บทที่ 335 ถูกสวมเขาไม่ขาด
ในเวลานี้เอง ลู่เซี่ยงหลงและเซี่ยตงเสว่เองก็อยู่ในฝูงชนด้วย
เมื่อลู่เซี่ยงหลงเห็นวางเสว่ประคองบริเวณท้อง เขาเกิดความรู้สึกที่ประหลาดขึ้น ทีแรก เขาวางยาใส่วางหยู่ แย่งชิงความบริสุทธิ์ของเธอ ทีแรกก็เพื่อใส่ร้ายลู่เสี้ยงหยาง เพื่อขับไล่ครอบครัวของลู่เสี้ยงหยางออกจากตระกูล แต่ตอนนี้ กลับฝังสิ่งที่เป็นอันตรายเอาไว้
ใครจะไปรู้ ว่าวางหยู่จะตั้งครรภ์ในครั้งเดียว ที่ไม่คาดคิดไปกว่านั้น คือวางหยู่และลู่เซี่ยงหยุนตัดสินใจที่จะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้
หากถึงตอนนั้น เกิดคิดที่จะตรวจดีเอ็นเอขึ้นมา เรื่องทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยน่ะสิ
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ลู่เซี่ยงหลงเกิดหวาดหวั่น จนสีหน้าขาวซีด อย่างควบคุมไม่ได้
เซี่ยตงเสว่รับรู้ในความคิดของสามีตนเอง เธอก่นด่าเขาในใจ ‘ไร้ประโยชน์’
เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว จะกลัวอะไรอีก? ตอนนี้ทำได้แค่เดินให้สุดเท่านั้น และแน่นอนว่าก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดโปง ต้องลากตาแก่ลู่กั๋วต้งลงมาจากแท่นให้ได้เสียก่อน
คิดได้ดังนั้น เธอเอื้อมแขน หยิกเข้าที่แขนของลู่เซี่ยงหลงอย่างเงียบเชียบ
ลู่เซี่ยงหลงถึงได้สติกลับคืนมา พยายามควบคุมสติของตนเอง
เขาถอนหายใจ ก่อนหันไปเอ่ยกับลู่เซี่ยงหยุน “น้องชาย เรื่องนี่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตระกูลลู่ แกคิดจะทำแบบนี้จริงๆ หรือ?”
ของตาของลู่เซี่ยงหยุนแดงก่ำ เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “พี่ใหญ่ ผมตัดสินใจแล้ว ยังต้องให้ผมพูดอีกกี่รอบ?”
ลู่เซี่ยงหลงหัวเราะอย่างขมขื่น “แต่ในท้องของวางเสว่ ยังไงซะก็ไม่ใช่เลือดเนื้อของแก คลอดออกมาสักวันก็เป็นตัวซวย”
ให้ตาย ตอนนี้ตนต้องพูดให้ลู่เซี่ยงหยุนและวางเสว่เอาเด็กออก ถึงจะไร้ความอันตรายต่อตน
ลู่เซี่ยงหยุนถูกแทงใจดำ เขากำหมัดแน่น เล็บบดขยี้ขูดบนเนื้อหนัง แต่เขากลับไร้ความรู้สึก
ไม่ผิดหรอก เด็กในท้องของภรรยาตนเอง ไม่ใช่ลูกของตนเอง แต่เป็นเดรัจฉานของลู่เสี้ยงหยาง
เสียแรงที่ตนมองลู่เสี้ยงหยางเป็นน้องชายที่ใกล้ชิดที่สุดของตน แต่ไม่คิดเลย เขากลับกล้าทำเรื่องสารเลวได้ถึงขนาดนี้
วางหยู่เสียใจอย่างมาก น้ำตาไหลตลอด ครั้งแรกของตนที่คิดจะเก็บไว้ให้กับสามีลู่เซี่ยงหยุน แต่กลับถูกเดรัจฉานอย่างลู่เสี้ยงหยางวางยาและถูกแย่งชิงไปเสียได้
“เฮ้อ” เซี่ยตงเสว่ที่เงียบมาตลอด ถอนหายใจออกมากะทันหัน จับจ้องไปทางวางเสว่ “ไม่มีเรื่องอะไรไม่เล็ดลอดออกไป กระดาษก่อไฟไม่ได้หรอกนะ เรื่องสารเลวที่ลู่เสี้ยงหยางก่อเอาไว้ ตอนนี้ได้แพร่สะพัดออกไปแล้ว ทุกคนต่างวิจารณ์กันไปต่างๆนานา วางหยู่ หากเธอคลอดเด็กในท้องออกมา เด็กจะเงยหน้าไม่ขึ้นตลอดชีวิต เธอจะทำแบบนั้นจริงๆ หรือ?”
เหอะ ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร ยังไงซะก็ต้องเอาเดรัจฉานในท้องของวางหยู่ออกให้ได้
ทันใดนั้นวางหยู่ร่ำไห้ใจแทบขาด แต่เธอก็ยังคงหนักแน่นในการตัดสินใจ “ต่อให้เป็นความผิดของฉัน เด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ฉันจะเก็บเด็กเอาไว้ พวกคุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
นี่มัน!
ลู่เซี่ยงหลงและเซี่ยตงเสว่สบตากัน พร้อมด้วยสีหน้าดำทะมึนที่หนักขึ้นกว่าเก่า
ดูท่าพวกเขาคงต้องเร่งแผนการให้เร็วขึ้นเสียแล้ว หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา พวกเขาทั้งคู่ก็จะหายใจจากตระกูล
ส่วนลู่กั๋วต้งที่เป็นผู้นำของตระกูล ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เรื่องนี้มีจัดที่น่าสงสัยมากมาย
หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางถูกจับไล่ออกจากตระกูลเป็นเวลาแรก เขาก็สั่งคนสืบหาความจริงอย่างลับๆ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน ความจริงใกล้จะถูกเปิดเผยแล้ว
…..
ปินเหอ
ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางและทุกคนได้ขึ้นรถบัสเพื่อกลับไปที่เมือง
ในที่สุดเพลย์บอยพวกนี้ก็ได้ผ่อนคลายเสียที บางคนควักโทรศัพท์ออกมาเล่น บางคนเล่นไพ่นกกระจอก บางคนเล่นไพ่บ๊อก
ลู่เสี้ยวหยางถูกเพลย์บอยพวกนี้บีบออก จึงไม่ได้เข้าร่วมวงด้วย ตอนนี้เขากำลังพักสายตาอยู่บนเก้าอี้
และสองข้างของเขา มีหญิงงามนั่งอยู่ข้างๆ
เย่สวนและหวังเสว่
หญิงสาวไม่ค่อยได้หลับหลังจากที่ผ่านเรื่องเมื่อคืน ตอนนี้ทั้งพิงกับเก้าอี้พล็อยหลับไป และเข้าหู่ห้วงนิทรา อย่างช้าๆ ใบหน้าของทั้งคู่พิงกับไหล่กว้างของลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่รู้ตัว
ภาพที่หวานแหวนเช่นนี้ ทำให้เหล่าชายบนรถต่างน้ำลายไหลยืด
ให้ตาย ไอ้เขยแต่งเข้านี่เก่งมาจากไหน ทำไมถึงได้เอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอ
ซุนยีเฉินแพ้ไพ่นกกระจอกไปหลายตา จึงไม่สบอารมณ์นัก และได้บังเอิญเห็นภาพตรงหน้าเข้า เขาโมโหจนกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ แทบระเบิดออกมา เขาลุกขึ้นยืนจากที่ ขี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยางกราด “แม่งเอ๊ย ไอ้กระจอกเขยแต่งเข้า เห็นหน้ามึงทีไรกูโมโหตลอด ถ้ามึงกล้าเอาเปรียบคู่หมั้นกูอีก กูฆ่ามึงแน่”
ลู่เสี้ยงหยางลืมตาขึ้นช้าๆ เหลือบไปทางซุนยีเฉิน ก่อนพ่นออกมาสองคำ “สวะ”
ส่วนหวังเสว่และเย่สวนเองก็ตระหนกตื่นกับเสียงของซุนยีเฉินเช่นเดียวกัน
เย่สวนเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เธอเหลือบไปทางหวังเสว่
สีหน้าของหวังเสว่เย็นชาขึ้นมาอย่างช้าๆ! เธอดีดกายลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเอ่ยอย่างดุดัน “ซุนยีเฉิน แกรนหาที่ตายใช่ไหม? ฉันจัดให้ได้นะ”
เธอเป็นหัวหน้าทีมอาชญากรรม อารมณ์ที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่แล้ว แถมไอ้งั่งซุนยีเฉินนี่ กระตุกต่อมของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เธอหัวเสียอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นหวังเสว่เกรี้ยวกราด ซุนยีเฉินกลับหวั่นเกรงขึ้นมาทันที พลันเอ่ยเสียงแผ่ว “เสว่เอ๋อ ยังไงผมก็เป็นคู่หมั้นของคุณ หากคุณจะนอน มาพิงบนไหล่ของผมได้ หากคุณยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลซุนของผมคงได้ขายขี้หน้าเพราะผมแน่”
ฮ่าฮ่า ประโยคนี้ตรงไปตรงมาเสียจริง
ชายหนุ่มในเหตุการณ์ต่างหัวเราะออกมา นายซุนยีเฉินอ่อนหัดชะมัด ถึงได้ยอมให้ภรรยาของตนเอง พิงหลับบนไหล่ของผู้ชายอื่นต่อหน้าต่อตา
“ฮ่าฮ่า” ส่วนหญิงสาวทั้งหลายนั่งปิดปากหัวเราะ ลู่เสี้ยงหยางทำให้ซุนยีเฉินระเบิดลงได้ทุกครั้งไปสิท่า กลับถึงปินเหอเมื่อไหร่เขาซวยแน่
หวังเสว่โมโห “แกขายขี้หน้าของตระกูลซุนของแก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? ฉันจะบอกอะไรให้ ต่อจากนี้อย่ามารบกวนการนอนของฉัน ไม่อย่างนั้น นายได้ลองดีแน่”
เธอนั่งลงอีกครั้ง ก่อนที่จะหลับต่อ
ซุนยีเฉินโมโหจนกัดฟันแน่น พร้อมกับจ้องลู่เสี้ยงหยางเขม็ง เขาวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงปินเหอเมื่อไหร่ เขาเอาลู่เสี้ยงหยางตายแน่
“ให้ตาย ไอ้งั่ง กูจะให้มึงได้ใจอีกหน่อย ถึงปินเหอเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้แกตายทั้งเป็น” ซุนยีเฉินเอ่ยขึ้นกับลู่เสี้ยงหยางอย่างดุดัน
ลู่เสี้ยงหยางสีหน้าเรียบเฉย เสมือนกับไม่แยแสซุนยีเฉินแต่อย่างใด พลันพักสายตาต่อไป
บ้าเอ๊ย!
ซุนยีเฉินโมโห จนร่างสั่นเทา ก่อนควักโทรศัพท์ออกมาเพื่อส่งข้อความ
เอี๊ยด!
ในเวลานี้เอง คนขับรถบัสเบรกขึ้นมากะทันหัน ล้อรถบัสเสียดสีกับพื้นถนน ลากเสียงยาว
หลายคนต่างหัวโขกกับเก้าอี้ ก่อนที่จะสบถขึ้นตามๆ กัน
คนขับรถจับจ้องข้างหน้า พร้อมเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ “เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น เราไปต่อไม่ได้แล้ว”