ฮ่องเต้มิได้ทรงปิดบังพระพักตร์ ประกายแสงในดวงเนตรคมกริบดุจมีดดาบ ทันทีที่กวาดพระเนตรออกไป ก็แผ่ราศีของผู้ปกครองใต้หล้าออกมาโดยรอบ จนคนที่ได้สบตาพลันเกิดความรู้สึกสั่นสะท้าน
หมัดของพระองค์ยังคงเปรอะเปื้อนเลือดของนักข่าวคนนั้น แววเนตรทอประกายคุกรุ่นจางๆ
พระองค์จะไม่ทรงทนให้ผู้ใดกล่าววาจาว่าร้ายซิงซิงแม้แต่คำเดียว
พระองค์ไม่เหมือนกับซือมั่ว หากได้ลงมือย่อมไม่รีรอแม้แต่น้อย
ฮ่องเต้ทรงเติบโตมาในโลกที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ กฏหมายของโลกปัจจุบันช่างไร้ค่า ใครที่กล้าหาเรื่องก็จัดการมันให้จบไป
แต่ว่าพระองค์ก็ทรงมีขอบเขต เพียงต่อยนักข่าวผู้นั้นจนฟันร่วงหมดปาก ไม่ถึงกับเอาชีวิต เพียงแต่ว่าครึ่งปีนับจากนี้ นักข่าวผู้นั้นคงไม่อาจใช้ปากกล่าวอะไรได้อีกแม้แต่ครึ่งคำ
ภายในรถ ซื่อมั่วหรี่ดวงตาลง ดวงตาภายใต้ขนตายาวเป็นแพนั้นมีประกายมืดครึ้มที่ยากจะมองเห็นได้
วิญญาณทมิฬยังคงตัวสั่นเทาอยู่บ้าง “อาจารย์ ท่านปล่อยให้ฮ่องเต้สุนัขชิงทำคะแนนไปแล้ว….”
ซื่อมั่วก็ยังคงเป็นซื่อมั่ว ไม่เคยลงมือง่ายๆ แต่หากเขาลงมื่อเมื่อไหร่…..ก็ต้องมีคนตายเมื่อนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีเรื่องที่ต้องขบคิดมากกว่าจีเฉวียน มิว่าทำสิ่งใดล้วนคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา
โลกปัจจุบันมีกฏระเบียบของมัน ซื่อมั่วมีความเข้าใจในเรื่องนี้มากกว่าจีเฉวียน…..ดังนั้นเขาจึงไม่หาเรื่องให้กับลูกศิษย์ของตนง่ายๆ
แต่ว่ายามที่มีคนมาหาเรื่องถึงตรงหน้าเช่นนี้ เขาย่อมไม่ใช่คนที่ปล่อยเรื่องให้ผ่านพ้นไปอย่างง่ายๆเช่นกัน….. ไม่มีใครรู้หรอกว่า เดิมทีเขาได้คิดจุดจบที่น่าอนาถของนักข่าวปากเหม็นผู้นั้นเอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว
และแม้แต่พวกคนที่อยู่เบื้องหลังของเขาทั้งหมด…..ก็จะต้องได้รับบทลงโทษเช่นกัน
เพียงแต่พออยู่ๆก็มีจีเฉวียนเพิ่มขึ้นมา ทุกอย่างจึงวุ่นวายไปหมด
ตู๋กูซิงหลันมือหนึ่งจับพวงมาลัย อีกมือหนึ่งก็นวดขมับไปด้วย ขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นสายตาสุดเย็นชาของอาจารย์จากกระจกหลังพอดี
“หลันหลัน ท่านอาจารย์ไม่อาจถ่ายทอดความรู้และสติปัญญาให้กับฮ่องเต้สุนัข นี่ไม่ใช่ความผิดของท่านอาจารย์นะ” วิญญาณทมิฬที่อยู่ด้านข้างรีบเข้าข้างซื่อมั่วก่อนใคร
“เล่นต่อยหน้านักข่าวต่อหน้าฝูงชน ….เกรงว่าอีกสักครู่ข่าวล่ามาแรงที่เกิดขึ้นในตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของเจ้าแล้วล่ะ”
น้ำครำตรงหน้ายังไม่ทันได้ล้างออก ก็เติมหมึกใหม่ลงไปอีก ….. นี่มิเท่ากับว่ารีบร้อนออกไปให้คนทิ่มแทงหรอกหรือ?
ซื่อมั่วไม่ว่าอะไร เพียงรักษาสีหน้าเฉยชาตลอดพันปีเอาไว้ดุจเดิม
ตู๋กูซิงหลันอยากจะจับปากของวิญญาณทมิฬมาเย็บเข้าด้วยกัน เจ้าสัตว์เลี้ยงตัวแสบนี้ไม่ต่างอะไรกับไม่กวนปุ๋ย เอาแต่รักสนุกโดยไม่คิดถึงเรื่องใหญ่
…………………………
ยามนี้ ทุกสายตาต่างก็จับจ้องไปที่ร่างของจีเฉวียน
ขณะที่ฝูงชนต่างอยู่ในความตกตะลึง พวกนักข่าวก็เป็นกลุ่มแรกที่มีปฏิกริยาขึ้นมา
แต่ละคนคว้ากล้อง ยกขึ้นใส่จีเฉวียน ซูมเข้าไปที่ใบหน้า
ตอนแรกก็พยายามจะถ่ายหน้าตรง แต่ไม่รู้ว่าทำไม? พอถ่ายไปเรื่อยๆ….ก็พบว่าชายผู้นี้ไม่ว่ามุมไหนๆก็ดูดีด้วยกันทั้งนั้น
ถ่ายกันชนิดว่า360° กันไปเลย ต่อให้ถ่ายมั่วๆไปก็ยังออกมาดูดียิ่งกว่ารูปสวยๆที่ผ่านการตกแต่งด้วยฝีมือของมืออาชีพเสียอีก
สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ไม่สบพระทัย พระองค์ไม่โปรดเสียงแช๊ะๆเหล่านี้เลย หนวกหูอย่างยิ่ง
อีกด้านหนึ่ง Sherry แทบจะเป็นลมล้มพับลงไปแล้ว …..คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เอาแต่ขอข้าวกินคนนั้น….ที่จริงแล้วจะมุทะลุขนาดนี้?
ภายในรถ ตู๋กูซิงหลันคิดจะออกไปดึงตัวไอ้หนุ่มหน้าขาวของตนเองกลับเข้ามา แต่ปรากฏว่าซื่อมั่วกลับยื่นมือออกมา คว้าหลังคอเสื้อของนางเอาไว้ ดึงตัวนางกลับไป
“อาจารย์….” ตู๋กูซิงหลันไม่เข้าใจ
ซื่อมั่วก็ไม่อธิบาย
เพียงคีบนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
…………………………
ที่ด้านนอกรถ พวกนักข่าวถ่ายรูปกันไปสักพักใหญ่ ก็ค่อยคิดเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
“คุณผู้ชายท่านนี้ ขอถามหน่อยว่า คุณมีความสัมพันธ์ใดกับคุณซิงหลันหรือครับ?”
ไมโครโฟนด้ามหนึ่งพุ่งเข้าหาฮ่องเต้
“เป็นแฟน” ฝ่าบาทตรัสตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ตูม!” ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนกับว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ นี่มันอะไรกัน?
แฟนหรือ?!
ไม่ใช่ว่าเยี่ยซิงหลันพึ่งจะถูกคุณชายZไล่ออกมาจากบ้าน จนต้องย้อนกลับเข้าวงการบันเทิงหรอกหรือ? ทำไมถึงได้มีแฟนใหม่เร็วขนาดนี้?
แถมยัง….เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดกระชากวิญญาณได้เลยอีกด้วย
ว่าตามจริงแล้ว ผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้ ต่อให้สวมใส่กระสอบป่านเดินอยู่ตามท้องถนน คนร้อยทั้งร้อยก็ยังต้องหันกลับไปมองเลย
ทำไมถึงได้ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อนนะ?
พวกนักข่าวต่างก็พยายามถ่ายรูปใบหน้านั้นอย่างบ้าคลั่งกันต่อไป ราวกับกลัวว่าจะพลาดอะไรไป
ภายในรถ ตู๋กูซิงหลันปวดศีรษะแทบจะระเบิด
ตัวร้ายผู้นี้…….
ที่นอกรถ Sherry ดื่มยาบำรุงหัวใจตราคุณนายนอนหลับสบายไปห้าหกขวดติดๆกัน ค่อยได้สติขึ้นมา หายใจได้คล่องหน่อยแล้ว
พ่อทูนหัวทำไมถึงได้ตรงไปตรงมาขนาดนี้? ใครถามอะไรเขาก็ตอบแบบทื่อๆอย่างนั้นเลยหรือ?
พวกแฟนคลับก็ระเบิดตัวเองกันใหญ่แล้ว…..พวกเขามองดูจีเฉวียน จากนั้นก็หันกลับไปมองดูเฌอรี่QQผุๆคันนั้น….
ด้วยความคาดหวังว่าลูกพี่หลันจะออกมาอธิบายอะไรบ้างสักเล็กน้อย….
ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่มีที่มาที่ไป….แต่ว่าหากมองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก ….เขาก็ดูเหมาะสมกับลูกพี่หลันดีอยู่
เพราะตลอดหลายปีมานี้ ในวงการบันเทิงก็ไม่มี ผู้ชายคนไหนที่ดูงดงามคู่ควรกับลูกพี่หลันเลย
หากว่าลูกพี่หลันได้พบกับรักแท้…เช่นนั้นต่อให้พวกเขาต้องหลั่งน้ำตาก็จะขออวยพรให้กับทั้งคู่!
แต่ว่าลูกพี่หลันกลับเอาแต่นั่งอยู่ในรถไม่ยอมขยับ ไม่มีปฏิกริยาใดๆทั้งนั้น
พวกนักข่าวรีบสอบถามต่อไปว่า “คุณผู้ชาย…….ขอสอบถามหน่อยว่าคุณทำงานอะไรครับ?”
จีเฉวียน “ฮ่องเต้”
นักข่าว “…..” อะไรนะ
แผ่นดินต้าชิงล่มสลายไปกี่ปีมาแล้ว ยังจะมีคนกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นฮ่องเต้อยู่อีกหรือ?
ผู้ชายคนนี้…..คงจะไม่ได้เอาสติปัญญาทั้งหมดไปแลกกับหน้าตามาหรอกนะ?
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป เราไม่ต้องการได้ยินคนในโลกนี้พูดถึงซิงซิงในทางไม่ดีอีกแม้แต่ครึ่งคำ….” แต่ว่าฮ่องเต้กลับมิได้ทรงรู้สึกว่ามีสิ่งใดไม่ถูกต้องเลยสักนิด
สายพระเนตรเย็นชากวาดมองไปยังฝูงชน “ซิงซิงของเรานั้นเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตา รักใคร่ห่วงใยผู้คนใต้หล้า และงดงามอย่างไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน”
“เรารักนาง เคารพนาง จะไม่ยอมให้ผู้ใดรังแก หรือใส่ความนาง หากว่ายังมีเรื่องสกปรกเช่นในวันนี้เกิดขึ้นอีก เราก็ไม่เสียดายที่จะลงมือกับพวกเจ้าทั้งตระกูล”
ซิงซิงบอกเอาไว้ว่า……ในโลกปัจจุบันไม่อาจใช้วิธีฆ่าคนโดยง่าย
เช่นนั้นพระองค์ทุบตีคนคงพอได้กระมั้ง?
ต่อยมันให้ฟันร่วงหมดปาก…..ลงไปคลุกดินขอชีวิตเช่นนั้นเป็นไร….
หมัดแข็งย่อมได้ผลกว่ามิใช่หรือ?
ผู้คนทั้งหมด “……”
บรรดาแฟนคลับ “…….” แม่เจ้า ทำไมอยู่ๆถึงได้รู้สึกขึ้นมาว่าคนผู้นี้เท่มากเกินไปแล้ว ทำไงดี?
ถึงแม้ว่าสมองของเขาดูเหมือนว่าจะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตามเถอะ
ภายในรถ ตู๋กูซิงหลันรู้สึกว่าจิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด…..
จะว่าอย่างไรดี เมื่อวานนางพึ่งจะตกลงเรื่องความสัมพันธ์ฉันแฟนกับฮ่องเต้เรียบร้อย…..ในฐานะที่นางเป็นแฟนของเขา เมื่อได้รับการปกป้องเช่นนี้ นางก็อยากจะให้คะแนนฮ่องเต้สุนัขในฐานะที่เป็นแฟนแบบเต็มMAXไปเลย
“อาจารย์…..ท่านไม่รู้สึกว่าเสี่ยวเฉวียนเฉวียนเท่มากๆเลยหรอ?”
ตู๋กูซิงหลันถามออกไปเบาๆครั้งหนึ่ง
ซื่อมั่วที่อยู่บนเบาะด้านหลัง……ถึงกับขมจนหน้าเขียวแล้ว
“ไม่เห็น จะทำไม” เขาทำสีหน้าเฉยเมย น้ำเสียงเย็นชา ในมือของเขามีโทรศัพท์มือถือเก่าๆยุคเก้าศูนย์เครื่องหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จากนั้นเห็นเขากดหมายเลขบางอย่างสุ่มๆไป
ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงใครบางคนร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“โห ที่แท้แล้วตอนนั้นหลิงXX กับพานXXก็ตายเพราะแบบนี้นะเอง…..ไม่เกี่ยวอะไรกับเยี่ยซิงหลันเลยสักนิดนึงนิ?”
“คุณชายZลงโพสในIns ด้วยตัวเองเลย ประกาศว่าเขากับเยี่ยซิงหลันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย…..ยิ่งไม่มีทางมีเรื่องไล่ออกจากบ้านด้วยซ้ำ”
……………………………………