ตอนที่ 26 โรงหนัง
เมื่อเรามาถึงตึกที่มีโรงภาพยนตร์อยู่ เราก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่มีโรงหนัง
“พูดถึงแล้วนะ โรงหนังนี่ฉันไม่ได้มานานมากเลย น่าจะตั้งแต่ประถมมั้ง”
“ฉันเองก็น่าจะตั้งแต่ม.ต้นล่ะมั้ง”
ผมจองตั๋วไว้เรียบร้อยแล้ว เลยออกตั๋วที่เครื่อง แล้วถือตั๋วสองใบเดินกลับไปหายูกิที่รออยู่มุมหนึ่ง
“ว่าแต่ ตอนนี้คงถามช้าไปแล้ว แต่เราจะดูเรื่องอะไรกันเหรอ?”
ยูกิให้สิทธิ์ผมเลือกภาพยนตร์เอง ผมเลยตัดสินใจไปโดยไม่ถามเธอล่วงหน้า
“เป็นหนังฝรั่งน่ะ ตอนต้นจะเป็นแนวคอมเมดี้ แต่ช่วงหลังจะซึ้งมาก”
“เหรอ”
ยูกิมองชื่อหนังที่พิมพ์อยู่บนตั๋วอย่างตั้งใจ หนังเรื่องนี้ผมเคยดูมาก่อนแล้ว มันเป็นเรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เลี้ยงลูกสุนัขตัวแสบ และชีวิตครอบครัวพวกเขาก็หมุนไปตามเจ้าเด็กดื้อขนปุยตัวนี้ จนกระทั่งช่วงท้าย พวกเขาต้องบอกลามันอย่างสุดซึ้ง
เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายชื่อดังของอเมริกา
“โอ๊ย ทำไมน้ำตาหยุดไม่ได้นะ”
“ฉันเองก็ร้องไห้จนหมดสภาพเลย”
ผู้ชมจากรอบก่อนหน้านี้เดินออกมาจากโรง ทุกคนส่วนใหญ่ตาแดงก่ำ บางคนก็ถือผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาอยู่
“ดูเหมือนจะได้รับคำชมเยอะเลยนะ คนร้องไห้กันเต็มไปหมด”
“ก็คงงั้นล่ะมั้ง”
ยูกิพูดพลางยิ้มมุมปากนิดๆ
“แต่ฉันน่ะ ไม่เข้าใจพวกที่ร้องไห้ในโรงหนังเลยจริงๆนะ ก็คนอยู่รอบๆ เยอะขนาดนี้ จะให้ร้องไห้ยังไงไหว”
เอ๋? ใช่เหรอ? ฉันจำได้ว่าตอนที่เราดูหนังด้วยกัน ยูกิก็เคยแอบน้ำตาซึมเหมือนกันนะ
{“ท่านผู้ที่มีตั๋วรอบ 14.00 สำหรับโรงที่ 3 เชิญเข้าโรงได้เลยค่ะ”}
“งั้นไปกันเถอะ”
“อืม ถ้าฉันหลับระหว่างหนังก็ไม่ต้องปลุกนะ”
ยูกิพูดพลางหาวเล็กๆ
———
“ฮึก… ฮึก…”
หนังจบลงแล้ว สรุปก็คือ ยูกิร้องไห้จนตาบวม
ยูกิไม่ใช่คนที่จะร้องไห้กับหนังประเภทที่คนเสียชีวิต แต่พอเป็นเรื่องสัตว์ล่ะก็ เธอไม่สามารถทนได้จริงๆ หนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน ที่เจ้าหมาขี้เล่นต้องจากไป โดยมีเจ้าของอยู่ข้างๆ มันในโรงพยาบาล
(TLN:จริง คนตายไม่เสียใจ สัตว์เลี้ยงตายเท่านั้นแหละ?)
“เอ่อ… จะใช้ผ้าเช็ดหน้ามั้ย?”
“ไม่ต้อง ฉันไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย!”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่แขนเสื้อของเธอเปียกไปหมดแล้ว
“เอ่อ… งั้นฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง”
บางทีผมควรปล่อยให้เธอมีเวลาทำใจสักพัก ผมเลยเดินไปห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา จัดผม และเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลานิดหน่อย ก่อนจะกลับมาหาเธอ
“มาร์ลีย์…”
เธอยังร้องไห้อยู่นี่หว่า!
ยูกินั่งอยู่บนโซฟาที่มุมห้องพักผู้ชม พลางพึมพำชื่อเจ้าหมาน้อยผู้จากไปด้วยเสียงสั่นๆ เธอทำหน้าเศร้าอย่างหนักจนผู้ชายที่เดินผ่านมาเห็นยังถึงกับผงะ ทำท่าเหมือนจะจีบ แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะทักคำว่า ‘เป็นอะไรหรือเปล่า? ให้ฉันช่วยฟังมั้ย?’
โอ้โห… ผมเลือกหนังผิดมหันต์ไปแล้ว ยูกิในอนาคตเคยบอกว่า ‘เป็นหนังที่ซึ้งมาก’ แต่ดูเหมือนสำหรับยูกิในตอนนี้ หนังเรื่องนี้มันจะรุนแรงเกินไป
แต่แผนเดิมที่คิดไว้ คือไปนั่งจิบกาแฟคุยกันเรื่องหนังหลังดูจบ ดูท่าจะไม่รอดแล้วล่ะ เพราะเธอไม่ได้แค่ซึ้ง แต่ถึงกับจิตตกไปเลย คงจะฟื้นจากการสูญเสียเจ้าหมาในหนังไม่ไหวภายในสองสามชั่วโมงแน่ๆ
ไม่มีทางเลือกจริงๆ ผมคงต้องงัดไม้ตายออกมาใช้ก่อนเวลาอันควร
“นี่ ฉันอยากแวะที่ไหนสักที่ เธอโอเคมั้ย?”
“ที่ไหน…..?”
ยูกิเงยหน้าขึ้นมาพร้อมน้ำตาคลอเบ้า
เวลาที่หัวใจเจ็บปวดจากสัตว์ การเยียวยาที่ดีที่สุดก็คือ การไปเจอสัตว์ตัวเป็นๆ นั่นแหละ