นักปราชญ์ผู้ละโมบ
วันนี้จัดการได้เฉพาะวัตถุดิบที่ผมเอาออกเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็เอาไว้จัดการวันอื่นก็แล้วกัน แต่ก่อนที่ผมจะออกจากกิลด์ คุณเอ็ฟแลนด์ ก็บอกให้ผมกลับมาอีกในพรุ่งนี้
ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่หน้าร้านแห่งหนึ่งอยู่
「คงเป็นที่นี่ที่เดียวที่ต้องมาสินะ…..」
ผมเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปข้างในร้าน นาตาลีปราชญ์โลลิ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่กำลังนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์
เมื่อสังเกตเห็นว่าผมเป็นลูกค้า เธอก็ยิ้มออกมาให้ผม
「ไง โทยะเองเหรอ เป็นยังไงบ้างวันนี้? ครั้งก่อนนายมาซื้อหนังสือเวทย์ของนักบวชตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูงสินะ นายต้องการโพชั่นรึเปล่า? 」
「จริงๆ แล้ว… ผมกำลังมองหาตำราเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์และตำราเวทย์มนตร์ทั่วไปอยู่นะครับ…. 」
「น่าแปลก นายเป็นนักบวชผู้ฟื้นฟูไม่ใช่เหรอ? นายต้องการของพวกนี้จริงดิ? แน่นอนว่าชั้นมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงขั้นสูงเลยล่ะ แต่ชั้นก็เลือกลูกค้าเหมือนกันนะ ถ้าพวกเขาซื้อไปแล้วใช้ไม่ได้ ขายไปแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? 」
ผมหยุดไปครู่หนึ่ง ผมว่าพบว่ามันเป็นการยากที่จะอธิบายถึงสถานะการณ์ของผม ตอนอยู่ในกิลด์ผมได้รับคำชี้แจงถึงระดับเลเวลโดยปกติของคนบนโลกนี้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากที่จะบอกเธอ
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ว่าผมไม่สามารถซื้อตำราเวทที่เหลือได้ ผมจึงตัดสินใจบอกนาตาลีเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
「 – เปลี่ยนอาชีพอย่างนั้นเหรอ…… เหมือนชั้นจะเคยได้ยินมาก่อนนะ」
「!? เธอรู้เกี่ยวเรื่องนี้งั้นเหรอ…..? 」
「นายคิดว่าชั้นเป็นใคร? ฉันคือนักปราชญ์นาตาลีนะ ดังนั้นที่นายเปลี่ยนเป็นนักเวทย์ ชั้นก็พอรับได้อยู่」
ฉันพยักหน้าให้เธออย่างจริงใจ แล้วเธอก็ยิ้มอย่างเห็นด้วย แล้ววางหนังสือสามเล่มไว้บนเคาน์เตอร์
ตำราเวทย์มนตร์ศักดิ์สิทธิ์มีปกสีขาว ในขณะที่ตำราเวทมนตร์คุณสมบัติธาตุมีปกสีดำ
「พวกนี้คือตำราเวทย์มนต์ที่นายต้องการ แต่… ชั้นมีเงื่อนไขก่อนที่จะขายพวกมัน」
“เงื่อนไข….? อะไรล่ะ? 」
นาตาลีพยักหน้า และแนะนำบางอย่างที่ผมไม่เคยคิดที่จะทำให้กับเธอเด็ดขาด
「มาเป็นศิษย์ของชั้นเถอะ เจ้านักบวชตัวน้อย」
“-ชั้นขอปฏิเสธ “
ผมตอบทันทีโดยไม่คิด แม้ว่าเธอจะอ้างว่าเธอเป็นนักปราชญ์ แต่เธอยังคงดูเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผมไม่อยากเป็นเด็กฝึกงานของสาวน้อยโลลิหรอกนะ
นาตาลี ตอบโต้กลับมาอย่างฉุนเฉียว
「ถ้าอย่างนั้นชั้นจะไม่ขายพวกมันให้นายหรอกนะ เมื่อก่อนชั้นคนนี้ที่อยู่ในระหว่างการเดินทางฉันเคยถูกเรียกว่า “ปราชญ์แห่งทไวไลท์”เลยนะ ชั้นเคยได้ลิ้มรสอาหารอันโอชะจากทั่วทุกมุมโลก และได้รับประสบการณ์มามากมาย หากนั่นคือคำตอบของนักบวชตัวน้อยละก็ ชั้นก็เลือกที่จะปฏิเสธเขาด้วยเช่นกัน! 」
ของอร่อยจากทั่วทุกมุมโลกงั้นเหรอ…..บางทีอาจจะ …ก็ได้……
「 – นาตาลี ถ้าชั้นให้เธอกินอะไรดีๆ ที่เธอไม่เคยกินมาก่อน เธอจะขายพวกนี้ให้ผมได้ไหม? 」
ผมรู้ทันทีว่าเธอจะลองกัด 『ของอร่อยที่เธอไม่เคยกินมาก่อน』 จากนั้นเยาะเย้ยผม
「ของอร่อย ๆ งั้นเหรอ….?. ถ้านายของอร่อย ๆ นั้นทำให้ชั้นพอใจได้ละก็นะ ชั้นยินดีจะขายพวกมันให้นายแล้วกัน ไม่สิ อันที่จริงแล้วเอาพวกมันไปฟรี ๆ เลย! 」
「เธอพูดแล้วพูดแล้วนะ มาที่บ้านผมคืนนี้สิ ผมจะเตรียมของอร่อย ๆ ให้พร้อม! แล้วก็อย่าลืมเอาตำราเวทย์มาด้วยล่ะ! 」
「เธอดูมีความมั่นใจมากไปรึเปล่า? อย่าประมาทชั้นเกินไปล่ะ ฉันจะไปที่นั่นตอนร้านปิด ดังนั้นนายควรเตรียมตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ! 」
“ชั้นจะตั้งหน้าตั้งตารอเธอเลยล่ะ! 」
ผมพูดตรง ๆ ออกไปแบบนั้น จากนั้นออกจากร้านไป
แน่นอน ผมมั่นใจว่า นี่มันจะต้องสนุกแน่ ๆ
*********************************
ผมรีบกลับไปที่คฤหาสน์ด้วยรอยยิ้มและความมั่นใจที่ท่วมท้น
เมื่อผมไปถึงบริเวณบ้าน ผมก็คุยกับโคคุโยะอยู่แป๊ปหนึ่งที่คอกม้า ก่อนจะเข้าไปในคฤหาสน์
เฟอร์ริสปรากฏตัวต่อหน้าผมขณะที่กำลังเดินเข้าไปในห้องโถง
「กลับมาแล้ว เฟอร์ริส」
『โอ้…..ยิน…ดี…..ต้อนรับ…. กลับมา… นะ… โทยะ…….. 』
เธอพูดว่าอะไรนะ?
「เฟอร์ริส เธอเรียกชั้นว่า 『โทยะ 』 งั้นเหรอ? 」
เฟอร์ริสหันหลังกลับ แล้วก็หายตัวไปเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของผม
「เฟอร์ริสพูดชื่อของเราด้วย….. 」
ผมรู้สึกโล่งใจจริง ๆ นาตาลีเคยบอกผมว่า 『 จิตวิญญาณประจำบ้านนั้นจะไม่พูด พวกเขาจะไม่สามารถไม่เปลี่ยนการแสดงออกทางสีหน้าได้ พวกเขาจะทำแค่ดูแลบ้านเท่านั้น 』 แต่เฟอร์ริสนั้นสามารถแสดงสีหน้าออกมาบ้างเป็นบางครั้ง แม้จะเล็กน้อยแต่เธอก็พูดได้ ซึ่งทำให้ผมมีความสุขมากจริง ๆ
「โอ้… จริงสิ…. ชั้นต้องรีบเตรียมของกินให้โลลินาตาลีนี่นา…. 」
ผมจึงรีบพุ่งเข้าไปในห้องครัว
「จะทำอะไรดีน้า…..ผมค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าเป็นอาหารญี่ปุ่น เธอไม่เคยกินแน่นอน… 」
ผมวางส่วนผสมต่าง ๆ ที่เอาออกมาจากคลังมิติ ขณะเดียวกันก็กำลังกอดอก พร้อมกับคิดว่าจะทำอาหารอะไรดี
ผมมีเกลือ น้ำตาล และพริกไทยที่ซื้อมาจากแผงขายของ พริกไทยมีราคาแพงกว่าส่วนผสมอื่นๆ มาก แต่มันก็มีความจำเป็นอย่างแน่นอน สำหรับต่อมรับรสของผมที่ซึ่งคุ้นเคยกับอาหารญี่ปุ่น ดังนั้นผมจึงซื้อมันมาอย่างไม่ลังเล
แต่ผมก็ไม่เจอของจำพวกซอสปรุงรส โชยุ หรือ ซีอิ๊วขาว เลย
“เดี๋ยวนะ…. ชั้นแค่ต้องให้เธอกินอะไรอร่อย ๆ แค่มื้อเดียวนี่นา…. 」
แผนหนึ่งเข้ามาในความคิดซึ่งทำให้ฉันยิ้มได้ และฉันก็รอให้นาตาลี ปราชญ์ตัวน้อยมาถึง
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว ในขณะที่ผมกำลังผ่อนคลายอิริยาบทอยู่นั้น เฟอร์ริสก็ปรากฏตัวขึ้น
” – มา…แล้ว.. “
“โอเค. ขอบใจนะเฟอร์ริส”
ผมเดินไปเปิดประตู จากนั้นก็ทักทายนาตาลี
「เจ้าของบ้านเช่นนี่เอง มาถึงแล้วเหรอ? 」
「อืม. หลบไปเลย – นายรู้ว่านายต้องทำอะไร」
“แน่นอนชั้นรู้. เตรียมตัวเตรียมใจของเธอให้พร้อมด้วยล่ะ」
ผมเชิญนาตาลีเข้าไปในห้องอาหาร จากนั้นก็ให้เธอนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“เอาไวน์ไหม? 」
「อืม. จัดไป. ชั้นก็ชอบดื่มอยู่นะ
ผมวางแก้วแล้วหยิบไวน์แดงหนึ่งขวดจาก คลังมิติ โดยสงสัยว่าจะผิดกฏหมายหรือเปล่าที่จะมอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับนาตาลีซึ่งดูเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงในหลายๆ ด้าน
ผมเปิดขวดไวน์ แล้วเทมันลงในแก้วที่มีน้ำเติมอยู่ครึ่งหนึ่งอย่างระมัดระวัง
“รอแป๊บนะ. เดี๋ยวชั้นจะเอาอาหารของเธอมาให้」
เมื่อหลบออกจากสายตาของเธอได้แล้ว ผมก็เอาอาหารออกจากคลังมิติ แน่นอนว่าอาหารนี่คืออาหารจากในเกม
「ชั้นแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นปฏิกิริยาของเธอเลย….. 」
ด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าของผม จากนั้นผมก็หยิบจานอาหารแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องอาหาร」
——————————————————————————-
สวัสดีครัย นายนำพริก รายงานตัว ตอนนี้เราก็มาถึงตอนที่ 15 กันแล้วนะครับ ครึ่งหนึ่งของเล่ม 1 แล้วเย้ ตบ มือ ๆ อยากให้ผู้อ่านคอมเมตน์เกี่ยวกับการแปลสักน่อย เพราะเอาจริง ๆ ผมยังรู้สึกว่า เนื้อหามันยังจืด ๆ ไปหน่อย แต่ก็อย่างว่าในมังงะ มันสรุปแล้ววาดรายละเอียดได้ดี ทำให้นิยายไม่ค่อยหวือหวาเท่าที่ควร ส่วนสำหรับท่านใดชอบการแปล นี้ อยากสนับสนุนเงินเที่ยวปีใหม่ ให้นายน้ำพริก ก็ขอเชิญช่องทาง QR โค้ดด้านล่างได้เลยนะครับ เอาจริง ค่าใช้จ่ายในแต่ละตอนคือกาแฟ 1 แก้ว ตอนนี้ก็ ซัดทรีอินวัน มาได้หลายวันแล้วเพราะเงินเดือนยังไม่ออก 555 ขอบคุุณทุกคนที่ติดตามครับ