สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 1001 เทพสงครามแห่งแคว้นทั้งหก (ฉบับจิ้งคง) (1)

บทที่ 1001 เทพสงครามแห่งแคว้นทั้งหก (ฉบับจิ้งคง) (1)

บทที่ 1001 เทพสงครามแห่งแคว้นทั้งหก (ฉบับจิ้งคง) (1)

……….

วิกฤตแคว้นเจาคลี่คลาย ทว่าปัญหาราชสำนักเพิ่งเริ่มตน

รัชทายาทไร้ความสามารถ ดื้อรั้นเขาแต่ใจ แม้จะมีคุณธรรมแต่ไม่อาจทำการใหญ่ เสียงตำหนิติเตียนไท่จื่อจากชาวเมืองเริ่มมีให้มาได้ยิน

แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าก็คือ แม้แต่เซียวจี่ยังรู้สึกว่าหลานชายของตัวเองไม่เอาไหน

เซียวจี่ไม่ได้คิดว่าฮ่องเต้ต้องฉลาดปราดเปรื่อง แต่อย่างน้อยอย่าโง่มากนัก ไท่จื่อนอกจากจะไม่ฉลาดแล้ว ยังเจ้าคิดเจ้าแค้นกับบางเรื่อง

อย่างเช่นพอเขาได้ยินว่าเซียวจี่และเซียวเหิงไม่แสดงความเห็นเรื่องห้ามแสดงละครล้อเลียนเขา ก็ถึงขั้นไปฟ้องเซียวฮองเฮา สองพ่อลูกนั่นยังคงจำฝังใจที่ว่าเขาแย่งเวินหลินหลังไป

ว่าแต่เวินหลินหลังคือผู้ใดกัน

สองพ่อลูกนั่นลืมคนผู้นี้ไปนอนแล้ว

เขายังกล้าเอ่ยถึงอีกหรือ

หากสมองหมูอย่างเขาสืบทอดบัลลังก์ในวันหน้า อยู่มาวันหนึ่งมีคนยุแยงขึ้นมา ชีวิตของเซียวเหิงจะสงบสุขได้อย่างไร

เดิมทีเซียวจี่แค่ไม่ออกความเห็น ทว่ายามนี้เห็นทีต้องสอยเขาลงจากตำแหน่งเสียแล้ว!

ถังเย่ว์ซานเป็นคนสนิทของจวงไทเฮา จวงไทเฮาหนุนหลังกู้เจียวและเซียวเหิง ไม่ต้องให้จวงไทเฮาเอ่ยปาก ถังเย่ว์ซานก็ไม่มีทางแก้ต่างให้ไท่จื่ออยู่แล้ว

ส่วนท่านเหล่าโหวกับจี้จิ่วนั้น ไท่จื่ออย่าได้ฝันไปเลย

หากถึงเวลานั้นเข้าจริง ไท่จื่อจะได้รู้ว่าอำนาจที่อยู่ในมือตัวเองนั้นน้อยนิดจนน่าหัวเราะปานใด

ต่อจากฮ่องเต้ยังมีราชโอสรอีกสามพระองค์ ลูกชายของอวี๋เฟย รุ่ยอ๋อง ลูกชายของซูเฟย เหลียงอ๋อง และองค์ชายเจ็ด ฉินฉู่อวี้ ที่ยังอายุไม่ครบสิบหกปีจึงยังไม่รับแต่งตั้งเป็นอ๋อง

หลายปีที่ผ่านมานี้รุ่ยอ๋องทำงานให้ราชสำนักมากมาย เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ชาวเมือง แถมเขายังแต่งงานกับหลานสาวของหลัวกั๋วกง นับว่ามีเส้นสายแข็งแรงพอสมควร

ส่วนซูเฟยคือลูกสาวของท่านเหล่าโหวเหย่ หากจากสายตาคนนอก นางกับเหลียงอ๋องมีจวนอันติ้งโหวและกองทัพตระกูลกู้คอยหนุนหลัง ด้วยเหตุนี้จึงได้รับแรงสนับสนุนในระดับหนึ่งจากเหล่าขุนนาง

แต่กลับกันฉินฉู่อวี้นั้นยังเด็ก ทั้งยังเป็นเด็กเกเรประจำกั๋วจื่อเจียน ชื่อเสียงไม่ดีนัก มีขุนนางเพียงไม่กี่คนที่สนับสนุนให้เขาเป็นรัชทายาท

ฮ่องเต้ปวดหัวยิ่งนัก

ทว่าอีกฝากหนึ่ง หลังจากเซวียนซีกลับมาถึงแคว้นเยี่ยน ก็ยกทัพทหารตีแคว้นเหลียงในทันที

นี่คือการแก้แค้นจลาจลที่ซีเป่ยในตอนนั้น

แน่นอนว่าแคว้นเหลียงไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว แต่จะยอมรับหรือไม่นั้นสำคัญเสียที่ไหน

ข้าจะยืดแคว้นเจ้า ย่อมไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะรู้สึกผิดหรือไม่

คนที่ออกมารับศึกแนวหน้านั้นคือคนที่คาดไม่ถึง… ท่านพี่หมิงเอ๋อร์ของเขา

หมิงเอ๋อร์แกกว่าจิ้งคงหกปี ปีนี้อายุสิบเก้า

หลายปีก่อนทั้งสองเขียนจดหมายหากัน จากนั้นเซวียนหยวนซีต้องมาแคว้นเยี่ยนอยู่บ่อยๆ ต่างฝ่ายต่างเขียนจดหมายหากันน้อยลง หลังจากเป็นทหารก็ไม่สามารถติดต่อกันได้อีก ใครจะไปคาดคิดกันว่าจะได้มาพบกันในสถานการณ์เช่นนี้

แต่น่าเสียงดายที่หมิงเอ๋อร์ไม่ใช่หลิ่วอีเซิง และเซวียนหยวนซีก็ไม่ใช่กู้เจียว

ศึกครั้งนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ทั้งสองฟาดฟันกันอย่างโหดเหี้ยม

เซวียนหยวนซีอยู่บนหลังม้า แทงทวนออกไปสุดแรง!

หมิงเอ๋อร์ชักกระบี่ในมือ ต้านทวนพู่แดงนั้นเอาไว้สุดกำลัง เขาใช้พลังมหาศาล คิดไม่ถึงเลยว่านี่คือกำลังของเด็กชายอายุเพียงสิบสามปี

ม้าเฮยเฟิงห้าวหาญการศึก ทหารแคว้นเหลียงข้างกายล้มไปทีละคนทีละคน

หมิงเอ๋อร์กัดฟัน “รับปากแล้วว่าจะไม่ฆ่าทหารข้ามิใช่รึ!”

เซวียนหยวนซีฮึดฮัด “ท่านก็รับปากเหมือนกันว่าจะถอยทับออกไปสามสิบลี้!”

ต่างฝ่ายต่างไม่รักษาสัญญา จะโทษใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น

ศึกครั้งนี้สุดท้ายแล้วเซวียนหยวนซีก็เอาชนะมาได้ หมิงเอ๋อร์ตกลงจากหลังม้า เซวียนหยวนซีจ่อปลายทวนไปที่หัวใจของเขา “ใครก็ได้! มัดตัวเขาเอาไว!”

“ท่านคือพี่หมิงเอ๋อร์ของข้า ข้าจะทำใจฆ่าท่านได้อย่างไร” เซวียนหยวนซีค่อยๆ ชัดทวนกลับ ยกมือขึ้นปาดคราบเลือดที่ไหลเป็นทางบนใบหน้า เอ่ยเสียงทรงอำนาจ “ใช้ท่านพี่บีบบังคับแคว้นเหลียงไม่ดีกว่าหรือ””

“เจ้า!” หมิงเอ๋อร์ถูกจับมัด เดือดดาลแทบบ้า “เสียแรงที่ท่านแม่ข้ายังเอ็นดูเจ้า”

เซวียนหยวนซียกทวนพาดบ่า เอ่ยอย่างไม่แยแส “ไว้ข้าจะหาโอกาสไปเยี่ยมอ๋องเฟย ท่านพี่หมิงเอ๋อร์มิต้องกังวล”

หมิงเอ๋อร์กระทืบเท้า “โอ๊ย โมโหโว้ย!”

เซวียนหยวนซีบุกมาถึงเปี้ยนจิงเมืองหลวงของแคว้นเหลียง ฮ่องเต้แคว้นเหลียงกลัวจนตัวสั่นงันงก

มีคนเสนอความคิดว่า ให้ฮ่องเต้แคว้นเหลียงส่งองค์หญิงรูปงามออกมาแต่งงาน

นับแต่โบราณกาล ยากนักที่นักรบจะฝ่าด่านหญิงงามไปได้

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเซวียนหยวนซีไม่ชายตามององค์หญิงแคว้นเหลียงเลยสักนิด เข้าไปปล้นของใช้ในสงครามก็กลับแคว้นไป

แคว้นที่สองที่ประสบภัยคือแคว้นเฉิน

หยวนถังได้ยินเรื่องนั้นแล้วก็พลันตื่นตกใจ “แคว้นเฉินทำอะไรรึ! เหตุใดต้องโจมตีข้า”

องครักษ์ที่อยู่ข้างกันบ่นพึมพำ “ก็มิใช่เพราะพระองค์รวมหัวกับทัพใหญ่แคว้นเหลียง ยึดชายแดนแคว้นเจา… พระองค์ลืมไปแล้วหรือ นอกจากนั้น พระองค์ยังหมายจะขอแบ่งอากรจากเกาะเป่าซาน แถมยังส่งสาส์นข่มขู่แคว้นเยี่ยนอีก ท่านลืมแล้วหรือ”

หยวนถังมุมปากกระตุกอย่างรุนแรง

แม้แต่ทหารแคว้นเหลียงที่แข็งแกร่งก็ต้านกำลังของเซวียนหยวนซีไม่ได้ แล้วแคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นเฉินจะต้านไหวได้อย่างไร

หยวนถังคิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่าพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเขาคือคนที่นำความซวยนี้มาให้

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงหนีขึ้นเหนือไปยังแคว้นเหลียง ขึ้นนอนบนเตียงของหลิ่วอีเซิงในจวน นอนอ้าแขนอ้าขาอย่างเกียจคร้าน “ข้าไม่สน! ข้าซวยเพราะท่าน! ข้าเป็นฮ่องเต้ หากแคว้นล่มสลายแล้ว ท่านต้องเลี้ยงข้า!”

หลิ่วอีเซิงขมวดคิ้ว “ไสหัวไป!”

หยวนถังม้วนตัวในผ้าห่ม “ข้าไม่ไป!”

เซวียนหยวนซีมิใช่คนรักการศึก แต่เพราะฮ่องเต้ซ่างกวานเยี่ยนเป็นหญิง เดิมทีก็ดูแลแคว้นไม่ทั่วถึงอยู่แล้ว หากไม่กำราบพวกเขาให้อยู่หมัด วันหน้าแคว้นย่อมคิดแข็งข้อชิงอำนาจ

หลังจากแคว้นเฉิน ก็เป็นคราวของแคว้นจิ้นและแคว้นจ้าว

ส่วนแคว้นเจานั้นเขาไม่บุก เพราะแคว้นเจามีเจียวเจียว และความฝันที่จะชิงเกาะเป่าซานของฮ่องเต้แคว้นเจาก็ถูกจวงฮองเฮาดับมอด

เขาออกศึกทั้งนี้ยาวนานถึงสองปีเต็ม เมื่อบุกมาถึงแคว้นเว่ย เขาก็โตเป็นหนุ่มอายุสิบห้าปีแล้ว

ฮ่องเต้แคว้นเว่ยขึ้นครองบัลลังก์แล้ว เขาอ่านจดหมายที่ส่งมาจากชายแดน ใบหน้าก็ตื่นตกใจ “เราไม่ได้รังแกแคว้นเจาเสียหน่อย… เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วหรือ จะมาจับใคร จะมารบกับใคร”

ใต้เท้าคนสนิทเอ่ย “เขาคงยังติดใจเรื่องที่พวกเราส่งทหารบุกแคว้นเจาในครานั้น ข้าบอกแล้วว่าให้พระองค์ ท่านก็ดึงดันจะ… ดึงกันจะท้ายทายเซียวจี่ให้ได้ ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายคนที่ออกศึกดันไม่ใช่เซียวจี่ นอกจากเซียวจี่จะไม่เสียหน้าแล้ว กลับกันพวกเราแคว้นเว่ยยังต้องมารับเคราะห์ทีหลังอีก”

ฮ่องเต้แคว้นเว่ยถลึงตามองเขา

ฮ่องเต้รับสั่ง “เรียกหลิ่วเซี่ยงมา!”

ขันทีใหญ่ออกไป ไม่นานก็กลับวังมารายงาน “หลิ่วเซี่ยงบอกว่า เขาจะไม่รบกับน้องชายของแม่นางกู้ หากคนอยากรบก็รบเอง”

ฮ่องเต้แคว้นเว่ย “…”

นี่มันอัครมหาเสนาบดีประสาอะไร!

ขันทีใหญ่กระแอม “แต่ว่า หลิ่วเซี่ยงเสนอให้ท่านใช้แผน… กลสาวงาม”

หลิ่วอีเซีงตั้งใจว่าจะให้ฮ่องเต้ประเคนตัวเองถวายซ่างกวานเยี่ยน อาบน้ำประแป้งห่อเป็นของขวัญอะไรแบบนั้น

ใครจะไปรู้ว่าฮ่องเต้จะเข้าใจผิด ให้นางในส่งลูกสาวของตัวเองออกไป

ทั้งขุนนางมั้งขันทีต่างก็จนใจ

ฝ่าบาท ท่านมิเคยได้ยินตำนานของเทพสงครามแห่งแคว้นทั้งหกหรือ

มีคนมากเสนอสาวงามให้แก่เขา ตั้งแต่หญิงงาม ท่านหญิงไปจนถึงองค์หญิง แต่เขาไม่เคยถูกใจใครเลยสักคน

มิใช่ เขาไม่สนใจว่าสวยหรือไม่ด้วยซ้ำ!

ทุกคนต่างปาดเหงื่อแทนองค์หญิงแคว้นเว่ย

ฮ่องเต้แคว้นเว่ยไม่มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวคนเดียว หากนางยั่วโทสะเซวียนหยวนซีจนถูกฆ่าขึ้นมา ฮ่องเต้แคว้นเว่ยก็จะไร้ทายาทสืบทอดบัลลังก์

องค์หญิงแคว้นเว่ยได้ยินว่าพ่อบังเกิดกล้าจะส่งตัวเองไปเครื่องแลกเปลี่ยน แน่นอนว่านางไม่ยินยอม นางในต่างเกลี้ยกล่อมนางว่าอย่างได้เอาแต่ใจ แม่ทัพหนุ่มเซวียนหยวนซีผู้นั้นเป็นที่รู้กันว่าห้างหาญเพียงใด หากเขาแข็งข้อกับเขา คนที่จะรับเคราะห์คือทหารและชาวเมืองทั้งนั้น

องค์หญิงแคว้นเว่ยกำหมัดแน่น “ไม่เห็นจะเป็นไร… เช่นนั้นข้าจะฆ่าเขาเอง!”

ลมเหนือโหมกระหน่ำ ทหารม้าเฮยเฟิงห้าหมื่นนายเคลื่อนทัพประชิดชายแดน

เซวียนหยวนซีสวมเกราะทองอร่ามที่ผู้บังคับบัญชาส่งทอดกันมา สองขาเรียวยาว แผ่นตรงผึ่งผาย

เกราะหัวและหน้ากากเย็นเฉียบนั้นปิดบังใบหน้าหล่อเหลาของผู้พิชิต

สามเดือนก่อนหน้านี้ ราชาม้าเฮยเฟิงและเสี่ยวสืออีเปิดศึกชิงตำแหน่งราชาแห่งสนามรบ

ต่อให้เสี่ยวสืออีจะไม่อยากสักเท่าไร แต่มันก็ต้องท้าทายราชาม้าเฮยเฟิง นี่คือวิธีการที่ทหารม้าเฮยเฟิงสืบทอดกันมา

ขอแค่มันเอาชนะราชาม้าเฮยเฟิงได้ และกลายเป็นราชาม้ารุ่นใหม่ จึงจะสามารถนำทัพกองทหารม้าเฮยเฟิงท่องไปทั่วทุกแดนดิน

หลังจากการประลองอันดุเดือน ราชาม้าเฮยเฟิงล้มลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง ทว่าในดวงตาของมันไร้ซึ่งความอเนจอนาถหรือความสิ้นหวังแม้แต่นิด ราวกับมันเฝ้าเราให้วันนี้มาถึง

เหล่าม้าเฮยเฟิงต้อนรับราชาม้าตัวใหม่

พวกมันก้มหัวให้กับเสี่ยวสืออี ยอมรับตำแหน่งของเสี่ยวสืออี

ราชาม้าเฮยเฟิงตัวใหม่ได้ถือกำเนิดแล้ว

ยามนี้เซวียนหยวนฉีควบอยู่บนราชาม้าเฮยเฟิงตัวใหม่ หนึ่งคนหนึ่งม้าทว่าทรงพลังดั่งกองพันหมื่นม้า ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งได้

“แม่ทัพ” เหวินเหรินชงกระซิบ “หน่วยเงาทมิฬส่งข่าวมาว่า แคว้นเว่ยจะส่งหญิงงามมาแลกเปลี่ยน ท่านจะว่าอย่างไร”

เซวียนหยวนซีแววตาไม่วูบไหว “ส่งหญิงงามมาแลกหรือ ไม่มีทางเสียหรอก”

ข้าไม่มีทางหวั่นไหวกับหญิงงามพวกนั้นหรอก

เขาเอ่ยอย่างมาดมั่น “ไม่มีใครงามเท่าเจียวเจียวหรอก!”

เหวินเหรินชงจ้องเขาพลางเอ่ย “ใต้เท้า! เหมือนว่าทหารเว่ยจะบุกมาแล้ว! ตรงนั้น… ตรงนั้นมีคนบุกเข้ามาแล้ว!”

มีคนเข้ามาจริงๆ … ทว่า…พอมองดูอีกที เหวินเหรินชงกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

นั่นอะไรน่ะ

ขี่ม้า… ม้าแคระสีขาวงั้นรึ

คนบนหลังม้าแม้จะสาวมเกราะ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่พอดีตัว หมวกเล็กนั้นโคลงเคลงไปมา สามารถร่วงตกลงมาได้ทุกเมื่ออย่างไรอย่างนั้น

เหวินเหรินชงรู้สึกว่าสิ่งที่เห็นคือเด็กที่ขโมยเสื้อผ้าผู้ใหญ่มาใส่

เขานิ่งไปก่อนจะเอ่ย “ใต้เท้า ข้าจะไปรับศึกเอง!”

แค่แมลงเม่าตัวหนึ่ง แค่กระบวนท่าเดียวเขาก็จัดการแล้ว

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สามีข้าคือขุนนางใหญ่ ชื่อภาษาอังกฤษ : The Grand Secretary's Pampered Wife ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง(偏方方) ในอนาคตเขาจะได้เป็น 'ขุนนางใหญ่' อย่างนั้น 'เจ้' คนนี้จะประคอง 'สามี' คนนี้ ให้ไปถึงฝั่งฝันนั้นเอง! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม! จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้จียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เชียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ เพราะบุญคุณเชียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ แต่พราะ "ฝันบอกเหตุ' ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนหม่ได้รู้ว่าเขี้ยวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ยทั้งหลายเพื่อประคองเขาชื้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

Options

not work with dark mode
Reset