ในสมุดบันทึก แม้แต่กุนซือไวท์ก็ยอมรับว่าความคิดของเขาเกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพันนั้นเป็นเพียงแค่ทฤษฎี เขาไม่ได้มีผลการทดสอบการคาดเดาเหล่านี้ การจะหาว่าจริงๆแล้ววิชาจีโนนี้มีพลังมากแค่ไหน หานเซิ่นต้องฝึกมันด้วยตัวเอง แต่กุนซือไวท์ได้พูดถึงความเสี่ยงของการฝึกคัมภีร์นภาอำพัน ตามทฤษฎีแล้ววิชาจีโนนี้จะกลับตาลปัตรสายเลือดของคนๆหนึ่ง แต่การทำอะไรแบบนั้นเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ การพยายามทำแบบนั้นจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ถ้าร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อผลลัพธ์นั้นได้ ผลที่ตามมาก็จะเป็นอะไรที่ร้ายแรง
หานเซิ่นอยากจะลองใช้มันดู เนื่องจากพลังอันน่ากลัวที่คัมภีร์นภาอำพันจะมอบให้กับเขา แต่ความเสี่ยงของมันก็เป็นอะไรที่ร้ายแรงมากจนทำให้เขารู้สึกลังเล
“เนื่องจากเราไม่มีความจำเป็นต้องฝึกคัมภีร์นภาอำพัน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะพยายามกลับตาลปัตรสายเลือดของตัวเอง” หลังจากที่หานเซิ่นได้ข้อสรุปแบบนี้ เขาก็ตัดสินใจลบคัมภีร์นภาอำพันออกไปจากจิตใจก่อน
ตอนนี้เขาหันความสนใจกลับไปที่เจ้าซีโน่เจเนอิคที่อยู่ในเจลเดม่อนฮอลล์ เขาเหลือเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือน ถ้าเขาฆ่ามันในช่วงเวลานั้นไม่ได้ เขาก็จะสูญเสียโอกาสนี้ไป เขาจำเป็นต้องรอคอยจนกระทั่งร่างโคลนต่อไปจะปรากฏตัวออกมา ก่อนที่เขาจะได้ต่อสู้กับมันอีกครั้ง
‘เราจะฆ่ามันได้ยังไง? เราคงจะต้องรอจนกระทั่งหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทไปที่อื่น เพื่อที่เราจะได้ฆ่ามันด้วยวิชาจีโนตัวอื่น นั่นคงจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเรา’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ในตอนที่เขากลับออกไปจากคอร์แอเรีย หลี่เคอเอ๋อก็กำลังรอคอยเขาอยู่ในโอเอซิส
“ทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่เร็วจัง?” หลี่เคอเอ๋อไม่ได้กังวลเหมือนอย่างครั้งก่อน ครั้งนี้เธอประหลาดใจที่เห็นหานเซิ่นกลับมาเร็วแบบนี้
ความจริงแล้วเธอหวังว่าหานเซิ่นจะอยู่ในคอร์แอเรียจนกระทั่งซีโน่เจเนอิคในเจลเดม่อนฮอลล์ถูกฆ่า
“ข้าแค่ไปพบเพื่อนเท่านั้น ข้าไม่ได้มีเวลามากนัก ข้าจำเป็นต้องฆ่าซีโน่เจเนอิคในเจลเดม่อนฮอลล์นั่น ดังนั้นข้าจะอยู่ในนั้นเป็นเวลานานไม่ได้” หานเซิ่นพูด
“เจ้าตั้งใจจะกลับไปที่เจลเดม่อนฮอลล์และพยายามจะฆ่ามันต่อไปจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ทำไมถึงจะไม่พยายามต่อ? มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง และมันก็ไม่ใช่ว่าข้าจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย นี่เป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบสำหรับข้าในการฝึกฝน” หานเซิ่นพูดอย่างจริงใจ
หลี่เคอเอ๋อมองไปที่หานเซิ่นและหัวของเธอก็เอียงไปด้านข้างเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ว่าหานเซิ่นนั้นพูดความจริง
ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากเผ่าพันธุ์ไหน มันก็เป็นเรื่องยากที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะรักษาแรงผลักดันเอาไว้ได้หลังจากที่ต้องเจอความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนั้น คนส่วนใหญ่ทนเห็นความฝันของตัวเองถูกบดขยี้ได้เพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่พวกเขาจะยอมแพ้
หานเซิ่นล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ความแน่วแน่ของเขานั้นแรงกล้า และเห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจจะพยายามต่อไป บุคลิกภาพแบบนี้นั้นมีข้อดีและข้อเสียของมันอยู่
หลี่เคอเอ๋ออ้าปากเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีคำพูดใดๆออกมา เธอไม่อยากจะทำลายการมองโลกในแง่ดีของหานเซิ่น
‘ช่างเถอะ มันเหลือเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งเดือน ด้วยความมุ่งมั่นของเขา มันก็ไม่ควรจะมีผลร้ายอะไรกับเขา’ หลี่เคอเอ๋อคิดกับตัวเอง
หลังจากกลับไปที่เจลเดม่อนฮอลล์ หานเซิ่นก็เข้าไปต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคตัวนั้นทุกๆวัน และทุกวันเขาก็ต้องล้มเหลว
หลังจากผ่านไปอีกสองอาทิตย์ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็แทบจะไม่มาดูหานเซิ่นอีก เขาล้มเหลวมากจนเกินไป และเขาก็ยังคงไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มันจึงไม่มีเหตุผลที่พวกเธอจะต้องเสียเวลามาดูการต่อสู้ที่ไร้ความหมาย
ในขณะที่เขากำลังทำการต่อสู้ต่อไปนั้น พวกเธอต้องการจะฝึกวิชามีดใต้นภาที่ได้เรียนรู้มาจากหานเซิ่น ถึงแม้ประสบการณ์ที่พวกเธอได้รับจากหานเซิ่นจะทำให้มันเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม แต่พวกเธอก็ยังคงพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะฝึกจนเชี่ยวชาญในวิชาใต้นภา
“เขามีพรสวรรค์มากๆในการต่อสู้ วิชามีดและจิตแห่งมีดแบบนี้เป็นอะไรที่หาได้ยาก เขาควรจะเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราในการฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์” หลี่เคอเอ๋อเอ่ยชม
“น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่หนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ไม่อย่างนั้นด้วยระดับพรสวรรค์ของเขา เขาอาจจะฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์…” เอ็กซ์ควิสิทพูด
หลี่เคอเอ๋อเย้ยหยันเล็กน้อย “มันมีเรื่องดีอะไรเกี่ยวกับการฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์? ข้าไม่อยากกลายเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์เลือดเย็น ถ้าข้ามีโอกาสเลือก ข้าก็คงจะไม่ฝึกมันเลยสักนิดเดียว”
“มันเป็นเพราะเจ้ามีพรสวรรค์ระดับสิบเปลือก คนที่มีพรสวรรค์สูงแบบนั้นจะต้องฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ นั่นเป็นกฎของเผ่าเวรี่ไฮ” เอ็กซ์ควิสิทพูด
“แต่ทำไมต้องเป็นข้าด้วย? ข้าอยากจะให้พรสวรรค์ของตัวเองต่ำกว่าเก้าเปลือกซะจริงๆ” หลี่เคอเอ๋อบ่น
หานเซิ่นพ่ายแพ้การต่อสู้อีกครั้ง และเขาก็เดินโซเซออกมาจากเจลเดม่อนฮอลล์ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล แต่หลังจากนั้นจู่ๆเขาก็เห็นเวรี่ไฮชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกและกำลังมองมาที่เขา
หานเซิ่นไม่รู้จักกับเวรี่ไฮคนนั้น แต่สายตาของเขาดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด
‘เขาคงจะไม่ใช่หลี่เสวี่ยเฉิงหรอกใช่ไหม?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ตั้งแต่ที่หานเซิ่นมาอยู่ในเอาท์เตอร์สกาย มีเพียงแค่หลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิงที่มีเรื่องบาดหมางกับเขา เขาเคยเห็นหลี่อวี้เจินมาก่อน แต่เขาไม่เคยได้เห็นว่าหลี่เสวี่ยเฉิงนั้นมีหน้าตาเป็นยังไง และถึงแม้ชายคนนี้จะไม่ใช่หลี่เสวี่ยเฉิง แต่เขาก็คงจะเกี่ยวข้องกับทั้งสองคนนั้น
“หานเซิ่น เจ้าใช้เจลเดม่อนฮอลล์มาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว ถ้าเจ้าฆ่าเรดบลัดเดม่อนไม่ได้ ก็ออกไปจากที่นี่ซะ อย่าทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดขณะที่จ้องไปที่หานเซิ่น
หลี่เสวี่ยเฉิงและหลี่อวี้เจินสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างหลังที่จบการประลองระหว่างตัวไหม และถึงพ่อแม่ของพวกเขาจะช่วยจ่ายหนี้ส่วนใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังคงติดหนี้ผู้คนอีกมาก
ในตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีอะไรจริงๆ แม้แต่ทรัพยากรที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการฝึกฝนก็ถูกใช้เพื่อจ่ายหนี้ให้กับคนอื่น
หลี่เสวี่ยเฉิงมีความคิดจะต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อน ยีนของซีโน่เจเนอิคเรดบลัดเดม่อนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างสมบัติระดับเทพเจ้าอย่างหนึ่ง ถ้าเขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคนั่นมา แบบนั้นหลี่เสวี่ยเฉิงก็จะสามารถใช้มันเพื่อไปหาทรัพยากรเพิ่มได้
หลี่เสวี่ยเฉิงไม่สามารถฆ่าเรดบลัดเดม่อนตามลำพังได้ แต่เขามีการหนุนหลังจากครอบครัว ถ้าครอบครัวของเขาช่วยเหลือ เขาก็คงจะสังหารเรดบลัดเดม่อนได้
แต่ในตอนที่หลี่เสวี่ยเฉิงไปขอผู้อาวุโสโอเพ่นสกายเพื่อเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์ ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายก็บอกเขาว่าหานเซิ่นได้ขอสมัครเป็นคนที่จะฆ่ามันเรียบร้อยแล้ว เขาจึงต้องรอคอยจนกระทั่งหานเซิ่นล้มเหลวก่อนที่เขาจะมีสิทธิ์เข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์อีกครั้ง
หลี่เสวี่ยเฉิงไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะมีความสามารถพอสังหารเรดบลัดเดม่อน ดังนั้นเขาจึงมาที่ฮอลล์เจลเดม่อนเพื่อดูสถานการณ์ และที่นั่นเขาก็เห็นหานเซิ่นถูกเล่นงานโดยเรดบลัดเดม่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เอ็กซ์ควิสิทบอกข้าว่ายังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่จะถึงเวลาที่กำหนด นั่นไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“ถ้าเจ้าไม่มีพลังที่จำเป็น อีกหนึ่งเดือนก็จะไม่สร้างความแตกต่างอะไร ทำไมเจ้าไม่ยอมแพ้ซะตอนนี้? แบบนั้นจะประหยัดเวลาทั้งของตัวเจ้าเองและของคนอื่น” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดกลับไป
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าบอกว่า ‘คนอื่น’ แต่ความจริงแล้ว เจ้าแค่ต้องการจะทำบางสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเจ้า” หานเซิ่นพูดกับหลี่เสวี่ยเฉิงขณะที่หลี่ตาลงเล็กน้อย
“เจ้าพูดถูกต้อง แทนที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปและเสียเวลาไปเปล่าๆ ทำไมเจ้าไม่ยอมแพ้และช่วยประหยัดเวลาของทุกคน” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด
“เจ้าพูดถูก การช่วยประหยัดเวลาของคนอื่นถือเป็นเรื่องดี ข้าไม่ควรทำให้คนอื่นต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า ดูเหมือนกับว่าเขากำลังเห็นด้วยกับสิ่งที่หลี่เสวี่ยเฉิงพูด
“นั่นเป็นวิธีการคิดที่สมเหตุสมผล ถ้าเจ้าต้องการจะยกเลิกการลงสมัคร เจ้าก็ต้องไปหาผู้อาวุโสโอเพ่นสกาย ข้าพาเจ้าไปที่นั่นถ้าเจ้าต้องการ” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด เขาคิดว่าหานเซิ่นจะโยนผ้ายอมแพ้จริงๆ
“ไม่ ไม่ ไม่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าจะฆ่าเรดบลัดเดม่อน แบบนั้นมันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลารอ” หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา