บทที่ 247 ตระกูลเย่กรุ๊ปล้มละลาย
“บ้าจริง เป็นแบบนี้ได้ไง? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ท่านย่าถึงกับอึ้งและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
“ให้ตายเหอะ ท่านย่าครับ เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหมครับ?” เย่หยุนเทา เย่ซวงและเย่เชี่ยนต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อกับสิ่งที่เห็น
คนอื่นๆ ในตระกูลเย่ต่างก็พากันบีบแขนตัวเองเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้ฝันไป
หลังจากนั้นสักพัก คนตระกูลเย่ถึงค่อยๆ ตั้งสติได้
เย่หยุนเทาเหมือนคิดอะไรออก เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อดูข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่พวกเขาเดินทางมาที่นี่
การถ่ายทอดสดก่อนหน้านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้ทั้งโซเชียลต่างแชร์คลิปวิดีโอหนึ่ง
จากนั้นไม่นานเย่หยุนเทาก็ได้เจอกับคลิปวิดีโอหนึ่งที่ทำให้เขาต้องตกตะลึง เป็นฉากที่มีเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเทียนเหอและชิงโจวมาพร้อมกับคนชนชั้นสูงมากมาย ตามด้วยเหล่าขุนพลและขบวนทหารมาที่นี่เพื่อสนับสนุนหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
เป็นคลิปที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนอีก เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และเขาก็ยังสงสัยด้วยว่ามันเป็นภาพตัดต่อหรือไม่
ตุบ!
ทันใดนั้นมือของเย่หยุนเทาก็สั่นจนทำให้โทรศัพท์ของเขาร่วงลงพื้น ขณะนี้สมองของเขาเต็มไปด้วยความคิดอันหวาดกลัว
คนที่อยู่เบื้องหลังของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปคนนี้คือใครกันแน่? เขาต้องมีอำนาจมากแค่ไหน?
“นี่ หยุนเทา นาย……นายเป็นอะไรไป?” เย่ซวงและเย่เชี่ยนที่เห็นเย่หยุนเทาตื่นเต้นก็เกิดความสงสัยขึ้น
เย่หยุนเทาได้แต่ส่ายหัวแล้วพูดประโยคซ้ำๆ “น่ากลัวจริงๆ น่ากลัวจริงๆ มันช่างน่ากลัวจริงๆ”
ท่านย่าก็ขมวดคิ้วถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หยุนเทา เกิดอะไรขึ้นกันแน่? รีบเล่ามา”
เย่หยุนเทาตัวสั่นจนขนลุก เขาตั้งสติแล้วพูดกับท่านย่าด้วยเสียงสั่นสะเทือน “คุณย่าครับ คุณย่าดูคลิปนี้เดี๋ยวก็รู้เองครับ”
เขาพูดไปด้วยแล้วก้มเก็บโทรศัพท์มือถือขึ้นมา จากนั้นเปิดฉากที่สำคัญแล้วยื่นให้กับท่านย่าดู
ท่านย่าเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์มา และหลังจากได้ดูฉากที่น่าตกใจในวิดีโอนั้นแล้ว เธอก็ตัวสั่นราวกับถูกฟ้าผ่า
เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเทียนเหอและชิงโจว และเหล่าขุนพลต่างก็มาถึงที่นี่เพื่อให้เกียรติหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
ตูม!
ทันใดนั้น หัวใจของท่านย่าถึงกับกระตุก เพราะตระกูลเย่กรุ๊ปของเธอเพิ่งยกเลิกสัญญากับทางหยูเม่ยหยินกรุ๊ป และเพิ่งดำเนินการเจรจาสัญญาใหม่กับชิงเหอกรุ๊ปไปได้แค่ครึ่งทาง แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้!
ดูเหมือนว่าชิงเหอกรุ๊ปในวันนี้คงต้องพบกับจุดจบแล้ว และตระกูลเย่กรุ๊ปของเธอก็คงได้รับผลกระทบไม่น้อยเหมือนกัน!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ สีหน้าของท่านย่าก็แย่ยิ่งกว่ากินขี้สุนัขเข้าไปในปาก เธอรีบพูดกับทุกคนในตระกูลเย่ด้วยเสียงอันสั่นเทาว่า “รีบไปขอร้องท่านประธานซุน ขอท่านให้เราได้มีโอกาสได้ร่วมมือกับหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอีกครั้ง”
เมื่อพูดจบ เธอก็รีบเดินเข้าไปหาซุนเซียงเซียงคนแรก และคนอื่นๆ ของตระกูลเย่ก็เดินตามเธอไปอย่างน่าสงสาร
ท่านย่าได้พูดกับซุนเซียงเซียงด้วยตนเอง เธอแทบจะเลียขา แต่ซุนเซียงเซียงก็ตอบด้วยน้ำเสียงอันเฉยเมย
ในที่สุดท่านย่าก็ทำตัวไม่ถูกและเธอทนอยู่ต่อไม่ไหว จึงพาคนทั้งตระกูลเย่จากไปอย่างน่าละอายใจ
แต่เธอก็ได้ฝากความหวังในตัวเย่สวนอยู่ในใจ
……
ณ ขณะนี้
ในโลกโซเชียลของเมืองปินเหอ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงงานผลิตของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปได้กลายเป็นข่าวร้อนที่สื่อหลักต่างแย่งกันรายงาน
เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเทียนเหอและชิงโจวได้ออกมาสนับสนุนหยูเม่ยหยินกรุ๊ปด้วยตนเอง ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่เกินคาดไปมากแล้ว แต่สิ่งที่เกินคาดมากกว่านั้นคือระดับนายพลและพลทหารเป็นกองร้อยก็ได้เข้ามาสนับสนุนพวกเขาด้วย โดยปกติทั่วไป นี่คงเป็นการคุ้มกันที่มีระดับสูงที่สุดแล้ว
ในทางกลับกัน ชิงเหอกรุ๊ปที่มีสถานะเป็นคู่แข่งของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปก็กลายเป็นเรื่องตลกของสื่อโซเชียล ต่างๆ โดยเฉพาะตัวของหานปิงหานที่ต้องกลายเป็นจุดสนใจในบทสนทนาหลังอาหารของผู้คนทั่วเมือง ทุกคนต่างพูดถึงเรื่องที่เธอต้องถอดเสื้อผ้าในที่สาธารณะและคุกเข่าสำนึกผิดในโรงงานหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
นอกจากนี้ยังมีตระกูลเหอ ตระกูลหลินและตระกูลจางสามตระกูลใหญ่ในเมืองปินเหอที่ถูกผู้คนหัวเราะเยาะไปด้วย เนื่องจากทั้งสามครอบครัวเป็นตระกูลใหญ่และยังเป็นผู้มีอำนาจในเมืองนี้ แต่หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวกับตระกูลหานในครั้งนี้แล้ว เชื่อว่าทั้งสามตระกูลนี้จะต้องหลุดพ้นจากสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองปินเหออย่างแน่นอน
ภายใต้อิทธิพลของความคิดเห็นของประชาชนและสื่อ ทำให้หยูเม่ยหยินกรุ๊ปได้ฟื้นคืนทัศนียภาพอีกครั้ง ตลาดหุ้นของเขาพุ่งสูงขึ้นและยอดสั่งจองสินค้าก็มีออร์เด้อไปถึงปีหน้า
ด้วยเหตุนี้ ในเมืองปินเหอจึงมีทั้งกลุ่มคนที่มีความสุขและเศร้าใจ
คนที่มีความสุขก็คือกลุ่มคนที่คอยสนับสนุนหยูเม่ยหยินกรุ๊ป และบริษัทที่คอยติดตามหยูเม่ยหยินกรุ๊ปตั้งแต่ต้นจนจบอย่างไม่ย่อท้อ
ส่วนกลุ่มคนที่เศร้าใจก็คือกลุ่มคนที่คอยคัดแย้งกับหยูเม่ยหยินกรุ๊ป และบริษัทที่ยกเลิกสัญญากับหยูเม่ยหยินกรุ๊ปกลางคัน
ซึ่งบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปที่ลงจากเรือใหญ่ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปกลางคันก็ต้องเสียใจเช่นเดียวกัน
ณ ห้องประชุมตระกูลเย่กรุ๊ป
ในขณะนี้ ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดเข้ามารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือ ซึ่งทุกคนต่างก็อยู่ในสภาพหดหู่และบางคนถึงขั้นอยากจบชีวิตลงแล้ว
เลขาของท่านย่าเอาแต่จ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่คลาดสายตา จากครึ่งชั่วโมงที่แล้ว หุ้นของตระกูลเย่กรุ๊ปดิ่งลงอย่างไม่หยุด จนตอนนี้ได้ดิ่งลงมากกว่า 50 % และได้ทำลายสถิติที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเรียบร้อยแล้ว
พูดตามความเป็นจริง ภายในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงสั้นๆ นี้ ตระกูลเย่กรุ๊ปได้สูญเสียไปมากกว่า 1 พันล้านหยวนแล้ว
“ท่านประธานคะ แย่แล้วค่ะ แย่แล้วจริงๆ เราจะปล่อยให้หุ้นตกแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้วนะคะ เราต้องรีบคิดหาวิธี ไม่เช่นนั้น ตระกูลเย่กรุ๊ปของเราต้องจบแน่เลยค่ะ” เลขาพูดกับท่านย่าด้วยความกังวลมาก
ท่านย่าได้แต่สองมือกอดอกด้วยสีหน้าซีดเซียว ตอนนี้เธอเครียดจนแทบจะหายใจไม่ทันแล้ว
เย่หยุนเทา เย่ซวงและเย่เชี่ยนต่างก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง เพราะตอนนี้ท่านย่าอยู่ในอาการโกรธจนขีดสุดแล้ว ถ้ากล้าส่งเสียงอาจจะต้องเป็นที่ระบายของท่านได้
หลังจากผ่านไปหลายนาที ท่านย่าก็ค่อยๆ ตั้งสติได้ จากนั้นเธอหันมาแล้วพูดกับเย่หยุนเทา “เพราะนายคนเดียวเลย ความสามารถที่จะทำให้งานสำเร็จนั้นมีไม่พอ แต่ความสามารถที่จะทำให้งานล้มเหลวนั้นมีอยู่เหลือเฟือ เพราะคำพูดของนายทำให้ตระกูลเย่กรุ๊ปต้องเจอปัญหาเลยเห็นไหม?”
เย่หยุนเทาได้แต่ก้มหน้าอย่างเงียบๆ
ก่อนหน้านี้ที่เย่สวนยังเป็นผู้บริหารของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป เธอเน้นย้ำอยู่เสมอว่าต้องร่วมมือกับทางหยูเม่ยหยินกรุ๊ป แต่เย่หยุนเทาคัดค้านเธออย่างไม่หยุด และท่านย่าก็ดันหูเบาเชื่อคำพูดของเขาด้วย เขาขอให้ท่านย่าไล่เย่สวนออกจากบริษัทก่อน จากนั้นค่อยยกเลิกสัญญากับทางหยูเม่ยหยินกรุ๊ปและหันไปร่วมมือกับทางชิงเหอกรุ๊ป
จนในที่สุดท่านย่าก็ยอมทำตามคำขอของเขาทุกอย่าง จึงทำให้ตระกูลเย่กรุ๊ปในวันนี้ต้องพบเจอกับปัญหาใหญ่เช่นนี้
เมื่อเห็นสีหน้าของเย่หยุนเทาแล้วเย่ซวงก็รีบพูดขึ้นมา “คุณย่าครับ ความจริงเรื่องนี้จะโทษหยุนเทาคนเดียวไม่ได้นะครับ แกก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลเราอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมาเจอกับปัญหาแบบนี้ภายหลัง”
เย่เชี่ยนก็พูดตาม “ใช่ครับคุณย่า นี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายจริงๆ คุณย่าอย่าโทษหยุนเทาเลยนะครับ”
เมื่อเห็นว่ามีคนพูดแทนตัวเอง เย่หยุนเทาจึงเริ่มมีความกล้าขึ้นมา “ใช่ครับคุณย่า คุณย่าจะโทษผมไม่ได้นะครับ เพราะการที่ไล่เย่สวนออกก็เป็นการลงมติของคณะกรรมการในตระกูลเย่กรุ๊ปทุกคนนะครับ”
ท่านย่าเองก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงทุกประการ อีกอย่าง ท้ายที่สุดแล้วความผิดของเธอนั้นร้ายแรงที่สุดแล้ว
“เอาล่ะๆ ตอนนี้พูดถึงเรื่องนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ขึ้นหรอก สิ่งเดียวที่จะช่วยตระกูลเย่กรุ๊ปของเราได้ในเวลานี้ก็คือไปเชิญเย่สวนกลับมาบริหารให้กับตระกูลเย่กรุ๊ปของเราอีกครั้ง” ท่านย่าพูดอย่างเคร่งขรึม