บทที่ 340 เส้นยาแดงผ่าแปด
ในพุ่มไม้ที่หนาแน่น
หวังเสว่และเย่สวนถูกวางลงบนพื้น จากนั้นฟ้านเจี้ยนจงกับฟ้านเจี้ยนหมิงก็เหมือนสัตว์ป่าที่หิวโหยกระโจนเข้าใส่พวกเธอ
เย่สวนรู้สึกกลัวมาก น้ำตาของเธอไหลพรากออกมาแต่ร่างกายกลับไม่สามารถขยับได้ แม้แต่จะร้องขอความช่วยเหลือก็ยังทำไม่ได้เลย
หวังเสว่เองก็รู้สึกสิ้นหวังมาก เดิมทีเธอคิดว่าถ้าได้เข้าใกล้คนร้ายเธอก็จะมีโอกาสจัดการกับพวกเขาได้ แต่ไม่คิดเลยว่าความคิดของเธอช่างไร้เดียงสาเกินไป มันไม่ต่างอะไรกับเนื้อเข้าปากเสือเลย
ในเวลาเดียวกันบนรถบัส
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกกังวลมาก เย่สวนและหวังเสว่ถูกจับตัวไปแบบนี้ พวกเธอต้องเผชิญกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ทำได้แค่เป็นห่วง เพราะต่อหน้าเขาตอนนี้คือฟ้านเจี้ยนหัวที่คอยเฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวของทุกคนในรถด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม
สถานการณ์ที่นี่ชัดเจนแล้ว ถ้าใครกล้าตุกติกเขาก็จะยิงคนคนนั้นทันที
“ไม่ได้ จะรอต่อไปไม่ได้แล้ว ต่อให้ต้องเสี่ยงแค่ไหนเราก็ต้องลองดู” ลู่เสี้ยงหยางตัดสินใจอย่างรวดเร็วในใจ
วินาทีต่อมา ลู่เสี้ยงหยางเหลือบมองไปที่ยายแก่แล้วตะโกนพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “คุณยายครับ คุณยายเป็นอะไรไหม? อย่าทำให้ผมตกใจสิครับ”
จากนั้นฟ้านเจี้ยนหัวก็หันกลับไปมองแม่ของเขาตามที่ลู่เสี้ยงหยางคิดไว้
และในเวลาเดียวกัน ลู่เสี้ยงหยางก็ได้ลงมือ ร่างกายของเขาพุ่งเข้าหาฟ้านเจี้ยนหัวเหมือนลูกธนู จากนั้นเขาเหวี่ยงหมัดออกไปทุบปืนที่อยู่ในมือของฟ้านเจี้ยนหัวหล่นลงไปบนพื้น
“บ้าเอ๊ย!” ฟ้านเจี้ยนหัวโกรธมาก เขาเกลียดคนเล่นเหลี่ยมกับเขาที่สุด
เมื่อหันกลับมา เขาก็ได้เห็นหมัดที่สองของลู่เสี้ยงหยางที่เหวี่ยงเข้ามาหาเขา
ร่างกายของเขาถอยหลังไปเล็กน้อยก็สามารถหลบการโจมตีของลู่เสี้ยงหยางได้
“ไอ้หนู นายดิ้นหาที่ตายเองนะ อย่าหาว่าพี่ไม่เกรงใจล่ะ!” ฟ้านเจี้ยนหัวตะโกนพูด จากนั้นหยิบมีดสั้นออกมาจากเอวแล้วแทงเข้าไปที่ลำคอของลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางสายตาเย็นชา ในขณะที่ฟ้านเจี้ยนหัวแสดงฝีมือออกมา เขารู้สึกได้ว่าฝีมือของฟ้านเจี้ยนหัวนั้นอยู่ในระดับกลางของศิลปะต่อสู้ระดับเจ็ด ส่วนตัวเขานั้นยังอยู่ในขั้นต้นของศิลปะการต่อสู้ระดับเจ็ด
แม้จะอยู่ห่างกับเขาเพียงระดับเดียว แต่มันก็ยังมีช่องว่างในนั้น
แต่อย่างก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีทางต่อกรได้เลย
จากนั้นเขายกมือสองข้างขึ้น มือข้างหนึ่งคว้ามีดสั้นของฟ้านเจี้ยนหัว ส่วนอีกข้างแทงเข้าไปที่ตาของฟ้านเจี้ยนหัว
ฟ้านเจี้ยนหัวขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าลู่เสี้ยงหยางจะมีความกล้าขนาดถึงขั้นเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเขา
ตามสถานการณ์เช่นนี้ มีดของเขาสามารถแทงทะลุลำคอของลู่เสี้ยงหยางได้ แต่ดวงตาของเขาก็อาจถูกลู่เสี้ยงหยางแทงทะลุถึงสมองได้เช่นกัน
เหอะ!
ฟ้านเจี้ยนหัวหัวเราะอย่างเย็นชา เขามั่นใจว่าการโจมตีครั้งต่อไปของเขาจะสามารถสังหารลู่เสี้ยงหยางได้ ดังนั้นเขาจึงดึงมีดกลับไป และในขณะเดียวกัน เขาก้าวถอยหลังไปอีกหนึ่งก้าวเพื่อหลบการโจมตีของลู่เสี้ยงหยาง
นัยน์ตาลู่เสี้ยงหยางเต็มไปด้วยความเลือดเย็น เขาเตรียมสังหารฟ้านเจี้ยนหัวในครั้งเดียว เพราะสถานการณ์ของหวังเสว่กับเย่สวนในตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก เขาต้องยุติการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เพื่อจะไปช่วยพวกเธอได้ทันเวลา
แต่ในขณะนี้ ก่อนที่เขาจะโจมตีอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีร่างเงาคนคนหนึ่งตัดผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว
กงหยู่หนิงเริ่มลงมือแล้ว
กงหยู่หนิงนั้นเรียนห้องเดียวกันกับลู่เสี้ยงหยางในสถาบันหลงเสิน ซึ่งก็หมายความว่าฝีมือของเธอเทียบเท่ากับลู่เสี้ยงหยางได้
ดังนั้นกงหยู่หนิงก็ยังอยู่ในฝีมือขั้นต้นของศิลปะการต่อสู้ระดับเจ็ด
ในเวลานี้ เธอถือมีดสั้นแล้วเริ่มทำการโจมตี
มีดสั้นนั้นเปล่งประกายแสงสะท้อนและมีออร่าของดาบที่คมชัด
ซึ่งเป็นการแสดงวิชาดาบที่ลึกซึ้งมาก
ทุกๆ ขบวนท่าที่แทงดาบออกไปล้วนเป็นการโจมตีที่เด็ดขาดมาก
ลู่เสี้ยงหยางที่เห็นแล้วถึงกับต้องอึ้งไปสักพัก เขาไม่คิดเลยว่าสาวน้อยคนนี้จะระเบิดพลังได้น่ากลัวขนาดนี้
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย เพราะพื้นฐานศิลปะการต่อสู้ของกงหยู่หนิงกับเขานั้นเท่าเทียมกัน แต่เธอกลับนำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้จริงได้แล้ว ส่วนเขานั้นยังคงศึกษาวิชานรกอมตะและยังไม่ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ใดๆ เลย!
ฟ้านเจี้ยนหัวได้แต่ขมวดคิ้วและไม่ได้ทำการโต้ตอบใดๆ เขาพยายามสังเกตการโจมตีของกงหยู่หนิงให้ละเอียดก่อนค่อยทำการตอบโต้ภายหลัง
ร่างกายของเขาค่อยๆ ถอยไปข้างหลังทีละก้าวเพื่อหลบหลีกการโจมตีของเธอ
แต่ในที่สุด เขาก็ได้ตัดสินใจผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะเขาลืมปรมาจารย์ลู่เสี้ยงหยางคนนี้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของกงหยู่หนิง
เหอะ!
ลู่เสี้ยงหยางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง
ด้วยวิธีนี้ ลู่เสี้ยงหยางกับกงหยู่หนิงก็ได้ร่วมมือกันต่อสู้กับฟ้านเจี้ยนหัว
แม้ฝีมือของฟ้านเจี้ยนหัวจะอยู่ในขั้นกลางของนักศิลปะการต่อสู้ระดับเจ็ด แต่เมื่อลู่เสี้ยงหยางกับกงหยู่หนิงที่มีฝีมือการต่อสู้ในขั้นต้นของระดับที่เจ็ดได้ร่วมมือกัน มันจึงไม่ใช่การต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งอีก หลังจากทั้งสองได้ร่วมมือกัน มันจึงกลายเป็นฝีมือขั้นสูงของศิลปะการต่อสู้ในระดับที่เจ็ด
ดังนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ ฟ้านเจี้ยนหัวจึงเป็นผู้เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง
และจากนั้นไม่นาน
กงหยู่หนิงก็ใช้มีดสั้นแทงเข้าไปที่ไหล่ของฟ้านเจี้ยนหัว
ตามด้วยลูกเตะของลู่เสี้ยงหยางที่อัดเข้ากลางหน้าอกของเขา
ผัวะ!
ฟ้านเจี้ยนหัวกระเด็นออกไปชนกับกระจกหน้ารถ ในทันทีนั้น กระจกหน้ารถก็แตกละเอียดและร่วงลงเต็มพื้น ตามด้วยฟ้านเจี้ยนหัวที่กระเด็นออกจากรถและตกฟาดลงกับพื้นด้านนอก
ฟ้านเจี้ยนหัวรู้สึกโกรธมาก เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นอย่างเชื่องช้า
แต่ลู่เสี้ยงหยางกับกงหยู่หนิงไม่ได้ปล่อยโอกาสให้เขาได้พักหายใจ ทั้งสองกระโดดลงจากหน้ารถบัสแล้วทำการโจมตีเขาต่อ
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนในรถต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดเลยว่ากงหยู่หนิงที่ดูบอบบางและอ่อนแอกลับระเบิดพลังต่อสู้ที่ทรงพลังได้เช่นนี้
แน่นอนว่าสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้นคือไอ้ลูกเขยกระจอกลู่เสี้ยงหยางคนนี้ เขากลับกลายเป็นสัตว์ดุร้ายที่ดูน่ากลัวอย่างที่สุด
กู้ชิวส่วยรู้สึกตื่นเต้นและมีหัวใจดวงเล็กๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ นี่สินะ ตัวตนที่แท้จริงของลู่เสี้ยงหยาง?
เขาดูเป็นคนชอบธรรมและน่าเกรงขามมาก นี่มันพระเอกในดวงใจชัดๆ
โจวซวิ่นและซุนยีเฉินต่างก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาเพิ่งรู้ตัวว่าประเมินลู่เสี้ยงหยางต่ำไป
ไอ้เด็กคนนี้แหละของจริง!
และหน้ารถบัสในขณะนี้ ลู่เสี้ยงหยางกับกงหยู่หนิงก็ได้ต่อสู้กับฟ้านเจี้ยนหัวอย่างดุเดือดอีกครั้ง
ฟ้านเจี้ยนหัวเชี่ยวชาญด้านทักษะวิชาลับของสำนักกวางหมิง ดังนั้นจึงมองข้ามความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ ตอนนี้มีดในมือของเขาเหมือนมังกรพิษตัวหนึ่ง มักจะปรากฏตัวในที่ที่ศัตรูไม่คาดคิด
หลายๆ ครั้ง เขาเกือบตัดหน้ากงหยู่หนิง แต่โชคดีที่ลู่เสี้ยงหยางช่วยเธอไว้ทัน
หลังจากต่อสู้กันมาสักพัก ลู่เสี้ยงหยางก็เริ่มเดาทางฟ้านเจี้ยนหัวได้ จากนั้นเขากัดฟันพูดกับกงหยู่หนิงว่า “คุณโจมตีช่วงบนของเขานะ เดี๋ยวผมจะโจมตีช่วงล่าง”
กงหยู่หนิงพยักหน้าตอบ จากนั้นถือดาบสั้นขึ้นมาอย่างมั่นใจแล้วกระโจนเข้าหาฟ้านเจี้ยนหัวอีกครั้ง
ส่วนลู่เสี้ยงหยางก็ใช้การต่อยและเตะเพื่อพยายามโจมตีช่วงล่างของฟ้านเจี้ยนหัว
ในวินาทีต่อมา แสงเย็นวาบในหูของเขา ทันใดนั้น หูของฟ้านเจี้ยนหัวถูกกงหยู่หนิงตัดขาดไปข้างหนึ่ง
“โอ๊ย!” ฟ้านเจี้ยนหัวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ลู่เสี้ยงหยางง้างขาแล้วเตะไปที่กลางเป้าของฟ้านเจี้ยนหัวอย่างจัง
ผัวะ!
เสียงไข่แตกดังสะท้อนออกมา
ฟ้านเจี้ยนหัวตะโกนเสียงดังขึ้นและก้มลงแล้วใช้มือสองข้างปิดเป้าตัวเอง จากนั้นลู่เสี้ยงหยางเตะไปที่กลางศีรษะของเขาอีกครั้งด้วยความแรง
ภายใต้แรงกระทบอันทรงพลังและความเจ็บปวด ทำให้ฟ้านเจี้ยนหัวสลบคาที่ไปทันที
“สวนเอ๋อ หวังเสว่ ผมมาช่วยพวกคุณแล้ว” ทันทีที่การต่อสู้จบลง ลู่เสี้ยงหยางก็รีบหันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในพุ่มไม้โดยที่ไม่รอช้า