หนูเหลิ่งจี้มองไปที่เจียหยวนฮวาเป็นเวลานานถึงเริ่มพูด “คุณเจีย ยี่สิบปีก่อนที่พม่า คิดไม่ถึงว่าคุณจะจำผมไม่ได้แล้ว?”
“คุณ…” เจียหยวนฮวาได้ยินเช่นนั้นก็จดจ้องไปที่หนูเหลิ่งจี้อย่างเงียบงันอยู่ไม่นาน คลับคล้ายคลับคลาว่าหน้าคุ้นๆ ทันใดนั้นในใจของเขาก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา “คุณคือ…คุณเหลิ่ง?”
หนูเหลิ่งจี้พยักหน้า แล้วก็นั่งลงที่โซฟาถึงค่อยพูดขึ้นมาว่า “ผมกลัวว่าคุณผู้หญิงคนนี้จะไปเหยียบซ้ำรอยเก่าเหมือนผมตอนนั้น เพราะฉะนั้นเลยตั้งใจมาเตือนให้เธอยอมเสียหน้า ดีกว่าไปเดิมพันกับผู้หญิงปีศาจอย่างคุณนายอวิ๋น”
“คุณเหลิ่ง ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้ได้?” เจียหยวนฮวาพูดพลาง ในขณะนั้นก็นั่งลงบนโซฟาและถอนหายใจ “คิดถึงตอนนั้น คุณมีแต่ความสามารถแต่ไร้ซึ่งมารยาท ทำให้ผมได้แต่รอคอยวันที่คุณจะตกต่ำลง!”
“นั่นไม่ใช่เพราะว่าคุณนายอวิ๋นปีศาจนั่นเหรอ?” เหลิ่งจี้ส่ายหัวและหยิบบุหรี่มามวนหนึ่งส่งไปให้ เจียหยวนฮวา จากนั้นอีกหนึ่งมวนให้จ่านป๋าย จ่านป๋ายส่ายหน้า เพราะซีเหมินจินเหลียนเกลียดกลิ่นควันบุหรี่
เหลิ่งจี้เห็นเขาไม่รับก็หันไปมองซีเหมินจินเหลียนแวบหนึ่ง แต่ก็ยังคงหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดไฟและสูดเข้าไปเต็มปอด เมื่อควันพ่นออกมาถึงพูดว่า “หลายปีมานี้ผมมีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับตาย ถูกเธอทรมานร่างกายและจิตใจ…สิบปีเต็มๆ เธอถึงได้ปล่อยผมออกมา จากนั้นผมไปพม่าและไปขลุกอยู่ที่เหมืองแร่หินตั้งหลายปี อยากจะอาศัยการดูให้มาก การฝึกฝนที่บ่อยครั้งถึงจะทำให้บรรลุ แต่ระยะความแตกต่างระหว่างผมกับเธอมากเกินไป การเดิมพันสายนี้เลยไม่มีอาจารย์มาคอยชี้แนะ ผมเลยไม่มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นมาก เลยอาศัยโอกาสในงานนิทรรศการหยกนำหินหยกเข้ามา…เพื่อที่จะหาช่องทาง!”
“ตอนนั้นผู้มีพระคุณมีความตั้งใจที่จะรับคุณเป็นศิษย์ แต่คุณกลับปฏิเสธเขา!” เจียหยวนฮวาพูด “ตอนนี้ก็คงยากแล้ว”
เหลิ่งจี้พยักหน้าพูด “ตอนนั้นผมยังวัยรุ่นไม่รู้ประสีประสา ไม่ได้ฟังคำพูดที่ปรารถนาดีของราชาหู ทำให้มีจุดจบเหมือนตอนนี้ ผมก็ไม่โทษใคร เพราะผมเป็นคนก่อเรื่องผมก็ต้องชดใช้เอง แต่ขอแค่คุณเจียยินยอมแนะนำผมสักนิดหน่อย ผมก็ขอบคุณมากแล้ว” พูดพลาง เขาก็ยืนขึ้นมายอมคุกเข่าต่อหน้าเจียหยวนฮวา
“คุณเหลิ่ง…คุณเหลิ่ง…” เจียหยวนฮวามือไม้สั่นไปหมดรีบลุกขึ้นยืนและจูงมือเหลิ่งจี้พร้อมพูด “คุณขึ้นมาก่อนเถอะ เรื่องนี้ผมต้องลองถามผู้มีพระคุณก่อน”
เหลิ้งจี้ได้ฟังคำพูดของเจียหยวนฮวาที่หลุดออกมาอย่างไม่คัดค้าน ในที่สุดก็หายใจได้ อย่างปกติพร้อมพยักหน้าพูด “ขอบคุณมากครับ!”
เจียหยวนฮวารีบพยุงเหลิ่งจี้ขึ้นมา และสายตาก็หันไปหาซีเหมินจินเหลียน ในใจได้แต่คิดว่าเหลิ่งจี้คนนี้มาขอร้องผิดคนแล้ว ขอใครไม่ขอ มาขอร้องให้เขาช่วยเนี่ยนะ? จะมีประโยชน์อะไรกัน
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มพูด “ผู้อาวุโสเจียตามสบายเลยค่ะ”
ผู้อาวุโสเจียคว้ามือถือขึ้นมาต่อสายไปที่เบอร์หนึ่ง ไม่นานก็มีเสียงของผู้อาวุโสหูส่งเข้ามาในปลายสาย “มีอะไร หรือว่าแกแพ้แล้ว?”
“ไม่ใช่ครับ!” เจียหยวนฮวาพูด “ผู้มีพระคุณ คือเรื่องเป็นแบบนี้…”
“มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ฉันก็ยุ่งมาก แกก็รู้นี่?” เสียงของผู้อาวุโสหูลอดผ่านออกมาจากเสียงในมือถือ ซีเหมินจินเหลียนกล้ารับรองว่ามือถือของเจียหยวนฮวาเปิดลำโพง ไม่เช่นนั้นเสียงคงไม่น่าจะดังขนาดนี้
“มีคนอยากจะฝากตัวเป็นศิษย์กับท่านครับ” เจียหยวนฮวาพูดโพล่งออกไป แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร แล้วทำไมอยากจะเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสหู
“ผู้ชายหรือผู้หญิง” ผู้อาวุโสถาม
“ผู้ชายครับ!” เจียหยวนฮวาพูด
“ผู้ชายเหรอ? อายุเท่าไหร่ หน้าตาดีหรือเปล่า ชอบจินเหลียนของฉันหรือเปล่า ไม่ใช่สิ แม่ของเขาชอบจินเหลียนที่ทรัพย์สินเยอะหรือเปล่า นี่ก็ไม่รู้ว่าแม่ของเขาชอบในตัวจินเหลียนหรือว่าชอบหยกกันแน่ ถามอย่างนี้ล่ะกัน จินเหลียนของฉันสนใจเขาไหม” ผู้อาวุโสส่งเสียงที่เชื่อถือไม่ได้ผ่านเข้ามา
ซีเหมินจินเหลียนเดิมทีที่กำลังดื่มน้ำ เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พ่นน้ำออกมาเป็นสาย ส่วนสีหน้าของจ่านป๋ายกระอักกระอ่วน ดูเย็นชาไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือร้องไห้ดี นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?
“ผู้มีพระคุณ เขาอายุน้อยกว่าศิษย์นิดหน่อย” เจียหยวนฮวาตั้งใจเน้นคำพูด
“สมองแกมีปัญหาหรือไง?” ผู้อาวุโสด่า “ลุงอายุเท่าๆ กับแก จินเหลียนของฉันจะชอบได้ยังไง อืม…ไม่ใช่สิ หรือว่าซีเหมินจินเหลียนไม่ชอบคนหล่อ ชอบแบบแนวลุง? ฉันให้แกคอยเฝ้าดูไม่ใช่เหรอ ให้ช่วยหาผู้ชายดูโดดเด่นมีคุณธรรมเพียบพร้อมมาให้ซีเหมินจินเหลียนของฉัน ไม่ใช่หาลุงแก่ๆ แปลกๆ คนหนึ่ง…”
ซีเหมินจินเหลียนทนฟังไม่ได้ นี่มันเรื่องบ้าบออะไร? เธอกับเขาไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันสักหน่อย จากนั้นก็ทำมือสื่อเป็นนัยให้กับเจียหยวนฮวาบอกให้เขาส่งมือถือมาให้เธอ เจียหยวนฮวาถูกด่าจนทำตัวไม่ถูก รีบนำมือถือส่งไปให้ซีเหมินจินเหลียน
“ผู้อาวุโสหูคะ…” ซีเหมินจินเหลียนตะโกนเสียงใส
“จินเหลียน คุณก็อยู่ด้วยเหรอ…” เสียงผู้อาวุโสหูเห็นได้ชัดว่าทำตัวไม่ถูก คิดไม่ถึงว่าซีเหมินจินเหลียนจะอยู่ด้วย
“ฉันเองค่ะ คุณหู คุณจะรับศิษย์ของคุณแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยคะ?” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มฝืน
“ทำไมจะไม่เกี่ยวกันล่ะ” เสียงปลายสายของผู้อาวุโส ไม่รู้ว่าบ่นพึมพำอะไรหลายประโยค แต่ว่าไม่มีใครฟังได้ชัด “คุณยอมรับผมเป็นปู่แล้วจะมาเสียใจภายหลังไม่ได้นะ”
“ฉันรับคุณเป็นปู่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างแปลกใจ เหมือนเรื่องนี้เขาจะคิดไปเองคนเดียวต่างหาก
“ทุเรียนของผมคุณก็รับไปแล้ว…” ผู้อาวุโสหูหัวเราะ “คุณจะเพิกเฉยไม่ได้นะ”
ซีเหมินจินเหลียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทุเรียนกองนั้นทำให้เขามีหน้ามาพูดขี้โม้ขนาดนั้นเชี่ยวเหรอ?
“จินเหลียน เรียกคุณปู่ให้ฟังหน่อย คุณแอบบอกผมหน่อยว่าคนที่จะมาเคารพผมเป็นครูเป็นอย่างไรบ้าง” ผู้อาวุโสหัวเราะน้อยๆ
“ก็แค่คุณลุงแปลกๆ คนหนึ่ง แถมดูเหมือนคนเร่ร่อน” ซีเหมินจินเหลียนพูดอย่างหมดอารมณ์ พูดพลางอดที่จะหันไปมองเหลิ่งจี้ไม่ได้ สีหน้าของเหลิ่งจี้ก็เก้อกัง เดิมทีอุส่าเตรียมคำพูดหนักแน่นมาไว้อย่างดี เพื่อที่จะทำให้เขาประทับใจเวลาจะกราบไหว้เป็นครู แต่เวลานี้สักประโยคก็พูดไม่ออก
“ลุงที่เร่ร่อนแถมยังประหลาด?” น้ำเสียงของผู้อาวุโสหูขึ้นสูงไม่น้อย “จินเหลียน เรื่องอื่นไม่เป็นไรหรอก แต่ลุงแปลกประหลาดเอามาไม่ได้ คุณต้องหาชายหน้าตาดีสิ จ่านป๋ายก็ไม่เลว ถึงแม้หน้าตายังสู้หลินเสวียนหลานไม่ได้ แต่ผู้ชายคนนั้นสายตามีแต่หยก จินเหลียนอย่าได้เสียทั้งหยกและตัวเองไปให้ใครนะ…”
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าตนกับเขาไม่ได้คุยเรื่องเดียวกัน ปัญหาในการสื่อสารที่ยิ่งใหญ่คือผู้อาวุโสท่านนี้มีความมั่นหน้าและเชื่อมั่นในคำพูดของตัวเองสูงมาก เพียงไม่นานก็ส่งมือถือไปให้เจียหยวนฮวา เจียหยวนฮวาพูดว่า “ผู้มีพระคุณ คุณยังจำ…เรื่องที่พม่าเมื่อยี่สิบปีก่อนได้ไหม?”
“โอเคๆ ฉันไม่มีเวลามาพูดจาไร้สาระกับแกแล้ว และไม่มีเวลามารับใครเป็นศิษย์ แกจัดการเองแล้วกัน หรือไม่ก็รอฉันว่างก่อนค่อยว่ากัน ถ้าไม่มีอะไรฉันจะวางแล้ว!” ผู้อาวุโสหูทำท่าจะวาง
“ผู้มีพระคุณ คุณนายอวิ๋นนัดเดิมพันกับคุณจินเหลียน…” จู่ๆ เจียหยวนฮวาก็พูดขึ้น แต่เสียงในโทรศัพท์กลับตอบรับกลับมาว่า “ตู๊ดๆๆ”
“เรื่องนี้…” เจียหยวนฮวามองไปที่เหลิ่งจี้และพูดอย่างเกรงใจ “คุณเหลิ่ง เรื่องนี้คุณคงต้องรอเจอกับผู้มีพระคุณแล้วค่อยพูดเองอีกรอบเถอะ ไม่อย่างนั้นคุณก็ให้เบอร์ผมเอาไว้ดีไหม”
เหลิ่งจี้ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ราชาหูก็มีนิสัยอย่างนี้หรือ? เมื่อยี่สิบปีก่อนเขาไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้นี่ ใบหน้าตายด้าน ราวกับภรรยาเสียลูกไปอย่างนั้น
“งั้นเจอกันคืนพรุ่งนี้ครับ ผมไปซื้อมือถือก่อน” เหลิ่งจี้พูดขึ้น “คุณจินเหลียน ถ้าเป็นไปได้คุณก็อย่าไปเดิมพันกับนางปีศาจอวิ๋นนั่น ยอมเก็บความโกรธเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยสงบสุขถึงสำคัญ!” พูดและกล่าวลาออกไป
“โอเคค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม จ่านป๋ายส่งเขากลับไปและปิดประตูเข้ามาพูดว่า “นี่ไม่เห็นมีเรื่องอะไรเลย”
“นั่นเป็นความตั้งใจดีของเขา เพราะคุณนายอวิ๋นแข็งแกร่งเก่งเกินไป เธอเป็นคนในสายเดิมพันหินที่ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อใคร” เจียหยวนฮวาพูด
ซีเหมินจินเหลียนก้มหน้าก้มตาไม่พูดจา มีหลักการเบิกเนตรจริงด้วยเหรอ? หรือว่าเธอจะสามารถมองขาดได้หมด? ถ้าหากเธอสามารถดูลักษณะของหินข้างในได้ การเดิมพันพรุ่งนี้เธอคงจะเตรียมอะไรไว้แน่ โอกาสแพ้คงมีสูงมาก แต่ว่าเธอจะถอยหรือ? เธอจะกลับคำได้อย่างไรกัน
ถึงแม้จะหลีกเลี่ยงตอนนี้ แต่เธอก็สามารถเลี่ยงไปได้ตลอดชีวิตหรือ? เรื่องบางเรื่องขอแค่กล้าเผชิญหน้า บางทีการเดิมพันนี้ก็ไม่ใช่เพื่อหาเงินง่ายๆ เท่านั้น
“คุณจินเหลียน พรุ่งนี้คุณจะเดิมพันกับเธอจริงๆ เหรอ” เจียหยวนฮวาถาม
“ฉันก็ไม่อยากหรอกค่ะ เพียงแต่เรื่องบางเรื่องก็จำเป็นต้องเผชิญหน้ารับมัน!” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น “ถึงแม้พรุ่งนี้ฉันจะไม่เดิมพัน แต่ภายหลังเธอก็คงต้องมาหาเรื่องฉันอีก”
“คุณมั่นใจขนาดไหน?” เจียหยวนฮวาถามอย่างห่วงใย
“ฉันไม่มั่นใจเลยสักนิด” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด “การเดิมพันหินนี้ ใครจะสามารถมั่นใจได้?”
“ในเมื่อจะเดิมพัน พวกเราก็ต้องวางแผนกันก่อน” เจียหยวนฮวาขมวดคิ้ว “พรุ่งนี้บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่คงจะเหมือนวันนี้ที่แยกกัน ใช้หินหยกมากมายไปร่วมเล่น พรุ่งนี้พวกเราก็ควรเล่นดู… คุณจินเหลียน ในมือคุณมีหินหยกที่ดูลักษณะดีบ้างไหม”
“มีค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า สนใจแค่ลักษณะดี แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเอาหินหยกอะไรมาเข้าร่วม? นี่เป็นปัญหาที่ทำให้เธอปวดหัว ขอแค่ยืนยันว่าหินหยกฝั่งตรงข้ามมีลักษณะเป็นเช่นไร เธอก็สามารถเชื่อมั่นได้ว่าตนจะชนะได้หรือไม่
หินหยกผิวสีทรายอีกาดำนั่น ลักษณะพื้นผิวไม่เลว แต่ก็ไม่แน่ว่าหินหยกบนโลกนี้จะชนะมันไม่ได้
“ผู้มีพระคุณยังมีหินหยกสองก้อนอยู่ในมือผม พรุ่งนี้ตอนเช้าผมจะส่งมาให้คุณลองสัมผัสตรวจสอบดูว่าลักษณะเป็นเช่นไร ถ้าดีผมจะได้นำมันไปร่วมเป็นชื่อบริษัทของคุณ นำไปเข้าร่วมให้เยอะ โอกาสการชนะจะได้สูงหน่อย” เจียหยวนฮวาพูด ความจริงการเดิมพันหินใหญ่นี้มีกติกาไว้ว่าหนึ่งคนสามารถนำหินหยกก้อนหนึ่งมาร่วมเดิมพันเท่านั้น
แต่เหมือนว่าวันนี้บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่จะเป็นคนทำลายกฎนี้เอง ดูเหมือนว่าคุณนายอวิ๋นจะมาเข้าร่วมเพราะบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ ในเมื่อพวกเขาทำอย่างนี้ได้ เจียหยวนฮวาคิดว่าวิธีการทำอย่างนี้ไม่ได้มีอะไรที่ไม่เหมาะสม