Goblin Kingdom 2

ตอนที่ 2

Ch.2 – Gekokujou

Translator : Koel / Author

ถึงจะลดความหิวไปได้ไม่มาก แต่ก็พอจะทำให้ผ่านคืนนี้ไปได้

จำนวนของเหยื่อที่ผมล่าได้ในวันนี้ คือกระต่าย 2 กบและจิ้งจกอีกอย่างละ 1 ตัว

การกินอาหารแบบนี้ …ถ้าผมยังเป็นมนุษย์อยู่ …

แต่… ผมกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว

การเห็นรูปร่างที่น่าเกลียดนี่ได้กลายเป็นเรื่องที่ชินได้บ้าง …อย่างน้อย มันก็ไม่ทำให้ผมสั่นเมื่อเห็นตัวเอง

นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะมีแต่เรื่องที่แย่ ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ได้ออกล่าว่า…ร่างกายของก็อบลินแข็งแรงกว่ามนุษย์

ดวงตาที่มองเห็นในความมืด กรงเล็บที่สามารถฉีกกระชากเหยื่อ ความสามารถดังกล่าวไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่อ่อนแอได้เลย

นอกจากนี้ยังไม่ต้องกลัวเมื่อกินของสกปรก ความต้านทานของก็อบลินเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ

ถ้าจำเป็นจริงๆผมสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบไม่มีปัญหาเลย…ร่างกายนี้เอาตัวรอดง่ายกว่ามนุษย์จริงๆซะอีก

ถึงจะคิดอย่างนั้นก็ตาม …แต่ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเป็นมอนสเตอร์หรอกนะ

ผมเริ่มคิดว่า …ตอนนี้ควรทำอะไรต่อไปดี

ผมเคยอ่านบางอย่างที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์นี้มาก่อน เป็นนิยายเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่กลายเป็นสัตว์ประหลาด

ในเรื่องชายคนนั้นกลายเป็นบ้า เขาไม่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเพียงแต่ร่างกาย เขาเจอเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆจนกระทั่งจิตใจก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ

ผมไม่ต้องการที่จะจบลงเช่นนั้น…

ผมคิดทบทวนถึงเรื่องราวเมื่อเช้า ไม่ใช่ว่าก็อบลินตัวนั้นพูดได้ ?

“อาหาร จับ…”

ไม่สิ มันพูดแน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าผมก็สามารถพูดได้ ?

นอกจากนี้เป็นไปได้มั้ยว่า ยังมีก็อบลินตัวอื่นอยู่อีก? เพราะถ้าพวกมันอยู่ที่นี่ คงมีทางที่ผมจะหาข้อมูลเพิ่มเติม?

ผมเริ่มคิดว่า …ตอนนี้ควรทำอะไรต่อไปดี

ผมเคยอ่านบางอย่างที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์นี้มาก่อน เป็นนิยายเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่กลายเป็นสัตว์ประหลาด

ในเรื่องชายคนนั้นกลายเป็นบ้า เขาไม่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเพียงแต่ร่างกาย เขาเจอเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆจนกระทั่งจิตใจก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ

ผมไม่ต้องการที่จะจบลงเช่นนั้น…

ผมคิดทบทวนถึงเรื่องราวเมื่อเช้า ไม่ใช่ว่าก็อบลินตัวนั้นพูดได้ ?

“อาหาร จับ…”

ไม่สิ มันพูดแน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าผมก็สามารถพูดได้ ?

นอกจากนี้เป็นไปได้มั้ยว่า ยังมีก็อบลินตัวอื่นอยู่อีก? เพราะถ้าพวกมันอยู่ที่นี่ คงมีทางที่ผมจะหาข้อมูลเพิ่มเติม?

ด้วยข้อสรุปดังกล่าว ผมหยิบกระต่ายและกำลังจะเดินเข้าไปในถ้ำ

ความรู้สึกหนาวเย็นไหลผ่านกระดูกสันหลัง มันทำให้ผมหยุดเดิน ขณะที่ความรู้สึกดังกล่าวกำลังลุกลาม ผมรีบกระโดดหลบเข้าไปในพุ่มไม้

ความหวาดกลัวปกคลุมทั่วร่าง

ความอยากรู้อยากเห็นปะปนไปกับความเครียด มีเสียงแหลมเข้ามาในหู …ในเวลาเดียวกันผมเห็นแมงมุมยักษ์ขนาดประมาณสองเมตรเดินอย่างช้าๆ

หัวใจอันหนาวเหน็บ แขนขาผมกลับสั่นอย่างช่วยไม่ได้

ผมมีคำถามเกี่ยวกับมอนเตอร์นั่น…แต่สัญญาชาติญาณกลับบอกให้ผมอยู่นิ่ง

ดวงตาสีแดงทั้ง 6 ข้างมองไปรอบๆ ขณะที่มันมองหาเหยื่อ โดยใช้ขาทั้ง 6 เหมือนกับของมนุษย์

“คะซ่าาาา!”

ขณะที่ผมคิดแบบนั้น มันกระโดดไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ตรงกันข้ามกับที่ผมอยู่

“กูว~!”

สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในพุ่มไม้ตรงข้ามร้องอย่างตกใจ สัตว์ที่มีหัวคล้ายหมูป่าและมีขาสองข้างเหมือนมนุษย์ พูดอีกอย่างมันคือ ‘ออร์ค’

ออร์คพยายามวิ่งหนีด้วยความตกใจ แต่แมงมุมยักษ์เร็วเกินกว่าที่จะหลบได้

มันลากออร์คไปยังมุมหนึ่งด้วยขาทั้งหกข้าง จากนั้นมันก็ใช้ปากกัดเข้าไปที่หัวของออร์คด้วยเสียงอันดัง

“กร๊วบ”

กะโหลกที่ถูกบดขยี้ น้ำไขกระดูกและเลือดไหลเข้าไปในปาก ขณะเดียวกันที่ชิ้นส่วนต่างๆของออร์คถูกฉีกกระชาก…มันจากไปหลังจากมื้ออาหารนี้จบลง

เมื่อเห็นการล่าของมอนสเตอร์ที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารด้วยตาตัวเอง …ร่างกายของผมสั่นไม่หยุด

อย่างไรก็ตาม ผมรวบรวมความกล้าเพื่อจากไปเงียบๆ ผมวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้

ผมที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์มาตลอด ตอนนี้ผมได้รู้จักกับกฎของป่าแล้ว

△▼△

“กี๊ๆ!”

เสียงที่ไม่อาจเข้าใจได้ออกจากปากผมขณะกำลังวิ่ง

เมื่อถึงปากถ้ำ ช่วยไม่ได้ที่ผมจะรู้สึกลังเลในการเข้าไปในที่มืดๆและแคบนี้ แต่ผมไม่สามารถเสียเวลาได้ สำหรับแมงมุมยักษ์ที่อาจเข้ามาในเวลาใดก็ได้ ไม่มีเวลาพอที่จะสงสัยผมรีบเข้าไปในถ้ำก่อนจะเจอก็อบลินตัวเดิม

“อาหาร”

ใบหน้าและสายตาที่น่ากลัวจ้องมองมาอย่างเกลียดชัง มีสิ่งหนึ่งที่ผมประหลาดใจคือความสูง

แม้ว่าจะผ่านไปเพียงหนึ่งวันเท่านั้น แต่ร่างกายผมจะโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผมส่งกระต่ายไปให้ก็อบลินตัวนั้นและมองไปที่มันโดยไม่พูดอะไร ก่อนมันจะหายตัวเข้าไปในถ้ำ ผมไม่รู้ว่าควรตามไปหรือไม่ แต่หลังจากนั้นมันตะโกนใส่ผม

“เข้ามา! ศัตรู! ”

ก็อบลินตัวนั้นดึงแขนผมและลากเข้าไปในถ้ำ

ก่อนจะโยนผมเข้าไปในห้องเล็กๆ มันเดินไปหยิบกระบองไม้

“รับ”

มองไปรอบๆ ผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ห้องเล็กๆนี่น่าจะเป็นห้องสำหรับเก็บอาวุธ

ในกรณีนี้ผมควรจะเลือกสักอันถูกมั้ย?

ขณะยังงุนงง ผมหาอาวุธสักชิ้นที่น่าจะใช้ได้ แต่น่าเสียดายที่พวกมันมีคุณภาพไม่ดีนัก

ไม่มีของที่เหมือนในนิยายอย่างดาบคาตานะหรือหอกเหล็กกล้า แต่ผมหวังว่าจะมีอาวุธบางอย่างที่คล้ายกัน

ผมพบแค่กระบองยาวนิดหน่อยเท่านั้น…มันมีหนามแหลมเล็กอยู่รอบๆ

อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

“ตามมา”

ผมขบคิดสักพักและตามมันออกไป

△▼△

“วิ่ง”

ก็อบลินนั่นสั่งให้ผมเดินเร็วขึ้น ขณะที่ผมถือกระบองใกล้จะพังไปด้วย ผมคิดว่ามันต้องการให้ผมฝึกใช้อาวุธ แต่กลับกันมันสั่งให้วิ่งอย่างสุดกำลังเพื่อมายังหมู่บ้านร้าง

จริงๆผมไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นหมู่บ้านร้างจริงๆหรือเปล่า เพราะผมแค่มองเห็นไกลๆ

อะไรน่ะ?

ที่นั่นเต็มไปด้วยก็อบลินจำนวนมาก ตรงกลางนั่นมีก็อบลินสีแดงตัวหนึ่ง

“มา! ”

ก็อบลินที่มาด้วยกันลากผมไปข้างหน้าของก็อบลินสีแดง

มันมีร่างกายและดวงตาสีแดง…ก็อบลินตัวนี้สวมเกราะขึ้นสนิมและสะพายดาบด้านหลัง

มองไปอย่างงุนงง ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

“ราชา นี่ พิพสคีก (pipsqueak)”

ได้ยินคำพูดที่ไม่เป็นประโยคเหล่านั้น ผมพอเดาความสัมพันธ์ของพวกมันออก

ก็อบลินแดงเป็นหัวหน้าของพวกก็อบลินเขียวพวกนี้ แสดงว่าไอ้ตัวที่ลากผมมาต้องเป็นองครักษ์หรือไม่ก็บางอย่างที่มียศต่ำกว่า

ทันใดนั้นราชาก็อบลินก็มองมายังผม

“แกมาถึงเป็นตัวสุดท้าย ช้ามากไอ้หน้าโง่ เอามันไปลงโทษ”

ผมถูกลงโทษเพราะว่าช้า?

อย่ามาล้อเล่นนะไอเวร …แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?

ขณะที่คิด ก็อบลินที่อยู่ข้างๆก็เข้ามาตรึงผมไว้

“แต่ข้ามีเมตตา ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”

ผมสบสายตากับก็อบลินแดงโดยไม่ตั้งใจ

ดวงตาของมัน นั่นเป็นสายตาที่ผมจะไม่มีวันลืม

ดวงตาที่มองต่ำลงมา…ความรู้สึกที่เหนือกว่า สายตาที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและดูถูก

…ความรู้สึกของบางอย่างที่สัมผัสหลังผม

“กูกี๊ๆ! ”

ความเจ็บนี่ …เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไม่ร้อง

ก็อบลินแดงตีผมด้วยกระบอง เหมือนมันกำลังสนุกกับการกระหน่ำตีผม ก่อนจะหยุดมันเอาเท้าเหยียบหัวผมและพูดว่า

“ข้าคือราชา …แกต้องเชื่อฟัง”

กูจะฆ่ามึง

นี่เป็นครั้งแรกที่อารมณ์ของผมได้ระเบิดออกมา

ความรู้สึกที่แตกต่างจากความปรารถนาที่จะกิน

บางทีคุณอาจจะบอกว่าอารมณ์ดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อมาอยู่ในโลกที่อาศัยด้วยกฏแห่งป่า …ในโลกที่ความแข็งแกร่งถูกต้องเสมอ

“ตอบ”

เมื่อความเกลียดชังของผมเต็มไปด้วยอารมณ์เหล่านั้น

“อึก”

…เลือดสีฟ้าไหลออกจากร่างกาย แต่สักวันผมสาบานว่าจะฆ่าไอ้เวรนี่อย่างแน่นอน

△▼△

ขณะที่ผมสาปส่ง มีเสียงแปลกๆดังมาจากไกล

“ศั… ศัตรู! ”

ทันใดนั้นผมก็ถูกเตะทิ้งไปโดยราชาก็อบลินนั่น มันก็แผดเสียงคำรามออกมา

ผมที่ถูกเตะไปราวกับขยะ ผมจ้องมันโดยไม่วางตา

ข้างๆราชาก็อบลินนั่น มีก็อบลินล้อมรอบมากมาย อีกฝั่งมีออร์ค 3 ตัว

เมื่อออร์คบุกทะลวง…ฝูงก็อบลินได้แต่แหวกเป็นทาง จนพวกมันเข้าถึงราชาก็อบลิน

แม้จะมีก็อบลินจำนวนมหาศาล แต่พวกออร์คที่มีขนาดใหญ่กว่าถึง 2 เท่า …มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่พวกออร์คจะฆ่าก็อบลินเหล่านั้น

ต่างกันเกินไป ไม่มีคำว่าสูสีเลย

นั่นคือความรู้สึกของผม ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ พวกมันชนะการต่อสู้นี้อย่างท่วมท้น

แค่การฟาดของมัน มีหัวและกระดูกมากมายที่ถูกบดขยี้ พวกก็อบลินโจมตีออร์คอย่างไม่ลดละ แต่ด้วยใบมีดขนาดใหญ่ที่เหวี่ยงไปมา แม้ก็อบลินบางตัวจะไม่ตายแต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ตลอดเวลาราชาก็อบลินทำแค่จ้องไปยังกลุ่มที่ถูกกวาดล้าง

ราชาก็อบลินมองไปยังออร์คที่ถูกรายล้อม  มันก็สั่งให้ก็อบลินที่เหลืออยู่ให้เข้าร่วมการต่อสู้

แต่ไม่มีความหมาย พวกมันไม่สามารถหยุดยั้งออร์คได้เลย

…ในที่สุดพวกมันก็สามารถฝ่ามาได้

เหล่าก็อบลินล้มลงโดยไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อมีตัวหนึ่งล้ม ตัวต่อไปก็จะล้มตามมา เทียบกับออร์คที่มีบาดแผลทั่วร่าง ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความโกรธและความบ้าคลั่ง

—-หนึ่งในออร์คที่ฝ่าวงล้อมมา ปะทะกับราชาก็อบลิน

แม้ว่ามันจะเป็นการปะทะกันของมอนเตอร์ระดับท็อปสองตัว…แต่การต่อสู้นี้จบลงอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่เหลืออยู่ก็ตามคาด

ออร์คถูกฟันด้วยเข้าที่ไหล่ซ้ายแลกกับการซัดราชาก็อบลินกระเด็นเข้าไปในป่า

สำหรับราชาก็อบลิน…ผมคิดว่ามันคงหมดสติแล้ว

คงขยับไม่ได้อีกสักพัก

ผมที่คิดอย่างนั้น สังเกตเห็นดาบที่หล่นข้างๆ

ตุ ตุบ ตุบ

ในเวลานั้นหัวใจผมเต้นอย่างบ้าคลั่ง…

ผมรวบรวมความกล้า โดยไม่สนใจไอ้ก็อบลินที่อยู่ข้างๆ

“กี๊ กิกิ๊–––”

นี่ไม่ใช่โชคชะตา?

ถึงแม้จะหวาดกลัวนิดๆ แต่แสงนั่นดึงดูดใจผมอย่างมาก

…แสงจากดาบยาวอันแหลมคม

ผมเข้าไปใกล้ราชาก็อบลินที่นอนอยู่

มันอาจจะยังไม่ตาย แต่…

“กิ๊ๆๆ”

––––ไปตายซะไอ้สารเลว

ผมเอาดาบแทงเข้าไปที่คอของราชาด้วยแรงทั้งหมด

จนดาบทะลุไปอีกด้าน ผมก็กรีดดาบไปตามแนวนอน

“กี๊ กี๊ ก๊าาาา! ”

“กี๊ ––”

เสียงของมันค่อยๆแผ่วลงจนลมหายใจสุดท้าย

“กู …” ผมฆ่ามันสำเร็จ

“กิกิกูกูกู”

นี่มันอะไรกัน?…รู้สึกสบายกว่าที่คิด

“กิ๊ กิกู!? ”

ขณะที่คิด ผมสัมผัสถึงพลังงานบางอย่าง ความเจ็บปวดที่ทำให้ผมต้องคุกเข่า

“กิกิ๊ กู!?”

บางอย่างแปลกๆภายใน เจ็บจนทำให้ผมจับไปที่หัวของตัวเอง บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น…ความรู้สึกที่น่าสะพรึงจากภายใน

“อาา… อ้าาาา…”

เวลาผ่านไปไม่นานนัก แต่ความเจ็บปวดกลับเนิ่นนาน ก่อนมันจะหายไป ผมค่อยๆมองไปยังรอบๆ

…เงียบสงบ

ก็อบลินทุกตัวจ้องมองมายังผม

ผ-ผมมีอะไรแปลกไปงั้นหรอ?

น่าเสียดายแต่ผมไม่มีแรงแล้ว

ผมที่กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น ก็มีก็อบลินตัวหนึ่งเดินมาข้างหน้า

“ราชา”

อะไรนะ?

“ห้ะ?”

ไอ้ก็อบลินนี่พูดอะไรของมัน? ราชา?

“คำสั่ง คุณ”

ด้วยความสงสัย ผมมองไปที่แขน ผิวของผมกลายเป็นผิวสีแดงที่น่าเกลียด

ควรอธิบายสถานการณ์นี้ว่าไงดี?

ผมค่อนข้างมึนงง…

Options

not work with dark mode
Reset