บทที่ 522 ลาจาก
เมื่อได้ยินคำของจู๋หวิน ลู่เสี้ยงหยางรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องข่มขู่เขาแน่
แต่เขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะกอดจู๋หวินต่อไป พลันปล่อยจู๋หวินออกอย่างว่าง่าย
หากแต่ตอนที่เขาผละออกจากร่างของจู๋หวิน มือของเขาบีบที่เอวบางของเธอเบาๆ
ความรู้สึกยืดหยุ่นที่อ่อนนุ่มและอ่อนนุ่ม ทำให้ลู่เสี้ยงหยางแทบจะร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
ร่างของจู๋หวินสั่นสะท้าน ราวกับไฟฟ้าสถิต ใบหน้าที่แดงก่ำเพิ่งจะดีขึ้นมาบ้าง กลับแดงก่ำขึ้นมาให้เห็นอีกหน
ทันใดนั้น เธอทำตาขวาง ถลึงตาโตใส่ลู่เสี้ยงหยางพร้อมกล่าว “กรงเล็บสุนัขจริงๆ เชื่อไหมว่าฉันจะตัดมันทิ้งไปซะ”
ลู่เสี้ยงหยางกล่าวอย่างหน้าไม่อาย “ใครใช้ให้คุณสวยขนาดนี้ล่ะ ผมควบคุมมือของตัวเองไม่ได้เลย”
“…..” จู๋หวิน เธอหมดหนทางที่จะกำจัดลู่เสี้ยงหยาง ช่วยไม่ได้ ยังไงก็คงจะแทงเขาให้ตายไปไม่ได้
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมา ในรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาคงต้องแยกจากกับจู๋หวินในวันนี้เสียแล้ว
แต่ก่อนแยกจาก เขาก็ยังอยากจะพยายามอีกสักตั้ง พลันเชื้อเชิญจู๋หวิน “คุณจะกลับไปที่ปินเหอกับผมก่อนไหม ผมจะพาคุณเที่ยวรอบปินเหอเลย ให้ผมได้ลิ้มลองการเป็นเจ้าถิ่นบ้าง”
เมื่อได้ยินประโยคนั้นจู๋หวินไม่ตอบรับแต่อย่างใด หญิงสาวนิ่งเงียบ
ลู่เสี้ยงหยางรู้ว่าเรื่องนี้อาจเป็นไปได้ จึงกล่าวเสริม “ที่ปินเหอมีของกินเยอะแยะเลย คุณไปกับผมเถอะ”
“เฮ้อ” จู๋หวินถอนหายใจยาว แม้ว่าเธอจะหวั่นไหวบ้าง แต่สถานะของเธอจะทำตามใจชอบไม่ได้
หญิงสาวส่ายหน้า พลันกล่าว “ไม่ล่ะ ฉันมีธุระที่จะต้องจัดการ วันนี้ฉันต้องไปแล้ว”
แม้ว่าเขาจะคาดเอาไว้อยู่แล้ว แต่ลู่เสี้ยงหยางก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เธอรับรู้ความคิดของลู่เสี้ยงหยาง จึงรู้สึกอาลัยบ้างเล็กน้อย พลันกล่าวกับลู่เสี้ยงหยาง “ก่อนลาจากนายมีอะไรจะพูดกับฉันไหม?”
ลู่เสี้ยงหยางกล่าวอย่างไม่ลังเล “หลังจากนี้ผมต้องไปหาคุณที่ไหน”
จู๋หวินนิ่งไป ก่อนที่จะส่ายหน้า “เปลี่ยนคำถามใหม่”
บอกตามตรง ในตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางเป็นเพียงนักบู๊ระดับแปดตัวเล็กๆ แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ แต่ใครก็มิอาจบอกได้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรืออาจจะพูดอีกอย่างจะถูกลืมเลือน
หากลู่เสี้ยงหยางต้องการมาหาเธอจริงๆ ก็ต้องมีความสามารถระดับปรมาจารย์เท่านั้น
แต่ปรมาจารย์ราวกับมังกร ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปถึงจุดนั้นได้ แม้แต่ใต้แผ่นดินหวาเซี่ยที่กว้างใหญ่ไพศาล ปรมาจารย์ก็มีน้อยยิ่งกว่าน้อย
เมื่อคิดได้อย่างนั้น จู๋หวินรู้สึกว่า ต่อให้เธอบอกลู่เสี้ยงหยางว่าเธออยู่ที่ไหนก็ไร้ประโยชน์
ลู่เสี้ยงหยางยังคงยืนกรานอย่างมุ่งมั่น “ไม่ ผมจะถามคำถามนี้ คุณแค่ตอบผมมาก็พอแล้ว”
จู๋หวินยังคงไม่ตอบคำถาม พลันเปลี่ยนหัวข้อของบทสนทนาอย่างดื้อๆ “เอางี้แล้วกัน ฉันจะให้ของขวัญนายสองอย่าง ถือว่าเอาไว้ดูต่างหน้า”
เธอกล่าวพลันหยิบหนังสือเล่นหนึ่งออกมาจากอก ยื่นให้กับลู่เสี้ยงหยาง
หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนว่าจะมีอายุยาวนาน กระดาษด้านใสได้ถูกย้อมเป็นสีเหลือง ตัวอักษรที่บิดเบี้ยวปรากฏบนหน้าปก ปราณบูโด
ลู่เสี้ยงหยางอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เขาไม่ยื่นมือออกไปรับหนังสือเกี่ยวกับปราณเล่นนี้ของจู๋หวิน
จู๋หวินยัดหนังสือลงไปที่ฝ่ามือของลู่เสี้ยงหยาง “ปราณที่นายฝึกอย่างดุเดือด หากมุ่งไปที่ทางนี้ ก็สามารถไปถึงขั้นสุดได้แน่ แต่หลายสิ่งในเมื่อมีผลดีก็ต้องมีผลเสีย ปราณที่แข็งแกร่งและบ้าคลั่งของนาย หากได้พบกับปราณที่อ่อนโยนและผุดผ่องบริสุทธิ์ บางทีอาจจะถูกยับยั้ง”
“หลังจากนี้ นายต้องฝึกปราณบูโดเพื่อช่วยเสริม จะทำให้ปราณของนายอ่อนโยนมากขึ้น แข็งแกร่งและบริสุทธิ์ ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ หากไปถึงจุดสุดยอด ก็จะไร้เทียมธาร”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางถึงได้ดึงสติกลับคืนมา คำว่าไร้เทียมธารเสมือนกับมีดคมที่กรีดเฉือนหัวใจของลู่เสี้ยงหยาง จารึกเข้าไปในหัวใจของเขา
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางเผยสายตาวับวาวประกาย จับจ้องไปที่จู๋หวินพร้อมกล่าว “คุณวางใจได้เลย ผมจะต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกหล้าได้แน่ ถึงตอนนั้นถึงจะคู่ควรที่จะเป็นผู้ชายของคุณ”
คราวนี้ จู๋หวินไม่โกรธแต่อย่างใด แต่กลับเผยรอยยิ้มหวานออกมา
รอยยิ้มนั้นงดงาม เสมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบาน ชั่วพริบตานั้น ทำให้ทั่วฟ้าดินได้สูญเสียสีสันไป
ในหัวของลู่เสี้ยงหยางขาวโพลน พลันตั้งใจจารึกรอยยิ้มของจู๋หวินเอาไว้ในหัว
“ได้ หากวันหนึ่งนายยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลกหล้า ฉันจะเป็นผู้หญิงของนาย” จู๋หวินกล่าวกับลู่เสี้ยงหยางด้วยความตั้งใจมุ่งมั่น
ลู่เสี้ยงหยางกำหมัดแน่น พลันให้คำมั่นในใจอย่างมุ่งมั่น “ผมจะต้องแข็งแกร่ง ผมจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกหล้า”
“โอเค สิ่งที่ควรพูดได้พูดออกไปหมดแล้ว นอกจากนี้ชุดเกราะที่นายใส่อยู่ก็ให้นายแล้วกัน ฉันเชื่อว่านายเองก็รู้แล้ว ว่าชุดเกราะนี้สามารถป้องกันการโจมตีของนักบู๊ที่ต่ำกว่าปรมาจารย์” จู๋หวินกล่าวเสริม ด้วยแววตาประกายสีสัน
บอกตามตรง อันที่จริงเธอตั้งความหวัง หวังว่าสักวันลู่เสี้ยงหยางจะได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกหล้า
ลู่เสี้ยงหยางๆ ไม่ตอบรับแต่อย่างใด เสี้ยวความเจ็บปวดยังคงเกาะกุมหัวใจของเขา ไม่ว่าอย่างไรก็สลัดไม่หลุด
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของลู่เสี้ยงหยาง จู๋หวินเองก็ไม่พูดอะไรอีก
การจากลาต่อจากนี้ ไม่ได้ยืดเยื้อแต่อย่างใด จู๋หวินออกจากถ้ำ เธอสาวเท้าเล็กๆ ก้าวเข้าไปในป่า เพียงแค่พริบตาร่างของเธอก็หายลับตาเข้าไปในป่าอันเขียวขจี
ส่วนลู่เสี้ยงหยางยังคงอยู่ในถ้ำ นิ่งอยู่สักพัก ก่อนที่จะยืดตัวขึ้นออกเดินทาง
เขาไม่รู้เลย ว่าหลังจากที่เขาจากไป ร่างของจู๋หวินปรากฏขึ้นบนยอดต้นไม้ไม่อยู่ไม่ไกล พลันจับจ้องแผ่นหลังของเขาเงียบๆ กระทั่งลับตาเธอถึงได้หายเข้าไปในป่าอีกครั้ง
เมื่อลู่เสี้ยงหยางออกจงมาจากเหวได้ ก็ใกล้มืดค่ำเสียแล้ว
หลังจากที่ผ่านการตกผลึกมาหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ ความรู้สึกเจ็บปวดค่อยๆ จางลง
แต่เขากลับมีความมุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งมากกว่าเก่า มีเพียงแค่ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผืนแผ่นดิน เขาถึงจะคู่ควรที่จะไปหาจู๋หวิน
เขาส่ายหน้า สลัดเอาความเศร้าโศกออกจากหัว ลู่เสี้ยงหยางตรงไปที่โรงพยาบาลในทันที
หลายวันก่อนหน้า เขาถูกขุยกางไล่ฆ่า ในตอนนั้นเย่สวนยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ลู่เสี้ยงหยางก็ได้เดินทางมาถึงในห้องผู้ป่วยของเย่สวนที่โรงพยาบาลจนได้
ภายในห้อง ชิวรั่วหานกำลังเช็ดมือให้กับเย่สวน
เย่สวนยังคงนอนอยู่บนเตียงเช่นเคย ไร้ปฏิกิริยาใดๆ เสมือนกับเจ้าหญิงนิทรา
ลู่เสี้ยงหยางเสมือนกับถูกทิ่มแทง ทำไมเย่สวนยังไม่ตื่นอีก
ชิวรั่วหานแหงนหน้าขึ้นก็ได้พบกับลู่เสี้ยงหยาง เธอขยี้ตาอย่างแรง พลันกล่าวถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พะ พี่เขยกลับมาแล้วหรือ”
หลายวันก่อนลู่เสี้ยงหยางออกไปซื้อของ ก็ได้หายตัวไปกะทันหัน หลังจากนั้นก็ติดต่อเขาไม่ได้มาตลอด
หลังจากนั้นเธอก็ได้แจ้งความกับตำรวจ ตำรวจหาอยู่หลายวันก็ไม่มีข่าวคราวของลู่เสี้ยงหยาง
ชิวรั่วหานคิดว่าเธอจะไม่ได้เจอ หลายวันนี้เธอเสียใจอย่างมาก จนหญิงสาวร้องไห้ดวงตาบวมเบ่ง หากไม่ใช่เพราะต้องอยู่ดูแลเย่สวน เธออยากจะออกไปตามหาลู่เสี้ยงหยางจริงๆ
ลู่เสี้ยงหยิ่มยิ้มตาหยี “หลายวันมานี้ลำบากเธอแล้ว”
หือหือ!
ชิวรั่นหานเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ เธอน้ำตาไหลพราก วิ่งเข้าไปที่ลู่เสี้ยงหยาง ก่อนที่จะซบลงในอ้อมกอดของเขา
“พี่เขย ฉัน ฉันคิดถึงพี่แทบแย่ พี่รู้ไหม?”