“ทำไมช่วงตรุษจีนถึงยุ่งมากขนาดนี้ล่ะลูก?!” แม่ของเฝิงหยู่บ่น โทรศัพท์ของเฝิงหยู่ดังขึ้นไม่หยุดในช่วงวันส่งท้ายก่อนตรุษจีน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ พวกเขาโทรมาอวยพรปีใหม่ให้ผมน่ะ” เฝิงหยู่ตอบอย่างสบายๆ
“อ๋อ พนักงานของลูกมาจากต่างจังหวัดกันหรอ?”
เฝิงหยู่มองแม่ของเขาอย่างเพลียจิตและไม่ตอบกลับ พนักงานจากจังหวัดอื่นอะไรกัน? ถ้าบอกแม่ไปว่าคนที่โทรมาเป็นใคร แม่ต้องอ้าปากค้างแน่ๆ
“แม่ครับ ผมช่วยทำเกี๊ยวให้” เฝิงหยู่ม้วนแขนเสื้อขึ้น
“ไม่ต้องเลย ยิ่งช่วยจะยิ่งทำให้วุ่นมากกว่าเดิมต่างหาก ออกไปดูซิว่าลุงคนโตและคนอื่นๆ มาถึงหรือยัง คนขับรถของลูกนี่ชักช้าจริงๆ!”
เมื่อวานหิมะตก ทำให้รถขับกันเร็วมากไม่ได้ เฝิงหยู่เอารถออฟโรดไปรับลุงของเขา ถ้าเขาเอารถรุ่นโอลิมปิกไปรับ พวกเขาอาจถึงพรุ่งนี้ก็ได้
ขณะที่เฝิงหยู่กำลังคุยกับแม่อยู่ เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกดแตรอยู่ข้างนอก เขารีบวิ่งออกไปเพื่อเปิดประตูและเห็นลุงคนโตของเขาและครอบครัวกำลังลงจากรถ
“คุณลุงเหนื่อยมั้ยครับ?”
“ไม่เลย รถคันนี้นั่งสบายมาก”
“ผมจะพาคุณลุงไปที่โรงงานแล้วให้ลุงเลือกคันใหม่เลยครับ”
“ขอบใจนะเสี่ยวหยู่ แต่ลุงแทบไม่ได้ขับรถเลย มีรถไปก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แล้วปู่ของเธออยู่ไหนล่ะ?”
“กำลังหลับอยู่ชั้นบนครับ เขาบอกว่าคืนนี้เขาอยากอยู่โต้รุ่งยันเช้า”
พวกเขาคุยกันขณะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน หลังจากส่งคุณลุงและครอบครัวของเขาเข้าบ้านไปแล้ว เฝิงหยู่ก็หยิบซองแดงสองซองมอบให้คนขับรถทั้งสองคนและบอกพวกเขาว่าให้เอาไปให้ลูกๆ คนขับรถคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มและยังไม่ได้แต่งงาน เขาลังเลและไม่รู้ว่าควรจะรับซองดีหรือเปล่า คนขับรถอีกคนคุ้นเคยกับสิ่งนี้และอวยพรขอให้เฝิงหยู่มีความสุขในปีใหม่ก่อนที่จะลากชายหนุ่มคนนั้นออกไปพร้อมกับซองอั่งเปา
หลังจากเฝิงหยู่เข้ามาในบ้าน ปู่ของเขาก็ลงมาจากชั้นบน พวกเขานั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น
ทีวีฟิลิปส์ในห้องนั่งเล่นคมชัดและด้วยระบบเสียงในห้องนั่งเล่น ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์
“เมื่อไหร่จะแต่งงาน? เลิกเสียเวลาและมีแฟนซักที!” ลุงคนโตเริ่มเทศนาลูกชายตัวเอง
ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่ตอบอย่างเขินอาย “พ่อครับ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ มันคือทั้
ชีวิตเลย การหาแฟนไม่ใช่เรื่องง่าย”
“ไร้สาระ! แกคิดว่าฉันไม่รู้หรอว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่? ฉันขอเตือนแกเลยนะ ถ้าแกมีแฟน ให้ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ฉันจะตีแกถ้าแกมัวแต่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น!”
ในที่สุดเฝิงหยู่ก็เข้าใจ การที่พ่อตีลูกชายนั้นเป็นประเพณีของครอบครัวเขา
หลังจากนั้นไม่นานอาหารเย็นก็พร้อม เฝิงหยู่และลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ช่วยกันนำอาหารออกมาจากครัว โต๊ะทรงกลมในห้องอาหารเต็มไปด้วยจาน
ปู่ของเฝิงหยู่ยกแก้วขึ้น “ปีใหม่แล้วและฉันดีใจที่ได้พบทุกคนที่นี่ ไชโย!”
เฝิงหยู่จิบเล็กน้อยและกำลังจะวางแก้วลงเมื่อเห็นพ่อจ้องมองเขาอยู่
“แกคิดว่าที่นี่เป็นแผนกของแกหรือไง?! ดื่มให้หมดแก้วเดี๋ยวนี้!” เฝิงซิ่งไท่ดุ กล้ามาแกล้งหลอกว่าทำเป็นดื่มที่บ้านงั้นหรอ? ตอนที่แกยังเด็ก ฉันไม่อนุญาตให้ดื่ม แต่แกก็แอบไปดื่มลับหลังฉัน!
“พ่อครับ นั่นมันบริษัทนะ ไม่ใช่แผนก” เฝิงหยู่เถียงและดื่มแอลกอฮอล์จนหมดแก้ว
หลังจากที่ทุกคนดื่มแก้วแรกเสร็จ เฝิงหยู่ก็มองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาและพวกเขาก็หยิบซองสีแดงออกมาจากกระเป๋า
“นี่สำหรับคุณปู่ครับ”
ปู่ของเฝิงหยู่รู้สึกประหลาดใจ “เจ้าเด็กนี่ให้อั่งเปาฉันหรอ?”
“ใช่แล้วครับ ขอให้คุณปู่มีอายุมั่นขวัญยืนจนได้เห็นเราแต่งงานและเห็นเหลนไปโรงเรียนและแต่งงานเลยนะครับ” ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่หัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ฉันคงดีใจถ้าได้เห็นเหลนของฉัน แต่ถ้าฉันมีชีวิตอยู่นานจนถึงเหลนแต่งงาน ฉันคงเป็นสัตว์ประหลาดแล้วล่ะ” ปู่ของเฝิงหยู่หัวเราะ จากเสียงหัวเราะของเขา ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่าเขามีสุขภาพดีมาก
“พ่อครับ นี่เป็นของขวัญจากเด็กๆ รับไว้เถอะครับ”
“ก็ได้! ฉันจะเก็บไว้ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ฉันได้รับอั่งเปา” ปู่ของเฝิงหยู่พูดขณะที่น้ำตาเริ่มเอ่อคลอในดวงตาของเขา
หลังอาหารค่ำยังมีเวลาอีกพอสมควรก่อนที่รายการงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิจะเริ่มขึ้นและทุกคนก็ออกไปข้างนอกเพื่อจุดพลุดอกไม้ไฟ ปู่ของเฝิงหยู่จุดไฟด้วยตัวเอง
เฝิงหยู่รู้สึกดีมากที่ได้เจอญาติทุกคน เขาจะอารมณ์ดีขึ้นถ้าแม่ของเขาไม่มาจู้จี้เรื่องที่ลีน่าไม่มาด้วย
หลังจากจุดพลุเสร็จ ทุกคนก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อชมรายการงานกาล่าและพูดคุยกัน
ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่ถามเบาๆ “หัวหน้าของพี่ถามว่าพี่สนใจที่จะย้ายไปสำนักงานปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจหรือเปล่า? พี่ควรรับข้อเสนอนี้ดีมั้ย?”
“ทำไมต้องปฏิเสธล่ะครับ? พี่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าแผนกหลังจากที่พี่ถูกย้ายไปใช่มั้ยครับ?” ถ้าตาเฒ่าจางไม่ช่วยดูแลพี่ให้ พี่คิดว่าจะได้รับข้อเสนอนี้หรอ? พี่ยังต้องมาถามผมอีกหรอ?
“ที่นายพูดก็จริง แต่การโยกย้ายครั้งนี้คือการย้ายจากคณะกรรมการพรรคไปยังรัฐบาล”
“แล้วมันผิดตรงไหนหรอครับ? ตาเฒ่าจางยังคงอยู่ในเมืองปิง นอกจากนี้ สำนักงานปรับโครงสร้างยังอยู่ภายใต้รองนายกเทศมนตรีและเขาก็เป็นอดีตเลขาธิการของซวี่ฉางโหยว นี่คือตำแหน่งที่พี่จะโดดเด่น ถ้าพี่ทำงานหนัก พี่น่าจะได้เป็นหัวหน้าแผนกในอีก 2 ปี”
“พี่ได้ยินมาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรัฐวิสาหกิจปีนี้ หลายคนจะต้องออกจากงาน แล้วแบบนี้จะทำให้หลายคนไม่พอใจหรือเปล่า?”
“คนที่ถูกไล่ออกคือคนที่ไม่มีทักษะและขี้เกียจ คนที่มีทักษะและความสามารถจะได้รับมอบหมายงาน เมืองยังจัดให้มีการฝึกอบรมสำหรับพนักงานที่ไม่มีทักษะพวกนั้น พวกเขายินดีที่จะให้เงินเดือนแก่คนงานที่มีทักษะ”
“นายพูดถูก เงินเดือนขั้นพื้นฐานของพวกเขาอยู่ที่ประมาณ 200 ถึง 300 หยวนต่อเดือน พวกเขาอาจหางานใหม่ได้ โอเค พี่จะตอบรับการโยกย้าย” ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่รู้สึกตื่นเต้น เขาหวังว่าเฝิงหยู่จะพูดถูกที่บอกว่าเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งในอีกสองปี
ถ้ายังมีลูกพี่ลูกน้องที่อายุน้อยกว่าอย่างเฝิงหยู่ ซึ่งมีเส้นสายกับรัฐบาลจังหวัดและเมือง เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการได้รับความดีความชอบหรือการเสียความดีความชอบให้กับผู้อื่น แม้จะไม่มีผลที่ชัดเจน แต่เขาก็ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
“คุณลุงคนที่สองกำลังจะได้เป็นสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติของจังหวัดและเขาจะไปที่รัฐบาลจังหวัดเพื่อเข้าร่วมการประชุมในอนาคต พี่ไม่รู้ว่าคนที่ทำธุรกิจสามารถเป็นข้าราชการได้ด้วย” ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่พูด
ห้ะ? พ่อของฉันกำลังจะเป็นข้าราชการหรอ? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย?
“ผมไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ใครบอกพี่หรอครับ?”
“อ่าว นายไม่รู้หรอ? หนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการก็ออกมาแล้ว ไม่ใช่นายหรอกหรอที่ไปขอให้ผู้นำแต่งตั้งลุงคนที่สองเป็นข้าราชการ?” ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่ถาม
“ไม่ใช่ผมเลยครับ ผมว่าน่าจะเป็นความคิดของตาเฒ่าจางแน่ๆ”
ในอนาคตพ่อของเฝิงหยู่จะเข้าร่วมการประชุมของรัฐบาลและหากมีปัญหา เขาจะถามเฝิงหยู่อย่างแน่นอน ให้ตายสิ! ฉันจะเป็นที่ปรึกษาของจังหวัดแบบฟรีๆ หรอเนี่ย?!
ไม่! พรุ่งนี้ผมต้องไปคุยกับตาเฒ่าจาง คุณหลอกให้พ่อผมเป็นข้าราชการโดยไม่ถามผมก่อนงั้นหรอ? แม้ว่าพ่อผมจะเห็นด้วย แต่คุณควรแจ้งให้ผมทราบก่อน!
……
“ฮ่าฮ่าฮ่า….” แม่ของเฝิงหยู่หัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…การแสดงนี้ตลกมาก!”
รายการงานกาล่าจบลง ทุกคนก็เข้านอน เฝิงหยู่นอนอยู่บนเตียงและมองไปที่เพดาน เขากำลังนึกถึงคืนแรกที่เขากลับมาเกิดใหม่