หลังจากผ่านไปได้ประมาณเดือนนึง ผมก็เริ่มชินกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนอีกสี่คนในคฤหาสน์
ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ชาร์กับอัลเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย พวกเธอก็ไปลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยทันที เพราะมันสะดวกในการเข้าออกเมือง
ถึงแม้พวกเธอจะใส่เสื้อผ้าลำลองธรรมดา แต่ก็ยังดูโดดเด่นสะดุดตา เวลาที่เราเดินไปตามท้องถนน หรือในตอนที่พวกเธอไปลงทะเบียนที่กิลด์ ก็มีคนมาชวนเข้าปาร์ตี้ไม่หยุด
มิเลียที่เริ่มรำคาญกับการที่มีคนมาชวนไม่จบไม่สิ้นเลยแนะนำให้เราสร้างปาร์ตี้กันเอง เราก็กลายเป็นปาร์ตี้สามคนตามคำแนะนำของเธอ
ตอนนั้นเอง สายตาอาฆาตจากเหล่าผู้ชายในกิลด์ต่างก็พุ่งตรงมาที่ผม
……ทุกครั้งที่นึกถึง ผมก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเลยล่ะ
ส่วนนาตาลีงั้นเหรอถ้าให้พูดถึงก็ แม้ว่าจะเป็นคนที่อายุมากที่สุดในพวกเรา แต่เธอกลับเป็นคนที่ต้องดูแลมากที่สุด ก็ประมาณนี้แหละ
การมีบ้านที่เต็มไปด้วยความคึกคักอาจจะดีกับผมด้วยเหมือนกัน
สมัยที่ยังอยู่ญี่ปุ่น ผมใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แค่ระหว่างที่ทำงานกับบ้าน บ้านกับที่ทำงาน พอกลับถึงบ้านก็เล่นเกม นอน ตื่นทำงาน วนเวียนอยู่แบบนี้
แต่ตอนนี้ผมกลับสนุกไปกับการจิบชาและพูดคุยกันกับทั้งสามคน
「โทยะ! ฉันเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สุดใช่ไหม!? มากกว่าเด็กน้อยไร้เดียงสาสองคนนี้ใช่ไหม?!」
ผมเผลอพ่นชาดำออกมาจากปากโดยไม่ตั้งใจ
ถึงจะยิ้มฝืน ๆ แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรให้ชัดเจนนัก ประมาณว่าไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะคำพูดของนาตาลีนั้นเธอพูดออกมาพร้อมกับสีหน้าภาคภูมิใจ จะไปขัดก็กะไรอยู่
「คุณโทยะ! ฉันน่าจะเป็นคนที่มีเสน่ห์มากกว่าสิ! เมื่อเทียบกับโลลิเรียบ ๆ คนนี้!」
「ใครกันที่เธอว่าโลลิเรียบ ๆ!! อย่าให้ฉันเผาเขาเธอด้วยเวทมนตร์ของฉันนะ!」
「เอาล่ะ ใจเย็นก่อน……ท่านโทยะเองก็ดูจะลำบากใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน……」
「「หุบปากไปเลย ไม้เสียบผี!!」」
「เมื่อกี้พวกเธอพูดว่าอะไรนะ!」
ผ่านไปเดือนเดียว ชาร์ก็ยังเรียกผมเหมือนเดิมว่า “ท่านโทยะ” แต่กับอัล เธอเปลี่ยนมาเรียกผมว่า “คุณโทยะ” แทน
มันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ จากสีหน้าที่เคยดูเศร้าหมองก็กลับมาสดใสมากขึ้น
แต่แล้วตอนนั้นเองก็มีการเรียกตัวมาจากกิลด์
ที่กิลด์
「โทยะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มาที่นี่นะ เรื่องเกี่ยวกับเกราะที่นายเอามานั้น……」
เอลฟ์แลนด์พูดขึ้นขณะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผม
「ครับ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับมันเหรอครับ……?」
หลังจากที่ได้ยินคำตอบของผม เอลฟ์แลนด์ก็ทำหน้าเหมือนกลืนแมลงลงไป และーー
「ดูเหมือนว่าทูตจากอาณาจักรเจเนเรทจะมาพบกับท่านลอร์ด(เจ้าเมือง) พวกเขาขอให้ส่งตัวสมาชิกของราชวงศ์ทั้งสองคนกลับไปถ้าหากพบว่าพวกเขาหลบหนีมาที่นี่ คือแบบว่า……สองคนนั้นคือ……」
「ไม่น่าจะใช่……คนจากราชวงศ์นะครับ เพราะผมก็ถามนาตาลีเกี่ยวกับตัวตนของคุณหนูพวกนั้นเหมือนกัน แต่ถ้าสมมติว่าพวกเธอเป็นสมาชิกของราชวงศ์จริง ๆ ล่ะคุณจะทำยังไง?」
「ถ้าเป็นแบบนั้น……ก็คงต้องมีการพูดคุยระหว่างท่านลอร์ดกับหัวหน้ากิลด์ อาจจะมีการสร้างพันธมิตรกันกับจักรวรรดิลูเนตต์ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาณาจักรเจเนเรทจะรุกรานเรา……ที่แย่ที่สุดเลยก็คือ……」
เขาหยุดพูดแค่นั้น
「ーーผมไม่มีแผนที่จะส่งพวกเธอให้ใครทั้งนั้นครับ!!」
ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
นั่นคือสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้ว อย่างน้อยที่สุด ผมยอมรับว่าผมเริ่มรู้สึกดีกับพวกเธอทั้งสองคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ถ้าผมส่งพวกเธอกับไป ถึงแม้การใช้ชีวิตของผมก็อาจจะกลับไปสงบสุขเหมือนเดิมก็ได้ แต่ผมคงเสียใจที่ทำแบบนั้นในภายหลังแน่ ๆ
「งั้นเหรอ…… ข้าจะพยายามหาทางช่วยให้ได้เท่าที่ทำได้นะ แต่เจ้าก็ต้องระวังตัวเหมือนกัน เพราะมีความเป็นไปได้ที่แม้แต่หัวหน้ากิลด์หรือท่านลอร์ดเองก็อาจจะห่วงแต่ตัวเองในที่สุด」
「เข้าใจแล้วครับ ผมจะระวังตัว」
「สำหรับข้า ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายอยู่ที่เมืองนี้ต่อไป เพราะเจ้าคือนักผจญภัยที่ทำเงินให้กิลด์เรามากที่สุดยังไงล่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะปล่อยให้เจ้าไปที่อื่นล่ะนะ」
เอลฟ์แลนด์พูดพร้อมกับยิ้ม ผมเองก็ยิ้มตอบกลับไป
หลังจากออกมาจากกิลด์ ผมเดินไปตามถนนพร้อมกับคิดเรื่องที่คุยกัน
…..ผมน่าจะสำรองเสบียงไว้ในคลังมิติหน่อยดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
ตอนนั้นผมเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะกลับคฤหาสน์ไปยังตลาดเพื่อซื้อเสบียงเพิ่ม
หลังจากซื้อของเสร็จ ก็กลับมาที่คฤหาสน์ ตอนนั้นเองพระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว
「ผมกลับมาแล้ว」
เฟอร์ริสออกมาต้อนรับผมทันทีที่กลับถึงคฤหาสน์
「ยินดีต้อนรับกลับค่ะ โทยะ」
เฟอร์ริสเริ่มพูดคุยประโยคง่าย ๆ ได้เหมือนคนปกติ นาตาลีเองก็บอกว่า 「นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับฉันเลยนะ」 แต่ดูเธอก็สนุกกับการพูดคุยสบาย ๆ กับเฟอร์ริสเช่นกัน
เมื่อผมเดินเข้าห้องรับประทานอาหาร ก็พบกับภาพที่คุ้นตา สามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะตามปกติ
「กลับมาแล้วนะทุกคน」
「ยินดีต้อนรับกลับค่ะ ท่านโทยะ」
「คุณโทยะ ยินดีต้อนรับกลับนะ!」
「ฉันหิวแล้วน้าาาาา!」
ผมพยายามเมินประโยคสุดท้ายก่อนจะพูดว่า 「โอเค โอเค เดี๋ยวจะเริ่มทำอาหารแล้ว」 จากนั้นก็เดินเข้าครัว
ผมเริ่มเตรียมวัตถุดิบ ตัดเนื้อโอเกอร์เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เครื่องเทศ ไข่ สุดท้ายก็หั่นขนมปังเป็นชิ้นเล็ก ๆ
ผมอุ่นขนมปังด้านหนึ่งแล้วพลิกกลับด้าน จากนั้นเติมแอลกอฮอล์กับน้ำเล็กน้อย แล้วปิดฝาไว้ ระหว่างนั้นก็เตรียมสลัดโดยใช้ผักหลายชนิดที่หยิบออกมาจากคลังมิติ
「โอเค เสร็จแล้ว」
แฮมเบอร์เกอร์ สลัด และซุปขนมปังแบบดั้งเดิมถูกจัดลงบนโต๊ะอาหาร
「แฮมเบอร์เกอร์!! ของโปรดของฉัน!!」
ธงเล็ก ๆ ปักอยู่บนแฮมเบอร์เกอร์ของนาตาลี ผมเคยทำแบบนี้ให้เธอเป็นมุกขำ ๆ แต่ดูเหมือนเธอจะชอบมาก และบอกให้ผมทำให้ทุกครั้งหลังจากนั้น
…บางทีคนที่เด็กที่สุดในกลุ่มเราอาจจะเป็นเธอสินะ?
หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ ขณะที่พวกเราจิบชาเป็นของหวาน ผมก็ตัดสินใจบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่กิลด์วันนี้
「ผมมีเรื่องอยากจะบอกพวกเธอ จะฟังกันไหม? เป็นเรื่องที่กิลด์บอกกับผมวันนี้ーー」
「ก่อนหน้านั้น เอาเป็นว่าเราดื่มแอลกอฮอล์กันก่อนดีไหม? ฉันได้ของดีมาล่ะ」
นาตาลีหยิบขวดออกมาจากคลังมิติ อัลพยักหน้าให้กับนาตาลีและเดินไปในครัวเพื่อหยิบแก้วไวน์
อัลจัดแก้วเรียงไว้สี่ใบ จากนั้นเทแอลกอฮอล์ลงในแต่ละแก้ว
…ผมไม่ค่อยดื่มบ่อยนัก นี่ถือเป็นโอกาสพิเศษเลยทีเดียว
ผมรับแก้วที่ส่งมาให้พลางคิดในใจว่า เอ๊ะ หรือผมดื่มเยอะไป?
「เอาล่ะ เราน่าจะชนแก้วก่อนละมั้ง ชนแก้ว!」
「「「ชนแก้ว!」」」
พวกเรายกแก้วขึ้นชนแล้วจิบแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มนี้เป็นของที่ค่อนข้างแพง รสหวานจากแอลกอฮอล์กระจายไปทั่วปาก
มันให้ความรู้สึกต่างไปจากเอลที่ผมเคยดื่มตามปกติโดยสิ้นเชิง
ผมดื่มเยอะจนตัวเองยังสงสัยว่า “เฮ้ ผมดื่มเยอะไปหรือเปล่าเนี่ย?”
「นี่มัน…อร่อยจัง…」
「แน่นอนอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นของพิเศษที่ฉันปรุงเอง จะไม่อร่อยได้ยังไงล่ะ」
นาตาลีพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง
…เดี๋ยวนะ เธอว่าอะไรนะ?
…เธอปรุงเองอย่างนั้นเหรอ?
「นาตาลี เมื่อกี้เธอว่าอะไรーー」
สมองของผมพลันว่างเปล่าก่อนที่ผมจะพูดจบประโยค.