นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 37 ผมเป็นนักบวชจริง ๆ นะ

ตอนที่ 37 ผมเป็นนักบวชจริง ๆ นะ

       「—นี่มันรถม้า 」

 

       ผมหันไปมองพวกเธอเพื่ออธิบายให้อย่างชัดเจน

       ไม่ใช่ว่าผมมองไม่ออกหรอกนะ ก็เห็นอยู่ว่ารถม้าคันนี้ไม่ใช่รถม้าธรรมดา

       มีทั้งโช้คอัพ ล้อยาง อีกทั้งการออกแบบที่ดูประณีตทั้งภายนอกและภายในสไตน์ญี่ปุ่น ก็บอกได้ชัดเจนว่ามันไม่ปรกติ

       แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไร

 

       「……ท่านโทยะต้องเป็นขุนนางจากอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งสักแห่งแน่ๆ ถึงได้ครอบครองรถม้าที่งดงามเช่นนี้…… 」

 

       ผมส่ายหน้าให้ชาร์และปฏิเสธคำกล่าวนั้น

 

       「……ผมก็แค่นักผจญภัยคนหนึ่ง จำที่ผมขอให้ปิดเป็นความลับเมื่อวานได้ไหม? 」

       「อา ใช่…… ใช่ค่ะ ฉันจะไม่ซักถามอะไรอีก 」

       「ขอบคุณนะ เอาล่ะ มาเตรียมอาหารเช้ากันเถอะ ต้องขอโทษด้วย แต่ยังคงเป็นซุปกับขนมปังอีกแล้ว 」

       「พวกเราซาบซึ้งมากค่ะที่มีอาหารอุ่นๆ ให้ทาน 」

 

       เราหยุดพูดคุยกัน แล้วผมก็เริ่มเสิร์ฟอาหารบนโต๊ะ

       ผมสังเกตได้ว่าชาร์ดูผ่อนคลาย แต่ฝั่งอัลดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่างเต็มที

 

       「มีอะไรหรือเปล่า ……? 」

 

       เมื่อผมกระตุ้นให้อัลพูด เธอก็เอ่ยขึ้นด้วยแววตาเปล่งประกาย

 

       「อะ…… นั่นมันม้าศึกออบซิเดียนใช่ไหมคะ……? 」

       「ใช่เลย…… นั่นคู่หูของผมเอง…… 」

       「ว่าแล้ว! มันเป็นความฝันของอัศวินที่จะได้ขี่ม้าศึกออบซิเดียน— อ๊ะ หมายถึง เป็นความฝันของอัศวินทุกคนในอาณาจักรของเราค่ะ…… 」

 

       เธอพยายามปิดบังตัวเอง แต่สายไปแล้ว เธอถอดเกราะออกและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเธอยังคงเป็นอัศวิน แถมเมื่อวานเธอเรียกตัวเองว่า “ราชองครักษ์”

       ผมหัวเราะเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าและฟังเธอพูดต่อ

 

       จากนั้นพวกเราก็นั่งลงก่อนจะเริ่มทานกัน ระหว่างทานก็มีคำถามจากทั้งสองคนออกมาไม่หยุด

 

       「ท่านโทยะดูอายุพอๆ กับพวกเราเลย แต่กลับดูสุขุมมาก 」

       「ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอเห็นเขาต่อสู้กับพวกออร์ค…… 」

 

       แก้มของอัลแดงขึ้นอีกครั้งเมื่อพูดถึงการต่อสู้เมื่อวานนี้

       การบอกความจริงว่าผมอายุเลย 30 ไปนานแล้วคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วถึงบอกไปพวกเธอก็คงไม่เชื่อด้วย

 

       「บางทีอาจเป็นเพราะผมผจญภัยคนเดียวมานานแล้ว ผมผ่านอะไรมาเยอะมาก…… 」

 

       ราวกับคำพูดของผมเผยอะไรบางอย่าง อัลเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ผมลำบากใจ

 

       「ถึงอย่างนั้น ท่านโทยะต้องมีเลเวลสูงมากแน่ๆ การจัดการพวกออร์คและทหารจำนวนมากขนาดนั้นได้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ฉันมั่นใจว่าท่านต้องเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ 」

       「อัล ท่านโทยะเป็นนักเวทนะ ตอนที่เขาช่วยเธอเมื่อวาน ท่านโทยะใช้เวทมนตร์สายลมนี่ 」

 

       อัลกับชาร์มองหน้ากันอย่างไม่เห็นด้วย

 

       「ไม่ใช่ ผมเป็นนักบวชน่ะ 」

       「อะไรนะ? 」(NANNI!!)

 

       พวกเธอมองมาที่ผมอย่างไม่เชื่อ ผมจึงหยิบบัตรกิลด์ออกจากกระเป๋าก่อนจะวางลงบนโต๊ะ

       พวกเธอหยิบมันขึ้นมาดู แล้วก็ยิ่งตกใจเข้าไปอีก

 

       「เขาเป็นนักบวชจริงๆ ด้วย …… แล้วก็เลเวล 17 เอง!? 」

 

       อา ดูเหมือนเลเวลของผมจะเพิ่มขึ้นจากการต่อสู้เมื่อวานนี้

 

       「ไม่น่าเชื่อ …… เลเวลของท่านยังต่ำกว่าฉันอีก แต่การต่อสู้เมื่อวาน…… นี่มันไม่มีเหตุผลเลย……. 」

       「ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงดีค่ะ ท่านโทยะ ที่สู้กับพวกออร์คและทหารมากมายขนาดนั้นเพื่อปกป้องพวกเรา ทั้งๆ ที่มีเลเวลแค่นี้…… 」

 

       พวกเธอแสดงความประหลาดใจที่เลเวลของผมต่ำกว่าที่คาดไว้ อัลดูงุนงง ส่วนชาร์ก็ดูตกตะลึง

       ผมส่ายหน้าพลางเก็บบัตรกลับเข้ากระเป๋า

 

       「ไม่เป็นไร ผมสู้คนเดียวมาตลอด ……ถึงอย่างนั้น เมื่อวานก็เป็นครั้งแรกที่ฆ่าคน…… 」

 

       ผมเคยคิดว่าการฆ่าคนครั้งแรกจะรู้สึกหนักอึ้งกว่านี้ แต่หลังจากพักผ่อนตลอดคืน มันกลับมารู้สึกเป็นปรกติอีกครั้ง

       บางทีในฐานะนักผจญภัย ผมอาจจะต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ในวันหนึ่ง

       การยอมรับมันตั้งแต่ตอนนี้คงเป็นเรื่องจำเป็น

 

       หลังจากเราทานอาหารและจัดเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมตัวออกเดินทาง

       ผมแนะนำให้ อัล แต่งตัวตามสบายเหมือนเดิม หากเธอใส่ชุดเกราะสีเงินที่มีตราประจำจักรวรรดิอยู่ อาจก่อให้เกิดปัญหาเมื่อเข้าเมืองได้

       ดังนั้น ผมจึงเก็บชุดเกราะของอัลเข้าคลังมิติ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรจากนั้นก็ให้พวกเธอขึ้นไปบนรถม้า

 

       「คิดว่าคงต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะถึงตัวเมือง ระหว่างนี้ต้องอดทนอยู่ข้างในไปก่อนนะ」

 

       พวกเธอดูประทับใจกับการนั่งรถม้าหรูนี้ทันทีที่เข้าไป

 

       「รถม้านี่มัน อาจจะดีกว่ารถม้าของขุนนาง หรือแม้แต่ราชวงศ์อีกนะ……」

       「จริงด้วย……」

 

       ผมรู้สึกดีที่พวกเธอชอบ จึงพ่วงรถม้าเข้ากับโคคุโย

 

       「โคคุโย พาเราไปเมืองหน่อย」

 

       ผมลูบคอของมัน มันตอบรับด้วยการฮี้เบา ๆ ผมขึ้นไปนั่งบนที่นั่งคนบังคับรถ แล้วส่งสัญญาณให้โคคุโยเริ่มเคลื่อนที่ รถม้าก็ค่อย ๆ เคลื่อนไปข้างหน้า

       อาจเป็นเพราะมันกำลังลากรถม้าหรือบรรทุกผู้โดยสาร ความเร็วของรถม้าจึงพอ ๆ กับรถม้าทั่วไป

 

       ขณะที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนบังคับรถ ผมเปิดดูสถานะของตัวเอง

 

       ◇――――――――――――――――――――◇

       [ชื่อ] คิซารางิ โทยะ  

       [เผ่าพันธุ์] มนุษย์

       [เพศ] ชาย

       [อายุ] 16 ปี

       [อาชีพ] นักปราชญ์ (Sage)(นักบวช, นักเวทย์)

       [ตำแหน่ง] ผู้ถูกอัญเชิญ  

       [เลเวล] 17

       [ความสามารถพิเศษ] ดวงตาศักดิ์สิทธิ , ใช้เวทย์ได้ทุกธาตุ, เรียนรู้ทักษะทุกอย่างได้

       [ทักษะ] เวทย์ธาตุ, เวทย์พิเศษ, ดาบ, ศิลปะการต่อสู้

       ◇――――――――――――――――――――◇

 

       เมื่อมองสถานะตัวเอง ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ

       เมื่อเลเวลของอาชีพนักเวทย์ถึง 100 หน้าจอเปลี่ยนอาชีพก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

       ตอนนั้นผมคิดว่าน่าจะสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็น “นักรบ ” ได้ แต่สิ่งที่ปรากฏกลับเป็นอาชีพระดับสาม ซึ่งเป็นอาชีพขั้นสูงสุดของสายเวทย์ เช่นเดียวกับ Berserker

 

       เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ผมจึงจำใจเลือกอาชีพ “นักปราชญ์ (Sage)” แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นนักปราชญ์ ไอเท็มเพิ่มค่าประสบการณ์ 100 เท่าในคลังมิติของผมก็ไม่สามารถใช้งานได้อีก และกลายเป็นของเก่าไป

       ผมหยิบกิลด์การ์ดออกมา มันแสดงเลเวลและพลังเวทย์ของผม แต่ยังคงระบุอาชีพเหมือนตอนที่ลงทะเบียนครั้งแรก

       ซึ่งหมายความว่า ไม่มีใครรู้เรื่องการเปลี่ยนอาชีพของผม

 

       ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามีใครนอกจากผมที่สามารถเพิ่มเลเวลถึง 100 ได้หรือไม่

       และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมต้องปิดบังสถานะของตัวเอง

       ……ผมสงสัยว่าตัวเองจะสามารถเป็นนักรบได้จริง ๆ หรือเปล่า

 

       รถม้ายังคงเคลื่อนตัวไปตามถนนดิน พร้อมกับความคิดมากมายในหัวของผม

       หลังจากเดินทางประมาณสามชั่วโมง ในที่สุดเมืองเฟนดิ ก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้า

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset