นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 48 ศิลาภูต

ตอนที่ 48 ศิลาภูต

 

       เมื่อพวกเราไปถึงกิลด์ มิเลียก็ออกมาต้อนรับทันที

       「โทยะซัง, เขารอคุณอยู่แล้วค่ะ ตามฉันมาเลย」

       เราตามมิเลียไปยังห้องส่วนตัว เธอเคาะประตูหนึ่งครั้งก่อนที่จะมีเสียงตอบรับจากข้างในให้เข้าไปได้ จากนั้นเธอก็เปิดประตู

 

       ภายในห้อง เอฟแลนด์นั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้ เรานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

 

       「ขอโทษที่ต้องเรียกพวกเธอมาแบบนี้」

       「ไม่เป็นไรครับ ไม่มีปัญหา」

       「ข้าจะพูดตรง ๆ เลย เมื่อวานข้าบอกพวกเขาเกี่ยวกับชุดเกราะนั้น และพวกเขาก็กดดันให้ข้าส่งตัวคนจากอาณาจักรลูเน็ตต์มาให้ แม้จะไม่ใช่คนในราชวงศ์ก็ตาม ถ้าข้าไม่ส่งตัวไป—พวกเขาจะใช้กำลัง… แล้วสองคนนั้นคือพวกเธอใช่ไหม?」

       สองสาวมีสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเอฟแลนด์ถาม

 

       「อย่างที่ผมบอกไปเมื่อวาน ผมจะไม่ส่งพวกเธอไป」

       เอฟแลนด์ยิ้มเล็กน้อย

       「……ไม่น่าแปลกใจที่นายจะพูดแบบนั้น—แต่ข้าอยากให้รู้นะว่าทั้งลอร์ดและหัวหน้ากิลด์ของเรากำลังวางแผนจะส่งกองกำลังมาจับตัวสองคนนั้น」

       「คุณแน่ใจนะครับที่จะบอกเรื่องนี้กับเรา?」

       「นี่เป็นเมืองที่น่าอยู่ก็จริง แต่เจ้าเมืองกับหัวหน้ากิลด์เป็นคู่หูที่ไม่มีทางกลับตัวกลับใจได้ และพวกเขายินดีจะขายพวกนายออกไปถ้ายังมีแรงกดดันจากต่างประเทศแบบนี้ นายเป็นคนที่สนุกที่ได้อยู่ด้วย และข้าก็ไม่อยากให้เราต้องกลายเป็นศัตรูกัน อีกอย่างข้าเองก็อยากปกป้องนักผจญภัยคนอื่น ๆ ด้วยถ้าเป็นไปได้」

 

       「……อย่างนั้นหรือครับ?」

       「นายจะตีความยังไงก็ได้ ทูตจากอาณาจักรเจเนอเรตยังอยู่ในเมือง ระวังตัวให้ดี แค่นั้นแหละที่ข้าจะบอก」

 

       ผมพยักหน้าและยื่นมือขวาไปหาเอฟแลนด์

       「ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ผมซาบซึ้งน้ำใจนี้จริง ๆ 」

       เอฟแลนด์ยิ้มให้ผมพร้อมกับจับมือแน่น ๆ

 

       เราลากลับจากกิลด์และเดินทางกลับคฤหาสน์

       「ดูเหมือนว่าเขาจะชอบคุณมากเลยนะคะ……?」

       「ใช่ ผมเป็นหนี้บุญคุณเขาเยอะเลย ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำขนาดนี้เพื่อพวกเรา」

       「เราคงต้องเตรียมตัวออกจากเมืองแล้วสินะคะ」

 

       เราพูดคุยเรื่องนี้ระหว่างทางกลับคฤหาสน์ เมื่อกลับถึงที่นั่น ผมใช้เวลาอยู่คนเดียวเพื่อคิดว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร

       ผมไม่ติดใจที่จะออกจากเมืองนี้ แต่ปัญหาคือ…

 

       ผมมองไปที่เฟอร์ริสที่ยืนอยู่ที่มุมห้อง

       เฟอร์ริสในฐานะวิญญาณประจำบ้าน ไม่สามารถออกจากบ้านที่เธออาศัยอยู่ได้

       —นั่นหมายความว่าผมต้องทิ้งเธอไว้ที่นี่งั้นหรือ?

       นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมสามารถตัดสินใจได้ในทันที

 

       ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ผมมองผ่านหน้าต่างและครุ่นคิดกับปัญหานี้ ปัญหาที่ผมไม่สามารถแก้ไข หรือพูดให้ถูกคือ ไม่กล้าที่จะทิ้งเธอเอาไว้

 

       「กลับมาแล้ว!」

       เสียงของนาตาลีดังก้องไปทั่วโถง ยืนยันว่าเธอกลับมาจากร้านแล้ว

       ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่?

       ผมถามตัวเองในใจ ขณะที่มองเธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

 

       「นาตาลี ผมมีคำถาม มีวิธีที่ทำให้วิญญาณประจำบ้านจะออกจากบ้านได้ไหม?」

       เธอขมวดคิ้ว เอียงหัวเล็กน้อย ดูเหมือนว่าผมจะถามคำถามที่ฟังดูงี่เง่าออกไป

       「แน่นอนว่ามีสิ แต่มีเงื่อนไขเดียว…… ทุกคนเขาก็รู้กันดี」

       「จริงหรือ? แล้วทำยังไง?」

       ผมลุกขึ้นจับไหล่นาตาลีด้วยความหวัง

       「โทยะ นายทำฉันเจ็บนะ! ชาร์รู้เรื่องนี้ดีกว่าฉันอีก ชาร์อธิบายให้เขาฟังหน่อยสิ」

 

       ชาร์ พยักหน้า

       「ท่านโทยะคะ การจะย้ายวิญญาณประจำบ้านต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าศิลาภูตค่ะ แต่ว่ามันถูกขุดพบได้น้อยมากค่ะ ในอาณาจักรลูเน็ตต์เองก็มีแค่สองชิ้น และถือว่าเป็นสมบัติของชาติ พวกเรานำมาใช้เพื่อปล่อยหรือยืมวิญญาณประจำบ้านให้กับพวกขุนนาง อีกอย่างมันถูกป้องกันเอาไว้อย่างเข้มงวดค่ะ」

       「—สมบัติของชาติสินะ แล้วเธอรู้ไหมว่าผมหามันได้จากที่ไหน?」

 

       พวกเธอส่ายหน้าด้วยความรู้สึกผิด

       「……ผมเข้าใจแล้ว……」

 

       นาตาลีเห็นผมทำหน้าเศร้า คล้ายกับนึกอะไรบางอย่างได้ เธอเลยลองถามขึ้นมา

       「โทยะ นายมีของเยอะแยะเก็บอยู่ในคลังมิติไม่ใช่เหรอ? นี่มันเวลาที่เหมาะจะดึงอะไรสักอย่างออกมาเซอร์ไพรส์อีกครั้งแล้วนะ」(เปลี่ยนชื่อโทยะเป็นโดราเอม่อนได้มะ)

       「……อืม? วิญญาณ? ภูต? บางทีผมอาจจะมีก็ได้มั้งนะ?」

 

       ผมลองค้นหาของในคลังมิติด้วยจิตนาการ

       「ดูเหมือนเจออะไรบางอย่างแล้ว……」

 

       ผมดึงสร้อยคอเส้นหนึ่งออกมาจากคลังมิติ

       ชื่อของมันคือ 「สร้อยคอศิลาภูต」 เป็นไอเทมที่ใช้สำหรับเข้าไปในดันเจี้ยนป่าภูติในเกม มันเป็นแค่ไอเทมสำหรับอนุญาตให้เข้าดันเจี้ยนได้เท่านั้น

       สร้อยคอนี้มีโซ่ที่ทำจากมิธริลพร้อมกับหินที่เปล่งแสงสีน้ำเงิน ซึ่งถูกหุ้มด้วยมิธริลอีกที

 

       「เฟอร์ริส เธออยู่ในสร้อยคอเส้นนี้ได้ไหม?」

       เฟอร์ริสมองดูสร้อยคออย่างพิจารณา

       「ถ้าหากโทยะสวมมันเอาไว้ อาจจะอยู่ได้……」

 

       ผมรีบสวม สร้อยคอศิลาภูตเอาไว้รอบคอของตัวเอง เฟอร์ริสเดินเข้าไปใกล้หินบนสร้อยคอ จากนั้นเธอก็แตะมัน ก่อนเธอจะถูกดูดเข้าไปข้างใน

       จากนั้นเธอก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในทันที

 

       「ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย ฉันรู้สึกถึงพลังเวทของโทยะอยู่ในหินนี้ มันอยู่สบายมากเลยค่ะ」

 

       ได้ยินแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะยกตัวนาตาลีขึ้นมากอดด้วยความดีใจ

       「นาตาลี เธอนี่มันอัจฉริยะจริง ๆ!」

       「นะ นี่นายกำลังทำอะไรน่ะ!?」

       เสียงของนาตาลีดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่น ใบหน้าของเธอแดงยิ่งกว่าแตงโมสุกเสียอีก

——————————————————————
สวัสดีครับนายน้ำพริกเอง วันนี้แถมให้ 1 ตอน  นั้นก็เพราะมีผู้สนับสนุนนั้นเอง ก็ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ

 

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset