ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 679 : เชือกจิต

ตอนที่ 679 : เชือกจิต

ตอนที่ 679 : เชือกจิต

เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่หมิง หวังเย่าก็รู้ว่าร้านนี้โดดเด่นแค่ไหน

ค่าของเครื่องประดับเหล่านี้ไม่ได้ชัดเจนนัก มันดูเหมือนของเก่า ๆ แต่มันกลับแผ่พลังงานอันน่ากลัวออกมา เมื่อหวังเย่ามองไปที่อาวุธที่ชั้นวาง และมองไปที่ดาบนั่นเขาก็พบว่ามันเป็นแค่ดาบธรรมดาที่ไม่รู้ว่าอยู่มาแล้วกี่พันปี แต่หวังเย่ามั่นใจว่าพลังของดาบนี่เทียบกับดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ รึไม่ก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก มันมีภาพวาดแขวนอยู่ในร้านนี้ด้วย บางภาพเป็นภาพที่งดงาม รูปแบบเหล่านี้ไม่ได้พิเศษนัก แต่หวังเย่าที่เชี่ยวชาญกฎไฟกลับรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างในตัวมัน

บางสัญลักษณ์ก็มีพลังของกฎไฟอยู่ !

“นายควรรีบเก็บดาบของนายลงไปซะ” ปากของฟู่หมิงกระตุกและบอกให้หวังเย่าเก็บดาบลง

หวังเย่าไม่อาจจะขัดคำสั่งได้เลย !

ปล้นร้านงั้นหรือ ? เขาอยากสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมารึไง

หวังเย่ายิ้มออกมา เขารู้ความคิดของฟู่หมิงดี แต่เขาแค่แกล้งเอาดาบออกมาก็เท่านั้น เขาอยากเห็นท่าทีของเจ้าของร้าน แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าของร้านกลับไม่ปรากฏตัวออกมาแม้แต่น้อย

หลังจากที่เก็บดาบไปแล้ว หวังเย่าก็เดินไปที่เคาเตอร์และถามกับชายวัยกลางคนที่กำลังตรวจบัญชีอยู่ “มีเชือกจิตขายรึเปล่า ? ”

ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมองหวังเย่าและพูดขึ้น “มีอยู่ แต่เราขายไม่มากต่อเดือน เดือนนี้เราขายหมดแล้ว ลองดูของอย่างอื่นสิ ร้านเรามีของดี ๆ อยู่มาก”

“มีจำนวนจำกัดด้วยหรือ ? ” หวังเย่าแปลกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น

เขาได้ยินจากเฟิงและคนอื่น ๆ พูดถึงเรื่องนี้ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะขายจำนวนจำกัดด้วย เขามาที่นี่ก็เพื่อซื้อเชือกจิต และเขาก็ไม่ได้สนใจของอย่างอื่นด้วย

“เราเจรจาราคากันได้ นายคงมีของเหลืออยู่แน่ นายบอกราคามาได้เลย ถ้าไม่สูงเกินไป ฉันตกลงแน่” หวังเย่ายังไม่คิดจะยอมแพ้

“ถ้านายมาที่ร้านฉัน ถ้านายรู้จักสินค้า นายจะรู้เองว่าเราไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น

เขาเห็นว่าหวังเย่าและคนอื่น ๆ มาที่นี่เพื่อซื้อเชือกจิต ดังนั้นเขาจึงกล่อมให้หวังเย่ากลับไปซะ แต่ตอนนั้นก็มีชายแก่เดินออกมาจากด้านหลังพร้อมกับของในมือ

ชายแก่เดินไปที่ชั้นวางด้านหลังเคาเตอร์ เมื่อชายวัยกลางคนเห็นของในมือชายแก่ เขาก็รีบหลีกทางให้ชายแก่วางมันไว้ที่ชั้นวางก่อนจะเอาผ้าออกมาจากเอวเพื่อเช็ดมัน

หลินฉีเห็นการกระทำของชายแก่ก็พึมพำออกมา “เจ้าของร้านนี่แปลกจริง ๆ ของมีค่าเต็มไปหมด แต่กลับจ้างชายแก่มาเป็นลูกจ้าง ถ้าเขาทำอะไรพัง เจ้าของร้านคงร้องไห้แน่ ๆ ”

“ชายแก่คนนี้ดูน่าสงสาร อากาศหนาวแบบนี้แต่ยังใส่เสื้อผ้าบาง ๆ อยู่อีก” เอไนน์เห็นเสื้อผ้าของชายแก่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “เจ้าของร้านนี้ต้องไม่ใช่คนดีแน่ ๆ ถึงใช้แรงงานคนแก่แบบนี้ ! ”

แม้แต่เสี่ยวหยิงที่ยืนอยู่ด้านหลังฟู่หมิงก็มองชายแก่ด้วยความสงสาร เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฟู่หมิง

“ฉันรู้ว่านายไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาซื้อของไม่ใช่รึไง ? ” ในตอนที่หวังเย่าต่อรองอยู่นั้นเขาก็หันไปสนใจชายแก่

ชายวัยกลางคนปฏิเสธ แต่หวังเย่าก็ยังดื้อด้านอยู่ดี

“ลุง ช่วยพูดอะไรสักหน่อยสิ” หวังเย่าหันไปบอกกับชายแก่

ชายแก่หยุดมือและหันกลับมามองหวังเย่า เขาพบว่าอีกฝ่ายยิ้มให้กับเขาอยู่ “เด็กน้อย นายต้องการเชือกจิตไปทำไม ? ” ชายแก่ถามขึ้นมา

“ก็เพื่อคนของฉัน เดาว่าลุงคงเข้าใจความรู้สึกของเด็กอย่างเรา ถ้าต้องรอจนถึงเดือนหน้าฉันคงรอไม่ไหว” หวังเย่าพูดขึ้น

“ฉันมีหน้าที่แต่ทำความสะอาดของ นายคุยกับฉันก็ไม่ได้อะไรหรอก” ชายแก่หันกลับไปและไปเช็ดของต่อ

“ถ้าคุยกับลุงไม่ได้ งั้นฉันคงคุยกับใครไม่ได้แล้ว ลุงน่ะเป็นเจ้าของร้านเลยนะ มันจะไม่เกี่ยวกับลุงได้ยังไง ? ” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ชายแก่ก็ชะงักไป เขาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “นายมองออกได้ยังไง ? ”

“เขาเป็นเจ้าของร้านหรือ ? ” เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า พวกสาว ๆ ต่างก็พากันแปลกใจขึ้นมา พวกเธอไม่คิดเลยว่าชายแก่ที่เหมือนจะเป็นคนธรรมดาจะเป็นเจ้าของร้านนี้ได้

หลินฉีมองไปที่ชายวัยกลางคนและถามขึ้นมา “แล้วเขาเป็นใคร ? ”

“เขาคือคนที่ฉันจ้างมาเพื่อเรียงของและดูแลการซื้อขาย” ชายแก่ตอบกลับก่อนจะถามหวังเย่า “นายรู้ได้ยังไง ? ”

หวังเย่าพูดขึ้น “แม้ว่าลุงจะแต่งตัวดูธรรมดา แต่มือของลุงกลับดูโดดเด่นอย่างมาก ชายแก่ในวัย 70-80 ปีแต่กลับมีมือที่ดูสะอาดและเปล่งปลั่ง ถึงจะไม่น่าสนใจแต่ก็ยากที่จะมองข้ามได้”

“ส่วนที่น่าสนใจที่สุดคือของในร้านนี้ทำขึ้นมาจากค่ายกล มันต้องเป็นฝีมือของผู้ใช้ค่ายกลระดับสูง มันไม่ยากที่ฉันจะเดาออกเมื่อเห็นมือของลุง”

ชายแก่ส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “น่าตลกดี ฉันคิดว่าฉันทำตัวปกติดีแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าจะโดนมองออกเพราะมือนี่ แต่ถึงอย่างนั้นกฎของร้านก็ยังเหมือนเดิม ฉันขายเชือกจิตแค่ 50 เส้นต่อเดือน แม้ว่าจะมีเงินมาเพิ่มเป็นพันล้าน แต่ฉันก็ไม่ขาย”

“ไว้หน้าฉันหน่อย ยกเว้นให้ฉันได้รึเปล่า ? ” ฟู่หมิงพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ชายแก่มองไปที่ฟู่หมิงก่อนจะตกตะลึง “นายมาได้ยังไง ? ”

“ไม่คิดเลยว่าเทพไฟจะมาที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ด้วย” เป็นธรรมดาที่ชายแก่จะรู้จักฟู่หมิง

เมื่อเห็นท่าทีของชายแก่ หวังเย่าก็ถามขึ้นมา “พี่ เขาเป็นใคร ทำไมพี่เหมือนรู้จักเขาดี ? ”

“ผ่านมาสามพันปีแล้ว หยานเทียน ใครจะไปคิดว่านายจะมาอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ได้” ฟู่หมิงพูดขึ้น

หลังจากนั้น ทุกคนก็พากันเดินตามชายแก่ไปที่ห้องรับรองของร้าน ชายแก่และฟู่หมิงได้นั่งที่เก้าอี้หลัก ส่วนหวังเย่าและคนอื่น ๆ ได้นั่งที่นั่งข้าง ๆ

“เราพบกันล่าสุดก็เมื่อสามพันปีก่อนแล้ว ไม่คิดเลยว่านายจะมาที่นี่ มันทำให้ฉันรู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ ” ชายแก่พูดขึ้น

“นายถ่อมตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คนที่กล้าต่อต้านทุกคนเพียงลำพัง ทำไมถึงถ่อมตัวได้แบบนี้ ? ” ฟู่หมิงจิบชาและยิ้มออกมา

“ตอนนั้นฉันยังเด็กและบ้าระห่ำ ทุกอย่างมันก็มีเวลาของมัน” ชายแก่พูดขึ้น

ตอนนั้นหวังเย่าก็พอเดาบางอย่างออก จากบทสนทนาของทั้งคู่

หยานเทียนได้มองไปที่หวังเย่าและคนอื่น ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ในเมื่อนายกับเทพไฟเป็นเพื่อนกัน งั้นฉันคงไม่ต้องปิดบังตัวตน มีอะไรจะถามก็ว่ามาได้เลย”

“ลุงเก่งด้านอะไร ? ” เมื่อได้ยินแบบนั้น เอไนน์ก็ยกมือถามขึ้นมาทันที

“ในหมู่คนที่แข็งแกร่งในจักรวาล เทพไฟคือหนึ่งในคนที่แกร่งที่สุด ฉันคงไม่กล้าจะหยิ่งทะนงต่อหน้าเขา แต่ในด้านค่ายกลแล้ว ฉันไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครเก่งกว่าฉันไปได้ในตลอดหลายพันปีที่ผ่านมานี้” หยานเทียนพูดขึ้น

“เขาเคยถูกยอมรับว่าเป็นเทพในหมู่เทพ ในหมู่ดาวเคราะห์มากมายแล้ว เขาถือว่าเป็นผู้ใช้ค่ายกลระดับสูง” ฟู่หมิงพูดขึ้น

เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็ต้องแปลกใจ เขาไม่คิดเลยว่าชายแก่ที่ดูใกล้ตายคนนี้ จะเคยเป็นคนที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นมาก่อน แต่หวังเย่าก็ยังไม่ลืมเป้าหมายในการมาครั้งนี้ เขาได้พูดขึ้น “ฉันหวังว่าลุงจะทำเชือกจิตให้กับเรา ลุงขายให้เราแค่ไม่กี่ชิ้น แล้วเราจะออกจากที่นี่ไป อีกไม่นานดินแดนนรกก็จะเปิด ฉันกลัวว่าคงไม่มีเวลาพอมาซื้อในครั้งหน้าได้ทัน”

“เมื่อเทพไฟออกตัวแทนนายแล้ว ฉันจะยกเว้นให้ก็ได้ นายฉลาดดี นายเป็นคนแรกที่มองตัวตนของฉันออก ฉันเห็นว่านายโดดเด่นดี งั้นฉันจะทำให้นายก็แล้วกัน” หยานเทียนพูดขึ้น

“ขอบคุณผู้อาวุโส ! ฉันต้องการเชือก 6 เส้น” หวังเย่าพูดขึ้น “ถ้าการทำเชือกจิตส่งผลเสียต่อร่างกายลุง งั้นฉันจะหาทางชดใช้ให้เอง…”

หวังเย่ายังพูดไม่จบ หยานเทียนก็ยกมือขึ้นพร้อมกับรูนลึกลับปรากฏขึ้นมาก่อนจะรวมตัวกันกลายเป็นเชือกสีแดง

เชือกเหล่านี้ยาว 3 นิ้ว มันเหมือนกับเชือกทั่วไป แต่หยานเทียนกลับสร้างมันขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ในพริบตาเขาก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้หลายสิบเส้นแล้ว

“พอแล้ว พอแล้ว ! ผู้อาวุโสหยุดเถอะ” หวังเย่ารีบตะโกนออกมา เขาบอกว่าต้องการแค่ไม่กี่เส้นแต่ชายแก่คนนี้กลับสร้างมันขึ้นมาจำนวนมาก

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset