[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 480 : ประโยชน์มหาศาล!
กลุ่มเมฆทะมึนขนาดมหึมานั้น ได้กระจายตัวออกจากกันอย่างรวดเร็ว และกลับกลายเป็นเมฆสีขาวตามปกติ!
ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้จึงคล้ายกับปกคลุมไว้ด้วยผงซักฟอกสีขาว แสงของดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมาดูคล้ายกับสายน้ำ ในขณะที่แสงของดวงดาวก็ระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า
ท้องทะเลที่ไร้คลื่นลม และสงบนิ่งอ่อนโยน ทำหน้าที่สะท้อนแสงจันทร์ และแสงดาวที่กำลังส่องประกายระยิบระยับนั้น ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้จึงเป็นภาพที่งดงาม และมีมนต์เสน่ห์ยิ่งนัก
หากไป๋เซียนเอ๋อไม่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้สำเร็ว และหลิงหยุนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิต ท้องฟ้าสวยงามที่ทั้งคู่ได้เห็นในคืนนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น!
ไป๋เซียนเอ๋อนั้นอ่อนโยน และมีกิริยามารยาทที่งดงาม นางไม่สนใจว่าร่างกายของหลิงหยุนจะเปื้อนไปด้วยเลือด และไม่สนใจว่าหลิงหยุนจะตัวดำ หรือตัวขาว นางจัดการวางยันต์บำบัดที่ได้รับมาลงบนร่างของหลิงหยุนเกือบทุกตารางนิ้ว
หลิงหยุนมองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาของไป๋เซียนเอ๋อ และสายตาที่ระมัดระวังของนาง จึงอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะออกมา แต่เพียงแค่อ้าปากหัวเราะ เลือดที่อยู่ในปากก็กระจายออกมาตาม..
หลิงหยุนรู้ดีว่านี่คืออสุนีบาตสำหรับทดสอบผู้ที่ฝึกตน และรู้ว่าตัวเขาเองจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล เรียกได้ว่าเป็นรางวัลที่ดีที่สุดที่สวรรค์ประทานให้กับเขาในการก้าวเข้าสู่ด่านสุดท้ายของขั้นปรับร่างกายได้!
“นายท่าน.. เจ็บขนาดนี้แล้วยังจะหัวเราะได้อีกหรือ..?!”
ไป๋เซียนเอ๋อเห็นหลิงหยุนหัวเราะก็ได้แต่ร้องถามออกมา หลิงหยุนมองไป๋เซียนเอ๋อผู้งดงามด้วยแววตาที่หลงไหล
“เซียนเอ๋อ.. นี่เป็นยันต์บำบัดระดับสอง เจ้าไม่ต้องใช้มากมายถึงเพียงนั้นก็ได้ แค๊ก.. แค๊ก. นี่เจ้ากำลังจะห่อข้าด้วยยันต์แล้วรู้หรือไม่?”
หลิงหยุนไอออกมาเป็นเลือดเกือบจะทุกประโยคที่พูดออกมา และเลือดก็กระเด็นติดตามตัวของไป๋เซียนเอ๋อไปแทบทุกส่วนของร่างกาย แต่นางกลับมีความสุข และแววตาก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“นายท่าน.. ท่านหยุดพูดได้แล้ว..!”
ไป๋เซียนเอ๋อติดยันต์บำบัดกว่าสองร้อยแผ่นบนร่างกายของหลิงหยุนพร้อมกับร้องสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์
หลิงหยุนสัมผัสได้ว่าทั่วทั้งร่างกายของเขานั้นเย็นไปหมด หลังจากนั้น.. กระดูกที่แตกนับไม่ถ้วน กล้ามเนื้อที่ฉีก และผิวหนังที่ไหม้เกรียม บาดแผลทั้งหมดล้วนถูกเยียวยาจนหาย ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของแผลเป็น..
เมื่อครั้งที่อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นปรับร่างกาย-3 ยันต์ขั้นต่ำของหลิงหยุนก็ยังสามารถรักษาบาดแผลที่เกิดจากของมีคมได้ จึงไม่ต้องพูดถึงยันต์บำบัดที่หลิงหยุนปลุกเสกขึ้นในช่วงที่ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ระดับกลางของขั้นปรับร่างกาย-6
ยันต์บำบัดระดับสองซึ่งเป็นยันต์ขั้นสูงนี้ สามารถรักษาบาดแผล และอาการกระดูกหักได้ในทันทีทันใด..
“เฮ้อ.. ในที่สุดข้าก็ผ่านบททดสอบมาได้.. คิดแล้วช่างน่าสยดสยองนัก!”
หลิงหยุนถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และเมื่อคิดได้ว่าตนเองเพิ่งจะผ่านนาทีแห่งความเป็นความตายมาได้ จึงได้แต่รู้สึกดีใจ!
เขาหันไปมองไป๋เซียนเอ๋อที่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชุดกระโปรงสีขาว หรือตามเนื้อตัวล้วนแล้วแต่เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงของเขา หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเรียกยันต์ธาราระดับสองออกมา..
หลิงหยุนกับไป๋เซียนเอ๋อต่างก็ยิ้ม นางยใช้ยันต์ธาราสองแผ่นแปะไว้ที่ศรีษะด้านบนของตนเองพร้อมกับร้องสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์!
“โอ้โห..”
สิ้นเสียงสั่งยันต์.. น้ำสีฟ้าใสขนาดเท่าลูกบบอลจำนวนสองลูก ก็ระเบิดใส่ร่างของไป๋เซียนเอ๋อ และชำระล้างเลือดที่ติดตามร่างกายของเธอออกไปจนหมดในทันที
คราบเลือดนั้นเป็นสิ่งที่ล้างและทำความสะอาดได้ยากมาก แต่ยันต์ธาราระดับสองของหลิงหยุนนั้น ไม่เพียงแค่มีพลังน้ำที่หนาแน่น แต่ยังเป็นน้ำที่บริสุทธิ์ ไม่เพียงดื่มได้แต่ยังมีอานุภาพในการชะล้างสิ่งที่เป็นพิษได้อีกด้วย
เสื้อผ้าและร่างกายของไป๋เซียนเอ๋อสะอาดขึ้นในทันที แต่กระโปรงที่เปียกโชกไปด้วยน้ำนั้น ก็ได้แนบกับร่างกายจนเผยให้เห็นรูปร่างที่งดงามของนางอีกครั้ง!
“นายท่านเก่งจัง.. ”
ไป๋เซียนเอ๋อเอียอายอย่างไม่ได้เสแสร้ง นางกัดริมฝีปากสีแดงแน่น พร้อมกับก้มหน้านิ่ง..
ภาพของไป๋เซียนเอ๋อที่อยู่ตรงหน้านั้น ทำให้หลิงหยุนถึงกับต้องกลืนน้ำลายเข้าไปหลายอึก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม.. แม้ยากที่จะละสายตาจากเรือนร่างของนาง แต่หลิงหยุนก็ต้องทำ และรีบใช้ยันต์ธาราชำระล้างร่างกายของตนเองบ้าง..
หลังจากที่ชำระล้างร่างกายจนสะอาดสะอ้านแล้ว รูปร่างที่สมส่วนไร้ที่ติของหลิงหยุนก็ปรากฏต่อสายตาของไป๋เซียนเอ๋อ..
หลิงหยุนมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้หลายวันแล้ว และตอนนี้น้ำหนักของเขาก็อยู่ที่แปดสิบกิโลกรัม รูปร่างและสัดส่วนของหลิงหยุนในเวลานี้ จึงไม่ต่างจากรูปปั้นแกะสลักที่สวยงาม!
หลิงหยุนยิ้มให้ไป๋เซียนเอ๋อพร้อมกับบอกนางว่า “เซียนเอ๋อ.. ครั้งนี้ข้าได้รับประโยชน์มหาศาลจากบททดสอบ ไว้ข้าฝึกฝนเสร็จ จะมาคุยกับเจ้าต่อภายหลัง!”
ไป๋เซียนเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย “เซียนเอ๋อจะคุ้มครองนายท่านเอง..”
หลิงหยุนหยุดพูด จากนั้นก็หยิบกระบี่โลหิตแดนใต้ และกระบี่มังกรขาวที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาสำรวจอย่างใกล้ชิด และพบว่ากระบี่ทั้งสองเล่มถูกสายฟ้าผ่ารุนแรงหลายครั้ง แต่กลับไม่เสียหาย!
หลิงหยุนนึกแปลกใจ และได้แต่แอบคิดในใจว่ากระบี่สองเล่มนี้ต้องไม่ใช่กระบี่ของเทพธรรมดาๆ แน่ เพราะสามารถช่วยเขารับอสุนีบาตที่ทรงพลังได้ และยังสามารถดูดซับสายฟ้าสีทองไว้ได้ด้วย ช่างเป็นกระบี่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
‘กระบี่สองเล่มนี้ช่างไม่ธรรมดา.. ต้องมีความลับของสวรรค์อยู่อย่างแน่นอน..’ หลิงหยุนได้แต่ตะลึง และรีบเก็บเข้าไปในแหวนพื้นที่
หลิงหยุนนั่งขัดสมาธิลงบนพื้น และเริ่มฝึกฝนเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากมายจากการทดสอบครั้งนี้
โดยเริ่มจาการเดินวิชาพลังลับหยินหยาง และพบว่าทั้งจุดตันเถียนที่อัศจรรย์ และเส้นลมปราณของเขาที่ขยายใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งกว่าเดิมถึงสามเท่าในช่วงเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-7 นั้น แม้ครั้งนี้จุดตันเถียน และเส้นลมปราณจะไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้น แต่เขาสัมผัสได้ว่าความเร็วในจุดตันเถียนของเขานั้นหมุนรวดเร็วขึ้น และสามารถผลิตพลังหยินและหยางได้เร็วขึ้นนถึงสามเท่า!
เส้นลมปราณภายในร่างกายของหลิงหยุนนั้นทั้งแข็งแกร่ง และยืดหยุ่นได้ดีราวกับหนังยาง ทำให้พลังหยิน พลังหยาง หรือพลังชีวิตสามารถเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณได้รวดเร็วขึ้นหลายเท่า!
และทั้งสองสิ่งนี้ ก็ช่วยให้หลิงหยุนมีกำลังสำหรับใช้ในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น!
ยกตัวอย่างเช่น.. จุดตันเถียนเดิมของหลิงหยุนนั้น ทำให้เขามีกำลังที่จะสามารถสังหารยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-1 ได้ด้วยหมัด แต่ตอนนี้เขาสามารถสังหารยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 ได้แล้ว!
ในขณะเดียวกัน จุดตันเถียนของหลิงหยุน และเส้นลมปราณที่ทรงพลังนี้ ก็สามารถดูดซับพลังชีวิตในโลกใบนี้ได้มากขึ้น ไม่เพียงแค่ดูดซับได้มากขึ้น แต่อัตราความเร็วในการดูดซับก็เพิ่มขึ้นด้วย!
ยกตัวอย่างเช่น.. เมื่อครั้งที่หลิงหยุนต่อสู้กับซันเทียนเปียวนั้น เขาใช้มังกรพรางร่างขั้นสุด แต่ก็สามารถสร้างภาพลวงตาได้เพียงแค่สามภาพ แต่ในเวลานี้ เขาสามารถสร้างภาพลวงตาได้อย่างน้อยหกภาพ!
และนี่คือสิ่งที่หลิงหยุนสัมผัสได้!
จุดตันเถียนของหลิงหยุนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดสิบสองเซนติเมตรนั้น หลังจากผ่านบททดสอบของสวรรค์มาแล้ว ตอนนี้ภายในจุดตันเถียนของเขา กลับมีคลื่นรูปร่างคล้ายงูสีทอง และสีเงินอยู่จำนวนมาก!
แน่นอนว่ามันคือพลังสายฟ้าที่ร่างกายของหลิงหยุนดูดซับเข้าไปนั่นเอง และในเวลานี้ผนังรอบๆจุดตันเถียนของเขานั้น ก็มีสายฟ้าสีเงินและสีทองเหล่านี้เกาะอยู่เต็มไปหมดจนนับไม่ถ้วน!
สายฟ้าสีเงินและสีทองเหล่านี้ไม่เพียงเกาะอยู่ตามผนังของจุดตันเถียน แต่ยังเคลื่อนไปมาตามเส้นลมปราณของหลิงหยุนอีกนับไม่ถ้วนเช่นกัน!
ในเวลานี้.. ภายในร่างกายของหลิงหยุนได้มีพลังเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชนิด ซึ่งก็คือพลังสายฟ้าจากอสุนีบาตนั่นเอง แต่หลิงหยุนก็ยังคงไม่สามารถใช้มันได้ เพราะไม่รู้วิธีว่าจะใช้พลังสายฟ้านี้ได้อย่างไร และไม่รู้แม้กระทั่งว่าพลังสายฟ้านี้จะมีผลต่อการฝึกฝนของเขาในวันข้างหน้า
แต่ตอนนี้สิ่งที่หลิงหยุนพอใจอย่างมากก็คือ.. เขาสามารถเดินพลังลับหยินหยางได้อย่างสะดวก ไม่ติดขัดเลยแม้แต่น้อย!
หลังจากนั้น.. หลิงหยุนก็เปลี่ยนมาโคจรดารกะดายันแทน และหลิงหยุนก็ถึงกับตกตะลึง!
ไม่เพียงแค่หลิงหยุน.. แม้แต่ไป๋เซียนเอ๋อเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น นางพุ่งเข้าไปยังร่างที่สวยงามของหลิงหยุนทันที!
ภาพที่ไป๋เซียนเอ๋อเห็นด้วยตาตัวเองนั้น ทำให้ปากเล็กของนางถึงกัยอ้ากว้าง และแววตาเต็มไปด้วยความตกใจ!
ทั่วท้องทะเลในระยะหลายสิบไมล์ทะเลรอบๆ สว่างไสวไปขึ้นทันตา เพราะแสงจันทร์ และแสงดาวที่ทอประกายเจิดจ้า..
แสงจันทร์ที่ทอประกายลงมานั้น ราวกับน้ำตกที่ทอดลงมาจากภูเขาสูงหลายแสนไมล์ และกำลังตกลงอาบร่างของหลิงหยุนซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่..
ช่างป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ และงดงามยิ่งนัก!
ด้วยสายตาของไป๋เซียนเอ๋อเวลานี้ นางสามารถมองเห็นดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่ร้อยเรียงเข้ากับร่างของหลิงหยุน และกำลังเปล่งประกายระยิบระยับอยู่รอบๆตัวเขา!
ด้วยวิชาดารกะดายันนี้ ทำให้พลังดวงดาวจำนวนนับมากพุ่งเข้าสู่ร่างของหลิงหยุน และความเร็วในการดูดซับของเขานั้น ก็รวดเร็วจนน่าตกใจ!
ภาพของหลิงหยุนในเวลานี้ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ภายในร่างกายมีสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนเคลื่อนไปมาอยู่ภายในเส้นลมปราณ
แต่ภายนอกกลับเป็นภาพที่หลิงหยุนนั่งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของแสงจันทร์ และดวงดาวที่ทอดลงมา ดูคล้ายกับว่าเขาเป็นศูนย์กลางของจักรวาล!
“นายท่าน.. นายท่านช่างเก่งนัก!” ไป๋เซียนเอ๋อที่จ้องมองหลิงหยุนอยู่นานได้แต่พึมพำออกมาอย่างชื่นชม