[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 78 – 055:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑲ เหลี่ยมของเอลิซ่า

ตอนที่ 78 - 055:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑲ เหลี่ยมของเอลิซ่า

055:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑲ เหลี่ยมของเอลิซ่า

 

 

 ――เพราะมันมีช่องโหว่ให้ใช้งานไงล่ะ

 

ตัวอย่างเช่น มาร์ควิส ชิล่า มูเอล ถูกแทงไว้และฟื้นคืนชีพกลับมา อย่างน้อยในฐานะที่เคยได้เห็นเป็นกบฏก็เหมือนกับการโดนโทษประหารไปแล้วเพราะความต่ำช้าของลิบเรย์ แต่แม้ว่าเธอจะเสียไปแต่ก็ไม่ได้เสียชาติตระกูลแต่อย่างใด

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งตราบใดที่เธอถูกสำเร็จโทษไปแล้ว แต่ว่าก็ไม่มีทางพ้นความผิดจนกว่าจะได้รับการตัดสินใจจากราชวงศ์

 

 

 

แต่ว่าการกระทำของลูน่าได้เกิดส่งผลกระทบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และในขณะเดียวกันหากพวกขุนนาง แม้เพียงชั่วครู่เห็นด้วยกับเธอส่วนใหญ่ราชวงศ์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

 

 

 

เพราะทางราชวงศ์เองก็ถือเป็นผู้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

 

หากตระกูลขุนนางส่วนใหญ่คิดว่าการกระทำของเธอนั้นถูกต้อง หากคิดตามหลักประชาธิปไตยก็ไม่สามารถหักล้างได้

 

สถานการณ์ในตอนนี้ล้วนได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และเหตุผลสามารถพลิกกลับได้โดยง่ายหากหันไปใช้จำนวนเข้าว่า

 

 

 

「สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ขอบคุณที่มาเข้าร่วมงานในวันนี้ โปรดเพลิดเพลินไปให้ถึงขีดสุดค่ะ」

 

 

 

หลังจากพูดปิดสั้นๆลูน่าออกจากห้องโถงของปราสาทออกัสต์ ด้วยท่วงท่าอันงดงาม

 

ขณะที่เธอก้าวเดินไปที่โถงทางเดิน มาเรียที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายกระซิบเบาๆที่หูฉัน

 

 

 

「ท่านพี่นี่ใจเด็ดเดี่ยวจังเลยนะคะ」

 

 

 

หากคิดตามหลักมาเรียแล้วการเป็นคนกลับชาติมาเกิด ถ้ามีของที่ใช้ชุบชีวิตได้แบบนี้ปกติไม่มีใครเขากล้าใช้เล่นแบบทิ้งขว้างกันแบบนี้หรอก เพราะมันเป็นความสามารถสุดโกงที่ทุกคนต้องการ

 

อย่างไรก็ตาม ลูน่านั้นค่อนข้างเอาใจใส่และใช้พลังของเธอด้วยความใหญ่โต

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วปัญหาตามหลังมากเกินกว่าจินตนาการจะรับไหว

 

ลูน่าหัวเราะคิกคักจากนั้นก็หันมามองหน้าฉันพร้อมกับถอนหายใจ「เฮ้อ」

 

 

 

「มาเรีย เดี๋ยวฉันจะเล่าอะไรดีๆให้ฟัง ยิ่งตระหนักได้ถึงความสามารถที่ไม่มีใครมีมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเจอสถานการณ์ที่ต้องใช้พลังนั้นมากขึ้นในอนาคต นั่นเป็นข่าวสารมันวิ่งไปไม่หยุดไงล่ะ ไม่ว่าจะซ่อนมันเท่าไหร่มันก็ยิ่งถูกดึงดูดมากขึ้นมากเท่านั้น

 

และหลักฐานก็คือตราชั่งของความตายที่ถูกปกปิดไว้ในตอนท้าย

 

หากมัวแต่ลังเล ก็จะถูกบังคับให้ได้ใช้พลังในช่วงที่รู้สึกอึดอัดใจเพราะมัวห่วงความคิดของคนอื่น

 

ถ้าต้องมานั่งวิตกกังวลทำไมเราไม่คิดหาวิธีใช้มันได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพล่ะ

 

ยิ่งหักห้ามมันก็ยิ่งจำเป็นต้องใช้ เพราะถ้าไม่ทำให้มันดีก็จะทำให้การตัดสินใจของเราขาดประสิทธิภาพ

 

จริงไหม? ไม่ว่าความสามารถเหล่านั้นจะโกงมากแค่ไหน แต่คนที่ใช้ก็คือมนุษย์  

 

เพราะแบบนั้นเราต้องให้ผู้คนพึ่งระลึก

 

หากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับ ก็ปล่อยให้สถานการณ์พาไปและคิดไว้เสมอว่าทุกอย่างต้องมีการสูญเสีย

 

หากคิดแบบนี้ได้เธอก็จะไม่โดนใครเขาหลอกไม่เพียงแค่เรื่องของพลัง」

 

 

 

อ่าฟังแล้วบรรลุธรรม

 

แต่ว่าคำพูดของลูน่านั้นไม่ได้มาจากความตั้งใจ

 

เพราะมันคือเหตุการณ์ในชาติก่อน ดังนั้นจึงเป็นประสบการณ์มากกว่า

 

มาเรียฟังคำพูดของพี่สาวด้วยใบหน้าลึกลับและคิดเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอ

 

 

 

(ในชีวิตก่อนหน้านี้ฉันตายเพราะเป็นทาสบริษัทโหด พวกคนเก่งมักจะรีบทำงานและผลักไสงานที่เหลือให้คนอย่างฉันทำในท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีใครยึดถือคติถูกต้อง แค่คนที่ขาดความรับผิดชอบมักจะได้ประโยชน์เสมอ……)

 

 

 

คำพูดของท่านพี่มันคือความจริง

 

เมื่อคิดอย่างงั้นมาเรียม้วนผมสีน้ำเงินของเธอ

 

 

 

 

 

 ――ดีจังเลยนะ

 

ลูน่าและคนอื่นๆได้จากไปแล้วและแขกทุกคนก็เข้าพักที่โรงแรมด้วยสีหน้ามีความสุข เหล่าเมดต่างออกไปรวบรวมอุปกรณ์ทำความสะอาดจานและของตกแต่ง  

 

ราชินีเอลิซ่าที่ยังอยู่ในที่เกิดเหตุจนจบและเฝ้าดูด้วยความงุนงงกึ่งชื่นชมความคล่องแคล่วของ คนรับใช้ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง

 

 

 

เอลิซ่าออกจากห้องโถงและข้ามทางเดินไปยังกระทรวงเวทมนตร์ที่ตั้งอยู่

 

มีหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูออกมาด้วยสภาพที่ผมยุ่งเหยิงและเดินมาทางด้านหลังโดยไม่สนใจเหล่าพนักงานที่มองมา

 

เมื่อเปิดประตูไปที่ปลายสุดก็พบโต๊ะระดับสูงที่หัวหน้ากระทรวงเวทมนตร์  เคลย์ ดิล่า ชูเดล

 

 

 

「ปู่เคลย์ สบายดีไหม」

 

 

 

「เอ่อนี่มันท่านราชินีไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้?」

 

 

 

ชายชราคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีดำลุกขึ้นยืนจากที่นั่งเพื่อทักทายเอลิซ่าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

เธอคนนั้นแสร้งทำเป็นมองไปรอบๆแล้วพูด

 

 

 

「เอ่อวิดีโอที่ฉายให้ลูน่าจัง มันถูกบันทึกไว้ใช่ไหม?」

 

 

 

「แน่นอน เป็นผลมาจากการวิจัยเฉพาะเกี่ยวกับโปรเจ็กเตอร์ จากนี้ไปพวกเรากำลังตรวจสอบรายละเอียดของวิดีโอและเริ่มการวิจัยเพื่อประยุกต์ใช้ในเฉิงทางปฏิบัติ」

 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดเธอก็ยิ้มออกมา

 

 

 

「เป็นไปได้ไหมที่จะตัดต่อวิดีโอเหล่านั้น?」

 

 

 

「ก็ทำได้ในระดับหนึ่ง อยากให้เปลี่ยนแปลงส่วนไหนงั้นรึ?」

 

 

 

「ตัดส่วนสุดท้ายลงเล็กน้อยและใส่ฟุตเทจอื่นเข้าไปแทน พอจะทำได้ไหม?」

 

 

 

「ทำได้แน่นอนครับ」

 

 

 

รอยยิ้มของเอลิซ่ายิ่งเหลี่ยมมากขึ้น

 

 

 

「ถ้างั้นรีบเตรียมตัวสำหรับการตัดต่อเลย เตรียมโปรเจ็คเตอร์เดี๋ยวนี้ นอกจากนี้หากตัดต่อเสร็จแล้วพวกเราจะเอาไปฉายที่จัตุรัสเมือง เตรียมตัวให้พร้อม」

 

 

 

「……หรือว่าท่านหญิงเอลิซ่าคิดจะ……คุณหนูลูน่า เบล ดิแซคงั้นเหรอครับ」

 

 

 

เธอคนนั้นมองไปที่ชายชราด้วยดวงตาเบิกกว้างจากนั้น

 

 

 

「ปู่เคลย์ ฉันไม่อนุญาตให้คุณสอดรู้สอดเห็นเรื่องนี้อีก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ」

 

 

 

「เกินไปแล้วนะครับ」

 

 

 

บางทีเพราะแรงกดดันที่ถูกปล่อยมาจากอดีตนักบุญดาบ เคลย์ได้แต่ก้มศีรษะ

 

แต่ทางฝั่งราชินีเอลิซ่าก็ยิ้มซุกซน

 

 

 

「แต่ว่าปู่เองก็สนใจใช่ไหมล่ะ ? ลูกสะใภ้ที่มีความแข็งแกร่ง สติปัญญา และแม้กระทั่งความงามที่ผิดธรรมชาติจะกลายเป็นราชินี ลองคิดดูสิว่าโลกใบนี้จะเดินไปในทิศทางไหน」

 

 

 

ลูกชายของเอลิซ่าน่าจะมีความสามารถในการเข้าถึงลูน่า

 

อย่างไรก็ตาม ความสามารถของลูน่านั้นทะลุเกินคนธรรมดาไปแล้ว

 

เธอเป็นเด็กที่เป็นอัจฉริยะ

 

เป็นเทพธิดาที่มาจุติ มันโดดเด่นที่ทำให้เธอคิดเช่นนั้น

 

ฉันอยากให้เธอคนนั้นได้อยู่เคียงข้างกับลูกชายของฉันที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์

 

ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นคนเห่อลูกฉันอยากจะให้เธอขึ้นครองบัลลังก์แทนด้วยซ้ำ

 

 

 

ในระยะเวลาสั้นๆจะต้องให้พวกเขาเป็นคู่รักกันและผลิตทายาทออกมา

 

หากมีความสัมพันธ์เช่นนั้นและถ้าทำให้ราชาองค์ต่อไปมีเขี้ยวเล็บที่มากขึ้นไปอีกจะยิ่งทำให้อาณาจักรนี้จะเจริญเติบโตอีกมาก สามารถครองทวีปและรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียว

 

 

 

เปลวไฟแห่งความทะเยอทะยานยังคงลุกโชนในหัวใจของเอลิซ่า

 

ไม่สิ ต้องกล่าวว่าจิตใจที่เคยหยุดเต้นได้เปล่งประกายแสงเจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง

 

ความรู้สึกอันแสนหิวโหยและไม่บรรเทาลงเว้นแต่จะได้ลูน่ามาเป็นลูกสะใภ้

 

 

 

(……ลูน่า อย่าคิดว่าจะชนะฉันได้เพราะเพียงแค่คุมขุนนางได้ ฉันน่ะอยากได้อะไรก็ต้องได้)

 

 

 

เธอนึกถึงฉากที่เธอเคยเห็นรอยยิ้มอันแสนดุร้ายนั่นอีกครั้ง

 

ยูโทเปียที่เคยสงบสุขมาอย่างยาวนาน ณ บัดนี้ มันกำลังแหลกสลายเพราะจะทำให้โลกนี้กลับมาเป็นดิสโทเปียอีกครั้ง

 

ตวามฝันในการครอบครองโลกทั้งใบที่เธอเคยยอมแพ้ตอนที่ได้ขึ้นเป็นราชินี

 

แต่บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นจริงได้กับเธอคนนี้

 

 

 

เพราะงั้นเธอไม่ยอมแพ้

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะไม่ทอดทิ้งความฝันอีกแล้ว

 

เอลิซ่าที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความโลภจนไม่สามารถหยุดได้

 

 

 

「สิงโตทองคำตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันเป็นเวลานานแล้ว」

 

 

 

หัวหน้ากระทรวงเวทมนตร์พึมพำ แต่ว่ามันไม่ดังพอที่จะถึงหูของเอลิซ่าที่เดินจากไปแล้ว

 

 

 

 

 

 ――วันรุ่งขึ้นเนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่เหล่ามาร์ควิสดิแซคจะกลับบ้าน พวกเหล่าคนรับใช้จึงถูกส่งไปยังปราสาท ซาราเอล่าและจิลล์ เองก็เข้าไปด้วย

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งตอนนี้ลูน่าและสหายต่างมีเวลาว่างในการเดินเที่ยวรอบเมือง

 

 

 

หลังจากเที่ยวชมตลาดและทานขนมหวานเช่นเครปที่มีแค่ในเมืองหลวง พวกเราก็มุ่งหน้าไปที่จัตุรัสเพื่อพักผ่อนและรับประทานอาหาร

 

วันนี้เมฆค่อนข้างหนา ดังนั้นมันเลยไม่มีแสงสะท้อนลงมาและอุณหภูมิเองก็เย็นเล็กน้อย

 

กลุ่มคนคุ้มกันและสมาชิกหน่วยรบทางอากาศมากกว่าสิบคน คนอื่นๆที่เมามายจนหัวราน้ำและได้รับบาดเจ็บกำลังนอนอยู่บนเตียง

 

โชคดีที่ไม่ได้ดื่มจนตาย

 

 

 

「พี่สาว ! ดูนั่นสิคะ!」

 

 

 

อลิซ่ารีบมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสและพูดออกมา

 

ตรงที่เธอชี้ไปนั้นเต็มไปด้วยพุ่มไม้และเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็เจอเห็นวัตถุที่คุ้นเคยตา

 

 

 

「เอาจริงดิ……!」

 

 

 

ลูน่าคร่ำครวญและแสงสว่างปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่

 

สิ่งที่ฉายบนหน้าจอคืองานเลี้ยงเปิดตัวของลูน่าเมื่อวานนี้

 

 

 

『――ก่อนอื่นฉันขอแสดงความขอบคุณต่อครอบครัวขุนนางที่ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวของลูน่า เบล ดิแซค ค่ะ』

 

 

 

ลูน่าบนหน้าจอโค้งคำนับ

 

ฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นแอบถ่ายคลิปนั่นตั้งแต่เริ่มงาน หรืออาจจะเพราะตัดมาจากวิดีโอเมื่อวาน

 

งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่ลูน่ายังคงตกตะลึง

 

 

 

「ท้ายที่สุดแล้วพี่สาวดูดีมากเลยนะคะ」

 

 

 

ถัดจากเธอ อลิซ่าพูดอย่างน่าเศร้า

 

มาเรียไม่อยู่ในฉาก หลังจากงานเมื่อวานฉันก็พาเธอกลับบ้าน แต่เธอร้องขอว่าอยากอยู่ต่อกับฉันอีกคืนเพราะคิดถึง แต่ว่าเธอก็กังวลที่จะมารบกวนตระกูลมาร์ควิสเยอะขนาดนี้ไม่ได้และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของมาเรียเป็นหลัก พวกเราเลยต้องแยกกันอยู่ชั่วคราว

 

สิ่งที่ได้ทดแทนมาเรียก็คือชิล่า

 

นั่นเป็นเพราะเมื่อวานว่าเธอพูดไปแล้วว่าจะคอยปกป้องดูแลและรับใช้ลูน่า

 

เหล่าชิโนบินั้นแม้จะมองไม่เห็นแต่ก็สัมผัสตัวตนได้จางๆดังนั้นคงเฝ้าดูเธอจากที่ไหนสักแห่ง

 

 

 

「ยัยนั่นคิดจะทำบ้าอะไรกันแน่……」

 

 

 

ลูน่าพึมพำขณะมองไปบนจอ ขณะที่คนด้านล่างที่กำลังมองจอด้วยความสนใจ

 

 『เธอคนนั้น』แน่นอนว่าคือราชินีเอลิซ่า

 

เมื่อพูดถึงกับการติดตั้งอย่างเร่งด่วนแล้วมีเพียงแค่เอลิซ่าเท่านั้นที่ทำได้

 

แต่จุดประสงค์มันคืออะไรล่ะ

 

ลูน่ายืนกรานไปแล้วว่าเธอไม่มีแพลนจะแต่งงานเข้ากับราชวงศ์

 

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถูกออกอากาศว่า “งานเลี้ยงเปิดตัวของลูกสาวขุนนาง” แต่กลับแสดงให้ประชาชนสามัญได้เห็น

 

 

 

โดยปกติแล้วงานเลี้ยงเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้บุคคลธรรมดามีส่วนเกี่ยวข้อง

 

นี่เป็นเพราะมีลำดับชนชั้นเข้ามาเกี่ยวจึงไม่ใช่เรื่องที่เหล่าสามัญชนคนธรรมดาทั่วไปควรจะรู้และเป็นเรื่องไร้สาระที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะ

 

 ลูน่าคิดไว้ว่า「มันก็ไม่ได้มีอะไรแปลก ให้ทุกคนเห็นคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?」เธอคิดเช่นนั้น แต่ว่าขุนนางส่วนใหญ่นั้นให้ความสำคัญกับประเพณีและพิธีการ

 

 

 

ถึงกระนั้นราชินีก็ยังยืนกราน

 

ต้องมีอะไรแปลกๆที่จะแสดงขึ้นบนหน้าจออย่างแน่นอน

 

 

 

「……เอ๊ะ?」

 

 

 

ลูน่ามองหน้าจอพักหนึ่ง แต่เมื่อมองไปสักพักเธอก็รู้สึกว่าลางสังหรณ์ของเธอนั้นถูกต้อง

 

ส่วนที่ลูน่าแสดงจุดยืนทางสังคมต่อราชวงศ์ถูกตัดออก และข้อความแสดงความยินดีของเจ้าชายลำดับที่หนึ่งถูกเพิ่มมาในตอนท้ายของวิดีโอ

 

 

 

『ขอแสดงความยินดีกับลูน่า ในงานเปิดตัวการเป็นขุนนาง ฉันน่ะเฝ้าดูอยู่เสมอ หากมีปัญหาใดๆก็อย่าลืมติดต่อฉันล่ะที่รัก』

 

 

 

เจ้าชายอาเบลซึ่งแน่นอนว่าเป็นไอ้เจ้าชายจอมกะล่อนในอนาคตถูกแสดงภาพขึ้นมาพร้อมข้อความ

 

ฉันจะไม่มีวันคุยกับแกเด็ดขาดไอ้เด็กไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า!!!

 

ลูน่าคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นและรู้สึกว่าเลือดขึ้นหน้า

 

 

 

「――โดนเล่นแล้วไง!!」

 

 

 

ลูน่าเข้าใจแผนการของราชินีแล้ว

 

 

 

หมายความว่าไงน่ะเหรอ

 

ก็วิดีโอที่ฉายมันเกี่ยวกับลูกสาวมาร์ควิสใช่ไหมล่ะ

 

จากสิ่งนี้ ในตอนท้ายของวิดีโอมีรูปของเจ้าชายอาเบลและข้อความแสดงความยินดีคนที่เห็นจะคิดยังไงล่ะ

 

 

 

 อ่า นี่มันภรรยาของเจ้าชายงั้นเหรอ

 

ยัยราชินีปลูกถ่ายเฟคนิวส์ให้กับเหล่าประชาชนของเธอ

 

 จากนั้นหากมาร์ควิสดิแซคประกาศต่อสาธารณชนว่าจะไม่ส่งลูกสาวให้กับเจ้าชาย ประชาชนก็จะถาม「หาาาาาาาาา ไหงงั้นอะ?!」เป็นเสียงเดียวกัน

 

ในบางกรณีอาจจะเกิดความเป็นไปได้ที่จะลากส่วนอื่นๆมาเกี่ยวข้องอีกด้วย

 

 

 

แน่นอนว่าแม้ตระกูลมาร์ควิสดิแซคจะได้รับการสนับสนุนกับดยุคเวลซัค หากเป็นเรื่องเล็กๆก็พอตัดไฟแต่ต้นลมได้

 

แต่ว่านี่มันคือการปลูกถ่ายเฟคนิวส์ให้กับประชาชนและการมีการปลุกระดมจนทำให้ฝูงชนแตกตื่นได้

 

 

 

 แม้ว่านโยบายที่บังคับใช้โดยราชวงศ์จะล้มเหลวแต่「ถ้าเด็กคนนั้นยอมแต่งงานแต่โดยดีเรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น กระซิก~」ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงเคลื่อนไหวไม่ได้แน่ เพราะประชาชนที่ลุกขึ้นฮือ

 

 

 

 ฉันอยากจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว

 

 

「เห็นได้ชัดว่าหมากกระดานพลิกแล้ว……..ดูท่าจะเล่นงานยัยนี่ไม่ได้ง่ายๆแหะ」

 

 

 

ใช้เวลาไม่เพียงกี่วินาทีในการทำความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด รอยยิ้มที่สง่างามในตอนนี้ กลายเป็นรอยยิ้มของสัตว์ล่าเนื้อไปเสียแล้ว

 

 

ป.ล.เนื่องจากช่วงนี้ได้งานทำแล้ว เข้างาน 8 โมงเช้าเลิก 5 โมงเย็น จึงทำให้ไม่ค่อยได้มาอัพเดทเท่าไหร่ แต่เวลาทำงานคือจันทร์ถึงศุกร์ อย่างน้อยผมจะเจียดเวลามาแปลให้วันละหนึ่งตอน หากวันไหนไม่ได้ลงคือวันนั้นน็อคเพราะงานนั่นแหละครับ

ในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ จะมาจัดให้วันละ2-3 ตอน ครับ

 

แจ้งให้ทราบทั่วกันเด้อ ต้องให้ความสำคัญกับเงินเดือนมากกว่างานอดิเรกน้อ

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset