นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 42 สูตรลับของนักปราชญ์แห่งสนธยา

ตอนที่ 42 สูตรลับของนักปราชญ์แห่งสนธยา

       

       หลังจากผ่านไปได้ประมาณเดือนนึง ผมก็เริ่มชินกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนอีกสี่คนในคฤหาสน์  

       ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ชาร์กับอัลเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย พวกเธอก็ไปลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยทันที เพราะมันสะดวกในการเข้าออกเมือง

 

       ถึงแม้พวกเธอจะใส่เสื้อผ้าลำลองธรรมดา แต่ก็ยังดูโดดเด่นสะดุดตา เวลาที่เราเดินไปตามท้องถนน หรือในตอนที่พวกเธอไปลงทะเบียนที่กิลด์ ก็มีคนมาชวนเข้าปาร์ตี้ไม่หยุด

       มิเลียที่เริ่มรำคาญกับการที่มีคนมาชวนไม่จบไม่สิ้นเลยแนะนำให้เราสร้างปาร์ตี้กันเอง เราก็กลายเป็นปาร์ตี้สามคนตามคำแนะนำของเธอ

       ตอนนั้นเอง สายตาอาฆาตจากเหล่าผู้ชายในกิลด์ต่างก็พุ่งตรงมาที่ผม

       ……ทุกครั้งที่นึกถึง ผมก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเลยล่ะ

 

       ส่วนนาตาลีงั้นเหรอถ้าให้พูดถึงก็  แม้ว่าจะเป็นคนที่อายุมากที่สุดในพวกเรา แต่เธอกลับเป็นคนที่ต้องดูแลมากที่สุด ก็ประมาณนี้แหละ

 

       การมีบ้านที่เต็มไปด้วยความคึกคักอาจจะดีกับผมด้วยเหมือนกัน

       สมัยที่ยังอยู่ญี่ปุ่น ผมใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แค่ระหว่างที่ทำงานกับบ้าน บ้านกับที่ทำงาน พอกลับถึงบ้านก็เล่นเกม นอน ตื่นทำงาน วนเวียนอยู่แบบนี้

       แต่ตอนนี้ผมกลับสนุกไปกับการจิบชาและพูดคุยกันกับทั้งสามคน

 

       「โทยะ! ฉันเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สุดใช่ไหม!? มากกว่าเด็กน้อยไร้เดียงสาสองคนนี้ใช่ไหม?!」

 

       ผมเผลอพ่นชาดำออกมาจากปากโดยไม่ตั้งใจ

       ถึงจะยิ้มฝืน ๆ แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรให้ชัดเจนนัก ประมาณว่าไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะคำพูดของนาตาลีนั้นเธอพูดออกมาพร้อมกับสีหน้าภาคภูมิใจ จะไปขัดก็กะไรอยู่

 

       「คุณโทยะ! ฉันน่าจะเป็นคนที่มีเสน่ห์มากกว่าสิ! เมื่อเทียบกับโลลิเรียบ ๆ คนนี้!」

       「ใครกันที่เธอว่าโลลิเรียบ ๆ!! อย่าให้ฉันเผาเขาเธอด้วยเวทมนตร์ของฉันนะ!」

       「เอาล่ะ ใจเย็นก่อน……ท่านโทยะเองก็ดูจะลำบากใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน……」

       「「หุบปากไปเลย ไม้เสียบผี!!」」

       「เมื่อกี้พวกเธอพูดว่าอะไรนะ!」

 

       ผ่านไปเดือนเดียว ชาร์ก็ยังเรียกผมเหมือนเดิมว่า “ท่านโทยะ” แต่กับอัล เธอเปลี่ยนมาเรียกผมว่า “คุณโทยะ” แทน

       มันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ จากสีหน้าที่เคยดูเศร้าหมองก็กลับมาสดใสมากขึ้น

 

       แต่แล้วตอนนั้นเองก็มีการเรียกตัวมาจากกิลด์

 

       ที่กิลด์

 

       「โทยะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มาที่นี่นะ เรื่องเกี่ยวกับเกราะที่นายเอามานั้น……」

 

       เอลฟ์แลนด์พูดขึ้นขณะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผม

 

       「ครับ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับมันเหรอครับ……?」

 

       หลังจากที่ได้ยินคำตอบของผม เอลฟ์แลนด์ก็ทำหน้าเหมือนกลืนแมลงลงไป และーー

 

       「ดูเหมือนว่าทูตจากอาณาจักรเจเนเรทจะมาพบกับท่านลอร์ด(เจ้าเมือง) พวกเขาขอให้ส่งตัวสมาชิกของราชวงศ์ทั้งสองคนกลับไปถ้าหากพบว่าพวกเขาหลบหนีมาที่นี่ คือแบบว่า……สองคนนั้นคือ……」

       「ไม่น่าจะใช่……คนจากราชวงศ์นะครับ เพราะผมก็ถามนาตาลีเกี่ยวกับตัวตนของคุณหนูพวกนั้นเหมือนกัน แต่ถ้าสมมติว่าพวกเธอเป็นสมาชิกของราชวงศ์จริง ๆ ล่ะคุณจะทำยังไง?」

       「ถ้าเป็นแบบนั้น……ก็คงต้องมีการพูดคุยระหว่างท่านลอร์ดกับหัวหน้ากิลด์ อาจจะมีการสร้างพันธมิตรกันกับจักรวรรดิลูเนตต์ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาณาจักรเจเนเรทจะรุกรานเรา……ที่แย่ที่สุดเลยก็คือ……」

 

       เขาหยุดพูดแค่นั้น

 

       「ーーผมไม่มีแผนที่จะส่งพวกเธอให้ใครทั้งนั้นครับ!!」

 

       ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

       นั่นคือสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้ว อย่างน้อยที่สุด ผมยอมรับว่าผมเริ่มรู้สึกดีกับพวกเธอทั้งสองคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

       ถ้าผมส่งพวกเธอกับไป ถึงแม้การใช้ชีวิตของผมก็อาจจะกลับไปสงบสุขเหมือนเดิมก็ได้ แต่ผมคงเสียใจที่ทำแบบนั้นในภายหลังแน่ ๆ

 

       「งั้นเหรอ…… ข้าจะพยายามหาทางช่วยให้ได้เท่าที่ทำได้นะ แต่เจ้าก็ต้องระวังตัวเหมือนกัน เพราะมีความเป็นไปได้ที่แม้แต่หัวหน้ากิลด์หรือท่านลอร์ดเองก็อาจจะห่วงแต่ตัวเองในที่สุด」

       「เข้าใจแล้วครับ ผมจะระวังตัว」

       「สำหรับข้า ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายอยู่ที่เมืองนี้ต่อไป เพราะเจ้าคือนักผจญภัยที่ทำเงินให้กิลด์เรามากที่สุดยังไงล่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะปล่อยให้เจ้าไปที่อื่นล่ะนะ」

 

       เอลฟ์แลนด์พูดพร้อมกับยิ้ม ผมเองก็ยิ้มตอบกลับไป

 

       หลังจากออกมาจากกิลด์ ผมเดินไปตามถนนพร้อมกับคิดเรื่องที่คุยกัน

 

       …..ผมน่าจะสำรองเสบียงไว้ในคลังมิติหน่อยดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

       ตอนนั้นผมเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะกลับคฤหาสน์ไปยังตลาดเพื่อซื้อเสบียงเพิ่ม

       หลังจากซื้อของเสร็จ ก็กลับมาที่คฤหาสน์ ตอนนั้นเองพระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว

 

       「ผมกลับมาแล้ว」

 

       เฟอร์ริสออกมาต้อนรับผมทันทีที่กลับถึงคฤหาสน์

 

       「ยินดีต้อนรับกลับค่ะ โทยะ」

 

       เฟอร์ริสเริ่มพูดคุยประโยคง่าย ๆ ได้เหมือนคนปกติ นาตาลีเองก็บอกว่า 「นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับฉันเลยนะ」 แต่ดูเธอก็สนุกกับการพูดคุยสบาย ๆ กับเฟอร์ริสเช่นกัน

 

       เมื่อผมเดินเข้าห้องรับประทานอาหาร ก็พบกับภาพที่คุ้นตา สามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะตามปกติ

 

       「กลับมาแล้วนะทุกคน」

       「ยินดีต้อนรับกลับค่ะ ท่านโทยะ」

       「คุณโทยะ ยินดีต้อนรับกลับนะ!」

       「ฉันหิวแล้วน้าาาาา!」

 

       ผมพยายามเมินประโยคสุดท้ายก่อนจะพูดว่า 「โอเค โอเค เดี๋ยวจะเริ่มทำอาหารแล้ว」 จากนั้นก็เดินเข้าครัว

 

       ผมเริ่มเตรียมวัตถุดิบ ตัดเนื้อโอเกอร์เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เครื่องเทศ ไข่ สุดท้ายก็หั่นขนมปังเป็นชิ้นเล็ก ๆ

       ผมอุ่นขนมปังด้านหนึ่งแล้วพลิกกลับด้าน จากนั้นเติมแอลกอฮอล์กับน้ำเล็กน้อย แล้วปิดฝาไว้ ระหว่างนั้นก็เตรียมสลัดโดยใช้ผักหลายชนิดที่หยิบออกมาจากคลังมิติ

 

       「โอเค เสร็จแล้ว」

 

       แฮมเบอร์เกอร์ สลัด และซุปขนมปังแบบดั้งเดิมถูกจัดลงบนโต๊ะอาหาร

 

       「แฮมเบอร์เกอร์!! ของโปรดของฉัน!!」

 

       ธงเล็ก ๆ ปักอยู่บนแฮมเบอร์เกอร์ของนาตาลี ผมเคยทำแบบนี้ให้เธอเป็นมุกขำ ๆ แต่ดูเหมือนเธอจะชอบมาก และบอกให้ผมทำให้ทุกครั้งหลังจากนั้น

       …บางทีคนที่เด็กที่สุดในกลุ่มเราอาจจะเป็นเธอสินะ?

 

       หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ ขณะที่พวกเราจิบชาเป็นของหวาน ผมก็ตัดสินใจบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่กิลด์วันนี้

 

       「ผมมีเรื่องอยากจะบอกพวกเธอ จะฟังกันไหม? เป็นเรื่องที่กิลด์บอกกับผมวันนี้ーー」

       「ก่อนหน้านั้น เอาเป็นว่าเราดื่มแอลกอฮอล์กันก่อนดีไหม? ฉันได้ของดีมาล่ะ」

 

       นาตาลีหยิบขวดออกมาจากคลังมิติ อัลพยักหน้าให้กับนาตาลีและเดินไปในครัวเพื่อหยิบแก้วไวน์

 

       อัลจัดแก้วเรียงไว้สี่ใบ จากนั้นเทแอลกอฮอล์ลงในแต่ละแก้ว

       …ผมไม่ค่อยดื่มบ่อยนัก นี่ถือเป็นโอกาสพิเศษเลยทีเดียว

       ผมรับแก้วที่ส่งมาให้พลางคิดในใจว่า เอ๊ะ หรือผมดื่มเยอะไป?

 

       「เอาล่ะ เราน่าจะชนแก้วก่อนละมั้ง ชนแก้ว!」

       「「「ชนแก้ว!」」」

 

       พวกเรายกแก้วขึ้นชนแล้วจิบแอลกอฮอล์

       เครื่องดื่มนี้เป็นของที่ค่อนข้างแพง รสหวานจากแอลกอฮอล์กระจายไปทั่วปาก

       มันให้ความรู้สึกต่างไปจากเอลที่ผมเคยดื่มตามปกติโดยสิ้นเชิง

       ผมดื่มเยอะจนตัวเองยังสงสัยว่า “เฮ้ ผมดื่มเยอะไปหรือเปล่าเนี่ย?”

 

       「นี่มัน…อร่อยจัง…」

       「แน่นอนอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นของพิเศษที่ฉันปรุงเอง จะไม่อร่อยได้ยังไงล่ะ」

 

       นาตาลีพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง

 

       …เดี๋ยวนะ เธอว่าอะไรนะ?

       …เธอปรุงเองอย่างนั้นเหรอ?

 

       「นาตาลี เมื่อกี้เธอว่าอะไรーー」

 

       สมองของผมพลันว่างเปล่าก่อนที่ผมจะพูดจบประโยค.

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset