บทที่ 350 กำหนดเป้าหมายเล็กๆ หากำไรให้ได้หนึ่งร้อยล้าน!
เมื่อป้ายราคาในมือถูกยกขึ้น ฉินหยุนเฟยก็เริ่มขานราคา “85 ล้าน”
แม่งเอ้ย! ราคานี้เขาแทบตะโกนออกมาพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจ
แต่เพียงไม่นานราคานี้ก็ถูกกลบมิด
มาดามไฮโซวัย 40 กว่าขานราคาทันที “90 ล้าน”
ให้ตายเถอะ!
90 ล้าน?!
หัวใจของฉินหยุนเฟยกระตุก เขาแข็งใจเพิ่มราคาขึ้นอีก “91 ล้าน”
ฮะ?
ทุกคนตะลึงงัน มองย้อนกลับไปที่ฉินหยุนเฟย สงสัยว่าทำไมเจ้าหนุ่มคนนี้ถึงขี้ขลาดเพิ่มแค่ล้านเดียว
เงินในตัวไม่ได้มีมากมาย ฮ่าฮ่า ไม่มีเงินแต่ยังแกล้งทำเป็นรวย หาเรื่องจริงๆ
เป็นไปตามคาด มาดามไฮโซคนนั้นมองไปที่ฉินหยุนเฟยด้วยความเหยียดหยามแล้วพูดว่า “95 ล้าน”
“…” สีหน้าของฉินหยุนเฟยย่ำแย่มาก ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีเงินไม่ถึง 95 ล้าน
ครู่หนึ่งก็ได้แต่นั่งหงอยเศร้าซึม สีหน้าหดหู่
ลู่เสี้ยงหยางแอบขำอยู่ในใจ เจ้าหมอนี้ไร้เดียงสาจริงๆ ในตัวมีเงินไม่มาก แต่ยังกล้าอวดอ้างว่ารวย นี่เรียกว่าตัวเองทำตัวเองขายหน้าหรือเปล่า?
แม้ว่าหลิ่วหรูยู่จะเกลียดฉินหยุนเฟย แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณเขาสำหรับการประมูลเพื่อเธอ เธอพูดกับฉินหยุนเฟยเป็นมารยาทว่า “ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีของคุณ แต่ว่า กี่เพ้าชุดนี้แพงเกินไป ฉันไม่ค่อยชอบ”
ฉินหยุนเฟยกำลังกังวลว่าจะหาทางลงไม่ได้ พอได้ยินคำพูดของหลิ่วหรูยู่เขาก็ยิ้มออกมาทันทีพลางกล่าวว่า “ไม่ชอบก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องประมูลต่อ เดี๋ยวพอการประมูลจบลงผมจะซื้อกี่เพ้าชุดอื่นที่คุณชอบ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ผู้คนที่รายล้อมอยู่จำนวนมากก็หันกลับมา เหลือบมองฉินหยุนเฟย เจ้าหมอนี่พูดจากอะไรไม่เคยอายเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ลู่เสี้ยงหยางทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาแหงนหน้าระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
เจ้าโง่ฉินหยุนเฟยน่าขำจริงๆ หลิ่วหรูยู่เพียงแค่พูดออกไปอย่างนั้นเอง แต่เขากลับจริงจังกับมันจริงๆ เรื่องนี้ตอแหลได้เฉียบขาดมาก
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของลู่เสี้ยงหยาง ฉินหยุนเฟยก็โกรธขึ้นมาทันที เขามองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วแผดเสียงใส่ “เย็ดแม่ง เล่นบ้าอะไรกัน? แกกล้าดียังไงมาหัวเราะฉัน? ถ้าเก่งแกก็ประมูลให้ฉันดูหน่อย ฮึ ไอ้เศษสวะ ฉันไม่ได้โจมตีนาย ของในการประมูลครั้งนี้ แกก็ทำได้แต่มองเหมือนกัน ไอ้ลูกเขยเกาะเมียกินน่าขยะแขยงจริงๆ”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า ไม่ถกเถียงกับคนปัญญาอ่อนทั้งสอง
ขณะนั้นเองก็กำลังเผชิญหน้ากับราคาประมูล 95 ล้านของมาดามไฮโซคนนั้น ไม่มีใครขึ้นราคาอีกแล้ว
อย่างไรเสียเงิน 95 ล้านไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย มาดามไฮโซคนนี้ตะโกนราคาสูงเสียดฟ้าโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา บ่งบอกว่าเธอมีความตั้งใจที่จะเอาชนะ หากราคายังคงขึ้นต่อไป เธอจะต้องไล่ตามเป็นแน่
พูดตามตรง หากราคาของกี่เพ้าตัวนี้มากกว่า 100 ล้าน มันก็คงไม่มีคุณค่าแล้ว
สาวสวยเซ็กซี่ที่รับผิดชอบการประมูลยิ้มหน้าบานจนหุบไม่ได้ ราคาสูงเสียดฟ้าถึง 95 ล้าน ลำพังค่าคอมมิชชั่นก็หลายแสนแล้ว
แต่เธอหวังว่าจะมีคนมาแข่งขันกับมาดามไฮโซคนนี้ต่อไป ตราบใดที่ราคายังสูงขึ้นเธอก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นมากขึ้น
จากนั้นเธอก็ถือไมโครโฟนเอาไว้ในมือทั้งสองข้างแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ตอนนี้สุภาพสตรีท่านนี้ได้เสนอราคา 95 ล้านแล้ว ยังมีสุภาพบุรุษสุภาพสตรีท่านไหนเสนอราคาอีกบ้าง? กี่เพ้าชุดนี้เป็นชุดเดียวในหวาเซี่ยของเรา หากซื้อได้ก็เท่ากับว่าได้กำไร ทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสนี้นะคะ”
แม้ว่าคำพูดจะน่าฟัง แต่ก็ไม่มีใครตอบสนองกลับ
เมื่อเห็นอย่างนี้สาวสวยเซ็กซี่ที่รับผิดชอบการประมูลก็ต้องประกาศอย่างไม่มีทางเลือก “95 ล้านครั้งที่หนึ่ง 95 ล้านครั้งที่สอง 95 ล้านครั้งที่สาม…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ลู่เสี้ยงหยางก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “100 ล้าน”
อะไรนะ?
ทุกคนล้วนตื่นตระหนก มีคนเสนอราคาสูงเสียดฟ้าถึง 100 ล้านจริงๆ
หากกี่เพ้าชุดนี้ถูกขายในราคา 100 ล้านจริงๆ กี่เพ้าชุดนี้ก็คงไม่มีคุณค่าสำหรับการสะสมแล้ว
ฮ่าฮ่า เศรษฐีโง่คนไหนยอมให้ราคาถึง 100 ล้าน
พวกเขาทั้งหมดหันกลับไปด้วยสัญชาตญาณ มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงนั้น ในไม่ช้าสายตาของทุกคนก็สบกับลู่เสี้ยงหยาง
ให้ตายสิ ทำไมถึงเป็นเขาไปได้?
ทุกคนถึงกับอึ้งไป ไม่คาดคิดว่าคนที่เสนอราคาสูงถึง 100 ล้านจะเป็นหนุ่มน้อยที่สวมใส่เสื้อผ้าราคาถูก
แต่หนุ่มน้อยคนนี้สามารถจ่ายได้ถึง 100 ล้านจริงๆ หรือ? คงไม่ได้กำลังพูดส่งเดชอยู่นะ?
“เอ่อ… ลู่เสี้ยงหยาง คุณ… คุณกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” กงหยู่หนิงที่นั่งข้างๆ ลู่เสี้ยงหยางถึงกับสะดุ้ง สมองของตาคนนี้ไหลไปตามน้ำแล้วเหรอ อย่าว่าแต่เขาจะมีเงิน 100 ล้านหรือเปล่า ลำพังแค่กี่เพ้าชุดนี้ก็ไร้ค่าหลังจากซื้อมาด้วยเงิน 100 ล้านแล้ว
“อ๊ะ?” หลิ่วหรูยู่จ้องมองลู่เสี้ยงหยางอย่างว่างเปล่า สมองของเธอว่างเปล่า ร่างกายแข็งทื่อ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนที่ทั้งโง่และรวยที่ยอมเสียเงินไปเปล่าๆ คนนี้จะเป็นลู่เสี้ยงหยาง
แต่ว่า ลู่เสี้ยงหยางไม่ใช่ลูกเขยของตระกูลเย่หรือไง? ไปเอาเงินร้อยล้านมาซื้อกี่เพ้าแบบนี้ได้จากไหนมา?!
อะไรกันวะ
ฉินหยุนเฟยตกตะลึงไปหลายวินาทีก่อนจะรู้สึกตัว เขาแหงนหน้าระเบิดเสียงหัวเราะทันที พลางมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางราวกับว่าเขากำลังดูเรื่องตลก
ไอ้โง่เอ๊ย เป็นแค่ลูกเขย รู้สึกว่ามันเลิศเลองั้นสิ นึกว่าเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญสามารถเสกออกมาได้ตามใจชอบ
หึหึ ดูเหมือนว่าไม่ต้องออกแรงเอง ลู่เสี้ยงหยางจะปล่อยไก่แล้ว
ถ้าเขาไม่สามารถจ่ายหนึ่งร้อยล้านเพื่อประมูลกี่เพ้าชุดนี้ได้ เขาจะถูกทางห้องประมูลจับโยนออกไป
ที่แย่กว่านั้นคือเขาจะถูกตัดสินจำคุก
เติ้งเหวินเจี๋ยที่นั่งอยู่ไกลออกไป ทำเสียงฮึดฮัดทางจมูก พลางมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางราวกับว่าเขากำลังมองดูตัวตลก เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน กล้าดียังไงมาประมูลในราคา 100 ล้าน?
กู้ชิวส่วยถอนหายใจเบาๆ ลู่เสี้ยงหยางจะเล่นกลอีกเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคนหรือไม่?
ในขณะเดียวกันผู้ดำเนินการประมูลบนเวทีก็มีสีหน้างงงันเมื่อเห็นการแต่งตัวของลู่เสี้ยงหยาง
เห็นได้ชัดว่าเธอมีความคิดเดียวกันกับคนอื่นๆ ลู่เสี้ยงหยางที่สวมเสื้อผ้าราคาถูกทั้งตัว เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกขี้แพ้
ผู้ชายอย่างเขาจะเอาเงิน 100 ล้านมาซื้อชุดกี่เพ้านี้จากที่ไหน?
จากนั้นเธอก็หันไปหาลู่เสี้ยงหยางเพื่อยืนยันว่า “สุภาพบุรุษท่านนี้แน่ใจหรือว่าคุณต้องการจ่าย 100 ล้านเพื่อซื้อกี่เพ้าชุดนี้? ดิฉันมีหน้าที่ที่จะต้องเตือนคุณว่า คุณจะต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหากคุณทำการประมูลไม่จริง
ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างเฉยเมยว่า “คุณพูดมากไปแล้ว แค่หนึ่งร้อยล้านเองไม่ใช่เหรอ? ทำเป็นขี่ช้างจับตั๊กแตนไปได้”
โอ้โห!
ทันทีที่พูดออกมาเช่นนี้ ฝูงชนต่างพากันลุกฮือ
อะไรกันวะเนี่ย!
ช่างเป็นน้ำเสียงที่ยิ่งใหญ่!
แค่หนึ่งร้อยล้าน? เขาคิดว่าตัวเองเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งจริงๆ การกำหนดเป้าหมายเล็กๆ ของเขาคือกำไรหนึ่งร้อยล้าน
ดังนั้นในสายตาของพวกเขา สาเหตุที่ลู่เสี้ยงหยางมีความมั่นใจเช่นนี้ก็คือเขามีกำลังความสามารถจริงๆ หรือไม่ก็เป็นคนป่วยทางจิตที่มีปัญหาทางสมอง
เกือบทุกคนมีแนวโน้มในอย่างหลัง เชื่อว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นคนป่วยทางจิต
ในเวลานี้ผู้ดำเนินการประมูลบนเวทีรู้สึกรำคาญลู่เสี้ยงหยาง เขาหัวเราะเยาะในใจ อยากดูว่าลู่เสี้ยงหยางจะมีกำลังจริงๆ หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงประกาศว่า “1 ล้านครั้งที่หนึ่ง 1 ล้านครั้งที่สอง 1 ล้านครั้งที่สาม!”
เป๊ง!
สิ้นเสียง ระฆังบนโต๊ะประมูลก็ถูกเคาะดังขึ้น
“ยินดีด้วยครับคุณสุภาพบุรุษท่านนี้ กี่เพ้าชุดนี้เป็นของคุณในราคา 100 ล้าน คุณจะรูดบัตรหรือว่าเงินสดคะ?” ผู้ดำเนินการประมูลมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วถามขึ้น
ก่อนที่ลู่เสี้ยงหยางจะตอบ กงหยู่หนิงก็เหงื่อออกเต็มหน้าผาก
เธอพาลู่เสี้ยงหยางมาที่นี่วันนี้ ถ้าลู่เสี้ยงหยางหาเงินร้อยล้านไม่ได้ เธอก็ต้องจ่ายเงินจำนวนนี้เอง
หลิ่วหรูยู่ร้อนใจดั่งไฟแผดเผา เธอดึงแขนเสื้อของลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า “ลู่เสี้ยงหยาง คุณนี่โง่จริงๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่? ทำไมถึงยกหินมาทุ่มใส่เท้าตัวเองล่ะ? ตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น เดี๋ยวคุณจะถูกทางห้องประมูลจับโยนออกไปแน่ๆ ถ้าโชคไม่ดีคุณก็ต้องติดคุกที่เมืองปินเหอ”
ฉินหยุนเฟยพูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด “เจ้าโง่ อยู่ข้างนอกขายหน้าเหมือนกัน ให้เขาติดคุกกินข้าวฟรีดีกว่า หวังว่าเขาจะได้หลาบจำสักที”