[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 574 : เพลย์บอยทั้งห้าสำนึกผิด!
“โอ๊ย..!”
“ชิบหายหมด!”
“ปวดหัวโว้ย!”
“พังหมด!”
“ไอ้เสี่ยวจี๋.. ไอ้หน้าโง่!”
ที่ใต้ต้นอู่ถุงบนถนนฝั่งตรงข้ามคลินิกสามัญชนนั้น มีรถ BMW คันหรูราคาแสนแพงจอดอยู่ และภายในรถมีหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนนั่งอยู่
หนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนนั่งซุกตัวอยู่ในรถ BMW ก็เพื่อต้องการมาดูให้เห็นกับตาว่า เพราะเหตุใดถังเมิ่งจึงให้ความเคารพในตัวหลิงหยุนมาก และเพราะเหตุใดแม้แต่หัวหน้าแก๊งมังกรเขียว ยังต้องมาเป็นคนขับรถให้กับหลิงหยุนด้วยตัวเอง
เพราะในสายตาของพวกเขาทุกคนนั้น ตี้เสี่ยวอู๋นั้นดูสง่าและน่าเกรงขามอย่างมาก!
แขกของหลิงหยุนคนแรกที่ทำให้หนุ่มๆทั้งห้าตกใจมากก็คือหญิงสาวที่มาพร้อมกับฉางหลิงและเหลียนเฟิงอี้ เธอก็คือนักข่าวคนสวยของสถานีโทรทัศน์ประจำมณฑลเจียงหนานชื่อซูหลิงเฟย แทบไม่มีใครไม่รู้จักเธอ!
หนุ่มๆทั้งห้าถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นหลิงหยุนพูดคุยกับซูหลิงเฟยอย่างสนิทสนม และเป็นกันเอง!
เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าซูหลิงเฟยนั้นอายุมากกว่าพวกเข้าตั้งเจ็ดหรือแปดปี ชายหนุ่มทั้งห้าคนต่างก็เคยคลั่งไคล้ซูหลิงเฟยมาก่อน และก็รู้ดีว่าภูมิหลังของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลย แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เด็กหนุ่มฐานะร่ำรวยพวกนี้ก็ไม่เคยแม้แต่จะได้เข้าใกล้ซูหลิงเฟยด้วยซ้ำไป
แต่ตอนนี้ซูหลิงเฟยกลับมาปรากฏตัวที่หน้าคลินิกสามัญชน และยังพูดคุยหัวเราะกับหลิงหยุนอย่างสนิทสนม เช่นนี้จะหมายความว่าอย่างไร?
หลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาตัวเอง ดวงตาคมกริบของอาปิงก็ถึงกับตกตะลึง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันพร้อมกับพึมพำออกมา
“ถังเมิ่งไม่ได้โกหกพวกเรา.. หลิงหยุนไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน! เสี่ยวจี๋ทำเสียเรื่องจริงๆ!”
พี่เฟยเองก็ร้องออกมาอย่างตกใจเช่นกัน “ใช่ๆ ถังเมิ่งไม่ได้พูดเกินจริงแน่ๆ! ถ้าหลิงหยุนไม่เก่งจริง ถังเมิ่งก็คงไม่ให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้..”
แม้แต่ตันตันผู้ไม่เคยสนใจใคร และยังคงนั่งก้มหน้าเล่นเกมอยู่ในมือถือ ก็ยังอุตส่าห์เงยหน้าขึ้นมาออกความเห็น
“ใช่.. ถังเมิ่งไม่เคยเคารพนับถือใครแบบนี้มาก่อนเลยนอกจากลูกพี่จิ้งเฉิน ฉันว่าครั้งนี้เสี่ยวจี๋ทำเกินไปหน่อย!”
แต่การมาของซูหลิงเฟยยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะไม่นานหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนก็เห็นหลงคุนกับหลงหวู่ก้าวลงมาจากรถ และเดินตามหลิงหยุนเข้าไปในคลินิก ทุกคนต่างก็อึ้งไปอีกเช่นเคย!
แน่นอนว่าเด็กหนุ่มทั้งห้าคนต้องเคยได้ยินชื่อของหลงคุน อีกทั้งเจ้าหนูกับพี่เฟยเองก็เคยพบเจอกับหลงคุนมาก่อน เพราะเมื่อครั้งที่พ่อของพวกเขาทั้งคู่มีปัญหานั้น ก็ได้หลงคุนช่วยออกหน้าจัดการให้ ทั้งสองคนเองก็เคยรินไวน์ให้กับหลงคุนเพื่อแสดงความนอบน้อมมาแล้วเช่นกัน
“เขาเป็นคือหัวหน้าแก๊งมังกรเขียวคนก่อนชื่อหลงคุน!” เจ้าหนูพึมพำออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มซีดเผือด
ส่วนตี้เสี่ยวอู๋ที่เพิ่งจะรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมังกรเขียวคนใหม่ไปหมาดๆนั้น วันๆเอาแต่ฝึกฝนวิชา ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานพิธีการของแก๊งมังกรเขียว จึงยังไม่เป็นที่รู้จักของผู้คน ซึ่งแตกต่างจากหลงคุน
ส่วนพี่เฟยนั้นถึงกับตกใจสุดขีด “เจ้าหนู.. ฉันว่าตอนนี้คลินิกเล็กๆนี่ คงจะไม่ใช่คลีนิคธรรมดาๆแล้วล่ะ ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ ผู้หญิงที่ยืนข้างๆลุงคุนน่าจะเป็นลูกสาวที่เรียนอยู่เมืองนอกชื่อหลงหวู่!”
เพียะ!
อาปิงยกมือขึ้นตบหลังเสี่ยวจี๋อย่างแรงพร้อมกับร้องตะโกนออกมาอย่างโมโห “เป็นเพราะนายแท้ๆ วันๆเอาแต่บ้าผู้หญิง! ถังเมิ่งอุตส่าห์พาพวกเรามาช่วยงานเพื่อให้ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับพี่หยุน แต่นายกลับทำลายโอกาสดีๆทิ้งจนหมด แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี?”
“ตอบฉันมา.. จะทำยังไงกันดี?”
หลงหวู่นั้นสวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือว่าหน้าตา แต่ครั้งนี้ใบหน้าของเสี่ยวจี๋กลับดูศร้าสร้อยไม่ใส่ใจ เพราะรู้ตัวว่าตนเองได้สร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมาแล้ว เขาไม่เพียงสร้างปัญหาให้กับถังเมิ่ง แต่ยังทำเรื่องเลวร้ายที่สุดอย่างไม่น่าให้อภัย เขาทำให้ทุกคนพลาดโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับหลิงหยุน..
“ชิบหายแล้ว.. รถทหารก็มา!”
อาปิงเองก็เป็นลูกนายทหาร เขาเติบโตมาท่ามกลางเหล่าทหาร จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับรถทหารเช่นนี้มาก
“มีสาวสวยมาอีกคนแล้ว.. สวยไม่ธรรมดาเลย!”
พี่เฟยร้องตะโกนออกมา ในขณะที่เสี่ยวจี๋ได้แต่เงยหน้าขึ้นมอง แต่อาปิงถึงกับตกใจจนแทบช็อคเมื่อเห็นหลินเจิ้งกังกับหลินเมิ่งหานเดินลงมาจากรถ เขารีบร้องบอกทุกคนว่า
“พวกนายลืมเรื่องสาวสวยไปก่อนเลย นายดูดาวที่บ่านั่น .. ตำแหน่งนายพลเชียวนะ! ถ้าจำไม่ผิด.. เขาเป็นผู้ควบคุมการซ้อมรบในครั้งนี้ด้วย ทำไมเขาถึงมาที่นี่ด้วยล่ะ?”
ไม่เพียงแค่อาปิงเท่านั้น แม้แต่คนอื่นๆในรถก็ตกใจเช่นกัน ทุกคนต่างก็หันไปกร่นด่าเสี่ยวจี๋ต่อ
นี่ยังจะเรียกว่าคลีนิคเล็กๆได้อย่างไรกัน? ในเมื่อแค่วันเปิด ก็มีทั้งนักข่าวสาวคนสวยประจำเจียงหนาน หัวหน้าแก๊งมังกรเขียวทั้งคนเก่าและคนใหม่ อีกทั้งยังมีผู้บังคับบัญชากองทัพมาร่วมแสดงความยินดีด้วย! เป็นไปได้อย่างไรกันที่คนใหญ่คนโตขนาดนี้จะมารวมตัวกันได้? นี่มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?
อาปิงนึกเสียดายมาก เขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดง และแทบอยากจะถีบเสี่ยวจี๋ออกนอกรถ!
“เจ้าหนู.. นายเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพูดว่าคลินิคเล็กๆ นายจะเปิดเป็นสิบก็ได้? ต่อให้นายมีปัญญาเปิดสิบคลีนิคพร้อมกัน นายคิดว่าจะมีคนใหญ่คนโตมาร่วมยินดีกับนายมากขนาดนี้มั๊ย?”
พี่เฟยเองที่โกรธมากเช่นเดียวกับ ถึงกับร้องตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล
เจ้าหนูถึงกับปากแห้ง ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ และพูดอะไรไม่ออกอีก!
หลังจากที่ทุกอย่างเริ่มกระจ่างขึ้น หนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าต่างก็รู้สึกราวกับถูกตบหน้า มาถึงตอนนี้ทุกคนก็ได้แต่นึกเสียใจอย่างที่สุด
“ถังเมิ่งพยายามที่จะช่วยพวกเรา เพียงแต่ไม่พูดออกมาตรงๆ! และครั้งนี้ถังเมิ่งก็พยายามที่จะให้สิ่งที่เป็นประโยชน์กับพวกเรา!”
“นั่นสิ.. แค่งานจองห้องกับทางโรงแรม ความจริงงานแค่นี้ถังเมิ่งจะให้ใครทำก็ได้ แต่ถังเมิ่งกลับมาขอให้พวกเราเป็นคนทำ เพราะเขาต้องการให้พวกเราได้มีโอกาสรู้จักกับพี่หยุนนี่เอง!”
อาปิงวิเคราะห์ได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน.. และตอนนี้ภายในรถก็มีแต่ความเสียใจ!
“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี? หรือเราจะไปขอโทษพี่หยุนตอนนี้?” เจ้าหนูร้องถามออกมาอย่างกระวนกระวายใจ
“จะขอโทษพี่หยุนตอนนี้มันไม่สายไปเหรอ? นายไม่เห็นหรือไงเมื่อครู่พี่หยุนพูดจากับใครบ้าง? เขาแทบไม่ยุ่งกับพวกเราเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้คิดว่าเขาอยากจะมาฟังคำขอโทษของพวกเรางั้นเหรอ?!”
“หรือว่าพวกเราจะไปช่วยงานที่โรงแรมแชงกรีล่า แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อ?” พี่เฟยร้องบอกอายๆ
ในที่สุดตันตันก็หยุดเล่นเกม เขามองไปทางคลีนิคพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ลืมไปแล้วเหรอ คนของแก๊งมังกรเขียวมีเป็นร้อยๆคน ทำงานได้ดีกว่าพวกเราแน่นอน..”
อาปิงถึงกับถอนหายใจยาว “ตอนนี้ที่คลินิคก็คนเยอะมาก ถังเมิ่งเองก็ยุ่งมากด้วย รอเขาว่างเมื่อไหร่ ฉันจะเป็นฝ่ายโทรหาเขาเอง!”
พูดจบอาปิงก็หันไปทางเสี่ยวจี๋พร้อมกับสั่งว่า “นายต้องเป็นฝ่ายขอโทษถังเมิ่ง! แล้วพวกเราก็ค่อยขอให้ถังเมิ่งช่วยเชิญพี่หยุนออกมาเพื่อให้พวกเราได้เอ่ยขอโทษ.. ถ้าไม่ใช่เพราะนาย.. ตอนนี้พวกเราก็คงอยู่ที่คลีนิคแล้ว!”
“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะถังเมิ่ง.. พวกเราคงโดนกระทืบกันอ่วมหมดแล้ว!” พี่เฟยหันไปบอกเจ้าหนูที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เจ้าหนูกับเสี่ยวจี๋ก็ยอมรับผิดแล้วนี่” พูดจบตันตันก็ไม่สนใจอะไรอีก
เจ้าหนูหน้าแดงสลับกับขาวสลับ เขายกมือขึ้นเกาศรีษะพร้อมกับพึมพำว่า “ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีอำนาจมากขนาดนี้..”
หนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนต่างก็มีสีหน้าสำนึกผิด และทุกคนก็พากันตำหนิเสี่ยวจี๋คนเดียว
………..
หลิงหยุนพูดคุยกับหลินเจิ้งกังเพียงสั้นๆ
หลินเจิ้งกังไม่พูดอะไรมาก และยังคงรักษาท่าทางของเจ้าหน้าที่ระดับสูงไว้ แต่ก็ไม่สร้างความลำบากใจให้กับหลิงหยุน
แต่หลินเจิ้งกังก็ยังต้องคิดบัญชีกับหลิงหยุนเรื่องที่ไปมีอะไรกับหลินเมิ่งหานทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เพียงแต่ไม่ใช่เวลานี้..
วันนี้เขามาเพื่อแสดงความยินดีกับหลิงหยุน เรื่องคิดบัญชีจำเป็นต้องเก็บไว้ก่อน หลินเจิ้งกังผลักประตูคลินิคเข้าไป แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ถึงกับร้องออกมาอย่างตกใจ และเกือบจะหันหลังเดินกลับออกไปในทันที!
‘ทำไมที่นี่ถึงมีสาวงามมากมายขนาดนี้?’