หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 190 ระเบิดอารมณ์แล้ว

ตอนที่ 190 ระเบิดอารมณ์แล้ว

บทที่190 ระเบิดอารมณ์แล้ว

ในสายโทรศัพท์เมื่อครู่ เย่สวนบอกกับลู่เสี้ยงหยาง ว่าชิวรั่วหานลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของเย่สวนไม่กี่วันนี้อยู่ข้างนอกไม่รู้ว่าไปทำให้ใครขุ่นเคือง ทุกวันหลังเลิกงานมักจะมีคนคอยตาม เพื่อความปลอดภัยของลูกพี่ลูกน้อง จึงให้ลู่เสี้ยงหยางเข้างานเลิกงานกับชิวรั่วหาน

เดิมที นี่มันก็ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลอยู่แล้ว

แต่เย่สวนก็ให้ลู่เสี้ยงหยางอยู่ที่บ้านของชิวรั่วหานตอนกลางคืนด้วย อยู่เป็นเพื่อนชิวรั่วหาน

ลู่เสี้ยงหยางไร้คำพูดโดยปริยาย เข้าซึ่งเป็นพี่เขย อยู่กับน้องเมียตัวเองในตอนกลางคืน นี่มันเรื่องอะไรกัน

เย่สวนคนนี้เชื่อมั่นในตัวเขาเกินไปหรือเปล่า?

ต้องรู้ว่า ชิวรั่วหานก่อนหน้านี้เคยแสดงความชื่นชอบในตัวเขา

คิดมาถึงตรงนี้ ลู่เสี้ยงหยางก็ปวดหัวเล็กน้อย พูดไปว่า “ชิวรั่วหานเลิกงานมีคนคอยตาม เธอก็แจ้งตำรวจได้นี่ ฉันไปเข้างานเลิกงานพร้อมเธอ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เย่สวนตอบในสายโทรศัพท์ “เคยแจ้งความไปแล้ว ตรวจสอบมาเดือนกว่า แต่ตำรวจตรวจสอบแล้ว ไม่พบอะไรเลย ตอนนี้ ตำรวจไม่สนใจคดีนี้แล้ว ลูกพี่ลูกน้องฉันได้แต่คิดหาวิธีเอาเอง พูดอีกอย่าง หาคนแปลกหน้ามาก็ไม่รู้สึกปลอดภัยอีก ไม่น่าเชื่อถือ จิตใจไม่สงบ ได้แต่ขอความช่วยเหลือจากคนสนิท พอดีนายก็พักผ่อนอยู่บ้าน ไปเข้างานเลิกงานกับลูกพี่ลูกน้องฉัน ดีที่สุดแล้ว”

ลู่เสี้ยงหยางชะงักไปชั่วขณะ “ใครบอกว่าฉันพักผ่อนไม่ได้ทำอะไร”

“เอาเถอะ เอาเถอะ เอาตามนี้แล้วกัน ตอนเย็นรอลูกพี่ลูกน้องฉันเลิกงาน นายก็ไปรับเธอ ช่วงนี้ก็อยู่บ้านเธอชั่วคราว รอไม่มีเรื่องอะไรแล้ว นายค่อยกลับมา” เย่สวนกล่าว

ลู่เสี้ยงหยางไม่มีทางเลือก ได้แต่ยักไหล่ตอบรับ “ก็ได้ เอาตามเธอว่า”

“หึหึ” จู่ๆในจมูกของเย่สวนก็ส่งเสียงหึ แล้วพูดเตือน “ในช่วงที่ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกพี่ลูกน้องฉัน ทำหน้าที่ของตัวเองไปจะดีที่สุด ถ้ากล้ามีความคิดอื่น หรือกล้ารังแกลูกพี่ลูกน้องฉัน ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”

ลู่เสี้ยงหยางรีบรับปาก แล้ววางสายไป

ไม่นาน มือถือของลู่เสี้ยงหยางก็ดังขึ้น เป็นชิวรั่วหานโทรเข้ามา

ลู่เสี้ยงหยางพึ่งจะกดปุ่มรับสาย ก็ได้ยินเสียงอ่อนนุ่มของชิวรั่วหานดังสวนมา “พี่เขย ไม่เจอกันนานนะ คนเขาคิดถึงพี่นะเนี่ย”

ลู่เสี้ยงหยางขนหัวลุกชัน ตัวเกร็งไม่เป็นธรรมชาติ พูดตอบ “คุยธุระเลย ตอนเย็นเธอเลิกงานแล้วโทรมาหาฉัน ฉันจะไปรับเธอกลับบ้าน”

“ฮิฮิ โอเค” ชิวรั่วหานยิ้มแล้วพูดต่อ “ฉันบอกลูกผู้พี่ไปแล้ว ให้เอาพี่เขยมาให้ยืมใช้ซักสี่ห้าวัน ลูกผู้พี่ตกลงแล้ว ตอนเย็นพี่ก็นอนบ้านฉัน ดีจริงๆ จากนี้ตอนกลางคืนฉันก็ไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว”

อะไรนะ?

ยืมมาใช้สี่ห้าวัน?

ลู่เสี้ยงหยางเหงื่อออกท่วมตัว เขาไม่ใช่เครื่องมือ ใช้ยืมเล่นไปมา

“เอาล่ะ งั้นฉันไปทำงานแล้วนะพี่เขย ตอนเย็นใกล้เลิกงาน ฉันจะโทรไปหาพี่ พี่ก็มารับฉันที่บริษัท” ชิวรั่วหานพูด

ลู่เสี้ยงหยางส่งเสียงอืม วางสายไป

เวลาล่วงเลยไปอย่างเงียบๆ พริบตาเดียวก็ถึงตอนเย็น

ลู่เสี้ยงหยางมาถึงบริษัทที่ชิวรั่วหานทำงานรับเธอกลับ

ไม่เจอไม่กี่วัน ยัยเด็กนี่แต่งตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแล้ว

เส้นผมดกหนารวบเป็นหางม้า มัดไว้หลังหัว ร่างกายท่อนบนสวมเสื้อคลุมสีเบจ ด้านล่างสวมกางเกงยีนส์รัดรูป เผยให้เห็นขาเรียวยาวทั้งสองข้างของเธอ

แก้มที่บอบบางถูกแต้มด้วยแป้งสีชมพู ดูราวกับสาวงามในเมืองแห่งแฟชั่น เต็มไปด้วยความเย้ายวน

“เอ้อ พี่เขย ในที่สุดฉันก็รอมาถึงพี่แล้ว คิดถึงฉันแย่เลยสิ” พอเห็นลู่เสี้ยงหยาง ชิวรั่วหานก็ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่อยู่ โผล่เข้าไปในอ้อมแขนของลู่เสี้ยงหยาง กอดเขาอย่างแนบแน่น หัวเล็กๆถูเข้ากับแผงอกของเขา ดูสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

หัวใจของลู่เสี้ยงหยางสูบฉีดอย่างหนัก รีบแยกชิวรั่วหานออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างรวดเร็ว

“อย่าซน คนนอกเห็นเข้าจะดูไม่ดี เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับบ้าน” ลู่เสี้ยงหยางพูด

ชิวรั่วหานหน้าแดง พูดอย่างเขินอาย “ที่นี่ไม่มีคนนอกซะหน่อย”

ทุกวันนี้ เนื่องจากลู่เสี้ยงหยางเป็นพี่เขยของตนเอง ชิวรั่วหานจึงได้แต่อดทน แต่ตอนนี้ได้เจอกับลู่เสี้ยงหยางแล้ว ความรู้สึกเหล่านั้นก็ระเบิดออกมา เธอควบคุมไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นเมื่อกี้จึงได้โผล่เข้าหาอ้อมแขนของลู่เสี้ยงหยางทันที

ลู่เสี้ยงหยางนิ่งเงียบไม่พูดจา ไม่อยากคุยเรื่องนี้ต่อ

เห็นลู่เสี้ยงหยางขัดเขินแบบนี้ ชิวรั่วหานก็แอบขำ ขยิบตาให้ลู่เสี้ยงหยางอย่างขี้เล่น แล้วเดินนำทางไป “พี่เขย เราไปกันเถอะ”

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัว แล้วตามชิวรั่วหานไป

ระหว่างทาง ลู่เสี้ยงหยางพบว่าชิวรั่วหานไม่ได้ขับรถไปทางกลับบ้าน จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “เธอคิดจะไปไหน?”

ชิวรั่วหานพูด “คืนนี้ เป็นงานวันเกิดของเกาหยู่เมิงเพื่อนร่วมห้องในมหาลัยที่สนิทคนหนึ่ง เพื่อนมหาลัยก็ไปกันเยอะ แน่นอนว่าฉันก็จะไปร่วมด้วย ร่วมงานเสร็จแล้วพวกเราค่อยกลับบ้าน”

“อือ โอเค” ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก คอยเฝ้าระวังว่าด้านหลังมีคนติดตามมาหรือเปล่า

แต่จนกระทั่งถึงKTVนกทอง ก็ไม่พบคนที่น่าสงสัยเลย

แล้วKTVนกทองนี้ก็เป็นที่ที่เกาหยู่เมิงเพื่อนของชิวรั่วหานฉลองวันเกิด

หลังจากนั้นไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางก็ตามการนำของชิวรั่วหาน เข้าไปในห้องส่วนตัวของKTV

พึ่งจะเข้าห้องมา ก็เห็นเพียงสาวงามสองคนนั่งอยู่ในห้อง

คนหนึ่งขาเรียวยาว หุ่นเซ็กซี่ ใบหน้าสวยงาม

คนหนึ่งแต่งหน้าสง่างาม สุภาพเรียบร้อย สีหน้านิ่งเฉย

“รั่วหาน เธอมาแล้ว เข้ามานั่งเร็ว” พอเห็นชิวรั่วหาน สาวงามขายาวเกาหยู่เมิงก็ลุกขึ้นทักทาย

ชิวรั่วหานกับลู่เสี้ยงหยางจึงเดินเข้าไป

หลังจากเกาหยู่เมิงทักทายชิวรั่วหานสองสามคำ สายตาก็ตกไปที่ลู่เสี้ยงหยาง แสดงสีหน้ามีคำถาม

ชิวรั่วหานพูดอย่างหน้าแดง “พี่เขยฉัน ลู่เสี้ยงหยาง”

อะไรนะ?

พี่เขย?

เกาหยู่เมิงใบหน้าประหลาดใจ ในสมองอดไม่ได้ที่จะชั่วร้ายขึ้นมา

ชิวรั่วหานชื่นชอบความสัมพันธ์ที่ถูกเข้าใจผิดนี้ จึงไม่ได้อธิบาย

สาวงามที่นิ่งเงียบหลินอ้าวเสว่เหลือบมองลู่เสี้ยงหยางหัวจรดเท้า ก็หมดความสนใจไป

ในสายตาของเธอ ลู่เสี้ยงหยางเป็นสินค้าแผงลอย เนื้อตัวดูธรรมดา ยังไงก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง ไม่มีอะไรน่าแปลก ยิ่งไม่สามารถทำให้เธอสนใจได้

หลังจากนั้น ในห้องก็มีคนทยอยเข้ามา ล้วนแต่เป็นชายหล่อหญิงงาม

แต่ในบรรดาชายหล่อหญิงงามนี้ มีสองคนที่สะดุดตาที่สุด ถูกเพื่อนๆรายล้อม กล่าวชื่นชม

เฉินจิ่นซิ่ว

จางเหว่ย

เฉินจิ่นซิ่วเป็นเด็กเรียนมาตั้งแต่เล็กจนโตเป็นหัวหน้าชั้นในชั้นเรียนของชิวรั่วหานตอนมหาลัย หลังเรียนจบก็ก่อตั้งแบรนด์ไวน์แดงด้วยตัวเอง ภายหลังการพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีนี้ ธุรกิจก็เจริญรุ่งเรือง ตอนนี้เป็นหนึ่งในสิบวัยรุ่นที่โดดเด่น ว่ากันว่ามีมูลค่าเฉียดหนึ่งร้อยล้าน

แล้วจางเหว่ยก็เป็นลูกมือที่เก่งที่สุดของเฉินจิ่นซิ่ว ทำงานกับเฉินจิ่นซิ่วมาหลายปี มีหุ้นส่วน10% มูลค่าเกินสิบล้าน

เมื่อเผชิญหน้ากับคำชื่นชมของผู้คนมากมาย จางเหว่ยก็ยิ้มปากฉีกถึงหู สีหน้าท่าทางเก๊กหล่อ

เฉินจิ่นซิ่วพูดอย่างเสแสร้ง “ตอนนี้ไม่เท่าไหร่หรอก เป็นแค่ระดับเริ่มต้น รอบริษัทของฉันเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ฉันจะได้มีสิทธิ์ทำงานที่หอการค้า เป็นหัวหน้าหอการค้า”

พูดคำนี้ออกไป เพื่อนๆรอบข้างก็ยิ่งอิจฉา ได้เข้าหอการค้า เป็นหัวหน้าของหอการค้า งั้นอนาคตในโลกธุรกิจหลังจากนี้ก็ไร้ขีดจำกัด

ในตอนนี้ หลินอ้าวเสว่ผู้ซึ่งเย็นชามาตลอดก็มองไปที่เฉินจิ่นซิ่วมากขึ้น ใบหน้าเผยความชื่นชม

ผู้ชายในอุดมคติของเธอก็คือคนอย่างเฉินจิ่นซิ่วนี่แหละ

ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อมองไปที่เฉินจิ่นซิ่ว เธอก็เอาลู่เสี้ยงหยางกับเฉินจิ่นซิ่วมาเปรียบเทียบกันโดยไม่รู้ตัว รู้สึกรังเกียจจากก้นบึ้งหัวใจขึ้นมาทันที

เฉินจิ่นซิ่วประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ท่าทีสง่างาม เป็นเจ้าชายพราวเสน่ห์ในอุดมคติ

แต่ลู่เสี้ยงหยางที่เหมือนสินค้าแผงลอย คนธรรมดา เป็นแค่สินค้ากระจอกๆ

ภายในห้อง คำชื่นชมต่อเฉินจิ่นซิ่วกับจางเหว่ยดำเนินต่อไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงเปลี่ยนหัวข้อ เริ่มพูดคุยเรื่องงานของแต่ละคน

ในบรรดานั้นคนที่แย่ที่สุดคือหวังลีเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง เงินเดือนทั้งปีแทบไม่พอใช้ ภายใต้การเปรียบเทียบนี้ เธอรู้สึกใบหน้าหมองคล้ำ ต้องการการปลอบโยน เป้าหมายจึงไปตกอยู่ที่ลู่เสี้ยงหยางกับชิวรั่วหาน

คนตาดีต่างก็ดูออก ลู่เสี้ยงหยางเป็นแมงดาเกาะชิวรั่วหาน แล้วตอนเธออยู่มหาลัยก็มีความขัดแย้งกัน หลังจากเรียนจบก็ยังมีความเกลียดอยู่ในใจ คืนนี้จะต้องงัดข้อกันหน่อย

“อุ๊ยตาย รั่วหาน จำได้ว่าตอนเรียนมหาลัยเธอเป็นคณะกรรมการการศึกษาที่มีชื่อเสียงในชั้นเรียนของเรานี่นา ไม่เจอกันตั้งนาน ได้ยินมาว่าเธอพึ่งกลับจากเรียนต่อเมืองนอกเมื่อไม่นานมานี้เอง ดูท่าจะไม่เข้าพวกเลยนะ แฟนที่มีก็ใช้ไม่ได้ เป็นแมงดาใช่หรือเปล่า?” หวังลีหัวเราะเยาะเย้ย สายตาตกไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เต็มไปด้วยการยั่วยุ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Score 10
Status: Completed
ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศอดสูการเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

Options

not work with dark mode
Reset