ตอนที่ 1432 สมรู้ร่วมคิด (1)
“ไป! ไปถามว่าใครเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ บอกพวกเขาว่าลั่วซีจากฝูหยวนถังมาขอพบ” ลั่วซีพูดพลางขมวดคิ้ว จากที่เขาเห็น หอพักพวกนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ที่ดีๆแบบนี้เอาให้พวกผู้ลี้ภัยอยู่ฟรี ออกจะแปลกไปหน่อย คนปกติจะไม่เสียเงินมากมายให้กับผู้ลี้ภัยพวกนี้ ลั่วซีจึงเดาว่าสถานที่นี้น่าจะเกิดจากการเตรียมการบางอย่างของท่านผู้นั้น เนื่องจากทั้งคู่รับใช้เจ้านายคนเดียวกัน การที่เขามาที่นี่เพื่อทักทายก็ไม่น่าจะเป็นการหยาบคาย
ลั่วซีไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อยว่าที่หน้าต่างชั้นสองบนหอพัก มีใครบางคนกำลังมองเขาด้วยสายตาเย็นชาตั้งแต่วินาทีที่เขาปรากฏตัว
“คุณหนู! ลั่วซีบอกว่าอยากพบท่านขอรับ” เย่เหม่ยพูด
“เร็วจริง……” จวินอู๋เสียมองลั่วซีที่ยืนอยู่ข้างล่าง ดวงตาฉายแววเยียบเย็น
“บอกเขาว่า ข้าไม่ว่าง” พูดจบ นางก็ละสายตาจากนอกหน้าต่าง และนั่งลงที่โต๊ะ
เย่เหม่ยให้คนไปถ่ายทอดคำพูดของจวินอู๋เสียแก่ลั่วซีทันที
เมื่อลั่วซีไม่ได้เข้าพบคนทางเหนือของเมือง เขาก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เมืองชิงเฟิงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขามานาน ไม่มีใครสามารถสร้างความวุ่นวายใหญ่โตขึ้นที่นี่ได้
แต่การถูกดูแคลนเช่นนี้ก็ทำให้สีหน้าของลั่วซีดูไม่ดีเช่นกัน ตอนที่เขากลับไป เขาไม่ได้กลับไปที่ฝูหยวนถัง แต่เดินไปทางจวนเจ้าเมืองแทน
“นายน้อย ท่านจะไปที่จวนเจ้าเมืองหรือขอรับ?” ลูกน้องคนหนึ่งถามอย่างระมัดระวัง
“ในเมื่อคนนั้นไม่ยอมพบข้า งั้นข้าก็จะไปถามเจ้าเมืองว่าเขาเป็นใคร?” ลั่วซีพูด
ลูกน้องพยักหน้าท่าทางเหมือนเข้าใจ
ภายในจวนเจ้าเมือง ลั่วซีนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ จิบชาที่คนรับใช้นำมาเสิร์ฟให้เขา
หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนผู้มีพุงอ้วนกลมก็เดินหอบแฮ่กๆเข้ามา เขาแต่งตัวหรูหรา มีรอยยิ้มบนใบหน้า แก้มยุ้ย ดูร่าเริง
“วันนี้น้องลั่วมีเวลาว่างมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?” ชายอ้วนผู้นี้คือเจ้าเมืองชิงเฟิง คนมีคุณธรรมที่ผู้ลี้ภัยกล่าวถึง แต่ดูจากตัวเขาแล้ว ยากมากที่จะเชื่อมโยงเขากับขุนนางที่รักประเทศชาติและห่วงใยประชาชน
ลั่วซีกวาดสายตามองเจ้าเมือง แล้วแอบเดาะลิ้น ดวงตาฉายแววรังเกียจแต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว เขาปัดแขนเสื้อและตรงเข้าหัวข้อที่จะพูดทันที “มีคนซื้อคฤหาสน์ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของเมือง เจ้ารู้เรื่องนี้รึเปล่า?”
เจ้าเมืองชะงัก เขาคิดไม่ถีงว่าลั่วซีจะมาที่นี่เพราะเรื่องนี้ “ข้ารู้ เดิมทีพื้นที่ทางเหนือของเมืองก็เอาไว้ขายให้พวกโง่ที่มีเงินเยอะๆอยู่แล้ว ครั้งนี้ขายได้ตั้งเยอะในคราวเดียว ได้กำไรมาไม่น้อยเลย”
ความจริงแล้ว ร้านขายบ้านที่อยู่ข้างๆศาลาว่าการเปิดดำเนินการโดยคนของเจ้าเมือง แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในชื่อของเจ้าเมือง แต่เงินส่วนใหญ่ก็เข้ากระเป๋าของเขา วันก่อนที่เจ้าของร้านมารายงานกับเจ้าเมือง เจ้าเมืองดีใจมากที่รู้ว่ามีคนซื้อที่รวดเดียวตั้งมากมาย ต้องรู้ว่าราคาบ้านในเมืองชิงเฟิงขึ้นไปอยู่ในระดับที่เทียบได้กับเมืองหลวงของแคว้นเหยียน มันไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยเลย!
“เจ้ารู้ไหมว่าคนที่ซื้อเป็นใคร?” ลั่วซีมองเจ้าเมือง เขารู้เรื่องของร้านนั้นดี
“เห็นว่าเป็นผู้เยาว์แปลกหน้า เดาว่าเขาคงติดสินบนเพื่อเข้ามาในเมือง ทำไมจู่ๆถึงสนใจเรื่องนี้ล่ะ? หรือว่าท่านผู้นั้นมีคำสั่งอะไร?” สีหน้าของเจ้าเมืองเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงความกังวล
ลั่วซีพูดว่า “ท่านผู้นั้นแค่ให้เราดำเนินการต่อไป แค่นั้นแหละ ที่ข้ามาหาเจ้าวันนี้ก็เพราะบ้านทางเหนือของเมืองพวกนั้น เจ้ารู้รึเปล่าว่าบ้านพวกนั้นถูกเจ้าผู้เยาว์คนนั้นเอาไปช่วยผู้ลี้ภัยแล้ว?!“