ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 984 ขัดแย้ง (2)

บทที่ 984 ขัดแย้ง (2)

“ฉัน​ก็​ไม่ได้​สนใจ​เหมือนกัน​ แต่​ใคร​ใช้ให้​พวกเรา​กลายเป็น​บุคคล​ระดับ​ผู้นำ​ใน​สำนัก​โดยไม่รู้ตัว​ล่ะ​ คนอื่นๆ​ เขา​ไม่สน​หรอก​นะ​ว่า​นาย​จะเป็น​ฝั่งสมาคม​พัน​ภูผา​หรือเปล่า​ พวกเขา​เพียงแค่​ทำลาย​ทุกอย่าง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ธรรมเนียม​เท่านั้น​ และ​นาย​ก็​เป็น​แบบนี้​” ชาย​ผม​เกรียน​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

“จริง​สิ” เขา​เปลี่ยน​หัวข้อ​ “ได้ยิน​มาว่า​นาย​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​รอบ​ร้อย​ปีของ​สำนัก​ ตอนนั้น​มีองค์กร​ไม่น้อย​ต่าง​มีอิทธิพล​กับ​นาย​ ถ้าไม่ใช่สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ของ​พวกเรา​มือไว​ ไม่แน่​ว่า​นาย​จะไม่เข้า​ร่วมกับ​พวกเรา​ถูก​ไหม​”

“ใช่” ลู่​เซิ่งตอบ​ยืนยัน​

“งั้น​ฉัน​ขอ​ถามสัก​คำถาม​ได้​ไหม​ ตอนนี้​นาย​เอาชนะ​โอว​หยาง​จี๋กับ​จ้าว​เฉวียน​เฉิน​ได้​ เห็น​พวกเขา​สอง​คน​บอ​กว่า​นาย​รังเกียจ​ที่​พวกเขา​อ่อนแอ​เกินไป​ใช่หรือเปล่า​ พอดี​เลย​ ตอนนี้​มีโอกาส​วาง​อยู่​หน้า​นาย​ นาย​ใช้มัน​แสดงให้เห็น​ว่า​ตัวเอง​แข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​ได้​นะ​ กล้า​รึเปล่า​ล่ะ​”

“…” ลู่​เซิ่งคร้าน​จะตอบ​เขา​ คำพูด​ท้าทาย​ระดับ​ต่ำ​แบบนี้​ไม่มีแม้กระทั่ง​กลวิธี​จูงใจใดๆ​ มีแต่​คนโง่​เท่านั้น​ที่​ติดกับ​

“อย่า​เงียบ​สิ ขอ​บอก​เลย​นะ​ว่า​ฉัน​ไม่ได้​กำลัง​ท้าทาย​นาย​ อีก​เดี๋ยว​นาย​จะอดใจ​ไม่ไหว​เอง​ นาย​ก็​รู้​นี่​ว่า​ตอนนี้​คน​เขา​เรียก​นาย​ว่า​อะไร​” ชาย​ผม​เกรียน​ยิ้มแฉ่ง​พลาง​ชูนิ้ว​หัว​แม่โป้ง

“นี่​ไง!” เขา​ขยับ​นิ้วโป้ง​ “คนอื่นๆ​ บอ​กว่า​นาย​เป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ ถูก​จัด​อยู่​ใน​อันดับ​เจ็ด​ของ​ทำเนียบ​ดวงจันทร์​แห่ง​ห​ลัน​เก๋​อห​ลั่ง​รื่อ​ ท่ามกลาง​อัจฉริยะ​ทั้งหมด​ใน​สาธารณรัฐ​ นาย​อยู่​ใน​อันดับ​เจ็ด​ ส่วน​โอว​หยาง​จี๋ที่​นาย​เอาชนะ​ได้​ก่อนหน้านี้​อยู่​ใน​อันดับ​เก้า​”

“…” ลู่​เซิ่งมอง​เขา​เหมือน​มอง​คนโง่​

“อะไร​กัน​ ไม่เชื่อ​หรือไง​” ชาย​ผม​เกรียน​หัวเราะ​อีกครั้ง​

“ฉัน​บอก​แล้ว​ว่า​ฉัน​ไม่สนใจ​” ลู่​เซิ่งเอา​มือ​ออกจาก​กระเป๋าเสื้อ​ เดิน​ไปด้าน​ข้าง​เพื่อ​จะตรวจดู​พี่สาว​หวัง​จิ้งใน​กล้องวงจรปิด​ผ่าน​โทรศัพท์​

เขา​ไม่ได้​สนใจ​อันดับ​บ้าบอ​อะไร​พวก​นี้​

“อย่า​เดิน​หนี​สิ ฉัน​ยัง​พูด​ไม่จบ​เลย​นะ​ รู้​ไหม​ว่า​โอว​หยาง​จี๋มีพี่สาว​อยู่​คน​หนึ่ง​ เป็นหนึ่ง​ใน​สุดยอด​เมล็ด​วิญญาณ​ของ​สมาคม​น้ำแข็ง​หิมะ​ นาย​ทำร้าย​น้องชาย​เธอ​จน​บาดเจ็บสาหัส​ ถึงสำนัก​จะไม่เอาเรื่อง​ แต่​ไม่ได้​หมายความว่า​พี่สาว​เขา​จะไม่ยอม​ทำ​อะไร​นะ​” ชาย​ผม​เกรียน​รีบ​พูด​จน​จบ​

พอ​เห็น​ว่า​ในที่สุด​ลู่​เซิ่งก็​หยุด​เดิน​ เขา​ก็​กล่าว​อย่าง​ได้ใจ​ว่า​ “รู้​ไหม​ว่า​เจ้าโอว​หยาง​จี๋เป็น​ลูกหลาน​คน​มีอำนาจ​ เบื้องหลัง​จะไม่มีที่พึ่ง​เหมือน​คนธรรมดา​ได้​ยังไง​ ไม่อย่างนั้น​ระดับ​อย่าง​มัน​ ต่อให้​เก่งกาจ​ขนาด​ไหน​ ก็​เป็น​รองหัวหน้า​สมาคม​กำเนิด​ใหม่​ไม่ได้​หรอก​”

เขา​นั่งลง​บน​ม้านั่ง​ข้าง​ตัว​ลู่​เซิ่งแล้ว​สาธยาย​ต่อ​

“นาย​คิดดู​ซี่ มีสิทธิ์​อะไร​ ถูก​ไหม​ นาย​มีคุณสมบัติ​ไม่เลว​ แต่​คน​ที่​มีคุณสมบัติ​มีอยู่​เยอะ​ถมไป นาย​ต้อง​มีประ​โชน​์กับ​คนอื่น​เท่านั้น​ พวกเขา​ถึงจะยอม​ติดตาม​นาย​และ​ปกป้อง​นาย​ เหตุผล​นี้​นาย​ว่า​ถูก​ไหม​ล่ะ​”

“นาย​จะพูด​อะไร​กัน​แน่​” ลู่​เซิ่งเริ่ม​หงุดหงิด​บ้าง​แล้ว​ เขา​อยาก​ก้ม​ดูท่า​นอน​ของ​พี่สาว​ แต่​ตอนนี้​เจ้านี่​เอาแต่​พูดจา​ไร้สาระ​กวน​เขา​อยู่​ได้​ ทำให้​ความอดทน​ใน​ใจเขา​ลดลง​เรื่อยๆ​ แล้ว​

“ฉัน​ก็​แค่​อยาก​จะบอก​นาย​ว่า​” ชาย​ผม​เกรียน​หุบ​ยิ้ม​ทันที​ “ใน​สำนัก​ นาย​เป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ แต่​เมื่อ​อยู่​ที่นี่​ พยายาม​อย่า​ทำตัว​เด่น​หรือ​อย่า​ทำตัว​กร่าง​เกินไป​จะดีกว่า​ ไม่งั้น​ ไม่มีใคร​ปกป้อง​นาย​ได้​แน่​”

ลู่​เซิ่งหรี่ตา​

“ฉัน​ว่า​นาย​เข้าใจผิด​ไปหน่อย​นะ​ ข้อ​แรก​ ฉัน​ไม่เคย​บอ​กว่า​ตัวเอง​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ข้อ​สอง​ ที่​ฉัน​แข็งแกร่ง​ ไม่ใช่เพราะว่า​ฉัน​แข็งแกร่ง​ แต่​เพราะ​พวก​นาย​อ่อนแอ​เกินไป​ ส่วน​ข้อ​สาม…”

เขา​เว้น​เล็กน้อย​

“ตั้งแต่นี้ไป​ อย่า​มากวน​ฉัน​! รู้​ไหม​ว่า​ทำไม​โอว​หยาง​จี๋ถึงบาดเจ็บสาหัส​”

“ทำไม​ล่ะ​” ชาย​ผม​เกรียน​ไม่โมโห​ เพียง​ทำ​หน้าทะเล้น​

“เพราะ​มัน​ปากมาก​”

ลู่​เซิ่งที่​ถือ​โทรศัพท์​ปล่อย​ความหงุดหงิด​ที่​ชัดเจน​ออก​มาจาก​ร่างกาย​ พร้อมกับ​ตั้งท่า​หาก​พูดจา​ไม่ลงรอย​ได้​มีการ​ลงไม้​ลงมือ​อัด​คน​แน่​

พลัง​วิญญาณ​ที่​ยิ่งใหญ่​หลาย​สาย​แผ่​พุ่ง​ออก​มาจาก​ตัว​เขา​อย่าง​ช้าๆ เหมือนกับ​เหว​ที่​ลึก​ไม่เห็น​ก้น​

พลัง​วิญญาณ​ที่​เย็นยะเยือก​กด​ทับ​วิญญาณ​ของ​ทุกคน​ที่อยู่​รอบ​ๆ ทำให้​พวกเขา​ตัวสั่น​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​

นอกจาก​ชาย​ผม​เกรียน​แล้ว​ คน​ที่​เหลือ​ต่าง​ก็​ตัวสั่น​ พา​กัน​ออกห่าง​จากลู่​เซิ่งมากกว่า​เดิม​

“จุ๊ๆ…พลัง​วิญญาณ​แกร่ง​จริงๆ​” ชาย​ผม​เกรียน​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ดูเหมือน​จะอยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​ขั้น​ทองคำ​แล้ว​…จุ๊ๆ มาถึงระดับ​นี้​ได้​ทั้งๆ ที่​ยัง​อายุ​น้อย​ขนาด​นี้​ สมกับ​เป็น​อัจฉริยะ​เลย​ เพียงแต่​…อีก​เดี๋ยว​ถ้าเจอ​โอว​หยาง​ถัว​จาก​สมาคม​น้ำแข็ง​หิมะ​ หวัง​ว่า​นาย​จะยัง​ใจกล้า​แบบนี้​ได้​อยู่​นะ​”

ลู่​เซิ่งหรี่ตา​พิจารณา​อีก​ฝ่าย​ เขา​รู้สึก​แปลก​พิกล​ ทั้งๆ ที่​อีก​ฝ่าย​มัด​ผ้าพันแผล​และ​ได้รับบาดเจ็บ​ แต่​เหมือน​จะไม่สนใจ​แม้แต่น้อย​ และ​ไม่มีอารมณ์​หดหู่​หลัง​พ่ายแพ้​เลย​สักนิด​

เหมือนกับ​ว่า​ทุกอย่าง​ที่อยู่​ตรง​หน้าเป็น​แค่​เกม​สำหรับ​เขา​เท่านั้น​ ให้​ความรู้สึก​ก้ม​มอง​จาก​ที่สูง​

ลางสังหรณ์​บอก​เขา​ว่า​ เจ้าหมอ​นี่​ไม่เหมือน​ผู้จัดการ​เรื่องราว​ระดับ​ทองคำ​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ธรรมดาๆ​

แต่​ลู่​เซิ่งคร้าน​จะคิดมาก​ ไม่ธรรมดา​ก็​ไม่ธรรมดา​เถอะ​ เพราะ​ต่อให้​ไม่ธรรมดา​อย่างไร​ก็​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​เขา​อยู่ดี​

เขา​เดิน​ไปด้าน​ข้าง​ ยึด​มุมมุมหนึ่ง​ไว้​ คนอื่นๆ​ ไม่กล้า​เข้าใกล้​เขา​ ต่าง​ก็​คุย​กัน​เบา​ๆ อยู่ห่างๆ​

ไม่นาน​นัก​ ผู้หญิง​ผม​แดง​ก็​นำ​กลุ่ม​ออก​ไปด้านนอก​ เหมือน​จะไปชมดู​เรื่อง​สนุก​ที่​ค่าย​น้ำแข็ง​หิมะ​

ชาย​ไว้​ผม​เกรียน​กับ​ผู้ดูแล​อีก​สอง​คน​อยู่​ดูแล​ผู้หญิง​สอง​คน​บน​เตียง​ผู้ป่วย​ต่อ​

ดูเหมือน​พวกเขา​กำลัง​เตรียม​ของ​ที่​จำเป็น​สำหรับ​การ​เคลื่อนย้าย​ ผู้หญิง​สอง​คน​นี้​ไม่ใช่แค่​ถูก​ขืนใจ​เฉย​ๆ แต่​คล้าย​ถูก​ทรมาน​มานาน​จน​ใกล้​จะเสียสติ​แล้ว​

ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​ มองดู​สายตา​ของ​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ ใน​นั้น​มีแต่​ไอ​ความตาย​

‘ช่างเถอะ​ ถ้าไม่เจอ​ก็แล้วไป​ ถ้าเจอ​ค่อย​ฆ่าทิ้ง​ก็​พอ​’ เขา​ไม่มีทาง​ออกตัว​ช่วยเหลือ​คน​ที่​ไม่ใช่ญาติ​ไม่ใช่คนรู้จัก​อยู่แล้ว​

เหมือนกับ​ผู้หญิง​เสื้อ​แดง​คน​เมื่อ​ครู่​ ดูท่าทาง​ของ​เธอ​ ไม่เหมือนกับ​ไปชมดู​เรื่อง​สนุก​ พา​คน​พกอาวุธ​ภูต​ไปขนาด​นั้น​ ดู​ก็​รู้​ว่า​เตรียม​จะไปมีเรื่อง​

แต่​อย่างไร​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​เขา​

“นาย​ไม่สนใจ​เหรอ​” ชาย​ผม​เกรียน​เข้า​มาหา​พร้อม​หัวเราะ​คิกคัก​อีกครั้ง​

ลู่​เซิ่งปิด​กล้องวงจรปิด​ที่​ใช้ดู​หวัง​จิ้งบน​โทรศัพท์​ทิ้ง​ หวัง​จิ้งพลิกตัว​โดยไม่รู้สึกตัว​รอบ​หนึ่ง​ กระโปรง​ยาว​เลิก​ขึ้น​ เผย​ให้​เห็น​ส่วน​ใต้​กระโปรง​

เขา​มอง​หวัง​จิ้งเป็น​ของส่วนตัว​ของ​ตัวเอง​มานาน​แล้ว​ ย่อม​ไม่อยาก​ให้​เธอ​ถูก​คนอื่น​คุกคาม​

พอ​ปิด​โทรศัพท์​ ลู่​เซิ่งก็​นั่ง​พิง​บน​โซฟาเดี่ยว​ ก่อน​จะยก​แก้วน้ำ​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​เล็ก​ใกล้​ๆ ขึ้น​ดื่ม​คำ​หนึ่ง​ ไม่รู้​ว่า​ใคร​เท​ไว้​ให้​เขา​

“ก่อนหน้านี้​ไม่นา​นอ​วี๋เฉิง​กัง​เพิ่ง​เลื่อน​สู่ขั้น​ทองคำ​ แม้อานุภาพ​อาวุธ​ภูต​ของ​เขา​จะไม่เลว​ มีวิญญาณ​วีรชน​ของ​แม่ทัพ​ใหญ่​ยุค​โบราณ​ห​ลี่​หรง​ซิ่น​เกาะติด​อยู่​ แต่​วิชา​วิญญาณ​ของ​เขา​ไม่ค่อย​ดี​นัก​ พลัง​โดยรวม​เป็น​พวก​ธรรมดาๆ​ ใน​ขั้น​ทองคำ​”

ชาย​ผม​เกรียน​วิเคราะห์​โดย​ไม่สนใจ​ใคร​

“โหย​ว​เหลียน​คน​ที่​ใส่เสื้อ​สีแดง​เป็น​ผู้​เข้มแข็ง​มาก​ประสบการณ์​ใน​ขั้น​ทองคำ​ แต่​พลัง​ไม่ได้​สุดยอด​เท่า​ขนาด​อก​ เอว​และ​สะโพก​ของ​เธอ​เอง​ ทั้ง​ยัง​ไม่มีจุดเด่น​อะไร​ แถมตอนนี้​บาดเจ็บ​ยัง​ไม่หาย​ดี​ หรือ​ก็​คือ​เป็น​ระดับ​กลาง​ขั้น​ทองคำ​คน​หนึ่ง​ ปัญหา​ใหญ่​สุด​ของ​เธอ​ก็​คือ​ นิสัย​เธอ​แย่​และ​ร้ายกาจ​มาก​ ถึงจะสวย​และ​รูปร่าง​ดี​ แต่กลับ​ใจร้อน​ นาย​รู้​ไหม​ว่า​ผู้หญิง​แบบนี้​จะถูก​ทำ​อะไร​ง่าย​ที่สุด​”

“ข่มขืน​” ลู่​เซิ่งกล่าว​อย่าง​ไม่อิ​หนัง​ขัง​ขอบ​

“ถูกต้อง​” ชาย​ผม​เกรียน​หัวเราะ​เหอะ​ๆ “ดังนั้น​ ถ้าฉัน​ทาย​ไม่ผิด​ล่ะ​ก็​…อีก​ไม่นา​น.​..”

“…” ลู่​เซิ่งขี้เกียจ​จะสนใจ​เขา​

“ความจริง​อีก​ประโยค​ที่​ฉัน​อยาก​จะพูด​ก็​คือ​ นาย​เป็น​ศิษย์​ของ​รอง​ผู้อาวุโส​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ ส่วน​โหย​ว​เหลียน​คน​นั้น​เป็น​น้า​ของ​หวง​ย่า​” ชาย​ผม​เกรียน​ยิ้ม​อย่าง​ลามก​เป็นพิเศษ​

ลู่​เซิ่งชะงัก​การเคลื่อนไหว​อย่าง​หมด​คำพูด​

ความจริง​ ไม่ว่า​เขา​จะยินยอม​หรือไม่​ เขา​ใน​ตอนนี้​ก็​เป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ใน​ค่าย​แห่ง​นี้​แล้ว​

ไม่ว่า​จะเป็น​ศิษย์​หรือ​ผู้จัดการ​เรื่องราว​ ก็​ไม่มีใคร​เอาชนะ​การ​ร่วมมือ​กัน​ของ​รอง​ผู้จัดการ​เรื่องราว​หลัก​กับ​โอว​หยาง​จี๋ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

อีก​ทั้ง​ยัง​เป็นการ​เอาชนะ​โดย​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​ใดๆ​ อีก​ต่างหาก​

ดังนั้น​ทุกคน​ต่าง​ก็​ยอมรับ​พลัง​ของ​ลู่​เซิ่ง

แต่​ลู่​เซิ่งขึ้น​ชื่อเรื่อง​นิสัย​ไม่แยแส​ใคร​ ถ้าไม่ใช่คน​ที่​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​เขา​ โดยปกติ​แล้ว​เขา​จะไม่สนใจ​เลย​

ดังนั้น​วิธีการ​ขอให้​เขา​ลงมือ​จึงกลาย​เป็นเรื่อง​ยาก​

ดี​ที่​ชาย​ผม​เกรียน​ไม่จำเป็นต้อง​ปวดหัว​นาน​ เพราะ​หลังจาก​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ผู้หญิง​เสื้อ​แดง​กับ​ลู่​เซิ่งถูก​เปิดเผย​ เขา​ก็​ทราบ​ว่า​กุญแจ​สำคัญ​อยู่​ตรงไหน​ ดังนั้น​เขา​จึงจงใจกระตุ้น​ให้​โหย​ว​เหลียน​นำ​กลุ่ม​ไปหาเรื่อง​ ส่วนตัว​เขา​เฝ้าค่าย​

และ​ผลลัพธ์​ในความเป็นจริง​ก็​เป็น​อย่าง​ที่​เขา​คิด​ไว้​

ลู่​เซิ่งลุกขึ้น​อย่าง​หงุดหงิด​

“น่ารำคาญ​จริงๆ​ สถานที่อยู่​ไหน​” เขา​สาวเท้า​เดิน​ไปยัง​ประตู​ใหญ่​

ไม่ว่า​อย่างไร​หวง​ย่า​ก็​ทุ่มเท​กาย​ใจกับ​เขา​มาโดยตลอด​ แม้ไม่มีความดี​ความชอบ​แต่​ก็​มีความพยายาม​

“ฉัน​จะพา​นาย​ไปเอง​!” ชาย​ผม​เกรียน​หัวเราะ​และ​รีบ​ตาม​ไป

ลู่​เซิ่งพลัน​หมุนตัว​มา

“รอง​หัวเราะ​อีกครั้ง​ดู​สิ”

ชาย​ผม​สั้น​ทำ​หน้า​อึ้ง​ ก่อน​จะหุบ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​ทำ​หน้า​เคร่งขรึม​ใน​ทันใด​

“ฉัน​อารมณ์ไม่ดี​ ดังนั้น​ เวลา​มีคน​หัวเราะ​ต่อหน้า​ฉัน​ ฉัน​จะไม่ชอบใจ​มาก​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​เสียง​แผ่ว​ต่ำ​

เอื๊อก​

ชาย​ผม​เกรียน​สัมผัส​ได้​ทันที​ว่า​ วิญญาณ​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​ร่างกาย​กำลัง​สั่น​อย่าง​อธิบาย​ไม่ได้​

เขา​กลืนน้ำลาย​เอื๊อก​หนึ่ง​ ไม่กล้า​พูด​ต่อ​อีก​

เขา​มีลางสังหรณ์​ว่า​ถ้าพูด​มากกว่า​นี้​ อาจจะ​ถูก​ตัว​ประหลาด​ตรง​หน้าอัด​เละ​ก็ได้​

ถูกต้อง​ ตัว​ประหลาด​

หลังจาก​เขา​สัมผัส​ด้วยตัวเอง​ ก็​มอบ​คำ​เรียก​นี้​ให้​ความ​อัจฉริยะ​ของ​หวัง​ตง​

แอ๊ด​

ประตู​ใหญ่​เปิด​ออก​ พายุ​หิมะ​ด้านนอก​พัด​เข้ามา​

พวก​ขี้เมา​ที่​กำลัง​ส่งเสียง​สบถ​ด่าทอ​ ถือ​ขวด​เหล้า​เดิน​เซผ่าน​มาหน้า​ประตู​พอดี​ พร้อมกับ​ตบ​อก​คุยโว​พลาง​หัวเราะ​เสียงดัง​

“ไสหัวไป​ อย่า​ขวางทาง​!”

ลู่​เซิ่งถลึงตา​

พละกำลัง​ไร้​รูปร่าง​สาย​หนึ่ง​เหมือน​ค้อน​หนัก​ทุบ​ใส่ร่าง​ชาย​ขี้เมา​สอง​คน​อย่าง​แรง​

เปรี้ยง​ๆ!

ร่างกาย​ของ​พวกเขา​เปลี่ยนรูป​ แสงพลัง​วิญญาณ​หลาย​ชั้นบน​ร่าง​พังทลาย​อย่าง​รวดเร็ว​ ร่างกาย​บิดเบี้ยว​อย่าง​ไม่เป็นธรรมชาติ​ จากนั้น​ก็​กระเด็น​ออก​ไปชน​ใส่ถังขยะ​ใบ​หนึ่ง​ก่อน​จะหมดสติ​ไป

ลู่​เซิ่งแบะ​กระดุม​เสื้อ​ ล้วง​มือ​เข้าไป​ใน​กระเป๋าเสื้อ​พลาง​มอง​ชาย​ผม​เกรียน​ที่อยู่​ใกล้​ๆ

“ตาม​ฉัน​มา!” ชาย​ผม​เกรียน​ตัวสั่น​แล้ว​รีบ​วิ่ง​ไปด้านหน้า​

เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​ลู่​เซิ่งจะเหี้ยม​ขนาด​นี้​ เจอ​ตอน​อารมณ์ไม่ดี​ก็​อัด​คน​ทันที​

แม้สอง​คน​เมื่อ​ครู่​จะไม่ตาย​ แต่​อย่าง​น้อย​ต้อง​นอน​สิบ​วัน​ครึ่ง​เดือน​ ถึงจะกลับมา​เคลื่อนไหว​ได้​

คน​บน​ถนน​ที่​เห็น​เหตุการณ์​เมื่อ​ครู่​พา​กัน​หลบ​ไปสอง​ฟาก​ข้าง​ หนี​กัน​จ้าละหวั่น​

อาศัย​แค่​พลัง​วิญญาณ​ก็​ทำร้าย​ยอด​ฝีมือ​ขั้นสูง​ของ​ระดับ​เงิน​ที่​มีพลัง​วิญญาณ​คุ้มกัน​ จน​ร่าง​บาดเจ็บสาหัส​ได้​ พลัง​แบบนี้​ถ้าไม่ใช่ระดับ​ทองคำ​ แม้แต่​สิทธิ์​จะพูด​ด้วย​ก็​ไม่มี

ชาย​ผม​เกรียน​ทาง​หนึ่ง​นำทาง​ ทาง​หนึ่ง​มอง​คนเดินถนน​ที่​รีบ​หลบ​ไปอยู่ห่างๆ​ พร้อมกับ​นึก​ทอดถอนใจ​ นับตั้งแต่​เข้าร่วม​สำนัก​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ได้รับ​การปฏิบัติ​แบบนี้​

ลู่​เซิ่งเอง​ก็​รำคาญ​เช่นกัน​

เขา​ไม่มีเวลา​สนใจ​เรื่อง​หยุมหยิม​เหล่านี้​ เป้าหมาย​หนึ่งเดียว​ที่​เขา​มาที่นี่​คือ​การกลายเป็น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​

แต่​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ขุม​กำลัง​อื่นๆ​ มาก่อกวน​ การ​กำจัด​ปัจจัย​ที่​อาจ​ส่งผล​คุกคาม​ใน​บริเวณ​รอบข้าง​ทิ้ง​ก่อน​ก็​ไม่เลว​เหมือนกัน​

เขา​คำนวณ​บางอย่าง​ใน​ใจ

ใช้การ​ไปใน​ครั้งนี้​เป็น​การสำรวจ​แล้วกัน​ว่า​ ระดับ​ไหน​อาจ​สร้าง​การ​คุกคาม​ได้​

จากนั้น​ หาก​มีการ​คุกคาม​ ก็​ต้อง​กำจัด​ทิ้ง​

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset