่าปลิวว่อนไปทั่ว ถึงขนาดบางครั้งยังกัดจนเลือดออกด้วย
หมาป่าตัวผู้ที่เคยคาบหมาป่าไคโยตีตัวนั้นก็อยู่ในนั้น อาจจะเป็นพี่น้องของหมาป่าจ่าฝูง
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจางจื่ออันกับพวกภูตสัตว์เลี้ยง สร้างความแตกตื่นให้กับฝูงหมาป่าทันที ต้องรู้ว่าฝูงหมาป่าเป็นสัตว์กินเนื้อชั้นสูงสุดในป่าแห่งนี้ ถึงแม้เป็นหมีดำก็ไม่กล้าหาเรื่องง่ายๆ สิงโตอเมริกาก็ทำได้แค่ให้ความเคารพ หมาป่าไคโยตียิ่งไม่ง่าย ศัตรูตามธรรมชาติของพวกมันมีแค่มนุษย์
มนุษย์เคยฆ่าหมาป่าบนผืนแผ่นดินนี้จนสิ้นซาก ตอนนี้พวกมันกลับมาแล้ว ถ้ามนุษย์อยากฆ่าจริงๆ ยังฆ่าพวกมันให้สิ้นซากได้อีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้ฝูงหมาป่าโกรธเคืองยิ่งกว่านั้น คิดไม่ถึงว่าในบรรดาพวกมันจะมีคนทรยศ เป็นหมาป่าหนุ่มดึงคนเข้ามาภายใน พามนุษย์ที่อันตรายมาตรงหน้าพวกมัน
หมาป่าจ่าฝูงกระโจนลงมาจากบนก้อนหิน แล้วพุ่งไปหาหมาป่าหนุ่มพลางคำรามดุร้ายสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้สนใจตำหนิมัน กลับพุ่งมาสบตากับจางจื่ออันพร้อมแยกเขี้ยวยิงฟัน
นอกจากลูกหมาป่าที่งุนงง หมาป่าตัวอื่นก็พุ่งเข้ามาทั้งหมด ล้อมพวกจางจื่ออันเป็นรูปพัด ขอแค่หมาป่าจ่าฝูงสั่งเสียงเดียว หรือเขาทำอะไรที่ยั่วโมโหพวกมันเข้า พวกมันก็จะกระโจนเข้าไปในทันที
หมาป่าหนุ่มร้องหงิงๆ อย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ยืนลังเลอยู่ข้างๆ อย่างสับสน
หมาป่า สุนัข ข้างในฝูงของสัตว์ประเภทสุนัขพวกนี้มีระดับชั้นที่เคร่งครัด สามีภรรยาหมาป่าจ่าฝูงอยู่ในระดับสูงสุด เรียกว่าอัลฟ่า รองลงมาถูกเรียกว่าเบต้า ระดับกลางเป็นผู้ปฏิบัติงาน ส่วนที่เหลือทำหน้าที่เป็นน้องเล็กโอเมก้า
หมาป่าหนุ่มตัวที่กัดหมาป่าไคโยตีและคาบไปน่าจะเป็นเบต้าในฝูงหมาป่า แต่หมาป่าหนุ่มตัวนี้น่าจะเป็นโอเมก้า
เป็นเบต้าหรือโอเมก้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของหมาป่า แต่เกี่ยวกับวัยและนิสัยของหมาป่า หมาป่าที่เพิ่งโตเต็มวัยและมีนิสัยอ่อนโยนจะเป็นโอเมก้า พอมันโตขึ้นอีกสองสามปี ฝึกฝนทักษะการล่าสัตว์ขั้นสูงระหว่างการล่าสัตว์ ตอนเริ่มดุร้ายเหมือนหมาป่าตัวอื่นก็จะท้าสู้เพื่อเลื่อนขั้นเป็นเบต้า หลังจากสู้ชนะถึงจะกลายเป็นเบต้า
แน่นอนว่าหมาป่าโอเมก้าก็อาจจะถูกขับไล่จากฝูงหมาป่า และกลายเป็นหมาป่าเดียวดายบางครั้ง ถ้าไม่สร้างครอบครัวของตัวเอง ก็จะตายไปอย่างเดียวดายระหว่างที่พเนจร
อัตราความสำเร็จในการล่าสัตว์ของฝูงหมาป่ามีแค่หนึ่งในสิบ แต่อัตราความสำเร็จในการล่าสัตว์เองของหมาป่าเดียวดายยิ่งต่ำกว่านั้น เมื่อเสียการคุ้มครองของฝูงหมาป่าไป หมาป่าเดียวดายจะเผชิญหน้ากับวิกฤตในการเอาชีวิตรอดมากมาย มากกว่าครึ่งมีจุดจบต้องตายในต่างถิ่น หรือเพราะหิวมากจนยากจะทานทน เลยไปจู่โจมปศุสัตว์ อย่างนั้นยิ่งเป็นการรนหาที่ตาย
หมาป่าเบต้าตัวก่อนหน้านี้ ถือโอกาสตอนที่หมาป่าไคโยตีคุมเชิงกับจางจื่ออัน ลอบจู่โจมและกัดหมาป่าไคโยตีตัวหนึ่งได้สำเร็จ แถมพาเหยื่อหนีไปจากการปิดล้อมของหมาป่าไคโยตีสามสี่ตัวอย่างง่ายดาย เท่านี้ก็เห็นทักษะการล่าที่มากมายในทันที แต่สถานการณ์ที่หมาป่าหนุ่มเจอกับอาหารของจางจื่ออันแล้วก็คลายการเตรียมป้องกันอย่างง่ายดาย ก็เพราะมันเป็นหมาป่าโอเมก้าที่ยังหนุ่มและนิสัยอ่อนโยน
ถ้าสองตัวเปลี่ยนตำแหน่งกัน หมาป่าหนุ่มเผชิญหน้ากับการปิดล้อมของฝูงหมาป่าไคโยตี ก็คงทำได้แค่ปล่อยเหยื่อในมือแล้วหนีไป ส่วนหมาป่าตัวผู้โตเต็มวัยถูกภูตสัตว์เลี้ยงล้อมแล้วอาจจะพยายามเป็นปลาลอดออกจากแห
พอเห็นสถานการณ์แบบนี้ จางจื่ออันก็รู้ดีว่าไม่เข้าท่าแล้ว เดิมทีเขาหวังให้หมาป่าหนุ่มแนะนำเขากับฝูงหมาป่าเพื่อเป็นเพื่อนกินสักหน่อย แต่มันมีตำแหน่งต่ำต้อยเกินไปในฝูงหมาป่า เมื่อเผชิญหน้ากับหมาป่าอัลฟ่าและหมาป่าเบต้าจอมเผด็จการจึงพูดแทรกไม่ได้
ถ้าเจอกันที่อื่น ฝูงหมาป่าอาจจะไม่ตอบโต้รุนแรงขนาดนี้ แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่จะปกป้องลูกของตัวเอง ฝูงหมาป่ายิ่งมีจิตสำนึกในอาณาเขตรุนแรงมาก พวกมันอาจจะคิดว่าเขาต้องการทำร้ายลูกหมาป่าสามตัว พวกมันต้องต่อสู้อย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องลูกๆ แน่นอน
จางจื่ออันไม่กล้าทำอะไรรุนแรง ยิ่งไม่กล้าไปหยิบเนื้อตากแห้งในกระเป๋าเพื่อลองหลอกล่อหมาป่าพวกนี้ แล้วก็คิดว่าไม่มีประโยชน์ เนื้อตากแห้งเล็กน้อยแบบนั้นยังไม่พอยาไส้หมาป่าพวกนี้เลย
เขาแอบกำสเปรย์ป้องกันหมี ถ้าฝูงหมาป่าพุ่งเข้ามา ไม่ว่าสถานการณ์จริงเข้ามาแบบโค้งก็จะพ่นรอบหนึ่ง จนกระทั่งกลัวและหยุดลง ค่อยถือโอกาสหนี
พวกภูตสัตว์เลี้ยงก็เตรียมพร้อมสู้ ส่วนริชาร์ดบินไปบนต้นไม้เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้แล้ว
เขาแอบทำสัญญาณมือให้พวกภูตสัตว์เลี้ยง ให้พวกมันค่อยๆ ถอยไป
ตอนนี้เอง ฝูงหมาป่าเหมือนได้ยินเสียงบางอย่าง พวกมันหันไปมองข้างหลังโดยพร้อมเพรียง จ้องไปยังยอดกองหิน แต่ตรงนั้นว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด