ตอนนี้เมื่อพวกเธอมีอนัตตา หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทจึงไม่มีเวลามาตามติดหานเซิ่น พวกเธอมีหน้าที่อื่นที่ต้องไปทำ และพวกเธอก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อฝึกอนัตตาในตอนนี้ขณะที่ความทรงจำยังคงสดใหม่อยู่
หานเซิ่นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับอนัตตามากนัก ถึงแม้วิชาจีโนนั่นจะเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ แต่สไตล์ของมันไม่เหมาะสมกับเขาอย่างมาก
หานเซิ่นเรียนรู้จิตใจของวิชาใต้นภาเรียบร้อยแล้ว และนั่นหมายความว่าเขาเดินบนวิถีทางที่ต่างไปจากอนัตตา เขาไม่คิดจะเปลี่ยนไปเดินบนวิถีทางของอนัตตา เขาแค่จะใช้สิ่งที่เรียนรู้จากอนัตตาเพื่อสำเร็จวิชาใต้นภา เมื่อเขาทำแบบนั้นจิตใจของวิชาใต้นภาของเขาก็จะเลื่อนไปสู่ขั้นต่อไป
“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าถูกกิน ยีนระดับเทพเจ้า+1”
เมื่อหานเซิ่นไม่ได้ถูกจับตามองโดยพวกเธอทั้งสอง เขาก็นำเอายีนซีโน่เจเนอิคที่เก็บเอาไว้ออกมา ตอนนี้เขาเป็นระดับเทพเจ้า ดังนั้นเขาสามารถดูดซับยีนของพวกมันเพื่อพัฒนาร่างกายของเขาได้
ตลอดหลายวันต่อมา หานเซิ่นไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น เขากินยีนซีโน่เจเนอิคทั้งหมดที่เก็บตุนเอาไว้ และในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับยี่สิบยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า
ทุกยีนระดับเทพเจ้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของหานเซิ่น ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน
‘ดูเหมือนว่าระดับเทพเจ้าจะเหมือนกับระดับอื่นๆ ถ้าเราเก็บยีนระดับเทพเจ้าครบหนึ่งร้อย ร่างกายของเราก็จะวิวัฒนาการ โชคดีที่ร่างของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งมอบยีนระดับเทพเจ้าให้ถึงสิบยีน มันควรจะไม่ยากจนเกินไปที่จะเก็บให้ครบหนึ่งร้อย เอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าป้วนเปี้ยนอยู่เป็นจำนวนมาก แบบนั้นในตอนนี้ทำไมเราต้องรออีก?’ หานเซิ่นคิดและรู้สึกตัวว่าไม่มีอะไรจะมาหยุดเขาจากการฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้
หานเซิ่นนำเอาแผนที่ของเอาท์เตอร์สกายออกมาและค้นคว้าเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่เขาอาจจะไปล่าได้ หลังจากนั้นเขาก็ทำการตัดสินใจและตรงไปที่ทะเลฝังมังกร
ตำนานกล่าวว่าเคยมีมังกรระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตตกลงไปใต้ทะเลนั่น ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าไปใกล้ทะเลฝังมังกร
นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นตัดสินใจจะไปที่ทะเลฝังมังกร ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ที่นั่นไม่มากนัก ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าสถานที่ที่อื่น
หานเซิ่นคาดคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้เป่าเอ๋อรอเขาอยู่ที่ต้นไม้ดารา แต่เขาพูดแค่ประโยคเดียวก่อนที่เป่าเอ๋อจะตอบตกลง นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจอย่างมาก เป่าเอ๋อไม่ยืนกรานจะไปที่ทะเลฝังมังกรกับเขา
หานเซิ่นมองไปที่แม็กแคกหกหูและสังเกตเห็นว่าใบหน้าของมันดูแย่มากๆ คอของมันหมกอยู่ระหว่างไหล่ที่ยกขึ้นสูงเหมือนกับว่ามันพยายามจะซ่อนตัวเองจากทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจ ดูเหมือนเป่าเอ๋อจะพบของเล่นใหม่ของเธอ
หานเซิ่นปล่อยให้เป่าเอ๋ออยู่ดูแลต้นไม้ดาราในขณะที่เขาไม่อยู่ หลังจากที่เขาเตรียมตัวเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางไปที่ทะเลฝังมังกร
เมื่อหานเซิ่นไปถึง เขาก็เห็นผู้คนกำลังต่อสู้กันอยู่ เมื่อเขาเข้าไปใกล้ๆ เขาก็ได้เห็นว่าเธอคือองค์หญิงไป๋เวยของเอ็กซ์ตรีมคิง การได้เห็นเธอที่นี่ทำให้เขาตกใจอย่างมาก
เมื่อได้เห็นหานเซิ่น ไป๋เวยก็ไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพต่อไป หลังจากที่เธอฆ่าซีโน่เจเนอิคได้แล้ว เธอยืนอยู่เหนือคลื่นทะเลและจ้องกลับมาที่หานเซิ่น
“องค์หญิงไป๋เวย ไม่ได้เจอกันซะนานเลย นี่องค์หญิงมาทำอะไรถึงที่นี่?” หานเซิ่นพูดพร้อมกับไอออกมา
ไป๋เวยเป็นคนที่พาหานเซิ่นไปที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง นั่นดูเหมือนกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ที่นั่นหานเซิ่นได้ฆ่าองค์ชายไป๋อี้และสวมรอยเป็นองค์ชายที่ตายไป เขาปล่อยให้ไป๋เวยเชื่อว่าไป๋อี้เป็นฝ่ายที่ฆ่าเขาเป็นเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หานเซิ่นยังมีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง มันจึงเป็นอะไรที่น่าอึดอัดที่พวกเขาได้พบกันในตอนนี้
“เจ้าเป็นตัวไหมของเผ่าเวรี่ไฮได้ แต่ข้าเป็นไม่ได้หรือยังไง?” ไป๋เวยพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจ หลังจากที่จบการประลองระหว่างตัวไหม ตัวไหมบางคนก็คงจะถูกปล่อยไป และไป๋เวยก็คงจะถูกเลือกมาแทนที่
หานเซิ่นไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ครั้งหนึ่งพวกเขาเป็นพันธมิตรกัน แต่เขาได้ฆ่าพี่ชายของเธอและยังไปสร้างความบาดหมางกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอีก เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติต่อกันยังไงในตอนนี้
“เจ้ามาที่นี่เพื่อล่าซีโน่เจเนอิคในทะเลฝังมังกร?” ไป๋เวยถามขึ้นมา
“นั่นก็ใช่” หานเซิ่นพยักหน้า
“ถ้าเจ้าไม่คิดจะสร้างปัญหาให้กับข้า แบบนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ” ไป๋เวยพูด
หานเซิ่นแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าไป๋เวยจะเสนอให้พวกเขาล่าซีโน่เจเนอิคร่วมกัน
“แต่ถ้าเจ้าไม่สะดวก แบบนั้นก็ช่างมันเถอะ” ไป๋เวยพูดเมื่อเห็นหานเซิ่นไม่ตอบกลับ เธอเตรียมตัวจะไปล่าซีโน่เจเนอิคตามลำพังต่อ
“ทำไมจะไม่สะดวก? การล่าซีโน่เจเนอิคร่วมกับองค์หญิงถือเป็นเกียรติอย่างที่สุด” หานเซิ่นรีบพูด
ครั้งหนึ่งไป๋เวยเคยพยายามช่วยเป่าเอ๋อ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงรู้สึกว่าตัวเองติดหนี้บุญคุณเธอ
“เรียกข้าว่าไป๋เวย” ไป๋เวยพูด เธอมองไปรอบๆและพูดต่อ
“ในบริเวณน้ำตื้นนี้มีซีโน่เจเนอิคอยู่ไม่มาก และซีโน่เจเนอิคที่เจ้าจะพบก็มีเป็นระดับต่ำ ถ้าเจ้าต้องการจะล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า เจ้าต้องเดินทางไปในส่วนลึกของทะเลเพื่อหาพวกมัน”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปสู่ทะเลลึกกัน” หานเซิ่นไม่ได้เป็นคนที่เก่งเรื่องการพูดคุย สถานการณ์แบบนี้จึงเป็นอะไรที่ยากสำหรับเขา เพราะเขายังคงรู้สึกผิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ เขาไม่แน่ใจว่าความสมพันธ์ของพวกเขาควรจะเป็นยังไง ด้วยเหตุนั้นพวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันขณะที่พวกเขาดำลงไปในทะเลลึก บรรยากาศเป็นอะไรที่น่าอึดอัด
พวกเขาเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคหลายตัวในทะเล และไป๋เวยก็ฆ่าพวกมันอย่างง่ายดาย ในตอนนี้เธอเป็นระดับครึ่งเทพ หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิงที่เธอแสดงออกมานั้นถือว่าไม่เลวเลย
หลังจากที่ไป๋เวยจัดการกับแมงกะพรุนครึ่งเทพในหมัดเดียว หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะเอยชมเธอ
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วขนาดนี้”
ไป๋เวยมองหานเซิ่นด้วยสายตาไร้ความรู้สึกและพูด
“เมื่อก่อนเจ้าระดับต่ำกว่าข้า แต่ตอนนี้เจ้าเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว ขณะที่ข้ายังเป็นแค่ระดับครึ่งเทพ เจ้าคิดจริๆงหรือว่านั่นหมายความว่าข้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว?”
หานเซิ่นสัมผัสจมูกและไม่ได้พูดอะไรอีก
พวกเขาทั้งคู่ดำลงทะเลต่อไป และไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงก้นทะเล ที่นั่นพวกเขาพบสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีความยาวสิบเมตรลอยตัวอยู่เหนือพื้นทราย ร่างกายของมันแบบเรียบและมีสีน้ำเงิน
หางของมันเหมือนกับหางของกุ้งมังกร และมันมีก้ามเหมือนกับแมงป่อง อุ้งเท้าทั้งหกข้างของมันมีขนาดหลากหลาย
ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับกุ้งหรือไม่ก็ปู บางส่วนของมันดูเหมือนกับแมงป่อง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดมากๆ แต่โซ่สสารสีน้ำเงินลอยออกมาจากร่างกายของมัน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า
เมื่อไม่มีเอ็กซ์ควิสิทหรือหลี่เคอเอ๋อ หานเซิ่นก็เปิดใช้ศาสตร์ตงเสวียนอย่างไม่ต้องกังวลอะไร เขาสัมผัสได้ว่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมีทีฟ ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนที่เข้าไปหามันอย่างใจเย็น
แต่ก่อนที่หานเซิ่นและไป๋เวยจะเข้าไปใกล้ เจ้าซีโน่เจเนอิคก็สังเกตเห็นพวกเขา มันยกกล้ามปูขึ้นและโซ่สสารสีน้ำเงินก็ระเบิดออก พื้นที่แถบนั้นถูกย้อมด้วยสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งบดบังสัมผัสทั้งเจ็ดของหานเซิ่นและไป๋เวย พวกเขาไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าซีโน่เจเนอิคนั่นอยู่ตรงไหน
หานเซิ่นขมวดคิ้วและเตรียมตัวจะใช้อาณาเขตตงเสวียน แต่ทันใดนั้นเขาสังเกตได้ถึงการสั่นไหวของร่างกายไป๋เวย พลังที่ปกป้องเธออยู่นั้นหายไป และเธอก็ร่วงลงไปที่ก้นทะเล
หานเซิ่นยื่นมือออกมาและดึงไป๋เวยเข้ามาหาตัว เขาอุ้มเธอเอาไว้และเห็นว่าผิวของเธอดูเป็นสีน้ำเงินหน่อยๆ มันใสเหมือนกับหยก เธอถูกการโจมตีเข้า