ฤดูใบไม้ผลิมักจะเป็นฤดูแห่งการพบปะ แต่ในความเป็นจริงมันมักจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยจริง ๆ เมื่อเข้าเรียนปีที่สองและได้ย้ายห้องเรียนไปบ้าง ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงเจอเพื่อนจากห้องเดิม การจดจำชื่อคงไม่ยากเท่าไหร่
「เอาล่ะ…! ดูเหมือนว่าภาพถ่ายครั้งนี้จะได้รับความนิยมอีกแล้ว」
เช้าวันหนึ่ง ห้องเรียนเริ่มมีเสียงดังขึ้นจากการคุยกัน ขณะที่ผม───อันโนะ ทาคุมิ ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง กำลังเช็ค SNS บนสมาร์ตโฟน
บนหน้าจอของมือถือผมคือภาพถ่ายของนักคอสเพลย์สาวคนหนึ่งที่ผมถ่ายไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอแต่งตัวเป็นตัวละครจากเกมมือถือที่มีการโปรโมททั้งอนิเมะและภาพยนตร์ ส่วนชุดทั้งหมดทำขึ้นเองและมีความละเอียดสูงมาก รวมถึงท่าทางและการแสดงสีหน้าก็ยอดเยี่ยม คอมเมนต์ในโพสต์ก็เต็มไปด้วยคำชม
「ก็อย่างที่คาดไว้ ยูสึฮะซัง… ไม่ใช่คนที่ผมควรจะถ่ายรูปให้เลยจริง ๆ」
พูดไปก็ทำให้ตัวเองรู้สึกขมขื่น ผมเริ่มหาข้อมูลในโพสต์ของยูสึฮะซัง นอกจากตัวละครจากเกมที่ได้รับอนุญาตแล้ว ยังมีผลงานสร้างสรรค์ของเธอเองบ้าง บางภาพมีความเซ็กซี่อยู่บ้างและอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้สุภาพบุรุษทั่วไปต้องรู้สึกตื่นเต้นบ้าง
「เฮ้ ทาคุมิ ดูเหมือนนายจะอารมณ์ดีตั้งแต่เช้าเลยนะ มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นหรอ?」
「อรุณสวัสดิ์ อาราตะ… ไม่มีอะไรหรอก ก็ปกติดีน่ะ」
คนที่ทักผมอย่างเป็นมิตรคือเพื่อนร่วมชั้นของผม คุกิ อาราตะ เพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่
พูดแล้วก็เศร้า แต่ผมเองก็ไม่ค่อยมีความสามารถในการพูดคุยกับเพื่อนในกล่องใหญ่ ๆ ที่เรียกว่าโรงเรียน พูดตรง ๆ นะ ถึงแม้ผมจะสามารถพูดกับคนที่อายุมากกว่าได้ แต่กับคนที่มีอายุใกล้เคียงกันกลับทำได้ยากซะงั้น
ตรงกันข้ามกับอาราตะที่มีเพื่อนเยอะและเป็นคนที่ดูเหมือนจะสามารถเป็นศูนย์กลางของกลุ่มได้ แต่กลับเลือกที่จะอยู่กับผมที่เป็นคนขี้อายแบบนี้
「เหรอ? แต่ดูเหมือนนายจะยิ้มแย้มดีนะ ภาพถ่ายที่โพสต์ไปเมื่อเช้าคงได้รับการตอบรับดีใช่มั้ยล่ะ?」
「ไม่หรอก」
「 เอ่อ… ไม่มีทางหรอก จะว่าไปฉันก็อิจฉานายเหมือนกันนะ ที่ได้ถ่ายภาพกับผู้หญิงสวยขนาดนั้น」
「บอกไว้หลายครั้งแล้วว่าไม่มีอะไรเกินไปกว่าการถ่ายภาพหรอกนะ! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบเรื่องอย่างว่าหรอก!」
แม้ว่าจริง ๆ แล้วผมเคยไปทานข้าวกับยูซุฮะซังหลังจากการถ่ายภาพบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าความสัมพันธ์ระหว่างช่างภาพกับนักคอสเพลย์ เป็นความสัมพันธ์ของลูกจ้างและผู้ว่าจ้าง และผมก็ไม่อยากเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัวด้วย
「ฉันชื่นชมในความอดทนของนายนะ แต่ถ้าเป็นฉันฉันน่าจะทำอะไรเกินเลยแน่เลยล่ะ…」
「การเป็นโอชิหมายถึงการรักษาระยะห่างที่เหมาะสม」
「ฮ่า ๆ ถ้าเป็นฉันก็ทำไม่ได้หรอก แต่ฉันชอบมองสาวในห้องเรียนมากกว่านะ」
อาราตะพูดขำ ๆ และยักไหล่ ผมนึกขำในใจว่าตัวเขานั้นมีทุกอย่างที่สาว ๆ ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือทักษะการพูด แต่กลับยังไม่มีแฟน น่าจะเพราะคำพูดทะลึ่งแบบนี้ล่ะมั้ง
「ถ้าเป็นแบบนั้น… ถ้าให้ทาคุมิถ่ายใครในห้องก็ได้ล่ะ จะเลือกใคร?」
「ห๊ะ? ทำไมอยู่ดี ๆ ก็ถามล่ะ?」
「ก็เป็นคำถามประจำปีนะเว้ย! ทุกปีเราถามกันแบบนี้ตลอด! ปีนี้ต้องตอบด้วยนะ!」
อาราตะทุบโต๊ะเสียงดังแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมเลยรู้สึกว่าจะต้องตอบคำถามนี้แล้ว แต่ทุกปีผมก็หลบคำถามนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีเหตุผลอะไรมากหรอก ก็แค่ไม่ค่อยรู้สึกอยากตอบในตอนนั้น
「ไม่ตอบไม่ได้แล้วนะ ครั้งนี้ต้องตอบให้ได้! แถมในห้องนี้มีชิโนมิยะ ริโนอะอยู่นะ!」
「อ๋อ ชิโนมิยะซังเหรอ?」
ผมและอาราตะหันไปมองที่กลุ่มเพื่อนในห้องเรียนที่มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงกลาง เธอเป็นที่รู้จักมากในโรงเรียนนี้ ถึงขนาดนักเรียนใหม่ยังรู้จักเธอเลยแหละ
เธอมีผมสีบลอนด์แพลตินัมที่นุ่มเหมือนผ้าไหมและมีสีอ่อนของดอกซากุระอยู่ด้วย หน้าเรียวสวย ขนตายาว ตาสีเขียวมรกตที่เหมือนกับอัญมณี ผิขาวกระจ่างใสเหมือนน้ำนม ทุกองค์ประกอบของเธอล้วนมีความสวยงามอย่างประณีต และเธอยังมีบุคลิกที่เต็มไปด้วยความเมตตาและมีความสามารถทั้งทางด้านวิชาการและกีฬาเหมือนกับเทพธิดา
เธอมักจะยิ้มแย้มและไร้ความกังวลเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงพัก เก็บดอกไม้ หรือช่วงเปลี่ยนคาบ ผมไม่เคยเห็นเธออยู่คนเดียวเลย เธอเป็นเหมือนเจ้าหญิงจากอาณาจักรหนึ่ง
「แม้แต่ทาคุมิที่ไม่ค่อยสนใจคนอื่น ถ้าเป็นชิโนมิยะซังก็คงจะอยากถ่ายนะ?」
「ก็อยากนะ… แต่แฟนคลับคงไม่ยอมรับหรอก」
「ฮ่าฮ่าฮ่า! ก็จริงนะ! แล้วถ้าถ่ายตัวเธอไปคงจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!」
「แค่คิดจะถ่ายเพื่อนในห้องก็ทำให้รู้สึกไม่สะดวกแล้ว และถ้าถ่ายชิโนมิยะซังคงโดนยูซุฮะซังดุแน่」
「อ่ะ… นั่นสินะ」
『ทาคุมิเป็นช่างภาพคนเดียวของฉันใช่ไหมคะ? หากคุณต้องการถ่ายรูปคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน ต้องขออนุญาติก่อนนะ! ถ้าลืม…ก็เตรียมโดนดีได้เลย』
พูดตามตรง ผมรู้สึกกลัวมากเมื่อเธอยิ้มให้ผมจนผมทำได้แค่พยักหน้าหงึก ๆ อย่างเดียว นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมรู้สึกหวาดกลัวกับรอยยิ้มของสาวสวย หลังจากที่แม่โกรธพ่ออย่างมากที่ลืมวันครบรอบแต่งงานของพวกเขา
「นาย… นาย…! ไอคนทรยศ!」
「คนทรยศ!? ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ!」
ผมสับสนกับความแปรปรวนทางอารมณ์ของเพื่อน
「นายพูดแบบนั้นได้ยังไง!? นายไม่รู้ด้วยซ้ำ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย… นายไม่รู้เหรอว่นายโดนรายล้อมไปด้วยผู้คนยอดนิยม!」
「ความเห็นโดยสุจริตของฉันคือฉันต้องการมีอิสระเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในการสรรหาคนที่หลากหลาย」
「ไอคนขี้โลภ!!」
ฉันกับนายเราจบกันแค่นี้แหละ! หลังจากพูดเรื่องแบบนี้เป็นครั้งล้าน อาราตะก็กลับมาที่ที่นั่งของเขา ผมยิ้มขำ ๆ แล้วกลับไปเปิดดูสมาร์ตโฟนและเช็ค SNS ต่อ
「เยี่ยมมาก… ทำยังไงถึงจะถ่ายภาพได้ระดับนี้? โอ้… การตัดต่อสุดยอดเลย! ทำยังไงกันนะ?」
ในไทม์ไลน์ของผมมีภาพถ่ายคุณภาพสูงมากมาย ผมยังคงตระหนึกถึงความไม่ค่อยมีประสบการณ์ของตัวเอง เมื่อถามผู้รู้ในวงการช่างภาพที่เป็นพวกรุ่นพี่เขาก็มักจะดูตกใจเสมอ
「ชุดก็ดีมากเลย… โอ๊ะ! ชุดเมดตัวนี้น่ารักมาก ยูซุฮะซังถ้าใส่คงเหมาะมากเลย」
「───คุณดูอะไรอยู่หรือเปล่าคะ อันโนะคุง?」
ในขณะที่ผมคิดถึงภาพของยูซุฮะซังในชุดเมด ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นข้างหลัง คราวนี้เป็นเสียงของคนที่เพิ่งคุยกับอาราตะเมื่อกี้
「ช-ชโนมิยะซัง…」
และคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ชิโนมิยะ ริโนอะซังนั่นเอง ผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะรอยยิ้มที่น่ากลัวของเธอไม่ใช่เรื่องแปลกเลย