ตอนที่ 23.2 [อนาคต]ทำอาหารครั้งแรก 2
“หนาวชะมัด… หิวจะตายอยู่แล้ว”
สายลมเย็นพัดวูบวาบในขากลับจากบริษัท ผมถอนหายใจยาวจนเกิดเป็นไอสีขาวลอยขึ้นมา
เพราะต้องไปเจรจาธุรกิจแล้วก็ประชุมภายในบริษัทต่อเนื่องกัน เลยแทบไม่มีเวลาได้กินข้าวกลางวัน ท้องจึงร้องโครกครากด้วยความหิว
ยูกิทำอะไรอยู่บ้างนะ?
ผมส่งข้อความไปบอกเธอแล้วว่าวันนี้จะกลับช้าหน่อย ให้เธอกินข้าวล่วงหน้าไปก่อน แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่ขึ้นว่าอ่านแล้ว บางทีเธออาจจะยังไม่ได้ดูโทรศัพท์ก็ได้
ผมเร่งฝีเท้ากลับบ้านอย่างรวดเร็ว พอไปถึงหน้าประตูบ้าน ผมก็ไขกุญแจแล้วเปิดประตูเข้าไป
“หือ?”
ทันทีที่ประตูเปิดออก กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยมาปะทะจมูก
กลิ่นของโชยุหวานๆ กับเนื้อ… หรือว่านี่จะเป็น นิคุจากะ?
(TLN: เนื้อต้มมันฝรั่ง)
“อ๊ะ ยินดีต้อนรับกลับค่ะ กลับมาพอดีเลย”
ยูกิที่ถือทัพพีโผล่หน้ามาทักผมอย่างร่าเริง
“นี่ทำอาหารเย็นไว้ให้เหรอ?”
“อืม ก็ไม่มีอะไรทำน่ะ…”
ยูกิรับเสื้อโค้ทจากผมไปแขวนไว้ที่ราวอย่างเรียบร้อย
‘ทำอาหารรอผม…’
พอคิดว่าเธอทำอาหารรอผมกลับบ้านแบบนี้ ความรู้สึกมันก็จุกขึ้นมาที่ตาอย่างบอกไม่ถูก
พอเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น ผมก็เห็นอาหารมากมายวางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ
ไม่ใช่แค่นิคุจากะเท่านั้น แต่ยังมีแซลมอนเมอนิแยร์ที่ห่อพลาสติกเอาไว้ ไก่ทอดชิกินนัมบัง โคลสลอว์ แล้วก็เกี๊ยวซ่าอบอีกด้วย
(TLN: โคลสลอว์ = สลัดหัวกะหล่ำ)
“ทำไมทำเยอะขนาดนี้ล่ะ… กินหมดไหมเนี่ย?”
“อะ เอ่อ… ไม่ต้องกินให้หมดก็ได้นะ? คือว่า… ฉันไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไรน่ะ”
ยูกิพูดด้วยท่าทีเขินอาย มือก็จับนิ้วไปมาอย่างประหม่า
“อีกอย่าง ถ้าเหลือก็เก็บไว้กินพรุ่งนี้ได้”
“ก็จริงนะ แต่เลือกยากจัง แต่ละอย่างดูน่ากินทั้งนั้นเลย”
แค่กลิ่นหอมที่ลอยออกมาก็รู้แล้วว่าอาหารแต่ละจานจะต้องอร่อยแน่ๆ
“ข้าวแค่นี้พอไหม?”
“อา ถ้าไม่พอเดี๋ยวขอเพิ่มก็ได้”
ยูกิตักข้าวร้อนๆ ให้ผม แล้วผมก็นั่งรอจนเธอนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อย
พอพูดคำว่า “ทานแล้วนะครับ” ผมก็ตักนิคุจากะที่อยู่ใกล้สุดเข้าปาก
มันฝรั่งที่ดูดซับน้ำเนื้อไว้จนชุ่ม หัวหอมที่ให้ความหวานตามธรรมชาติ ผสมกับรสชาติกลมกล่อมของดาชิญี่ปุ่น
แม้ยูกิจะบอกว่าแม่ของเธอเป็นคนโปแลนด์ ผมก็แอบคิดว่าเธออาจจะมีการดัดแปลงสูตรให้แปลกไปบ้าง แต่รสชาติที่ได้กลับเป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ อย่างคาดไม่ถึง
“อืม อร่อยมาก”
“จ-จริงเหรอ? ดีจังเลย”
ตอนแรกยูกิดูเกร็งๆ แต่พอผมชมว่าอร่อย เธอก็เริ่มยิ้มออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่กินเหรอ? กินตอนยังร้อนๆ ดีกว่านะ”
“อะ… จะกินแล้ว”
ยูกิที่นั่งจ้องผมอยู่ตลอด รีบตักข้าวเข้าปากอย่างรีบร้อน
———
“อิ่มแล้วล่ะ อร่อยมากเลย”
นี่ไม่ใช่คำพูดเพื่อรักษาน้ำใจ แต่เป็นความจริง เพราะอาหารทุกจานอร่อยจนร้านอาหารก็ยังสู้ไม่ได้
“ถ้าได้กินแบบนี้ทุกวันก็คงดีสิ…”
แย่แล้ว
ทั้งที่เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า “การแต่งงานก็เหมือนหลุมฝังชีวิต” แต่พอมาเจอแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกว่า “การแต่งงานนี่มันดีเหมือนกันนะ” ชีวิตผมจะง่ายเกินไปไหมเนี่ย
ถึงแม้สมัยก่อนผมจะเคยกินอาหารที่ทำโดยแฟน แต่ทำไมอาหารที่ทำโดยภรรยามันถึงให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแบบนี้นะ?
“ถ้าชอบขนาดนั้น พรุ่งนี้ฉันทำให้อีกก็ได้นะ มีอะไรอยากกินเป็นพิเศษไหม?”
ยูกิถามพร้อมกับเอามือเกาแก้มอย่างไม่มั่นใจ
“ว่าแต่… พรุ่งนี้เราก็ต้องกินของที่เหลือจากวันนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“อะ… เอ่อ นั่นสินะ”
ยูกิที่ดูเหมือนจะทุ่มเทมากเกินไปจนลืมตัว พอรู้สึกตัวก็หน้าแดง ก้มหน้าด้วยความเขินอาย