Goblin Kingdom 10

ตอนที่ 10

Ch.10 – ผู้ชนะและผู้แพ้

Translator : Koel / Author

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 43

[คลาส] ชั้นสูง, ราชาของกลุ่ม

[ทักษะ] <<บัญชาการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> <<โลภะ>> << การจ้องมองจากปีศาจ >> <<การเชื่อมต่อจิตวิญญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[คุณลักษณะ] ความมืด, ความตาย

◇◆◇

เรากลับมาถึงหมู่บ้านพร้อมมนุษย์ทั้ง 4 คน ก็อบลินอาวุโสออกมาต้อนรับพวกเราทั้งน้ำตา

ถ้าหมู่บ้านตกอยู่ในสภาพนี้บ่อยๆ คงทำให้ความน่าเชื่อถือของผมลดลง

จะให้พูดก็คือ ผมต้องแสดงความเชื่อมั่นให้พวกเขาเห็น

ว่าราชันนั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน

ต้องแสดงให้เห็นแบบนั้น พวกเขาถึงจะไม่ก่อกบฏ

ผมแยกนักโทษไปขัง แบ่งชาย-หญิง ผมยึดสิ่งที่อาจจะใช้เป็นอาวุธเอาไว้ มันคงไม่สนุกหากพวกเขาชิงฆ่าตัวตายไปก่อน อีกอย่างพวกเขาเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่ผมเจอตั้งแต่มาโลกใบนี้

จากการต่อสู้ที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าเราสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ ผมต้องหาข้อมูลจากพวกเขาเพิ่มเติม

และ…การคงอยู่ของเวทย์มนตร์

เกี่ยวกับนักบวชหญิงที่ชื่อ เรเชีย …ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับลำดับชั้นของพระเจ้า แต่ถ้ามีโอกาสผมจะถามเธอถึงความสัมพันธ์ของเทพธิดาทั้งสอง

ผมสีน้ำเงินแซมม่วงยาวถึงไหล่…น่ารำคาญเล็กน้อยที่มันบังใบหน้าที่สวยงามราวเทพธิดานั่น แม้แต่ผมที่เป็นมอนสเตอร์ก็อดไม่ได้ที่จะหลงเสน่ห์ ริมฝีปากเล็กๆกับดวงตาที่สวยงาม

เมื่อเห็นอย่างนั้นความปรารถนาในความใคร่ของผมก็ยิ้มแย้มอย่างชั่วร้าย

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงทนไม่ไหว

ห้องขังของพวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าโรงเลี้ยงสัตว์เก่าๆ ผมโยนสองสาวเข้าไปในคุก ก่อนจะพูดว่า

“อย่าคิดหนี อย่างน้อยที่สุดข้าก็ไม่ได้วางแผนที่จะทำร้ายพวกเจ้า ตราบใดที่ยังเชื่อฟัง”

นักดาบสาวคอยปกป้องเรเชียตลอดเวลา

“ถ้าเจ้าหนีไป ข้าจะฆ่าพวกผู้ชาย ถ้าฆ่าตัวตาย ข้าก็จะทำเช่นเดิม”

นักดาบสาวดูจะไม่ได้รับผลกระทบจากคำพูดนั้น แต่เรเชียกลับพูดว่า

“ แล้วแต่ความประสงค์ของพระเจ้า นั่นคือสิ่งที่คุณทำเพื่อความอยู่รอด”

นั่นเป็นประโยคเดียวที่เธอพูดกับผม

“อย่าแตะต้องพวกนาง ข้าจะฆ่าทุกคนที่ขัดคำสั่ง!”

ผมมองหน้าเหล่าก็อบลินและประกาศออกมา

หลังจากที่ผมได้มอบหมายหน้าที่ให้กับก็อบลินแล้ว ผมก็เข้านอน

◆◇◇

“ซีโนเบีย ทำไมกัน?”

ผมได้ยินเสียงของผู้หญิง

“ข้าตกไปอยู่ในมือของฮาเดส….และยัง! ทำไมเจ้าถึงเป็นเดียวที่ได้รับความรักจากท่านพ่อ!?”

ความขัดแย้งจากความรักของบิดา?

คนที่ไม่ได้รับความรัก…ความเศร้าของหญิงสาวที่ไม่ถูกเลือก

ผมทำได้แค่…พยายามเดินไปหาหญิงสาวคนนั้น …

◆◆◇

“… นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเกลียดพระเจ้า”

ผมยืดหลังและส่ายหัวหลังตื่นจากฝันร้าย ถ้าผมไปถึงหญิงสาวคนนั้น…

ฝันนั่นกำลังดึงผมเข้าไป

“ทำได้ดี ดูเหมือนว่าพวกเจ้าไม่ได้หนีไป”

นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมพูดหลังจากไปที่คุกของหญิงสาว

ผมคิดว่าพวกเธอจะหลบหนี ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงบีบหาวิธีให้พวกเธอคายข้อมูลได้ง่ายกว่า

โดยไม่พูดอะไรอีก ผมยิ้มให้กับพวกเธอ

นี่ยังเป็นโอกาสที่ลองอาวุธใหม่ที่ได้มาเมื่อวาน ผมมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบพร้อมกิก้าและก็อบลินอีก 3 ตัว

เป้าหมายคือการล่าเหยื่อที่มาทะเลสาบ

“ราชา แถวนี้มีฝูงกวางอีเรลอยู่ (กวางหอก)”

สิ่งที่ผมเห็นคือฝูงกวางที่มีเขาคล้ายหอกและร่างกายปกคลุมไปด้วยขนแข็งๆ

จากที่มองดู พวกมันไม่ได้ระวังตัวมากนัก

…กวางอีเรลนั้นแข็งแกร่งกว่าก็อบลิน พวกมันอยู่ระดับเดียวกับก็อบลินแรร์หรือสูงกว่าเล็กน้อย…แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม

ผมสั่งให้พวกมันวางก้อนหินดักตามจุดต่างๆ

ให้กิก้าสำรวจสภาพแวดล้อม อย่างช้าๆพวกเราช่วยกันวางหินปิดทางหนีของพวกมัน

เมื่อผมเข้าไปใกล้ …พวกมันรู้ตัว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

ดูเหมือนพวกมันจะมั่นใจว่าหนีได้ แน่นอนการตัดสินในนั้นไม่ผิด…ถ้าผมเป็นก็อบลินแรร์ทั่วไป

“กูร่า!”

ผมถือดาบพาดไหล่และวิ่งไปใจกลางฝูงกวางหอก …พวกมันวิ่งหนีไปในทิศตรงข้าม

แต่สิ่งที่รออยู่คือหินที่ถูกวางดักไว้ สายไปแล้วที่จะหันหลังกลับ

ผมที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังได้เหวี่ยงดาบไปที่คอของพวกมัน

ดาบสัมผัสถึงแรงที่กดลงไปบนเนื้อ กระดูกที่ถูกบดขยี้ หลังจากที่ตัวแรกล้มลง…ผมก็เดินไปหาตัวต่อไป

เบื้องหน้าคือกวางหอกที่โตเต็มวัย

อาจเป็นเพราะมันต้องปกป้องฝูง ทำให้พวกมันมุ่งเป้ามาที่ผม ผมฟันดาบลงมาที่เจ้าตัวใหญ่ …มันกำลังป้องดาบด้วยเขาของมัน

เขาทั้งสองข้างที่เหมือนหอกพุ่งเข้ามา ผมหลบไปยังช่องว่างก่อนจะกระโดดขึ้นไป

เมื่อเข้าสู่ระยะโจมตีกวางก็ถูกฟันด้วยดาบทันที ผมจัดการอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้มันทรมาณ

ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องนำกวางทั้งสองกลับหมู่บ้าน เมื่อเรามาถึงก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว

ผมแทงกริชไปที่กวางและลอกหนังมันออก หนังของมันสามารถใช้ทำชุดได้

ผมนำเนื้อส่วนที่เหลือให้กับก็อบลิน

นอกจากนี้เรายังมีหมูป่าสามหัว กระต่ายและผักสำหรับอาหารเช้า

หลังจากนั้นผมนำเนื้อไปย่างและเอามันเข้าไปในคุก

“กิน”

นักดาบสาวยังงุนงง ในขณะที่เรเชียไม่ปฏิกิริยาใดๆ ผมไม่ได้คาดหวังให้เชื่อในทันที ผมจึงทิ้งอาหารไว้หน้าคุก ขณะที่นำส่วนอื่นๆไปให้กับชายอีกสองคน

พวกเขามองผมด้วยความหวาดกลัวและกินมันทันทีที่ผมสั่ง

ผมจึงกลับไปหาพวกผู้หญิง

“… ทำไมแกให้อาหารเรา?”

“ มันเป็นข้อตกลง…”

ท้องของเรเชียยังคงร้องออกมาด้วยความหิวโหย ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังปฏิเสธที่จะแตะต้องอาหารตรงหน้าและจ้องมองมาที่ผม

“พวกเจ้ายังมีประโยชน์ ข้าจะไม่ฆ่าหรือทำอันตรายใดๆ”

“พูดอีกอย่างพวกเราจะมีชีวิตอยู่ หากเรายังมีประโยชน์”

“ไอมอนสเตอร์ชั้นต่ำ! แกวางแผนอะไร!?”

มุมปากของผมยิ้มขณะที่นักดาบกล่าว

“แกเรียกใครว่ามอนสเตอร์ชั่นต่ำ ? หือ แม้จะอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ ?”

นักดาบสาวส่ายหัวด้วยความโกรธ เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ถูกหยุดด้วยเรเชีย

“ลิลลี่ซัง”

เรเชียส่ายหัวและหยุดนักดาบสาว ก่อนจะจ้องมาที่ผมอีกครั้ง มีประกายบางอย่างในตาสีม่วงของเธอ ผมสงสัย ? มันเป็นพลังของพระเจ้า? หรือว่าเวทย์มนตร์? เยี่ยมไม่ว่าแบบไหนผมก็เพลิดเพลินกับมัน

ผู้หญิงคนจะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น

“งั้น? คุณต้องการให้เราทำอะไร?”

“ให้กำเนิด”

เรเชียที่ได้ยินก็แข็งทื่อ การตอบสนองนั้นมากพอที่จะทำให้ผมยิ้มที่มุมปาก

“ข้าล้อเล่น”

เธอทำท่าโล่งอก ในขณะที่นักดาบสาวเต็มไปด้วยความโกรธ

“แก ไอ้สารเลว!”

“ข้าต้องการให้เจ้ารักษาพวกข้าและทำงานตัดเย็บ”

ผมขัดจังหวะของนักดาบสาวด้วยการบอกสิ่งที่ผมต้องการ

“ต-แต่ฉันเป็นนักผจญภัย!”

“แล้วนักผจญภัยอย่างเธอไม่สามารถทำงานได้?”

“ลิลลี่ซัง.”

“อึก… ฉันเข้าใจ…”

“นอกจากนี้ข้าต้องการให้เจ้าตอบคำถามต่างๆ”

“ทั้งหมด?”

“ใช่ …ทั้งหมด”

เรเชียมองผมโดยที่ไม่ได้แสดงความกลัวใดๆ

“ฉันมีคำถามเช่นกัน เกิดอะไรขึ้นกับชินอสและแมนติส แล้วคุณรู้จักผู้หญิงที่ชื่อฟินรามั้ย?”

“ข้าจะให้ชายเหล่านั้นทำงานเหมือนกับเจ้า สำหรับหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวมา พวกเขาทั้งตายหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามีคนชื่อฟินรามั้ย”

ลิลลี่กลายเป็นพยศมากขึ้นกับการตอบสนองของผม แต่เรเชียกลับตรงกันข้าม

“แล้วคุณมีชื่อว่า ?”

“…ข้าไม่มีชื่อ ถ้าเจ้าต้องการเรียกข้าด้วยอะไรบางอย่าง งั้นก็เรียกว่า ราชัน”

“เข้าใจแล้ว”

เรเชียไม่ได้ดูผิดหวังขณะพึมพำ

อาจจะเป็นเพราะ [ทักษะ] <<กบฏ>> ทำให้ผมไม่มีความรู้สึกเหมือนเมื่อวาน

◇◆◆◇◇◆◆◇

คุณเลเวลอัพ 43 -> 45

Options

not work with dark mode
Reset