นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 6 ไอเทมโคตรโกง

ตอนที่ 6 ไอเทมโคตรโกง

        ไอเท็มโคตรโกง

 

       แสงแดดยามเช้าค่อยๆ สาดส่องเข้ามา ปลุกผมให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหล

       「นี่เราสลบไปนานแค่ไหนกันเนี่ย? 」

 

       ผมลุกออกจากเตียงขึ้นมาเปิดหน้าต่าง จากนั้นก็มีลมเย็น ๆ พัดผ่านตัวผมไป

 

       หลังจากบิดขี้เกียจเล็กน้อย ผมก็ตื่นเต็มที่ ผมก็ล็อคห้อง จากนั้นก็สวมเสื้อคลุมขนนก แล้วลงไปที่ห้องรับประทานอาหาร

 

       **************

 

       ผมพบว่าแขกคนอื่นๆ ก็กำลังรับประทานอาหารเช้าด้วยเช่นกัน จากนั้นเรมี่ ก็สังเกตเห็นผมแล้วเดินข้ามายิ้มให้

 

       「ไง โทยะซัง อรุณสวัสดิ์นะ! เมื่อคืนฉันกังวลแทบแย่เห็นนายไม่ลงมาทานข้างล่าง  นายโอเคไหม? 」

       ผมนั่งลงบริเวณที่นั่งเคาน์เตอร์「ดูเหมือนผมจะเหนื่อยกว่าทีคิด ก็เลยเผลอหลับไปนะครับ」ผมบอกกับเรมีไปแบบนั้น

 

       ไม่นานอาหารเช้าซึ่งประกอบด้วยขนมปัง และซุปก็ถูกวางลงตรงหน้าผม

       「เมื่อวานนายไม่กินอะไร ชั้นก็เลยทำเผื่อให้นายเยอะหน่อย โอเคนะ? 」

 

       ซุปที่อยู่ในชามที่มีขนาดใหญ่กว่าของแขกคนอื่นๆ พร้อมด้วยขนมปังสามชิ้นที่วางอยู่บนโต๊ะ สัดส่วนของอาหารที่ผมได้ มีปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ

       「…….. ขอบคุณสำหรับอาหาร จะทานละนะครับ “

 

       ผมหัวเราะเบาๆ จากนั้นหยิบชามซุปซด มันมีรสชาติที่อ่อนละมุน และเต็มไปด้วยรสชาติของผัก

       บางทีความหิวอาจเป็นเป็นตัวกระตุ้นให้ผมกินเยอะขึ้นกว่าปรกติ  จึงทำให้อาหารที่วางตรงหน้า ถูกโกยลงท้องจนหมดภายในสิบนาที

       หลังจากกินเสร็จ ผมก็พนมมือแล้วกล่าวคำว่า `ขอบคุณสำหรับอาหาร 」 เมื่อเรมี่เห็นเธอก็พยักหน้า

       「นั้นเป็นท่าขอบคุณที่ดูแปลก ๆ นะ มันเป็นวิธีการขอบคุณของบ้านเกิดนายงั้นเหรอโทยะ? 」

       “…… ถูกต้องเลย…. 」

       「นายนี่แปลกจริงๆ ด้วยนะ โทยะ」

 

       เรมี่กลับไปเสิร์ฟแขกคนอื่นๆ ด้วยรอยยิ้ม ผมโบกมือให้เธออย่างไม่ใส่ใจ ระหว่างทางกลับห้อง

 

       ผมนอนลงบนเตียง แล้วหยิบกิลด์การ์ดออกมาเพื่อตรวจสอบ มันมีประเทศที่เราลงทะเบียนเขียนเอาไว้ด้วยนี่นา

       「ประเทศที่เราถูกอัญเชิญไปเรียกว่า อาณาจักรเจนเนอเรท รึเปล่านะ? เป็นประเทศที่มีชื่อเดียวกับที่อยู่ในเกม ส่วนที่นี่คืออาณาจักรซารันดีร์ และเมืองนี้มีชื่อว่าเฟนดิ… ผมไม่เคยได้ยินชื่อเหล่านั้นในเกมมาก่อน… ตกลงนี่คือโลกเดียวกับในเกมหรือว่าแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงกันแน่นะ? แต่ความจริงที่ว่าเราสามารถเข้าถึง คลังมิติ ได้ที่นี่…… อ่า… ไม่เข้าใจเลยโว้ยยย! 」

 

       ผมใช้สมองอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีคำตอบที่เป็นประโยชน์ใดๆ เข้ามาอยู่ดี ผมเก็บกิลด์การ์ดไว้ในคลังมิติ จากนั้นก็คิดถึงแผนการในอนาคตของผมมากขึ้น

       「เราจะมองหาวิธีกลับไปสู่โลกเก่าจริง ๆ งั้นเหรอ….. หรืออาจจะอยู่ที่นี่เป็นการถาวรดี…? มันก็คงไม่แย่หรอกมั้ง”

 

       **********

 

       รูปร่างที่อ่อนเยาว์ และหน้าตาของตัวละครที่ผมใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้าง ทำให้ผมไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับหน้าตาในชาติที่แล้วได้เลย

       「อย่างแรกที่เราต้องทำ…ก็คือสร้างบ้านให้ตัวเองอยู่…… ลองคิดดูเล่นๆ  เรายังไม่ได้ตรวจสอบสิ่งของในคลังมิติให้ละเอียดดีเลย  บางอย่างน่าประโยชน์สำหรับเรามากเลยทีเดียว」

 

       ในเกมผมสุ่มได้อาวุธ  อุปกรณ์ และไอเท็มหายากอื่น ๆ ที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวล 300 ผมลองคิดชื่อของไอเท็มเหล่านั้นในใจใน ในตอนนั้นผมก็นึกขึ้นได้

       「นี่… อืม เจ้านี่น่าจะใช้ได้…. 」

 

       ผมวางไอเท็มที่เอาออกมาจากคลังมิติ แล้วเอามาเรียงไว้บนเตียง

 

       ผมเลือกพวกมันมันมาอย่างพิถีพิถัน โดยมันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพทางกายภาพ และเวทมนตร์ ได้แก่ แหวน สร้อยคอ และกำไล หลังจากตรวจสอบเอฟเฟกต์แล้ว

       “นี่มัน…….. “

 

       แหวนที่ผมถืออยู่ในมือมีสีเงิน และมีหินสีแดงฝังอยู่ มันเป็นแหวนเสริมพลังสำหรับมือใหม่ ผลของมันคือสามารถเพิ่มคะแนนค่าประสบการณ์ของตัวละครที่เลเวลต่ำกว่า  100 ได้ร้อยเท่า

       เมื่อในเกมมีจำนวนตัวละครมีเลเวลเฉลี่ยที่สูงมากขึ้นขึ้น จึงเกิดความไม่สมดุลของพลัง ระหว่างผู้เล่นเก่า และผู้เล่นใหม่ทำให้ฝ่ายบริหารของเกม จึงต้องแจกจ่ายวงแหวนเหล่านี้เพื่อการปรับสมดุลระหว่างผู้เล่น

 

       「สงสัยว่าเราจะสามารถใช้ความสามารถของมันได้รึเปล่านะ……. คิดว่ามันน่าจะได้ผลละมั้ง….. 」

 

       ผมกระแอมไอเล็กน้อยแล้วสวมแหวนบนนิ้วอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หยิบอุปกรณ์อื่นๆ ที่น่าจะใช้ได้ เช่น กำไลและสร้อยคอ ขึ้นมาใส่ จากนั้นก็ออกจากห้องไป

 

       ผมขอให้เรมี่ปล่อยโคคุโยะออมาจากโรงเลี้ยงสัตว์… ผมคิดว่ามันคงจะเบื่อที่จะอยู่ในคอกม้าเพราะในทันทีตอนที่เราเจอกันมันก็เริ่มที่จะเคี้ยวหัวผมอย่างเมามัน

       「หยูดดดดดด…. แกเบื่อขนาดนั้นเหรอ? ชั้นจะออกไปข้างนอกแล้ว อยากไปด้วยไหม? 」

       แง่บ ๆ ๆ ๆ ๆ  

 

       ********

 

       โคคุโยหรี่ตาลง มันแสดงความพึงพอใจขณะที่ผมกำลังลูบแผงคอของมัน… จากนั้นมันก็กลับมากัดหัวผมอีกรอบ

 

       ผมเช็ดหัวที่เปื้อนน้ำลายด้วยแขนเสื้อ ขณะที่เรากำลังมุ่งหน้าไปที่ประตูเมือง

 

       ผมทักทายเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูอย่างเป็นกันเองก่อนจะออกไปจากเมือง เมื่อวานนี้ ผมได้รับแจ้งเกี่ยวกับป่าที่มีมอนเตอร์ปรากฏตัวอยู่บ่อยครั้ง ผมรู้สึกดีจะได้ปล่อยให้โคคุโยได้วิ่งไปทางป่าอย่างอิสระ หลังจากนั้นผมกระโดดขึ้นไปบนหลังของมันแล้วเริ่มออกเดินทาง

 

       โคคุโยวิ่งไปตามถนนด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ ซึ่งเหนือกว่าม้าธรรมดาทั่วไปโดยสิ้นเชิง

 

       ได้ยินมาว่าต้องใช้เวลาขี่ม้าประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้าเขตป่า แต่นี่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงทางเข้าป่าแล้ว

       「เรามาถึงที่นี่ในพริบตาเลย…. นั้นเป็นเพราะนายเลยนะโคคุโยะ….」

 

       มันส่งเสียงและกระดิกหางให้ผม แล้วมองด้วยสายตาประมาณว่า 「เป็นไงล่า? 」 ผมตบคอมันแล้วพูด 「กูดจ๊อบ 」

 

       「ชั้นจะเข้าไปในป่าเพื่อล่ามอนสเตอร์สักหน่อย อยากให้แกอยู่ที่นี่สักครู่ อ่ะนี่น้ำดื่ม」

 

       ผมหยิบอ่างน้ำออกจากคลังมิติ และใช้เวทย์มนตร์สามัญประจำบ้าน เพื่อเทน้ำลงไป

 

       **************

       เวทมนตร์สามัญประจำบ้านนั้นได้รับการอธิบายไว้ในหนังสือเวทมนตร์สำหรับผู้เริ่มต้นที่ผมอ่านเมื่อคืนนี้ ผมสามารถร่ายเวทย์จากตำราเวทย์นั้นได้โดยไม่ยากเย็น

 

       โคคุโยรีบซัดน้ำแล้วรีบออกไปสู่ทุ่งหญ้าด้วยความกระตือรือร้น ส่วนผมก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้

       「เวทย์มนตร์สามัญประจำบ้านนั้นสะดวกแฮะ แต่ฉันก็ยังคงใช้เวทย์โจมตีไม่ได้… ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องเป็นอาวุธ… 」

 

       ผมยกดาบสองมือที่เอาออกมาจากคลังมิติขึ้นมา แล้วก็ลองเหวี่ยงมันเบาๆ เพื่อกะน้ำหนัก

       「รู้สึกว่าน่าจะไม่เป็นไร….. แม้ว่าเรายังเลเวลอยู่ 1 ดังนั้นจึงต้องแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าเราจะสามารถใช้ได้แค่เวทย์ฟื้นฟูได้ก็ตาม… 」

 

       ป่าที่อยู่ตรงหน้าผม เต็มไปด้วยต้นไม้สูงกว่าสิบเมตรเรียงรายกันอยู่ และด้านในก็มืดสนิท

 

       ผมเริ่มก้าวเข้าไป

 

       เมื่อเดินเข้าไปในป่าอย่างระมัดระวัง ไม่นานผมก็มองเห็นกลุ่มมอนเตอร์

 

       พวกมันคือก็อบลินเหมือนกับที่โคคุโยจัดการไป ก็อบลินทั้งสามฟาดกระบองของพวกมันไปมาผ่านพุ่มไม้เพื่อค้นหาเหยื่อ

 

       ผมซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้เพื่อศึกษาพวกมันจากมุมดี ๆ  พวกมันเดินผ่านผมไปโดยไม่สนใจตัวตนของผม

 

       ********

       ตอนนี้… ผมกำดาบของผมเอาไว้แน่น จากนั้นก็ฟันไปที่ก็อบลินจากด้านหลัง….

       ฉับ!!

 

       ในพริบตา ไหล่และลำตัวของมันก็ถูกตัดออก แล้วมันก็ตายทันที ก็อบลินที่เหลืออยู่อีกสองตัวก็ส่งเสียงร้องแปลก ๆ ออกมา มันเตรียมกระบองของตนเองให้พร้อมรับมือกับศัตรูที่พวกมันไม่คาดคิดซึ่งจู่ ๆ ศัตรูก็ปรากฏตัวขึ้นมา

 

       ผมฟันและแทงพวกมันทั้งสองทันที และจบชีวิตของพวกมันภายในไม่กี่วินาที

 

       ผมมองลงไปที่ซากก็อบลินทั้งสามตัวแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก ที่สามารถเอาชนะพวกมันได้ ผมรู้สึกว่ามุมปากของผมกำลังยกยิ้มอยู่

       「นี่คือ… นี่มันแตกต่างจากเกม… นี่มันเป็นของจริง… แหวะ น่าขยะแขยงชะมัด… 」

 

       ในกรณีนี้ ผมรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของร่างกายที่เพิ่มขึ้น

       「นี่มันอะไรกันเนี่ย…? 」

 

       ผมรีบตรวจสอบค่าสถานะของตัวเองทันที

       ◇―――――――――――――――――――――◇

       [ชื่อ] คิซารางิ โทยะ

       [เผ่าพันธุ์] มนุษย์

       [เพศชาย

       [อายุ] 16

       [อาชีพ] นักบวช

       [ฉายา] ผู้ถูกอัญเชิญ

       [เลเวล] 6

       [ทักษะพิเศษ] ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ความสามารถในการใช้เวทมนตร์กับทุกธาตุ และความสามารถในการได้รับทักษะทั้งหมด

       [ทักษะ] วิชาดาบ

       ◇―――――――――――――――――――――◇

       เลเวลได้เพิ่มขึ้น

 

       「ก็อบลินสามตัวเพิ่มเลเวลของเราขึ้นห้าเลเวล… นี่คงเป็นเพราะผลของแหวนหรือเปล่านะ…? 」

 

       ผมมองไปที่แหวนเสริมค่าประสบการณ์บนนิ้วกลางของมือซ้ายแล้วก็ยิ้มต่อไป

       「ใช่แล้ว ไฮจิน…. อย่ามายุ่งกับไฮจินนะเฟ้ย… 」

◇―――――――――――――――――――――◇

       ** ไฮจิน (Haijin) เป็นคำเรียกของเกมส์เมอร์ในญี่ปุ่นครับ โดยไฮจินจะสื่อถึงเกมส์เมอร์ที่จะเล่นเกม 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน หรือบางครั้งนำมาใช้ เรียกคนที่เล่นเกมหนัก ๆ หลาย ๆ ชั่วโมงต่อวันด้วยเช่นกันครับ

       ความหมายของคำพูดของโทยะก็คือประมาณกูจะฟร์ามแบบบ้าคลั่งแล้วนะใครอย่ามมายุ่งกับกุประประมาณนั้นครับ

 

 

◇―――――――――――――――――――――◇

ตอนนี้เจอะศัพท์เฉพาะเข้าไป หาข้อมูลกันยาว ๆ เลยครับ ยังไงก็ขอขอบคุณค่าชากาแฟมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ หากใครต้องการสนับสนุนสามารถ แสกนที่ QR โค้ดได้เลย
◇―――――――――――――――――――――◇
 

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset