บทที่320
ผู้แปล : N.
“ อัตราการตอบรับรอบสื่อก่อนวันฉายจริงได้ 3.8% มันดีไหม?” ซูเสียวได้พูดออกมาด้วยอารมณ์เย็นชาเล็กน้อยในสำนักงานของเธอ
บุคคลที่รับผิดชอบด้านนี้ของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์รีบตอบกับมาว่า: “ประธานซู! คุณต้องรู้ก่อนว่าในวงการนี้เปอร์เซ็นต์ที่ออกมาจากรอบสื่อนั้นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอะไร และถึงแม้ว่าเปอร์เซ็นต์นี้จะออกมาต่ำแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าหนังของเราไม่ดีครับ! “
“แต่มันก็ควรจะมากกว่า 10% ไม่ใช้แค่นี่!” ซูเฉิงได้พูดกับคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเย็นชา และเขาที่ถูกประธานซูใช้นำเสียงแบบนี้ใส่นั้นก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น ถ้าคิดกันตามตรงแล้วนี้ไม่ใช้ความผิดของเขาเลยที่ต้องมารับแรงกดดันนี้ แต่มันเป็นเพราะประธานของเขานั้นเป็นคนที่เอาแต่ใจอย่างมากต่างหาก
“ เออ! ประธานครับ! ทางโรงหนังได้แจ้งรอบฉายของเรามาแล้วครับ!” เขาที่พูดมาถึงตรงนี้ก็ได้เงียบไปเล็กน้อย “พวกนั้นบอกว่ารอบฉายหนังของเรานั้นจะอยู่ในช่วงเช้า และไม่ใช้รอบที่เป็นฮอททามอีกด้วยครับ!”
“โดยที่ทางนั้นให้เหตุผลว่า เพราะในช่วงนี้ได้มีหนังจากต่างประเทศจำนวนมากที่ต้องการฉายเปิดตัวเหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะแบ่งช่วงเวลาฮอททามให้กับเราได้ “
“ ผมเองก็ได้พยายามติดต่อไปทางนั้นเพื่อที่จะขอให้หนังของเราฉายในช่วงเวลาฮอททามแล้ว! แต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลยครับ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้หนังของเรากำลังถูกกดดันจากบริษัทยักใหญ่ในวงการนี้”
ซูเสียวที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา
…
“อัตราการตอบรับรอบสื่อนั้นต่ำอย่างมาก ดูเหมือนว่าครั้งนี้บริษัทยักใหญ่ต่างก็ร่วมมือกันเพื่อกดดันให้ทางบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์นั้นต้องพบกับจุดจบแล้วละ!” เจียงหงรูที่ได้เห็นข้อมูลจากผู้ช่วยของเขาก็ได้พูดด้วยอารมณ์เห็นใจเล็กน้อย
ต้องบอกว่าในบ็อกซ์ออฟฟิศนั้นถึงเขาจะเป็นผู้กำกับที่โด่งดังแค่ไหน เขาก็จำเป็นที่จะต้องตามน้ำไปกับบริษัทยักใหญ่อยู่ดี
“ต้องถือว่าเรายังโชคดีที่ฟังต้นสังกัดของเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราเองก็คงต้องประสบกับความสูญเสียอย่างบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อย่างแน่นอน ” ผู้ช่วยของเจียงหงรูได้พูดขึ้นมา
แต่เขาก็ถูกขัดด้วยนักเรียนของเจียงหงรู่ที่อยู่ด้านข้างว่า : “อาจารย์ครับ! ทำไม่ทางบริษัทยักใหญ่เหล่านี้ถึงได้รวมมือกันเพื่อที่จะบีบให้บริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ยอมแพ้ละครับ? “
“ฮ่าฮ่า!” เจียงหงรูที่ได้ฟังนักเรียนของเขาถามแบบนั้นก็หัวเราะออกมา: “นั้นก็เพราะทุกบริษัทในเครือของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นแข็งแกร่งเกิดไปนะสิ!”
“ แข็งแกร่งเกินไป!” ผู้ช่วยที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงสีหน้างงงวยออกมา
เจียงหงรูได้อธิบายเพิ่มว่า : “นายสามารถดูตัวอย่างได้จากอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ พวกนั้นสามารถผลิตโทรศัพท์ที่สามารถทำให้บริษัทยักใหญ่ที่สุดในโลกอย่างบริษัทซัมซุงและบริษัทแอปเปิ้ล ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองได้… ถ้านายยังไม่เชื่อ! งั้นฉันจะบอกให้อีกว่าผลิตภัณฑ์โฮมสมาร์ทที่เป็นอันดับหนึ่งไปทั่วโลกตอนนี้อย่างบริษัทธันเดอร์ สตอร์ม นั้นก็เป็นบริษัทในเครื่องของพวกนั้น … “
“เพราะในทุกสาขาที่บริษัลู่เทคโนโลยีได้ก้าวขาเข้าไปนั้น พวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำของอุสาหกรรมนั้นได้เสมอ ดังนั้นมันก็ไม่ใช้เรื่องแปลกที่ครั้งนี้เมื่อบริษัทลู่ประกาศว่าจะเข้ามาสู่วงการภาพยนตร์ จะมีบริษัทยักใหญ่ในวงการมากมายที่รวมมือกดดันแบบนี้!”
หลังจากที่เจียงหงรูได้อธิบายจบ ผู้ช่วยและนักเรียนของเขาก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา : “สรุปแล้วมันก็เป็นแบบนี้! ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกนั้นจะน่ากลัวแบบนี้!”
……
ในวันที่ 19 ตุลาคม สำหรับคนทั่วไปถือว่าเป็นวันแรกของการทำงานหลังจากที่พวกเขาได้หยุดยาวในวันชาติไปแล้ว และก็ถือว่าวันนี้เป็นวันที่ยุ้งกับการเคลียงานที่คงค้างตั้งแต่ก่อนวันชาติ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หนังที่เข้าฉายต่อหลังจากวันชาตินั้นจะไม่ได้รับความสนใจมากนัก
ภาพยนตร์สามมิติเรื่องแรกของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อย่างเรื่อง “เกมล่าล้างจักวาล” ที่ได้รับการดัดแปลงมากจาหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์-ไซไฟเองก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
และสิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีก็คือ มีแฟนคลับจากเกมสามก๊กได้เดินทางมาซื้อตั๋วหนังเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากมายอย่างวันชาติ แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ดีอย่างมากสำหรับการเปิดฉายวันแรกอย่างเป็นทางการของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
ในกลุ่มที่ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลเกมสามก๊ก มีคนที่ใช้ชื่อไอดีว่า “หมีน้อย” เขาได้โชว์รูปตั๋วหนังสองใบสำหรับ “เกมล่าล้างจักวาน” และมีข้อความใต้รูปว่า : “ฮ่าฮ่า! วันนี้ฉันได้มาดูหนังกับพี่สาวละ?”
ใครบางคนที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดดูถูกทันที: “คุณเป็นคนโง่! ฉันจะบอกว่ามันเป็นการเสียเงินไปอย่างไม่มีประโยชน์! ทำไมนะเหรอ! นั้นก็เพราะว่าหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายวิทยาศาสตร์-ไซไฟนั้นมันน่าเบื่อยังไงละ!?”
สาวน้อยน่ารัก: “อย่าไปสนใจเม้นบนเลย! ตอนนี้ฉันเองก็ซื้อตั๋วมาแล้วเช่นกัน”
เจ้าของที่: “ฉันก็อยากจะไปดูเช่นกัน แต่ฉันไม่มีเวลาไปดูมันนะสิ! ถ้าใครไปดูแล้วก็มาบอกประสบการณ์ที่เจอด้วยนะ”
ชายเอ: “ฉันเข้าไปเช็ดหนังมาแล้ว! มันไม่มีรอบหนังที่จะเข้าฉายในโรงหนังใกล้บ้านฉัน! ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องนั่งรถถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะไปที่โรงหนังที่มีรอบฉาย”
คนที่คุณก็รัก : “ฉันจะไปหาแฟนของฉันในสัปดาห์หน้า และช่วงเวลานั้นฉันก็จะพาแฟนของฉันดูด้วย “
เสี่ยวซานโถวและน้องสาวของเขาได้นัดกลุ่มเพื่อนๆของเขาไปดูหนังเรื่องเกมล่าล้างจักวาล
สภาพของโรงหนังในเวลานี้ช่างแตกต่างจากวันชาติอย่างสิ้นเชิง
ไม่จำเป็นต้องต่อคิว เนื่องจากปริมาณคนที่ต้องการมาดูหนังนั้นได้ลงลงจำนวนมาก ดังนั้นในเช้านี้จึงมีช่องซื้อตั๋วที่ว่างจำนวนมาก
เขาและน้องสาวของเขาได้เข้ามายังห้องสำหรับฉายหนังสามมิติที่ติดตั้งตัวอุปกรณ์ของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เป็นครั้งแรก ก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากห้องดูหนังปกติที่พวกเขาเคยใช้อย่างมาก มันไม่ได้มีหน้าจอบนอัฒจันทร์สำหรับฉายหนัง แต่ทั้งห้องกับมีเพียงผนังสีขาวและพื้นที่ทาสีเพื่อสะท้อนแสงเท่านั้น
น้องสาวที่มาด้วยกันได้ถามขึ้นว่า: “พี่! หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่ดีจริงเหรอ! ทำไมเราถึงไม่กลับไปเล่นเกมสามก๊กที่ร้านเกมละ?”
เห็นได้ชัดว่าน้องสาวของเขานั้นไม่มีความสนใจเกี่ยวกับหนังแนววิทยาศาสตร์-ไซไฟเลย
เขาที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย : “พี่รับประกันว่าน้องจะต้องตื่นเต้นกับมันอย่างแน่นอน! ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่พี่ว่า พี่จะพาน้องไปเล่นเกมสามก๊กทั้งวันเลยดีไหม!”
“ พี่พูดจริงเหรอ?” น้องสาวของเขาได้พูดด้วยความประหลาดใจ “ ดี! พี่สัญญาณแล้วนะ”
หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนเข้ามายังห้องมากขึ้น และก่อนที่จะถึงเวลาที่ฉายหนังนั้นจำนวนตั๋วที่ถูกซื้อไปนั้นก็มีมากถึง 80% นี้เป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับหนังที่เป็นแนววิทยาศาสตร์-ไซไฟ
ในที่สุดหนังก็เริ่มขึ้น!
ทั้งห้องได้มืดลงทันที ก่อนที่จะมีริบบิ้นสีฟ้า ริบบิ้นสีแดง ก่อตัวขึ้นจากอากาศ และหลังจากนั้นก็ตามด้วยชื่อของบริษัทที่ผลิตหนังอย่างบริษัทเรทฟิล์ม ที่เป็นบริษัทลูกของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ปรากฏขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชมได้เห็นคำว่า “บริษัทเรทฟิล์ม” ปรากฏขึ้นต่อหน้า เหตุการณ์นี้มันเป็นอะไรที่ทำให้พวกเรารู้สึกแปลกตาอย่างมาก
และหลังจากที่ชื่อบริษัทหายไปนั้น ก็ปรากฏเมืองในโลกอนาคตขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะเป็นตึกระฟ้า ต้นไม้ที่แปลกตา หรือไม่ก็ยานบินรูปร่างต่างๆที่กำลังขับอยู่บนท้องฟ้า
ผู้ชมที่เห็นภาพนี้ต่างก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมามากนัก เพราะเรื่องพวกนี้พวกเขาก็เคยเห็นมาบ้างจากหนังแนวโลกอนาคตเรื่องอื่น แต่เมื่อฉากต่อไปปรากฏขึ้นมาก็ทำให้ผู้ชมต่างก็ลบความรู้สึกก่อนหน้านี้ไปทันทีและแทนทีด้วยความตื่นเต้น
เพราะพวกเขานั้นรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้จริงๆ ไม่ว่าพวกเขาจะจับอะไรในหนัง มันก็เหมือนกับว่าสิ่งนั้นเป็นของจริง
“ ว้าว! นี่เป็นหนังสามมิติจริงเหรอ!” มีคนกระซิบกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆของเขา
เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างของเซียวซานโถวก็พูดด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น: “มันน่าสนใจนิดหน่อย”
น้องสาวตัวน้อยของเขาเองก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า: “เกิดอะไรขึ้น! ทำไมหนูถึงสามารถจับสิ่งของในหนังได้ด้วยละ? แล้วนั้นอะไรนะ! มนุษย์ต่างดาวไหม?… “
“เพื่อน! นายช่วยให้น้องนายพูดเบาลงหน่อยได้ไหม?” มีคนพูดเตือนเซียวซานโถวขึ้นมา
“พระเจ้า! มันเป็นอะไรที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
“มันเป็นอะไรที่บ้ามาก!”