(WN)เจ้าหญิงโรงเรียนผู้ที่เผยด้านที่น่าอายให้ผมเพียงคนเดียว 4 เจ้าหญิงที่กำลังถ่ายเซลฟี่ในห้องเรียนที่ว่างเปล่าหลังเลิกเรียน

ตอนที่ 4 เจ้าหญิงที่กำลังถ่ายเซลฟี่ในห้องเรียนที่ว่างเปล่าหลังเลิกเรียน

「เฮ้อ… หดหู่ว่ะ」

 

ผมได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากห้องพักครู ผมพยายามจะไม่สนใจมันและเดินไปตามโถงทางเดินและผมจะกลับบ้านเลยก็ได้ แต่ผมรู้สึกอยากเปลี่ยนบรรยากาศมากกว่า จึงมาเดินเล่นเปลี่ยนอารมณ์สักหน่อย

 

ตอนนี้ใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้ว แต่เสียงของการทำกิจกรรมชมรมที่ดังมาจากสนามหญ้ายังดังอยู่เลย แต่ในในโรงเรียนกลับเงียบสงบ และต่างจากตอนกลางวันโดยสิ้นเชิง

 

ผมเดินในทางตรงข้ามกับทางที่จะเดินไปที่ห้องเรียนเพราะคิดว่ามันเงียบเกินไป

 

โรงเรียนมัธยมปลายกิงกะ ที่มีการเปลี่ยนชื่ออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เป็นโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและก่อตั้งมาตั้งแต่ 100 ปีก่อน

 

ยังไงก็ตาม ถึงจะมีการต่อเติมและปรับปรุงหลายครั้ง และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีการสร้างอาคารเรียนใหม่เสร็จ ถึงจะยังรู้สึกไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ แต่บางส่วนที่ยังคงเก่าก็ยังคงเหลืออยู่ และมันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าปีที่ระบุไว้ในบางจุดนั้นต่างออกไป

 

「บรรยากาศช่วงพลบค่ำนี่ดีจริง ๆ 」
 

เนื่องจากมันตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับสนามกีฬา เสียงเลยค่อนข้างเา และเนื่องจากหลอดไฟไม่ใช่แบบ LED แต่เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ เสียงหึ่งๆ จึงดังแว่วเข้าหูจนเป็นเสียงที่ไม่ค่อยน่าฟัง เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว มันแทบจะเหมือนบ้านผีสิงเลย

 

เมื่อเวลาผ่านไปเกินหนึ่งปีนับตั้งแต่เรียนที่โรงเรียนนี้ ผมได้เดินผ่านทางเดินนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ยังคงรู้สึกเหมือนกับมาครั้งแรก ผมเลยเดินไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย

 

ผมไม่ได้กลัวเลย กลับกัน ความอยากรู้อยากเห็นกลับมีมากกว่า แม้กระทั่งในหัวผมตอนนี้ยังคิดว่าถ้าผมได้ถ่ายภาพในสถานที่แบบนี้จะเป็นยังไงนะ อะไรทำนองนั้น

 

「อยากลองไปถ่ายภาพที่โรงเรียนร้างสักครั้งนึงเหมือนกันแฮะ ถึงจะไม่น่ามีโอกาสได้ไปก็เถอะ」

 

ผมต้องใช้รถเพื่อเดินทางเพราะมีสัมพาระเยอะ แต่น่าเสียดายที่ผมไม่รู้จักใครเลยที่ขับรถเป็น ถึงจริง ๆ แล้วยุซึฮะซังจะมีรถและใบขับขี่ก็เถอะ แต่มันน่าจะไม่ค่อยเหมาะที่ผมจะเป็นคนนั่งแล้วยุซึฮะซังเป็นคนขับแหละนะ

 

「คงจะดีถ้าผมได้ถ่ายภาพยุซึฮะซังในชุดนักเรียนได้ แต่ถึงมันจะเป็นไปไม่ค่อยได้ก็เถอะนะ」

 

ยูซึฮะซังไม่ใช่คนที่ขี้อาย แต่เธอก็เป็นคนที่ติดบ้านอยู่หน่อย ๆ เหมือนกันแฮะ

 

ผมเลิกคิดเรื่องต่าง ๆ และเดินไปตามทางโดยคิดว่าจะหาโอกาสชวนคอสเพลย์เยอร์แนวหน้าของญี่ปุ่นมาถ่ายภาพที่โรงเรียนร้างยังไง

 

「───ฮืมมมม」

 

ผมได้ยินเสียงเบา ๆ จากห้องเรียนที่พึ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้

 

「…ไม่ได้คิดไปเองหรอกใช่ไหม」

 

ชั้นเรียนในตึกเก่าส่วนใหญ่จะใช้ในคาบเรียนที่ต้องเดินทาง ทำให้ไม่ควรใช้ในช่วงหลังเลิกเรียนยกเว้นเพื่อทำความสะอาด แต่ผมมั่นใจว่ามีคนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ

 

「คงไม่มีทางเป็นผีหรอกเนอะ」

 

ผมรู้สึกว่าเสียงของผมสั่น ผมเลยหยุดเดินแล้วกลับไปที่ประตูด้วยความระมัดระวัง ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็เข้าใจได้ แต่ผีมันมีตอนเย็นด้วยหรอ?

 

「ฮืมมมมม… รูปที่ถ่ายได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เลยแฮะ」

 

ไม่ต้องฟังให้ดีก็รู้ว่าเสียงนักเรียนหญิงที่พึมพำเบา ๆ ออกมาจากประตูที่แง้มอยู่เล็กน้อย เป็นเสียงหวานไพเราะที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนเลย…

 

แต่รู้ว่าเสียง ก็คงต้องขอลอง! ผมกลั้นหายใจแล้วเดินไปที่ประตูเหมือนแมลงเม่าที่บินเข้าหากองไฟ

 

แล้วผมก็มองเห็นเพื่อนร่วมชั้นที่กำลังพยายามจะถ่ายรูปเซลฟี่ของตัวเอง แต่ในแบบที่วาบหวิวหน่อย ๆ

 

「เฮ้อ… จะถ่ายรูปยังไงให้สวยนะ」

 

นักเรียนหญิงที่กำลังถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายพร้อมกับจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนอยู่นั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจนไม่มีใครในโรงเรียนนี้ไม่รู้จัก เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แม้แต่เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียนก็ยังสามารถจำหน้าและชื่อได้ และเมื่อเช้านี้ก็เพิ่งพูดคุยกันกับเพื่อนร่วมชั้นคนนั้น

 

「ทำไมชิโนมิยะซังถึงทำแบบนี้ล่ะ…?」

 

ผมพึมพำถึงชื่อเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งข้าง ๆ ผม และกลืนคำถามที่กำลังเข้ามาในหัวไปให้หมด

 

รูปร่างที่สมบูรณ์แบบจนทำให้ทุกคนทั้งชายและหญิงต่างก็อิจฉา แม้แต่คนดังยังต้องหนีไปด้วยความอาย นิยมที่ความทำให้ทุกคนล้อมรอบเธออยู่เสมอ เธอมีความสามารถในการเข้ากับทุกคนอย่างไม่มีการแบ่งแยก และยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ถ้ามีผู้หญิงที่เป็นเหมือนนางฟ้าหรือผู้หญิงที่บริสุทธิ์ในความหมายทางศาสนาในโลกนี้ คงไม่มีใครไม่เห็นด้วยว่าคนนั้นคงเป็นเธอ พูดจริง ๆ นะ คงไม่มีใครที่ไม่ชอบเธอเลยล่ะ

 

เธอเปิดเผยผิวในห้องเรียนที่ไม่มีคน? ตอนนี้แมวที่มีเครื่องหมายคำถามกำลังลอยอยู่ในความคิดผม

 

「ไม่เข้าใจจริง ๆ เลยนะ…」

 

เลิกคิดอะไรแปลก ๆ ได้แล้ว! ผมบอกตัวเองให้ทำเป็นไม่เห็นอะไรเลยแล้วรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

「หรือฉันควรจะปลดกระดุมเพิ่มอีกหน่อยแล้วเลิกกระโปรงขึ้นมาให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้ดีนะ?」

 

แย่แล้ว ผมเดินไม่ไปเหมือนเท้ามันติดกับพื้น ทั้ง ๆ ที่ผมอยากหนี แต่เหมือนสัญชาตญาณของผมมันจะบอกให้อยู่

 

ในขณะที่นั่งอยู่บนโต๊ะที่ผมใช้เรียนประจำ ผมรู้สึกสับสนและตื่นเต้นกับเพื่อนร่วมชั้นที่ทำท่าทางยั่วยวนจนเผยให้เห็นผิวและชุดชั้นในของเธอ

 

「มุมกล้องสมาร์ทโฟน…อึ๋ย…การถ่ายเซลฟี่นี่มันยากจริงๆ…」

 

ผมตลกที่เธอปรับมุมกล้องอย่างน่ารัก ผมอยากจะแนะนำให้เธอหาอุปกรณ์ช่วยเซลฟี่มาแก้ปัญหา แต่ถ้าผมบอก เธอก็จะจับได้และมันจะเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ…

 

「ไม่ดีเลย…」

 

เอาล่ะ เรามาลบทุกอย่างที่เห็นในวันนี้ออกจากความทรงจำดีกว่า และผมคิดจะออกไปจากที่นี่ แต่ผมกลับเห็นภาพของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาในหน้าต่างซ้อนทับกับความเศร้าสร้อยของชิโนมิยะ และในเวลานั้นเองได้มีกระแสไฟฟ้าวิ่งแล่นผ่านหัวของผมไป

 

ผมรู้ว่ามันผิด ผมเข้าใจดีว่าสิ่งที่ผมทำมันจะกลายเป็นอาชญากรรมได้ถ้าผิดพลาดแค่นิดเดียว และมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดเดียว แต่สัญชาติญาณของผมกลับบอกให้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้

 

ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้เอาอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ใช้ประจำมาด้วย แต่ผมก็หยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดกล้อง หัวใจของผมเต้นแรงมากจนมันเหมือนกับว่าจะเต้นออกมาจากปากผมในตอนนี้ และผมหายใจติดขัดเล็กน้อย อีกอย่างคือมือผมสั่น ผมพึ่งเคยเจอประสบการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกทั้ง ๆ ที่เคยถ่ายรูปคอสเพลย์เยอร์ที่สวยมาก ๆ

 

「…เฮ้อ…」

 

ผมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำสมาธิโดยไม่ให้เธอเห็น แล้ววางโทรศัพท์ไว้ใกล้ช่องว่างระหว่างประตู

 

ในขณะที่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น ภาพชิโนมิยะที่ปรากฎบนหน้าจอได้คลายกระดุมเม็ดที่สองของเสื้อนักเรียนของเธอ ทำให้เห็นหน้าอกของเธอ แนวกระดูกไหปลาร้าและเนินอกของเธอน่าหลงไหลมาก ด้วยผิวที่ขาวบริสุทธิ์และนุ่มนวลของเธอ หน้าอกของเธอดูอ่อนนุ่ม บอกได้เลยถึงจะไม่เคยได้สัมผัส ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นในที่เรียบง่าย

 

สัญชาติญาณได้กระซิบในสมองของฉันว่า อย่าพลาดช่วงเวลามหัศจรรย์ที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ ผมจึงตั้งสมาธิทุกอย่างและรอคอยเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อ

 

「ฮ่ะฮ่ะ ต้องเป็นเซียนจริง ๆ ถึงจะทำได้สินะ…」

 

ชิโนมิยะซังพึมพำแล้วดูถูกตัวเองโดยยักไหล่ ชุดเครื่องแบบและชั้นในของเธอยังเปิดอยู่ เสียงถอนหายใจและท่าทางที่่บ่งบอกถึงความเบื่อหน่าย และห้องเรียนว่างเปล่าที่ไม่มีใครอยู่ในนั้นเลยนอกจากเธอคนนั้น องค์ประกอบเหล่านี้ผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับรูปภาพของชิโนมิยะ ริโนอะ ที่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นมาก่อน จนต้องถ่ายรูปเก็บไว้

 

「…ใครน่ะ」

 

「อ่า…」

 

เสียงที่ดูเหมือนตกใจ ไม่ใช่ผ่านกล้อง แต่เป็นการสบตากันตรงๆ ถึงแม้จะพยายามกลั้นหายใจก็ตาม แต่ถ้าได้ยินเสียง ‘คลิก’ ขึ้นมา ใครก็ต้องสังเกตเห็นแน่ และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่มันดังติดต่อกันหลายครั้ง ยิ่งทำให้รู้สึกชัดเจนยิ่งขึ้น

 

แต่เรื่องแบบนั้นไม่สำคัญตอนนี้ ยังไงก็ตาม ผมต้องออกไปจากที่นี่ก่อน ผมคิดว่าจะขอโทษด้วยการคุกเข่าแทนที่จะวิ่งหนี แต่จะทำแบบนั้นก็ไม่ได้เพราะก็แอบถ่ายไปแล้ว ผมจึงใช้ไม้ตาย ก้มหัวและถามว่า “ขอถ่ายรูปเธอหน่อยได้ไหม”

 

มาคิดอีกทีก็เสียดายอยู่นะ แต่ไม่ทันแล้ว ผมรีบวิ่งชิ่งไปที่ประตูโรงเรียนเหมือนกับเสือชีตาร์ที่กำลังวิ่งอยู่บนทุ่งหญ้าสะวันน่า

 

ผมอยากกลับไปที่ห้องเรียนเพื่อไปเอากระเป๋า แต่ถ้ากลับไปแล้วก็จะเจอเธออีก เอาเป็นว่าวันนี้ผมยอมแพ้ก่อนดีกว่า [TLN: ไม่มีวันนี้ก็มีวันหน้าล่ะวะเพื่อนเอ้ย]

 

หลังจากวิ่งออกมา ผมก็นั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านโดยไม่ได้รับประทานอาหารเย็นและทำงานตัดต่อภาพถ่ายไประหว่างทาง

 

ทั้งหมดนี้ เพื่อที่จะลบภาพของชิโนมิยะ ริโนอะ ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของผม

 

และแล้ว──

 

「…ทำมันลงไปแล้ว」

 

พระอาทิตย์ที่ควรจะตก กลับกลายเป็นพระอาทิตย์ขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัวและมีแสงสาดส่องมาอย่างเจิดจ้า ผมกลับมามีสติและถอนหายใจอย่างหนัก ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะหมกมุ่นกับงานได้ขนาดนี้และทำจนเสร็จได้

 

「นอนอีกสักหน่อยดีไหมนะ ไม่ล่ะ อาบน้ำดีกว่า」

 

ผมลุกจากเก้าอี้ หมุนไหล่เพื่อคลายความตึงเครียดและเมื่อหมุนศรีษะ จะได้ยินเสียงของกระดูกที่น่าพอใจ

 

ถ้าพูดตามตรง ผมก็อยากหาข้ออ้างเพื่อไม่ไปโรงเรียนสักวัน แต่ถ้ายังทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องเรียนก็ทำไม่ได้หรอก

 

แล้วอีกอย่าง ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สบตากับชิโนมิยะซัง ถ้าเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งข้างๆ ลืมกระเป๋าไว้ที่โรงเรียนแล้วกลับบ้านไป พอวันถัดไปเขามาโรงเรียนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนที่ไร้ความรู้สึกจนเกินไป คงจะสันนิษฐานได้ว่าผมเป็นคนทำแน่

 

「ทางเลือกที่ดีที่สุดคือไปโรงเรียนโดยทำเป็นไม่รู้เรื่องสินะ…」

 

ผมถอนหายใจอย่างหนักออกมา ถ้าคิดให้ดีอาจจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ก็ได้ แต่น่าเศร้าที่สมองที่อ่อนล้าจากการจ้องคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งคืนจนหมดแรงนั้น คงคิดหาทางออกดีๆ ไม่ได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผมปล่อยให้ความสนใจหลุดไปแม้แต่น้อย ตอนนี้คงจะเหมือนหุ่นที่เส้นด้ายขาดจนความรู้สึกหลุดหายไปเลยก็ว่าได้

 

「ถ้าอาบน้ำแล้วดื่มเครื่องดื่มชูกำลังก็น่าจะพอมีแรงใช้ชีวิตไปได้อีกวันนึงล่ะนะ…」

 

ถ้าผมราดน้ำร้อนใส่หัวสักหน่อย ก็คงจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้างไม่น้อย และแม้ว่าพึ่งได้รับคำชมจากอาจารย์มิโกะว่า ‘เก่งจังที่ไม่งีบหลับแล้ว!’ แต่ถ้าผมงีบตลอดทั้งวันคงไม่ได้แค่โดนดุอย่างเดียวแน่

 

ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง พร้อมกับขยี้ตาที่เริ่มปวดจากการกะพริบบ่อยๆ แล้วก็เดินไปยังห้องน้ำ

 

───────────────────

ลองมาราธอนดูครับ แปลตั้งแต่ 2 ทุ่ม เจอกันอีกทีวันจันทร์ครับ ขอตัวไปวูบก่อน

(WN)เจ้าหญิงโรงเรียนผู้ที่เผยด้านที่น่าอายให้ผมเพียงคนเดียว

(WN)เจ้าหญิงโรงเรียนผู้ที่เผยด้านที่น่าอายให้ผมเพียงคนเดียว

Score 10
Status: Completed
คุณช่วยถ่ายรูปท่าทางที่น่าอายของฉันหน่อยได้ไหมคะ? วันหนึ่ง ตัวละครหลัก ทาคุมิ อันโนะ ซึ่งมีงานอดิเรกคือการถ่ายภาพ กำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนที่ว่างเปล่าหลังเลิกเรียน เมื่อชิโนมิยะ ริโนอะซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "เจ้าหญิงแห่งสถาบันกินกะ" ในเรื่องความเรียบร้อยและความงามของเธอ และเขาเห็นเธอถ่ายเซลฟี่ในท่าน่ารัก ๆ กับชุดนักเรียนที่เปิดเผยส่วนที่ลามก แม้ว่าทาคุมิจะคิดว่ามันผิด แต่เขาแอบถ่ายรูปรูปลักษณ์ที่ไร้เดียงสาของริโนอะไปซะแล้ว และริโนอะก็จับได้ แต่แทนที่จะประณามเขา ริโนอะกลับยื่นข้อเสนอว่า “อันโนะคุง...ช่วยถ่ายรูปฉันในท่าทางเขิน ๆ หน่อยได้ไหมคะ?” "...เธอว่ายังไงนะ?" ทาคุมิจึงตัดสินใจจัดเซสชั่นถ่ายภาพลับกับริโนอะ เธอเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มในห้องของทาคุมิ อาบน้ำในชุดว่ายในห้องน้ำ แล้วจึงไปที่บ้านของริโนอะ── เลิฟคอมเมดี้สุดระทึกกับเจ้าหญิงริโนอะที่เริ่มต้นจากรูปภาพรูปเดียว ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset