หานเซิ่นฆ่านกขนสีดำเหมือนกับหมึกตัวนั้น เขาไม่ได้รับวิญญาณอสูร พระเจ้าแค่มองไปที่ซีโน่เจเนอิคที่ไม่มีสปิริต หลังจากนั้นพระเจ้าก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มอีก และหานเซิ่นก็นำร่างของนกซีโน่เจเนอิคออกไปจากปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ เขาพยายามเก็บยีนระดับเทพเจ้าให้ได้มากที่สุด ขณะที่รอให้การประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเริ่มต้นขึ้น
เนื่องจากมันมีสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าที่ยังไม่ได้รับคำเชิญ ทุกคนจึงต้องรอเป็นเวลาสามวัน ก่อนที่การประลองจะเริ่มต้นขึ้น ในเวลาสามวันนั้นระดับเทพเจ้าที่ยังไม่ตอบรับคำเชิญจะได้มีเวลาไตร่ตรองว่าจะเข้าร่วมดีหรือไม่
หานเซิ่นอยากจะรู้ว่าราชาไป๋นั้นเข้าร่วมการประลองนี้ด้วยไหม แต่หลังที่กลับมา หานเซิ่นก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับราชาไป๋เลย หานเซิ่นมองไปที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนอยู่สักพัก แต่เขาก็ไม่เห็นชื่อของราชาไป๋ภายในนั้น
ในตอนที่เป่าอิงมาสอนธรรมเนียมปฏิบัติให้กับหานเซิ่น เธอถามเขาอย่างมีมารยาท
“มิสเตอร์โฮลี่เบบี้ได้เข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนด้วยไหม?”
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบจักรวาลล้าง เป่าอิงก็มีมารยาทกับหานเซิ่นยิ่งกว่าเดิม
“ใครจะรู้? บางทีข้าอาจจะเข้าร่วม บางทีข้าอาจจะไม่”
หานเซิ่นตอบอย่างกำกวม เขาจะเข้าร่วมในร่างผู้ใหญ่ และเขาจะใช้ชื่อของดอลลาร์ เขาไม่ต้องการให้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงรู้ถึงเรื่องนั้น
“ถ้ามิสเตอร์โฮลี่เบบี้ไม่เข้าร่วม มันก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก ด้วยพลังของมิสเตอร์โฮลี่เบบี้ บางทีอาจจะติดอันดับหนึ่งในร้อยก็ได้”
เป่าอิงพูดราวกับว่ามันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เห็นได้ชัดว่าเธอมองดูรายชื่อบนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและไม่พบชื่อโฮลี่เบบี้อยู่บนนั้น
หลังจากที่เป่าอิงจากไปแล้ว หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่รอบๆ ตั้งแต่ที่พวกเขากลับออกมาจากปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ พระเจ้าก็มักจะหายตัวไปตามลำพัง หานเซิ่นไม่รู้ว่าพระเจ้านั้นหายไปไหนกันแน่
สามวันต่อมา ในที่สุดการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อหานเซิ่นดูชื่อของคู่ต่อสู้ เขาก็เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือบาร์จากเผ่าเดสทรอยเยอร์
“บาร์ เผ่าเดสทรอยเยอร์” หานเซิ่นแปลกใจ เขาเป็นคนช่วยให้บาร์ได้กลายเป็นระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรู้ถึงความแข็งแกร่งของบาร์
ถึงแม้ระดับพลังของบาร์จะเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟหรือขั้นทรานส์มิวเทชั่นเท่านั้น แต่ความเป็นอมตะของเขาก็ทำให้หานเซิ่นปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง
‘อย่างน้อยๆมันก็ถือว่าโชคดีที่คู่ต่อสู้ของเราไม่ใช่ขั้นทรูก็อต’ หานเซิ่นคิด
ขณะเดียวกันภายในดินแดนของเดสทรอยเยอร์ เมื่อบาร์เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือดอลลาร์ ดวงตาของเขาก็ดูตื่นเต้นขณะที่เขาพูดขึ้นว่า
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าข้าจะได้เจอกับดอลลาร์ตั้งแต่รอบแรก ด้วยวิชาที่ข้าคิดค้นขึ้นมา มันจะต้องทำให้เขาประหลาดใจอย่างแน่นอน”
เดียร็อบเบอร์ขมวดคิ้วและพูด “ถึงแม้วิชาที่เจ้าคิดค้นขึ้นมาจะเป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆ แต่เจ้าก็ควรจะระวังตัวเอาไว้ ดอลลาร์นั้นไม่ใช่คนธรรมดาๆ”
“ข้ารู้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะเอาชนะข้า ด้วยวิชาที่ข้าคิดค้นขึ้นมา มันไม่มีทางที่ข้าจะเป็นฝ่ายแพ้” บาร์เต็มไปด้วยความมั่นใจ
การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั้นทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลต่างก็อยากจะดู มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า และมันก็เป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าที่จะได้เห็นระดับเทพเจ้าต่อสู้กัน
“ในตอนแรกข้าคิดว่าการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะเหมือนกับบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนที่ทุกคู่จะต่อสู้พร้อมๆกัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น มันเป็นการประลองแบบจับคู่ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ นั่นเป็นอะไรที่ดีมากๆ พวกเราจะไม่พลาดการต่อสู้แม้แต่นัดเดียว”
“ใช่แล้ว การต่อสู้ของระดับเทพเจ้าเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น ถ้าบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนไม่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกเราก็คงจะไม่มีวันได้เห็นการต่อสู้ของพวกเขา มันถือเป็นเรื่องดีที่จะได้ดูการต่อสู้ทุกคู่”
“นี่เป็นการต่อสู้ของระดับเทพเจ้าทั่วจักรวาล นั่นหมายความว่าคนที่ได้อันดับที่หนึ่งจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลนี้”
“เจ้าพูดถูก คนที่ชนะจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลอย่างไม่ต้องสงสัย”
“การต่อสู้ในนัดแรกคือบาร์จากเผ่าเดสทรอยเยอร์เจอกับดอลลาร์เผ่ามนุษย์ ดอลลาร์เผ่ามนุษย์… ทำไมชื่อนี้ถึงฟังดูคุ้นๆ?”
“อ้า ดอลลาร์คนนั้นจะต้องเป็นคนเดียวกันกับดอลลาร์ที่ได้อันดับที่หนึ่งในการประลองระดับมาร์ควิสของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน”
“ใช่แล้ว! มันต้องเป็นเขาแน่ๆ ข้าจำได้ว่าเขาเอาชนะไผ่เดียวดายจากปราสาทนภาและได้อันดับที่หนึ่งในการประลองระดับมาร์ควิส มันผ่านมาเพียงแค่ไม่กี่ปี เขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้วหรือเนี่ย? นั่นไม่เร็วไปหน่อยหรอ?”
“เผ่ามนุษย์… นั่นเป็นเผ่าพันธุ์แบบไหนกัน?”
เนื่องจากไม่เคยมีการประลองระหว่างระดับเทพเจ้าเกิดขึ้นมาก่อน ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจึงให้ความสนใจกับการต่อสู้นัดแรกของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนี้เป็นพิเศษ
หานเซิ่นกลายร่างเป็นผู้ใหญ่เพื่อเข้าไปในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาปรากฏตัวในพื้นที่โล่งและเห็นบาร์อยู่ในระยะไกล บาร์กำลังเข้ามาหาเขา
ภายในปราสาทบนดาวเคราะห์สีแดง ชายที่ดูเหมือนกับราชากำลังมองไปที่หานเซิ่นในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาคิดกับตัวเอง
‘ดอลลาร์คนนี้แปลกๆ เขากล้าใช้ชื่อเผ่ามนุษย์ในจักรวาลนี้ และเขายังไม่ถูกพระเจ้าฆ่าตาย นั่นเป็นอะไรที่พิเศษ’
ท่ามกลางปราสาทที่พังทลายในโลกมืด นกใหญ่ประหลาดตัวหนึ่งถอนหายใจ
“มนุษย์อย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นชื่อที่คุ้นเคยและแปลกตา”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูค่อนข้างงดงามหันไปมองแมวเก้าชีวิตและถาม
“เฒ่าแมว ดอลลาร์คนนี้คือมนุษย์จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“ภายในก็อตแซงชัวรี่ มันมีบุคคลที่ชื่อดอลลาร์อยู่”
เฒ่าแมวพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ “แต่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะเพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วแบบนั้นได้ยังไง? นั่นเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล”
“ข้าไม่สนใจว่าเขาจะเป็นมนุษย์หรือไม่ นอกจากนายน้อยแล้ว มันไม่มีใครที่จะฆ่าพระเจ้าได้จริงๆ น่าเสียดายที่นายน้อยยังไม่ถึงระดับเทพเจ้า ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะเข้าร่วมการประลองนี้และได้รับอันดับที่หนึ่งอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเซเคร็ดก็จะกลับมาเป็นที่หวาดกลัวอีกครั้ง”
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ใครจะรู้ว่าจู่ๆบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะปรากฏขึ้นมาแบบนี้ ถ้าพวกเรารู้เรื่องนี้ก่อนล่วงหน้า พวกเราก็คงจะทำให้นายน้อยกลายเป็นระดับเทพเจ้าก่อนที่การประลองจะเริ่มต้นขึ้น แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว”
…
“ดอลลาร์ ในที่สุดข้าก็มีโอกาสได้ต่อสู้กับเจ้า!”
บาร์ตะโกนอย่างตื่นเต้นขณะที่บินเข้ามาหาหานเซิ่น ร่างกายของเขาพลุ่งพล่านไปด้วยความอยากจะต่อสู้ ดวงตาของเขาดูเหมือนกับว่ากำลังลุกเป็นไฟ
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ถึงแม้จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด’
หานเซิ่นคิดจะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินบาร์พูดขึ้นมา
“ดอลลาร์ ข้าได้คิดค้นวิชาหนึ่งขึ้นมา ในตอนนี้ข้าฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ง่ายเหมือนกับการฆ่าสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าอย่าทำให้ข้าต้องผิดหวังซะล่ะ?
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นข้าก็อยากจะเห็นมัน”
หานเซิ่นรู้ว่าร่างกายของบาร์นั้นเป็นอะไรที่สุดยอด มันเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะ แต่วิชาการต่อสู้ของบาร์นั้นถือว่าพื้นๆ เขาโอ้อวดว่าเขาสามารถฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ง่ายราวกับฆ่าสุนัขตัวหนึ่ง นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงล้มเลิกที่จะเอาชนะบาร์ในทันที เขาอยากจะเห็นวิชาที่บาร์พูดถึงเสียก่อน
เมื่อได้ยินสิ่งที่บาร์พูดออกไป เดียร็อบเบอร์ก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขากุมขมับของตัวเอง
บาร์นั้นถือเป็นต้นแบบของคนที่ไร้สมอง คำพูดของเขาทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายๆคนไม่พอใจ
“ผู้คนของเผ่าเดสทรอยเยอร์จะหลงตัวเองเกินไปแล้ว การฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันง่ายเหมือนกับการฆ่าสุนัขตัวหนึ่งอย่างนั้นหรอ? ข้าหวังว่ารอบต่อไปเขาจะได้เจอกับข้า แล้วจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่จะถูกฆ่า”
“บางทีเขาจะไม่ผ่านรอบแรกด้วยซ้ำ เขาจะถูกฆ่าเหมือนกับสุนัขโดยมนุษย์คนนั้น”
ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายคนรู้สึกโกรธ ขณะที่พวกเขากำลังเย้นหยันบาร์อยู่นั้น บาร์ก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่นราวกับคนบ้า
ในจังหวะที่บาร์เริ่มวิ่งออกไป ร่างกายทั้งร่างของเขาก็ลุกเป็นไฟ เขาดูเหมือนกับดวงอาทิตย์สีดำ