ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 760 : เขตดาวโบไลด์ – ทำเงิน

ตอนที่ 760 : เขตดาวโบไลด์ - ทำเงิน

ตอนที่ 760 : เขตดาวโบไลด์ – ทำเงิน

“ไม่ใช่ว่าเราไม่มี แต่มันมีไม่มาก ฉันมีไม่ถึง 2,000 ก้อนด้วยซ้ำ” โม่ฟูพูดจบก็ดึงเอาผลึกไฟกว่า 1,500 ก้อนออกมากอง

“งั้นก็ถือว่าเป็น 2,000 ก้อนก็แล้วกัน นี่ยาฟื้นฟู 2 ขวด” หวังเย่าพูดขึ้น “แม้ว่ามันจะไม่ทำให้แขนขาที่ขาดงอกออกมาใหม่ได้ แต่ก็สามารถรักษาบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว” หวังเย่าพูดขึ้นและส่งยา 2 ขวดให้กับโม่ฟู

โม่ฟูรีบรับยาไปด้วยสีหน้ายินดีราวกับเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ เฟิงหรงและเฉิงฉีเห็นแบบนั้นก็พากันเอาผลึกไฟของตัวเองออกมาแลก แต่สองคนนี้มีผลึกไฟรวมกันไม่ถึง 2,000 ก้อน ดังนั้นจึงได้ยาไปคนละขวด ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พอใจกันอย่างมาก

ตอนนั้นกูเฉิงจุนก็ได้มายืนอยู่ข้าง ๆ หวังเย่า แล้วมองไปที่คนอื่น ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “น้องเย่า นายมั่นใจนะว่าผลึกไฟพันก้อนต่อยา 1 ขวด ? ”

“หือ ? นายมีงานอดิเรกเป็นการเก็บหินพวกนี้รึไง ? ” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ

“ฉันไม่ได้มีงานอดิเรกแบบนั้น แต่เพราะพี่สะใภ้ของฉันชอบมันมาก ดังนั้นฉันจึงตั้งใจเก็บมันไปให้เธอ แค่ว่าฉันยังไม่ได้เอามันให้เธอแค่นั้นเอง” กูเฉิงจุนพูดจบก็เอาผลึกไฟที่มีทั้งหมดออกมา

แกร๊ก…

เรือนี้ยาวกว่า 10 เมตร และมีหลายคนอยู่บนเรือ แต่ที่ดาดฟ้าเรือนี้กลับมีแต่ผลึกไฟจับจองพื้นที่เต็มไปหมด

หวังเย่ามองไปที่กองผลึกไฟตรงหน้าด้วยสีหน้าตะลึง เดาว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีสักแสนก้อน

นี่ไม่ต้องพูดถึงหวังเย่าเลย แม้แต่คนอื่น ๆ ก็ยังอึ้งกับผลึกไฟที่กูเฉิงจุนมี

เมื่อเห็นท่าทีของทุกคน กูเฉิงจุนก็พอใจอย่างมาก เขายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ มันมีไม่มากเท่าไหร่ แค่ 300,000 ก้อน นับ ๆ ดูแล้วก็แลกยาได้ 300 ขวด ฉันรู้ว่ายานั่นมีค่า ถ้านายมียาไม่มากพอ งั้นก็เอาไปแค่บางส่วนก็ได้ ส่วนที่เหลือหากมีโอกาสในอนาคตแล้วค่อยมาแลกกันใหม่”

หวังเย่าได้สติกลับมา และพอนับจำนวนผลึกไฟได้คร่าว ๆ มันมี 300,000 ก้อนจริง ๆ เขารีบเก็บผลึกไฟพวกนั้นแล้วสะบัดมือก่อนจะมีเสียงบางอย่างตกกระแทกกับพื้นดาดฟ้าของเรือ

“นี่ยา 300 ขวด ยาฟื้นฟู 50 ขวด, ยาเร่งการพัฒนา 50 ขวด, ยากระตุ้นร่างกาย 30 ขวด ..” หวังเย่าชี้ไปที่ยาตรงหน้าแล้วอธิบายผลของยาชนิดต่าง ๆ ให้กูเฉิงจุนฟัง

ยาเหล่านี้คือยาที่เขาฝึกปรุงขึ้นมา ยาที่เขาฝึกปรุงขึ้นมานั้นมีเกือบสิบชนิด

ครั้งนี้นอกจากหวังเย่าแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึงกับสิ่งที่เห็น พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมียาที่หายากมาปรากฏตรงหน้าพวกเขา ยาที่มีค่าเหล่านี้มีมากจนไม่ต่างอะไรจากสินค้าในร้านของชำ แม้ว่าหวังเย่าจะเป็นนักปรุงยาจริง ๆ แต่เขาคงไม่พกยาจำนวนมากกับตัวแบบนี้ไม่ใช่รึไง ?

“น้องเย่า…นายมั่นใจหรือว่าไม่ได้ไปขุดหลุมศพของคนอื่นมา ? ” กูเฉิงจุนเห็นยาเหล่านั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

หวังเย่าตบไหล่อีกฝ่ายแล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องกังวล ยาพวกนี้ฉันปรุงขึ้นมาเอง นี่แค่ยาทั่วไป อย่าใส่ใจอะไรเลย”

อาชีพนักปรุงยานั้นบอกได้ว่าเป็นอาชีพที่ทำเงินได้เร็ว แต่การจะเป็นนักปรุงยาได้นั้นไม่ใช่แค่ต้องมีพรสวรรค์ที่มากพอเท่านั้น แต่ยังต้องมีเงินคอยสนับสนุนด้วย โดยทั่วไปแล้วสำหรับนักปรุงยาทุกคน พวกเขาต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก และมันอาจจะทำให้ตระกูลเล็ก ๆ ล้มละลายได้เลย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงได้มีนักปรุงยาน้อยนัก แม้แต่ในเขตดาวโบไลด์ก็ยังมีนักปรุงยาแค่ไม่กี่คน มันเห็นได้ชัดว่าต้องใช้เงินมากแค่ไหนกับการฝึกนักปรุงยาที่เก่งกาจขึ้นมาสักคนหนึ่ง

หวังเย่าไม่ต่างอะไรจากคลังสมบัติเดินได้เลยในตอนนี้

เมื่อเห็นแบบนั้น กูเฉิงจุนก็วางใจและรีบเก็บยาเหล่านั้นไป

เมื่อเห็นท่าทีของกูเฉิงจุน โม่ฟูและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันอิจฉาขึ้นมา ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้แล้ว พวกเขาคงเก็บหินที่ไร้ค่าตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเกิดมาแล้ว

ยากว่า 300 ขวด !

ยาจำนวนนี้ เชื่อว่าแม้แต่รัฐก็ยังต้องตกใจ ทั้งเมืองปูหยางแม้แต่ในตระกูลชั้นนำก็ไม่อาจจะมียามากกว่าร้อยขวดได้

แม้แต่ยู่เหมยก็ยังมองกูเฉิงจุนด้วยท่าทีอิจฉา แต่เธอรู้ว่าแค่ได้ยามาก็ถือว่าน่าพอใจอย่างมากแล้ว

“ไม่ต้องสลดไป ยังไงซะเราก็ยังอยู่ด้วยกัน ถ้าพวกนายมีหินพวกนี้มากพอก็เอามาแลกกับฉันได้ตลอด สบายใจได้ ! ฉันยังเหลือยาอีกเยอะ ! ” หวังเย่าพูดขึ้น

หวังเย่าไม่กังวลว่าคนเหล่านี้จะฆ่าเขาเพื่อขโมยยา เพราะนักปรุงยาคือตัวตนที่มีค่าสูงส่งในทุกอาชีพ

ไม่มีตระกูลหรือกองกำลังไหนที่คิดจะเสี่ยงในการฆ่านักปรุงยา

“น้องเย่า หากนายมีอะไรให้ฉันช่วยในอนาคตก็บอกมาได้เลย ฉันจะช่วยเต็มที่ ! ” กูเฉิงจุนพูดขึ้นมา

หวังเย่าโบกมือและพูดขึ้น “ แค่ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ฉันก็พอใจแล้ว”

“น้องเย่าสบายใจได้ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เมืองปูหยาง แต่เมืองอื่น ๆ ก็ส่งผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งออกมาด้วย ภารกิจนี้ต้องสำเร็จแน่ ” โม่ฟูพูดขึ้น

“ใช่ นายไม่ต้องกังวล นายเป็นนักปรุงยา ยังไงซะเราก็ไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับนายหรอก ในโลกนี้ไม่มีนักปรุงยามามากกว่าหมื่นปีแล้ว นายคือคนที่ทำให้เส้นทางการปรุงยากลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง ” ยู่เหมยพูดขึ้น

หวังเย่าส่ายหน้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าการทำภารกิจครั้งนี้ไม่ว่าจะสำเร็จรึไม่นั้น สุดท้ายเขาก็คงไม่ได้พบกับคนพวกนี้อีก

หลายวันต่อมาเพราะการแลกเปลี่ยนยากัน จึงทำให้หวังเย่าสนิทกับคนอื่น ๆ มากขึ้นไปด้วย

มันทำให้เขาสบายใจขึ้นมาอย่างมาก ยังไงซะก็ไม่มีใครอยากอยู่กับคนแปลกหน้าไปตลอดหรอก หลังจากที่ทำการแลกเปลี่ยนกับทุกคน หวังเย่าก็ได้ใช้ผลึกไฟที่ได้มาในการบ่มเพาะ แต่เขาอธิบายกับคนอื่น ๆ ว่านี่คือวิธีการบ่มเพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา แต่เขาไม่ได้บอกความจริงกับคนเหล่านี้

คนอื่น ๆ เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนยากับหวังเย่าต่อ พวกเขาก็ได้ออกเดินทางฆ่าอสูรสูบเลือดไปจำนวนมาก

“ตรงหน้าเป็นเขตภูเขาบาซู ระวังตัวกันด้วย” โม่ฟูพูดขึ้น

กว่าครึ่งเดือนหลังจากที่เดินทางออกมาจากเมืองปูหยาง สุดท้ายพวกเขาก็ได้เดินทางมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ จนตอนนี้ก็พอมองเห็นภูเขาบาซูบ้างแล้ว มันไม่เหมือนกับที่ผ่านมา ที่นี่เป็นอาณาเขตของอสูรสูบเลือดของจริง

ที่นี่อยู่ในการปกครองของอสูรสูบเลือด ทุกเมืองที่นี่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกมัน

“ไม่ต้องกังวลไป นี่ก็แค่ชายแดน พวกระดับสูงยังไม่โผล่มาหรอก ตราบใดที่ฉันเก็บหินได้อีกร้อยก้อน ฉันก็จะมีหินกว่า 5,000 ก้อนแลกยาได้ 5 ขวด” กูเฉิงจุนพูดขึ้นมา

“ฉันได้เกือบ 6,000 ก้อนแล้ว แต่อสูรที่นี่รับมือยากขึ้นเรื่อย ๆ เราต้องระวังตัวกันเอาไว้” เฟิงหรงพูดขึ้นมา

ระหว่างนี้พวกเขาก็เก็บผลึกไฟได้มากพอและนำไปแลกยากับหวังเย่าอยู่ตลอด

เดาว่าระหว่างทางที่พวกเขามานี้อสูรสูบเลือดคงโดนฆ่าไปหลายหมื่นตัวแล้ว มันอาจจะฟังดูเกินจริง แต่อสูรเหล่านี้เลเวลแค่ 120 ไม่ก็มากกว่านั้นเล็กน้อย พวกเขาพบมันกลุ่มละ 200-300 ตัว จำนวนอสูรแบบนั้นสำหรับคนที่เลเวล 140 แล้วจัดการได้ไม่ยากเลย ปัญหามันก็แค่ทำให้เสียเวลาเท่านั้น

ด้วยผลึกไฟที่มากพอ หวังเย่าก็ก้าวหน้าขึ้นมาอย่างมาก ภายใต้การดูดซับผลึกไฟเหล่านี้ก็ทำให้ร่างกายของหวังเย่า แข็งแกร่งขึ้นเท่ากับการฝึกฝนมาหลายปี

ความเร็วในการพัฒนาแบบนี้ แม้แต่ตัวหวังเย่าเองก็ต้องแปลกใจ ถ้าคนอื่น ๆ เห็นคงต้องแปลกใจอย่างมาก และเป็นเพราะมีหลายคนอยู่ที่นี่ด้วย เขาจึงไม่อาจจะใช้มิติเร่งเวลาได้ ไม่งั้นแล้วผลของมันคงน่าตกใจกว่านี้

โม่ฟูได้ยินคำพูดของกูเฉิงฉีและเฟิงหรงก็คิ้วขมวด ก่อนจะพูดขึ้น “เราไม่ได้มาทำภารกิจทั่วไป อย่าประมาทไป ตอนนี้เราเข้าใกล้รังของมันแล้ว เรื่องหินนี่ค่อยเก็บทีหลังก็ได้”

โม่ฟูไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เขาใจเย็นและมีเหตุผลอยู่ตลอด แม้ว่าจะต้องการยามากแค่ไหน แต่ก็ยังควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ได้

กูเฉิงจุนไม่ได้คัดค้านอะไร ยานี้สำหรับเขาก็ถือว่าได้มามากแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อคิดถึงยาที่ได้มา แม้แต่ตอนฝันเขาก็ยังยิ้มอยู่เลย

หวังเย่าและคนอื่น ๆ ได้เดินทางออกมาจากห้องโถง ก่อนจะเดินไปที่ปลายเรือ เมื่อมองลงไปด้านล่างก็พบว่าฉากด้านล่างได้เปลี่ยนไปอย่างมาก

ถ้าฉากของเขตหนานจิงนั้นดูมีชีวิตชีวาแล้ว งั้นที่นี่ก็ดูเป็นพื้นที่หายนะ มันไม่มีชีวิตใด ๆ อยู่เลย

ที่นี่ไม่มีแม้แต่ป่า มีแต่พื้นดินสีแดง ขนาดแม่น้ำก็แห้งขอดไปด้วย

“ที่นี่โดนยึดไว้โดยกองทัพอสูรสูบเลือดงั้นหรือ ? ไม่แปลกเลยที่ผู้คนจะเห็นว่าพวกมันเป็นศัตรู เพราะไม่ว่าพวกมันจะไปที่ไหน ที่นั่นก็จะสูญสิ้นชีวิต” หวังเย่าพึมพำในใจ

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset