Ch.10 – สัญญาชีวิต
Translator : เฟรมวงไฟ / Author
เขยมาตอนที่ 10
บทที่ 10: สัญญาชีวิต
ปากลีโรกล่าวอย่างเยือกเย็น“ คนที่แข็งแกร่งย่อมต้องได้รับการเคารพ ข้าไว้ชีวิตเจ้าและนั่นคือราคา เจ้าจักต้องกลายเป็นข้ารับใช้ของข้า มันเป็นแค่เรื่องง่ายๆ ไม่มีอะไรจะต้องพูดคุย”
เฉินรุยส่ายหัวอย่างสงบ“ โชคชะตาของเราเชื่อมโยงเข้าด้วยกันแล้ว หากท่านฆ่าเรา ท่านจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ดังนั้นแล้ว ระหว่างเราจึงมีความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมเหมือนกับการช่วยเหลือ เป็นไปไม่ได้ที่จะต้องมีความแตกต่างระหว่างนายกับบ่าว นั่นมันเป็นสถานการณ์ที่ชนะหรือแพ้มากกว่า”
ปากลีโรพูดออกมาด้วยความไม่เห็นด้วย“ สิ่งที่ข้ารู้คือ ชีวิตของเจ้าอยู่ในมือข้า มันเป็นความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเจ้าให้รอดพ้นจากความตาย หากเจ้ายังคงน่ารำคาญ ปรมาจารย์ปากลีโรผู้นี้จะกินพวกเจ้าทุกคนในตอนนี้!”
เฉินรุยจ้องที่ปากลีโรอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เปล่งเสียงของเขาอย่างกระทันหัน:“ อะไรคือความสุขของการมีชีวิต มีอะไรต้องกลัวความตายด้วย! แค่ข้าได้มายังอาณาจักรมาร ก็ถือว่าข้าได้เสี่ยงทุกอย่างแล้ว แม้ว่าข้าจะเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ แต่ข้าก็ยังเป็นผู้ชายที่แท้จริง ข้าจะไม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพียงอย่างเดียวของชีวิตข้าไป!”
ดวงตาของอาเธน่าสว่างขึ้นอย่างกระทันหัน ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง เรามักจะสามารถมองเห็นคุณสมบัติที่แท้จริงของผู้อื่น ร่างผอมบางของมนุษย์ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นและสูงขึ้น นั่นคือความกล้าหาญที่แท้จริง! ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือ อลันหรือโจเซฟจากตระกูลเอลฟ์ พวกเขาคงจะกลัวพร้อมจนขยับไม่ได้แล้ว
หากมองจากมุมที่แตกต่าง จากมุมมองของปากลีโรแล้ว มนุษย์คนนี้ไม่มีเหตุผลอย่างชัดเจน เขาโชคไม่ดีจนมายังอาณาจักรมารและอาจจะตายได้ทุกเมื่อ แล้วพอมันเป็นชีวิตที่น่าสมเพช เขาเลยมาสู้โดยใช้ทุกอย่างที่มีงั้นหรือ
เฉินรุยมีประสบการณ์ในการเปิดร้านค้าออนไลน์อยู่ บางคนบนในอินเทอร์เน็ตจงใจให้คะแนนที่แย่ที่สุดในร้านค้าออนไลน์ของเขา เพื่อให้บรรลุข้อตกลงอะไรบางอย่าง พวกเขาถูกเรียกว่านักวิจารณ์มืออาชีพที่แสนจะไม่ดี ผู้ขายโดยเฉพาะผู้ขายของร้านค้าใหม่ๆมักจะเจอแบบนี้กันทั้งนั้น เฉินรุยได้พบกับคนพวกนี้หลายคน หลังจากจัดการกับพวกเขา เขาก็ได้เสียเงินไปจำนวนหนึ่ง แต่เขาก็ได้เรียนรู้อะไรมามาก
เขารู้ว่าปากลีโรกำลังติดกับดักและเขาก็มีความตั้งใจที่จะใช้เขาให้พ้นจากปัญหา ดังนั้นเฉินรุยจึงจงใจแสดงท่าทีสงบและทำให้กระแสทุกอย่างมาทางด้านเขา หากเขาไม่ได้อ่านสถานการณ์อย่างชัดเจน เขาคงจะไม่กล้าเสี่ยงชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน
มังกรพิษแน่นอนไม่ได้โจมตี แต่กลับขมวดคิ้วแทน จากนั้นเฉินรุยก็เสริมอีกประโยคหนึ่งว่า“ ข้า เฉินรุย ขอสาบานด้วยศักดิ์ศรีของมนุษย์ในโลกนี้ ข้าจักช่วยมังกรพิษปากลีโรทำลายสัญลักษณ์ผนึกทิ้ง หากมีการละเมิดใดๆ ข้าจะตายอย่างน่าหวาดกลัวและวิญญาณของข้าก็สูญสลายไป”
ปากรีโลรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อได้ยินคำสาบานอันหนักแน่น เขาไม่ทราบว่าประโยคแรกนั้นเต็มไปด้วยคำโกหก เฉินรุยไม่ใช่มนุษย์ในโลกนี้ ในการที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมา เขาเหมือนกำลังหลอกชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่มังกร
“ ปากลีโร ข้านั้นยินดีช่วยท่านคลายผนึก กระนั้น ข้าไม่เพียงต้องการมีชีวิตอยู่ แต่หวังว่าจะได้รับมิตรภาพและความช่วยเหลือจากท่านด้วย เพื่อแสดงความจริงใจของข้า ข้าจึงจะบอกท่านเกี่ยวกับความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการต่อต้านพิษของข้า”
หากการเจรจาก่อนหน้านี้เป็นแครอทแล้ว ครั้งนี้ก็เหมือนกับการให้ยาหลังให้แครอทไป
มังกรพิษจ้องไปที่เฉินรุยครู่หนึ่งและในที่สุดก็พยักหน้า“ มนุษย์ คารมคมคายของเจ้าดีกว่าความแข็งแกร่งของเจ้าเสียอีก หากเจ้าสามารถแสดงความจริงใจของเจ้าให้ข้า ปากลีโรผู้นี้ดูได้ ข้าก็จะทำสัญญาเท่าเทียมกับเจ้า”
ทันใดนั้นเอง การที่เฉินรุยกระโดดจากสัญญานายบ่าวกลายเป็นสัญญาเท่าเที่ยมเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก เขากำลังเผชิญหน้ากับมังกรอยู่นะ!
มีทั้งสติปัญญาและความกล้าหาญ มันเป็นคำที่เธอนึกได้เกี่ยวกับมนุษย์ผู้นี้ เฉินรุยไม่รู้เลยว่า เขาได้สร้างภาพลักษณ์ที่แสนแข็งแกร่งในหัวใจของอาเธน่าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อเฉินรุยนั้นมากมายกว่านายพลอลันไปแล้ว
“ ความจริงใจ” ของเฉินรุยไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการพูดซ้ำเรื่องราวของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่และยุคดึกดำบรรพ์ในอดีต เขาได้ปรับรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อที่จะทำให้มันสมบูรณ์ไปในตัวมัน เห็นได้ชัดว่ามังกรพิษนั้นยากที่จะโน้มน้าวกว่าอัลดาซ เขานิ่งเงียบ แต่อาเธน่าก็เชื่อเรื่องราวพกนี้
เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากมังกรพิษต่อ เฉินรุยจึงได้สร้างของเล่นชุดใหม่ขึ้น
แถวแนวตั้งและแนวนอนสามแถวถูกวาดลงบนพื้นดินรวมเป็น 33 แถว ยกเว้นจุดศูนย์กลางหลุมที่ถูกกดโดยแต่ละตารางและจากนั้นหินบางก้อนก็จะถูกวางไว้ในหลุมเป็นชิ้นหมากรุก
มังกรพิษมองดูด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นสิ่งนี้มานานนับพันปีโดยประสบการณ์ของตัวเอง เฉินรุยใช้เทำเครื่องมือของปรมาจารย์ในตำนานและเริ่มอธิบายเกี่ยวกับการเล่น หมุดไพ่เดี่ยว
เกมนี้ได้รับการกล่าวขานว่าถูกคิดค้นโดยขุนนางที่ถูกขังอยู่ในคุกก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศสและในไม่ช้าก็กลายเป็นที่นิยม รูปแบบการเล่นคล้ายกับหมากฮอส แต่มันเล่นด้วยคนๆเดียว ชิ้นส่วนที่ถูกกระโดดข้ามจะถูกลบออก เมื่อมันผ่านไปแต่ละขั้น มันก็จะใช้น้อยลงจนหมดไป ตามชิ้นส่วนที่เหลือและตำแหน่งมันจะถูกแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ซึ่งระดับสูงสุดก็เป็นของปรมาจารย์ผู้แสนหญิงใหญ่ที่เฉินรุยกำหนดเองไว้
หมุดไพ่เดี่ยว เส้นทางฮัวหยงและรูบิก พวกมันเป็นเป็นเกมทางปัญญาของโลกสามอย่าง อาเธน่านั้นรู้สึกงงงวยกับของประหลาดชิ้นนี้ แต่มันก็ทำให้มังกรพิษผู้นี้สนใจอยู่บ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญาเท่าเทียมกัน เขาก็อยากลองดูอยู่
“ สิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ ข้าไม่ต้องการให้บุคคลที่สามได้ยิน อย่างการที่หญิงสาวของเจ้าจะกระทำสิ่งโง่ๆอย่างการหลบหนี” มังกรพิษมองที่อาเธน่า เฉินรุยก็ส่งสัญญาณให้อาเธน่าด้วยดวงตาของเขา อาเธน่าพยักหน้าและนั่งต่อหน้าอลิซและเคีย
มังกรพิษได้ลบเสียงรอบๆออกและเริ่มกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าคือมังกรพิษ ปากลีโร แซนโดร อะคิลิส มนุษย์ จงเอ่ยนามของเจ้าให้ข้ารับรู้ ”
จากคำพูดอันแสนศักดิ์สิทธิ์ของปากลีโรที่เอ่ยนามที่แท้จริงออกมา แสดงว่าความคิดของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว จริงๆแล้ว มังกรพิษตัวนี้ก็อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน เขาสามารถถูกใครก็ตามฆ่าได้ หากมนุษย์คนนี้มีมรดกที่ลึกลับและทรงพลังอย่างแท้จริง เขาอาจจะสามารถทำลายตราประทับให้เขาได้ก็เป็นได้
“ ข้าชื่อ เฉินรุย” ในที่สุดเฉินรุยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดเขาก็เสร็จงานการเจรจาที่ยากลำบากนี้สักที
“ เฉินรุย เจ้าได้รับความเชื่อถือจากปากลีโรผู้นี้” มังกรพิษกล่าว “ มีบางสิ่งที่ฉันสามารถบอกเจ้า ได้หลังจากทำสัญญาเท่าเทียมกันนั้น แต่พอข้าได้คิดมากๆดูแล้ว ข้าต้องการทำสัญญาชีวิตกับเจ้า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ชีวิตของเราจะเชื่อมโยงกัน หากเจ้าละทิ้งซึ่งมิตรภาพและความเชื่อมั่นในวันหนึ่ง ชีวิตของเจ้าจะต้องหายไป”
การบอกว่าจะทำสัญญาชีวิตทำให้การแสดงออกของเฉินรุยเปลี่ยนไป เขาคิดอย่างรวดเร็วและส่ายหัว “ ข้าไม่มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นนักรบมังกร แต่เนื่องจากมันเป็นสัญญาชีวิตแล้ว ถ้าข้าเกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตเมื่ออายุมากแล้ว ท่านก็จะต้องตายตามไปด้วยนะ”
“ คุณสมบัติที่สำคัญของสัญญาชีวิตคือการแบ่งปันชีวิต” ปากลีโรอธิบาย “ จำนวนของมังกรนั้นต่ำมาก แต่ช่วงชีวิตนั้นยาวนานมากเช่นกัน บางคนอาจสามารถอยู่ได้เป็นล้านปี ตอนนี้ข้าอายุ 14,000 ปี คล้ายกับวัยผู้ใหญ่ของมนุษย์ หลังจากที่เราทำสัญญาชีวิต เจ้าจะแบ่งปันชีวิตกับข้า ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาที่จะตายก่อนอายุ นอกจากนี้ ลักษณะบางอย่างของร่างกายของข้ายังสามารถได้รับประโยชน์บางอย่างด้วย”
แบ่งปันชีวิต! เฉินรุยตกใจทันที ในประวัติศาสตร์จีน มีจักรพรรดิจำนวนมากไล่ตามความเป็นอมตะ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงกระนั้นเขาก็กำลังจะได้ชีวิตนับหมื่นปีมา!
แม้แต่ราชวงศ์ของอาณาจักรมาร หากไม่มีอุบัติเหตอะไรเกิดขึ้น พวเขาจะมีชีวิตอยู่แค่ 1-2 พันปี มารธรรมดามีอายุเพียงไม่กี่ร้อยปี มนุษย์ในโลกนี้อายุสั้นกว่านี้อีก เว้นแต่ พวกเขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งระดับหนึ่ง จนไม่มีใครสามารถเทียบเทียมได้
“ หากเป็นการตายโดยอุบัติเหตุ ข้าคงจะไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างที่เจ้าพูดไว้ในตอนต้น มีได้และก็มีเสีย” ปากลีโรส่ายหัวของเขา “ เราคนใดคนหนึ่งพอตายลงไป อีกคนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า พลังของข้าได้ลดลง ข้าได้แค่ทำสัญญากับคนๆเดียวเท่านั้น เพื่อที่จะให้อักษรรูนโบราณนั้นเป็นความลับ ข้าต้องการที่จะฆ่าเจ้าในตอนแรกและทำให้ผู้หญิงพวกนั้นเป็นข้ารับใช้ของข้า อย่างไรก็ตาม ภูมิปัญญาและศักยภาพของเจ้าได้เปลี่ยนความคิดของข้า หรือเจ้าจะบอกก็ได้ว่าการหลอกหลวงของเจ้ามันได้ผล”
เฉียดฉิว! เฉินรุยกลืนน้ำลาย ปรากฎว่าเขาเกือบจะได้ตายแน่ๆแล้ว
มังกรพิษนั้นได้เลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยที่สุด ชีวิตของทั้งสองเชื่อมต่อกัน ทั้งประโยชน์และความเสี่ยงต่างติดกัน ดังนั้นเฉินรุยจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อสัญญานี้ได้แล้ว การทำให้มังกรตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่เป็นหลักประกันว่าเขาจะมีอายุยืนยาว
“ แค่เตือนความจำอย่างหนึ่ง ตัวท่านเสี่ยงมากกว่าข้า ในฐานะมนุษย์ที่แสนอ่อนแอ ข้าจะต้องเจอกับอันตรายมากมายในอาณาจักรมาร” เฉินรุยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ ถ้าท่านรู้แล้วและยืนยันในการทำสัญญาชีวิต ข้าก็ได้แต่ยอมรับมัน”
ปากลีโรพยักหน้าและให้รอยยิ้มที่มีความหมาย“ เราเพียงแต่เชื่อในพลังการสืบทอดของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมพระเจ้า”
เฉินรุยหัวเราะขึ้นมา แฟนตาซีนั้นไม่เหมือนเรื่องจริงเลยสักนิด มันไม่เห็นเหมือนกับในนิยายเลยสักนิด มีเพียงตัวเอกเท่านั้นที่จะฉลาด ส่วนคนอื่นจะโง่ทุกคนนะเหรอ? คนที่คิดว่าคนอื่นโง่นั้นแหละโง่ที่สุด
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเรื่องลึกลับมากนัก แต่เชื่อว่ามังกรพิษอันทรงพลังนี้เพิ่งจะกลายเป็นพันธมิตรที่แท้จริงคนแรกของเขาหลังจากการเกิดใหม่ของเขา
ความรู้สึกของการทำสัญญาเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก มันเหมือนกับการทำสัญญากับอีกฝ่ายหนึ่งทางวิญญาณ มันเป็นสัญยาที่ทำงานอัตโนมัติและถูกควบคุมโดย “กฎหมาย” ลึกลับบางอย่าง หากไม่ไปถึงระดับเทียมเทพเจ้า คงจะไม่สามารถแก้ไขสัญญาอะไรแบบนี้ได้
เฉินรุยลงนามในสัญญาชีวิตและก็รู้สึกถึงหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ราวกับว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ปากลีโรไม่ได้แสดงสัญญาณว่าอ่อนแออะไรเลย
“ เฉินรุย ตอนนี้เราได้ทำสัญญาชีวิตกันแล้ว มันยิ่งกว่าคำว่าพี่น้อง” หลังจากปากลีโรเซ็นสัญญา เขาก็ไม่ได้สุภาพอีกต่อไป “ ข้าต้องเข้าใจสิ่งหนึ่งก่อน ผู้หญิงพวกนี้เป็นผู้หญิงของเจ้าหรือเปล่า? ผู้หญิงคนนั้นเป็นมารที่ยิ่งใหญ่ที่มีสายเลือดกลายพันธุ์ เธอมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมและมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นราชามารในอนาคต”
“ ไม่ๆ เราไม่ใช่เพื่อน แต่ฉันไม่สามารถทำให้เธอขุ่นเคืองได้เลย” เฉินรุยส่ายหัว อาเธน่านั้นงดงามมาก แต่เรื่องตลกนี้ไม่ควรจะพูดออกมา เพราะปริศนาแท่งไม้ก็เป็นตัวอย่างได้ชัดเจนเลย
มังกรพิษนั้นยิ้มอย่างมีเลศนัย “ งั้นข้าขอแนะนำให้เจ้าทำให้เธอเป็นของเจ้าซะ ปีศาจสาวผู้นี้เป็นผู้หญิงที่ซื่อสัตย์ที่สุดในบรรดามาร ตราบใดที่เจ้าสามารถทำให้เธอยอมรับได้ทั้งร่างกายและจิตใจ เธอจะหลงรักเจ้าตราบชั่วนิรัน ถ้าเจ้าไม่ตาย เธอก็จะไม่มีทางไปตามหาชายคนที่สอง ถ้าไม่เช่นนั้น ข้ายอมเอาความลับของเราไปเป็นประกันเลย”
เฉินรุยเองก็ตระหนักได้ว่าอาเธน่ามีลักษณะนิสัยแบบนั้น แต่ภารกิจนี้ดูจะค่อนข้างยากไปสักนิดนะ
Ch.1 – บทแรกเริ่ม
Translator : Abcd25348 / Author
บทที่ 1
เฉินรุย โอตาคุเพศชายอายุ 24 ปี ว่างงานตั้งแต่สำเร็จการศึกษา ทำงานในร้านที่แทบจะไม่สามารถพบปะใครและใช้ชีวิตในขนาดห้องรถยนต์กับเพื่อนสามคน
วันนี้เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นที่ตกอยู่บนถนนขึ้นมา แม้ว่ามันจะดูเป็นของโบราณ แต่มันก็ยังมีกล้องอยู่ เฉินรุยกดปุ่มเปิดทันที เขาเห็นหน้าจอสว่างขึ้นและมีกล่องสี่เหลี่ยมโผล่ออกมาตรงกลางพร้อมคำจำนวนหนึ่งแถว:“ คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการจะทำสิ่งนี้”
เขากดปุ่มยืนยันและข้อความปรากฏขึ้น:“ คุณแน่ใจหรือไม่”
คนงี่เง่าคนไหนที่ไหนตั้งค่าแอนิเมชั่นรีบูตเครื่องแสนน่าเบื่อแบบนี้?
เฉินรุยไม่ลังเลที่จะกดปุ่มยืนยันอีกครั้ง จากนั้นข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงกลางหน้าจอ“ ขอแสดงความยินดีด้วยสำหรับการชนะรางวัล! ยินดีต้อนรับสู่ระบบสุดยอด” ตัวอักษรมีขนาดใหญ่มาก จากนั้นโทรศัพท์ก็ได้ระเบิด
เฉินรุยยังไม่ได้พูดว่า เxี้ย ออกมา ก็ได้สลบไปเสียก่อน
เขาไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว ตาของเขาได้เปิดขึ้นมาและรู้สึกปวดหัวมากๆ เขาจำได้ว่าโทรศัพท์ได้ระเบิดและนั้นคงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีอาการแบบนี้ ตอนนี้มีความทรงจำหลายอย่างในหัวของเขา ก่อนที่เขาจะตระหนักได้ว่าเขาได้ยินคนๆหนึ่งพูดขึ้นมา”ตื่นเถิด?”
พอมองไปที่คนๆนั้นแล้ว เขาดูมีใบหน้าที่แสนหล่อเหลา มีผิวคล้ำผมสีเงินเข้ม หูแหลมและตาสีฟ้าพร้อมกับใบหน้าที่แสนงงงวย
ในขณะที่เผชิญหน้ากับคนๆนี้ เฉินรุยดูสงบมาก เขาเคยเห็นพวกที่ชอบการ์ตูนอยู่ทั่วตามอินเทอร์เน็ต โดยที่พวกเขามักจะคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนที่ชอบกัน จากนั้นเขาจึงได้ตอบกลับไปในทันที: “นายเป็นคนที่ช่วยฉันไว้ใช่ไหม? ขอบคุณมาก!”
มันยากมากเลยที่จะหาคนจิตใจดีแบบนี้ได้ในรอบปี
“ ช่วยเจ้างั้นหรือ?” พอได้เห็นการแสดงความขอบคุณของเฉินรุยแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนแสนประหลาดก็ได้พึมพำว่า:“ เป็นปัญหาที่ปริมาณยาหรือยาผิดประเภทหรือเปล่านะ?”
พอได้ฟังการตอบกลับมาจากคนๆนี้แล้ว เฉินรุยก็รู้สึกผิดปกติกับภาษาของคนๆนี้และเขายังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสามารถเข้าใจความหมายได้และดูเหมือนว่านั้นจะเป็นภาษาธรรมดาๆด้วย
“ เพื่อน ร่างกายของนายมีรูปร่างที่เหมือนจริงมากและผิวหนังก็ยังมีสีเข้มมากด้วย … … ” เฉินรุยส่ายหัวของเขาอย่างงงงวยและพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่กลับรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว เขาได้แต่มองไปรอบๆยังสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด:“ จริงสิ ว่าแต่เราอยู่ที่ไหนกัน”
“ กล้าที่จะเหยียดสีผิวของดาร์คเอลฟ์ยังงั้นเรอะ! เจ้ามนุษย์บ้า!” ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนได้ตอบโต้กลับมาด้วยความโกรธพร้อมกับมือของเขาที่เกิดเสียง ชี่ ขึ้น …ใช่แล้ว เสียงชี่ เฉินรุยเห็นแสงประกายไฟฟ้าและมันกระทบเข้ากับเขาทันที ร่างของเขาลอยขึ้นไปและยังอัมพาตอีก ร่างของเขากระตุกโดยไม่ได้ตั้งใจ กลิ่นอากาศที่รับรู้ได้นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นเผาไหม้
“แซลลี่! รีบถอยออกมาเร็ว!” แม้จะลงโทษเฉินรุยไปแล้ว แต่ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนผู้นี้ก็ยังคงรู้สึกโกรธอยู่ดี
จู่ๆก็ได้มีเงาเล็กๆพุ่งผ่านมา คนผู้นี้มีผิวหนังที่เป็นสีแดง เขาเตี้ยมากและยังดูน่าเกลียดอีก ปากของเขาใหญ่และยังมีฟันแหลมอีก
“ มาสเตอร์อัลดัซผู้แสนน่าเคารพนับถือ ข้ารับใช้แซลลี่ผู้นี้กำลังรอคำสั่งของท่าน ท่านผู้เป็นหนึ่งในปรมาจารย์ร้านยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมาร … …
เสียงนี้เต็มไปด้วยคำเยินยอมากมาย แต่อารมณ์ของอัลดัซนั้นแย่มากและไม่คิดที่จะฟังคำเยินยอที่น่าเบื่อพวกนี้พร้อมกับตะโกนว่า:“ เอาชุดแห่งคำหลวงหลอกออกมา! เจ้าช่างเป็นมารที่ขี้เกียจเหลือเกิน นี้เจ้าได้ให้ยาพิษผิดขวดกับเขาหรือเปล่า?”
แซลลี่ตกใจมากและพูดขึ้นว่า“ ไม่อย่างแน่นอน ก็เหมือนกับที่มาสเตอร์ได้บอก ข้าได้ใช้ยาที่แท้จริงขวดที่ 3”
“ ยาที่แท้จริงอะไรกัน จากที่ฟังเมื่อครู่ข้ากลับได้ยินอะไรบางอย่าง?” น้ำเสียงเศร้าหมองของอัลดาซทำให้เหงื่อของแซลลี่เริ่มเย็นลง:“ ตอนนี้เจ้าเอาเลือดหนึ่งขวดออกมาให้ข้า จากนั้นให้ยาพิษขวดที่ 6 ‘น้ำตาตก’ กับเขา!”
แซลลีไม่กล้าประวิงเวลา เขาทำตามคำสั่งทันทีพร้อมเดินเข้าไปที่โต๊ะเพื่อหยิบขวด
ถ้าไม่มีสายฟ้าตะกี้นี้ เฉินรุยคงคิดว่านี่เป็นอนิเมชั่นหรือกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ เมื่อมองดูการก้าวเดินของมารตัวนี้ หัวใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่จะต้องสู้ แต่ร่างกายของเขาก็ยังเป็นอัมพาตอยู่ ร่างกายของเขากลับไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งของสมองได้
แซลลี่ไปที่ด้านหน้าของเฉินรุย เขาไม่ได้ใช้ใบมีดอะไรเลย เพียงแค่เหยียดปลายนิ้วที่แหลมไปทางแขนของเขา ทันใดนั้น เลือดก็ได้โผล่ออกมา ดวงตาเล็กๆของแซลลี่เปล่งประกาย ริมฝีปากของเขาเผยอขึ้นขณะที่บีบมัน เพื่อเก็บเลือดเข้าไปใส่ในขวดใสๆ
ความจุขวดนั้นไม่เล็กเลย เมื่อเลือดค่อยๆเติมเต็มลงไปในขวด ร่างกายของเฉินรุยก็รู้สึกเย็นวิงเวียนศีรษะและสมองก็เหมือนกับกำลังมึนๆ ในที่สุด แซลลี่ก็ได้เก็บเลือดเข้าไปในขวดทั้งหมดและนำเลือดที่ติดอยู่ในเล็บดูดเข้าไปในปากราวกับกำลังกลืนกินสิ่งล้ำค่า เส้นขนทุกเส้นของเฉินรุยนั้นลุกตั้งขึ้นแทบจะทันที
อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้กลับทำให้อัลดาซรู้สึกไม่พอใจ แวลลี่เองก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรขัดคำสั่งเขา จากนั้นก็ได้รินยาหมายเลข 6 ไปยังปากของเฉินรุย
ยานี้มีรสหวาน แต่มันกลับตรงกันข้ามกับผลกระทบของมัน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ร่างกายของเฉินรุยก็เริ่มเจ็บปวดไปทั่วร่างราวกับร่างของเขาผลิแตก นับตั้งแต่เขาเกิดมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความเจ็บปวดจนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา
เมื่อเห็นอาการที่เจ็บปวดของเฉินรุย อัลดาซก็หายโกรธและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ:“ ดูเหมือนว่ายานี้จะมีประสิทธิภาพมาก ไม่รู้ว่าร่างกายของมนุษย์มีความต้านทานต่อยาก่อนหน้านี้หรือว่าขวดยาเองที่เป็นปัญหา ? “
อัลดาซรู้ว่าผลกระทบที่แข็งแกร่งที่สุดของน้ำตานกพอเขาขี้เกียจฟังเสียงโหยหวนของเฉินรุยแล้ว เขาก็ได้สั่งออกมาว่า:“ แซลลี่! พาเขาไปที่ดันเจี้ยนพร้อมกับรักษา แล้วอย่าปล่อยให้มันหิวไปทั้งคืน! หากวันหนึ่งเขาตายจากการทดลอง ข้าไม่เกี่ยงหรอกนะที่จะใช้ร่างแกเป็นอาหาร”
แซลลี่รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งและได้โพล่งคำเยินยอออกมามากมาย จากนั้นอัลดาซก็ได้กล่าวเสียงแข็งออกมา:“ แต่ว่า หากข้าพบว่าแกพยายามขโมยอาหารอีกครั้ง แกจะกลายเป็นตัวทดลองตัวต่อไป!”
แม้ว่าแซลลี่จะทำงานในห้องทดลองไม่นานนัก แต่เขาก็รู้ดีถึงความสะพรึงกลัวที่ตัวทดลองต้องทำได้รับ เขาจึงได้แต่สั่นกลัวพร้อมกับพยักหน้าอย่างไม่หยุด ก่อนที่จะพาเฉินรุยไปยังในดันเจี้ยน
แซลลี่ไม่ใช่ว่าจะไม่แข็งแรงเลย เขาสามารถลากเฉินรุยไปได้นานมากและได้โยนเขาไปยังห้องมืดที่ชื้น
“ รีบๆตายสักทีเถอะ ไอ้บ้าเอ้ย! แซลลี่ผู้นี้ยังไม่เคยลิ้มรสชาติของมนุษย์เลยนะ!” แซลลี่ต่อหน้าอัลดาซนั้นอาจจะดูอ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติ แต่ลับหลังเขาก็ยิ่งผยองมาก เขาเตะเฉินรุยไปหลายฟุต ก่อนที่จะเลียนิ้วที่เปื้อนเลือดอย่างลังเล ดวงตาเล็กๆของเขากระพริบถี่ๆด้วยความโลภ ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดขืนคำสั่งของอัลดาซและปิดห้องพร้อมกับก้าวเดินจากไป
เฉินรุยพยายามดิ้นรนอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเขาหายเจ็บ แต่มันกลับเจ็บปวดขึ้นกว่าเดิมสิบเท่า จนเขาได้แต่กรีดร้องออกมาอีกครั้ง ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงลึกลับจากสมองดังขึ้น:“ ค้นพบสารพิษที่ไม่รู้จัก จะเริ่มดูดซับและเริ่มระบบสุดยอดเลยหรือไม่?”
เฉินรุยนั้นเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แค่การพูดก็แทบจะทำให้เขาเจ็บปวดอย่างเหลือทน หัวใจของเขาจู่ๆก็เย็นอย่างไม่มีเหตุผล มันแพร่กระจายไปทั่วร่างของเขาอย่างรวดเร็วและเริ่มที่จะหายปวด
“ ขาดแหล่งพลังงาน ความคืบหน้าของการเริ่มต้นระบบอยู่ที่ 0.5 ต้องการพลังงานมากขึ้นเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์” เป็นอีกครั้งที่สมองได้ส่งสัญญานอะไรบางอย่าง ‘คลิ๊ก’ จากนั้นเสียงนั้นก็ได้หายไป
เดี๋ยวก่อน ระบบคืออะไร
เมื่อเฉินรุยตอบกลับไป ก็ไม่ได้มีเสียงอะไรปรากฏขึ้นอีก ภาพลวงตางั้นเหรอ?
เฉินรุยคิดถึงเรื่องนี้สักแปปหนึ่ง จู่ๆก็ได้มีข้อมูลจำนวนมหาศาลจนทำให้เขาตกตะลึงในทันที ตะกี้นี้เหมือนกับเขาไม่มีความทรงจำอะไรเลยอยู่ในหัว หลังจากที่คิดไปคิดมา ก็เหมือนกับความทรงจำได้ถูกกลั่นออกมาโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นในตอนนี้ เขาไม่ใช่เฉินรุยคนเดิมแล้ว แต่เขาคือเด็กชายที่มีชื่อว่า อาเธอร์และนี่ไม่ใช่โลกของเขาด้วย
การเปลี่ยนถ่ายวิญญาณ! ในฐานะที่เป็นสุดยอดโอตาคุในเว็บนิยาย เฉินรุยรู้ได้โดยพลัน
พ่อแม่ของเฉินรุยเสียชีวิตในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คุณย่าที่รักเพียงคนเดียวก็เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ปัญหาก็คือ เขาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการเกิดใหม่มามาก แต่ไม่เคยคิดถึงเหตุการณ์ที่จะต้องเจอแบบนี้เลยสักนิด!
เฉินรุยได้ต่อเศษเสี้ยวชิ้นส่วนความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ของอาเธอร์ พร้อมกับได้เรียนรู้ว่าพื้นที่นี้เป็นโลกเวทมนตร์ ‘อาเธอร์’ ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกหลานขุนนางอายุ 20 ปีที่มีชีวิตที่เรียบง่ายมาก สองวันก่อน เขาออกมาเล่นข้างนอก จากนั้นก็ได้ถูกส่งไปที่ๆมีมารอยู่ทุกหนทุกแห่งและก็ได้ถูกจับกุมตัวไปยังห้องทดลองของอัลดาซ แล้วก็ได้เริ่มกลายเป็นตัวทดลอง
อาเธอร์อาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ มีเผ่าพันธุ์เช่น มนุษย์ เอลฟ์คนแคระและเผ่าพันธุ์อื่นๆ และตอนนี้สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นโลกของโมซูที่เป็นศัตรูต่อโลกมนุษย์!
โมซู เป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง แต่ก็ได้พ่ายแพ้ต่อกองกำลังพันธมิตรมนุษย์ที่เป็นพันธมิตรในสงครามโบราณ จากนั้นก็ได้ถูกขับไล่ไปยังโลกเบื้องล่าง ประตูที่เป็นทางไปก็ได้ถูกปิดลงด้วยอาคม
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นแบบนี้ โมซูกลับไม่เคยยอมแพ้ต่อความพยายามที่จะกลับสู่พื้นดินเลย ทุกๆ 500 ปี พลังอาคมจะอ่อนแอลง นั่นจะทำให้เกิดสงครามสองด้านขึ้น แต่มีสิ่งย้ำเตือนแทบจะทุกๆครั้ง นั่นก็คือพวกเขาไม่เคยชนะเลยสักครั้ง
เมื่อเร็วๆนี้เมื่อ 300 ปีก่อนในการต่อสู้ ผู้บัญชาการลูซิเฟอร์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น ลูซิเฟอร์คืนสีขาว เขาแข็งแกร่งมากจนทำให้มนุษย์ตกตายมากมาย แต่ประวัติศาสตร์ก็เหมือนเดิม ชัยชนะครั้งล่าสุดก็ยังคงเป็นของกองกำลังพันธมิตรของ ‘แสงสว่างและความถูกต้อง’ ลูซิเฟอร์คืนสีขาวได้ถูกสังหารโดยมนุษย์ที่แข็งแกร่งและกองทัพโมซูก็แตกพ่ายพร้อมถูกบังคับให้ต้องถอนตัวออกสู่นรก
ความทรงจำของอาเธอร์ในความเข้าใจเกี่ยวกับโมซูมีแค่นี้ ในความเป็นจริง โลกมนุษย์นั่นแทบทุกคนสามารถฟันน้ำขาดสะบั้นเป็นสองฟากได้และยังใช้กำปั้นทุบภูเขาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม อาเธอร์เป็นวัสดุเหลือใช้ ไม่มีทั้งความขุ่นเคืองใจและเวทย์มนต์ สำหรับเขาสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคงจะได้กลายเป็นอาหารหรือไม่ก็เครื่องดื่ม ถ้าวิญญาณของอาเธอร์ยังคงอยู่ เฉินรุยคงจะคว้าคอเด็กคนนี้พร้อมกับตะโกนว่า:“แกกล้ามอบประสบการณ์สุดแสนพิเศษอย่างนี้ให้ฉันได้ยังไงกันฟร๊ะ!”
ความจริงก็คือ ผู้ชายคนนี้ได้ถูกทรมานในร้านขายยาของอัลดาซ ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์และทำให้เฉินรุยมาอยู่ในร่างของเขา
หากไม่มีพลังแม้แต่เล็กน้อย มนุษย์ที่แสนอ่อนแอในโลกของโมซูจะเป็นยังไงงั้นเหรอ? หนูทดลอง? อาหาร?
เฉินรุยกลัวมากขึ้นเรื่อยๆที่เขากด ‘ยืนยัน’ และเสียใจกับพฤติกรรมที่ไม่ยั้งคิดของเขามาก ก่อนหน้านี้ ในใจของเขาได้แต่ด่าโทรศัพท์ว่าเxี้ยๆเป็นนับพันครั้ง แต่มันก็ไม่มีอะไรกลับคืนมาแล้ว
ชีวิตในอดีตเขาเป็นโอตาคุเล่นเกมและอ่านฟอรัม แต่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาอาศัยอยู่ในโ,กเวทย์มนต์ที่แทบจะเอาตัวไม่รอดได้เลย เขาจะรอดได้ยังไงกันเนี้ย?
เฉินรุยคิดเรื่องนี้เป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ตัวของเขาทั้งรู้สึกเหนื่อยและก็เผลอหลับไป