ตอนที่ 12 การแนะนำตัวมักไม่ค่อยราบรื่น 2
“ถ้าอย่างนั้น เรามาแนะนำตัวกันใหม่อีกครั้งดีไหม”
ประธานนักเรียนตบมือเบา ๆ ก่อนยืดหลังตรงแล้วโค้งอย่างสง่างาม
“ฉันชื่อโอคามิ ชิซุกะ ประธานนักเรียนรุ่นที่ 69 ค่ะ เรื่องการแนะนำตัวเคยพูดไปแล้วตอนเลือกตั้งสภานักเรียน ดังนั้นจะขอยกเว้น แต่ถ้ามีอะไรสงสัยหรืออยากถามก็ไม่ต้องเกรงใจนะคะ”
เธอพูดพลางยิ้มละมุน ใบหน้าของเธอเปล่งประกายราวกับมีรัศมีแผ่ออกมา
เสียงพูดที่อ่อนโยนและรอยยิ้มดั่งพระโพธิสัตว์นี้คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
“ค่ะ! มีคำถามค่ะ! มีแฟนหรือยังคะ!”
หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ถูกเรียกว่า “ริสะ” ยกมือขึ้นถามด้วยท่าทีขี้เล่น
“ค่ะ นี่คือ รองประธานที่แสนบ๊องของเรา ชิโมโซโนะ ริสะ งั้นต่อไปจะเป็นฝ่ายเหรัญญิกค่ะ…”
“เดี๋ยวก่อน! อย่าแนะนำตัวแบบลวก ๆ อย่างนั้นสิ! ฉันจะพูดเอง!”
รองประธานรีบพุ่งเข้าไปเกาะแขนประธานนักเรียนพลางพูดอ้อน
“เธอสัญญาได้ไหมว่าจะไม่เล่นตลกอีก?”
“นั่นเป็นไปไม่ได้! ถ้าให้ฉันเลิกเล่นตลกก็เหมือนเอาเนื้อสัตว์ออกจากข้าวแกงกะหรี่!”
เธอพูดอย่างมั่นใจสุดขีด แน่ละ…เธออาจจะมีความสามารถที่พอจะรับมือทุกอย่างโดยไม่ต้องพึ่งพา ‘เนื้อสัตว์’ ก็ได้
รองประธานสาวรีบยักไหล่ แล้วหันมาแนะนำตัวเองพร้อมวิ้งค์ตา
“สวัสดีค่า~ ฉันชื่อชิโมโซโนะ ริสะ เป็นรองประธานนักเรียนค่ะ! ฉันกับชิซุกะเป็นเพื่อนสมัยเด็ก รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมแล้ว เราสนิทกันสุด ๆ เลย!”
เพื่อนสมัยเด็ก… ด้วยนิสัยที่ดูตรงข้ามกันของทั้งสองคน ทำให้เรื่องนี้ทั้งน่าประหลาดใจและน่าเชื่อในเวลาเดียวกัน
“เพิ่งจะได้เข้ามาทำงานในสภานักเรียนปีนี้ เลยยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ แต่ฉันจะชดเชยด้วยพรสวรรค์และเสน่ห์ของตัวเอง ดังนั้นน้อง ๆ ปีหนึ่ง ถ้ามีเรื่องอะไร ให้ไปถามคนอื่นนะ อย่าถามฉันล่ะ!”
“……..”
เมื่อหันไปมองยูกิที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พบว่าเธอทำหน้าเคร่งขรึม ปากเป็นรูปตัว ‘へ’ ชัดเจน ดูเหมือนยูกิจะไม่ค่อยถูกชะตากับคนแบบนี้เท่าไหร่
ประธานนักเรียนส่ายหน้าเบา ๆ อย่างหมดคำจะพูด ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ
“ถ้าพวกเธอจัดการกับริสะไม่ได้ ก็มาปรึกษาฉันได้เลยนะ ตบสักสองสามทีก็คงหายแล้ว”
อะไรเนี่ย…นี่มันเหมือนทีวีพังเลยนะ
สุดท้ายก็ถึงคิวของคนสุดท้ายในห้อง
ชายหนุ่มใส่แว่นที่นั่งอยู่ในตำแหน่งเหรัญญิกเอ่ยปากพูดเป็นครั้งแรกของวันนี้
“ฉันชื่อสุงาตะ โบทาโร่ ฝ่ายเหรัญญิก”
(TLN: 会計の菅田望太郎だ ไม่แน่ใจเรื่องชื่อ)
เสียงเขา…ลุ่มลึกมาก!
น้ำเสียงที่ต่ำทุ้มจนดูเหมือนนักพากย์มืออาชีพ
“ตลกดีใช่ไหมล่ะ? โอตาคุแท้ ๆ แต่ดันมีเสียงดีขนาดนี้!”
รองประธานสาวหัวเราะลั่นพร้อมกับตบหลังเขาแรง ๆ
สุงาตะเป็นอีกคนที่ได้รับการแนะนำมาจากปีที่แล้วเหมือนกับประธาน และเคยทำหน้าที่เหรัญญิกในปีที่ผ่านมา
“ก็…ยังไงก็ฝากตัวด้วยแล้วกัน”
เขาพูดจบก็กลับไปนั่งที่เงียบ ๆ ดูเหมือนเป็นคนพูดไม่เก่ง ตรงข้ามกับรองประธานโดยสิ้นเชิง
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงตาของพวกปีหนึ่งแล้ว ขอให้แนะนำตัวด้วยนะคะ”
ขณะที่กำลังคิดว่าใครควรจะเริ่มก่อนดี ยูกิที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ใช้นิ้วจิ้มเอวผมเบา ๆ เป็นสัญญาณ
เธอให้ผมเริ่มก่อน…
“ผมชื่อ ซูซุฮาระ มาซาโนบุครับ ยินดีที่ได้รู้จัก เอ่อ…จะพูดอะไรต่อดีล่ะ…”
แย่แล้ว… ผมไม่ได้เตรียมตัวเรื่องการแนะนำตัวเลย
“เอ่อ… รุ่นพี่ มีคำถามอะไรไหมครับ? ผมว่าจะตอบคำถามแทนการแนะนำตัวเอาน่ะ…”
“ได้ค่ะ! ตอนนี้มีแฟ…—โอ๊ย!”
รองประธานที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างถูกศอกของประธานกระแทกจนเงียบไป
อ้อ… แบบนี้นี่เอง ประธานน่ะเป็นคนคอยเบรกมุกสินะ
“ถ้าอย่างนั้น งั้นเล่าให้ฟังหน่อยสิว่าทำไมถึงอยากเข้าร่วมสภานักเรียนล่ะคะ”
ประธานยังยิ้มอยู่ แต่ศอกของเธอกดลงที่ท้องของรองประธานอย่างไม่ลดแรง
“เหตุผลที่อยากเข้าร่วม… ก็เพราะผมสนใจในงานของสภานักเรียนครับ นอกจากนี้ยังคิดว่าที่นี่เหมาะสมที่จะเป็นที่ฝึกฝนตัวเอง…”
ผมแถไปแบบนั้นด้วยเหตุผลที่แต่งขึ้นทันที แต่ทันใดนั้นเอง…
“เฮ้อ… โกหกได้ลื่นไหลจริงนะ”
ยูกิที่นั่งข้าง ๆ บ่นเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
งั้นเหรอ… งั้นพูดความจริงเลยก็แล้วกัน ยังไงซะเดี๋ยวความจริงก็ต้องเปิดเผยอยู่ดี จะพูดตอนนี้เลยก็คงไม่ต่างกัน
“…ที่พูดไปนั่นมันแค่ข้ออ้างครับ.”
“?”
ผมกระแอมเบา ๆ แล้วหันไปมองยูกิเล็กน้อยก่อนพูดออกมา
“ความจริงคือ…ผมชอบอาริสุงาวะครับ อยากอยู่ใกล้ ๆ เธอ”
ทันใดนั้นบรรยากาศในห้องก็เงียบสนิท
“นะ…นะ…นะ…”
ใบหน้าของยูกิเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงทีละน้อย
นี่คือความลับที่มีเพียงผมเท่านั้นที่รู้—ยูกิแพ้ทางการถูกจู่โจมไม่ทันตั้งตัว
แม้ว่าเธอจะเคยชินกับการถูกสารภาพรัก แต่ทุกครั้งนั้นเธอมักรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
แต่เธอคงไม่คาดคิดว่าจะถูกสารภาพรักกลางที่ประชุมสภานักเรียนแบบนี้
ใบหน้าที่ปกติคงความเยือกเย็นของเธอตอนนี้แดงเถือกไปถึงหู
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ! ไม่เคยเจอใครสารภาพรักในเวลาแบบนี้มาก่อนเลย!”
รองประธานหัวเราะจนตัวงอ ขณะที่ประธานนักเรียนทำหน้าอึ้งไป
“นี่ถือเป็นการสารภาพรักครั้งแรกเหรอ?”
“เปล่าครับ ผมเคยโดนปฏิเสธไปแล้วรอบหนึ่ง”
จริง ๆ แล้วรอบก่อนผมแค่ถามว่า ‘ถ้าสารภาพรักจะเป็นยังไง’ แต่การพูดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บอกตรง ๆ
“โดนปฏิเสธไปแล้วแต่ยังไม่ยอมแพ้เหรอ?”
“ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ คือจุดแข็งของผมครับ”
อ้าว… ทำไมมันกลายเป็นเหมือนตอบคำถามสัมภาษณ์งานไปได้ล่ะเนี่ย
“ผ่าน! ตอนแรกคิดว่าเป็นคนจืดชืด แต่ตอนนี้ชอบมาก!”
รองประธานพยักหน้าพอใจพร้อมยกนิ้วโป้งให้ ดูเหมือนเธอจะถูกใจผมแล้ว
“แย่จริง ๆ เลยนะคะ ฉันไม่ได้ห้ามการมีความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงถ้าไม่ใช่เรื่องผิด แต่ในสภานักเรียน นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ! ฉันไม่ได้คิดอะไรกับหมอนี่เลยนะ!”
ยูกิรีบพูดแก้ไขพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ ขณะที่ประธานทำหน้าอึดอัด
“ตอนนี้น่ะใช่”
“มันจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิตเลยต่างหาก!”
ยูกิคว้าเอกสารเล่มบางที่อยู่ใกล้ ๆ มาม้วนเป็นแท่งแล้วฟาดลงบนหัวผมดัง ป๊าบ! เจ็บนะนั่น…
“ถ้างั้น คนต่อไปก็อาริสุงาวะค่ะ ช่วยแนะนำตัวด้วย”
“อ่ะ…คะ…ค่ะ”
หลังจากนั้นก็เป็นการแนะนำตัวของยูกิ แต่ดูเหมือนเธอจะพูดผิด ๆ ถูก ๆ ไปหมด
เธอน่าจะเตรียมคำพูดมาอย่างดี แต่คงเพราะผมทำให้แผนของเธอล่มไม่เป็นท่า
“หลังจากนี้นายเจอดีแน่…”
ยูกิมองมาที่ผมด้วยสายตาเอาเรื่อง น้ำตาคลอเล็กน้อย อาจจะเพราะผมแกล้งเธอหนักไปหน่อย
“ว้าว~! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผมสีเงินเลยนะ ดูสิ ผมนุ่มจัง~”
รองประธานเดินเข้าไปหายูกิและพยายามแตะผมของเธอ
โอ้… นี่มันเหมือนเห็นคนพยายามเข้าไปลูบหัวสัตว์ดุร้ายเลย
แต่ยูกิกลับไม่โกรธ
…เธอโกรธอยู่ แต่ไม่ได้แสดงออก นั่นน่าจะเป็นคำอธิบายที่ถูกต้อง
รองประธานเป็นรุ่นพี่ที่มีตำแหน่งสูงกว่าเธอ ดังนั้นแม้จะหงุดหงิดแต่เธอก็ต้องอดทน
ดู ๆ ไป ยูกิก็เหมือนแมวที่ทนโดนเจ้าของจอมกวนลูบหัวยังไงยังงั้น
“ปีที่แล้วว่ามีแต่คนสวย ๆ แล้วนะ ปีนี้ดูจะสวยกว่าอีก~ ฉันว่าไปเป็นไอดอลยังได้เลย!”
“อ่า… เห็นด้วยครับ ทุกคนดูน่ารักแถมยังมีเอกลักษณ์กันคนละแบบ ผมว่าก็เข้าท่าอยู่นะครับ”
“ใช่ไหมล่ะ!”
ขณะที่ผมกับรองประธานกำลังสนุกกับการพูดคุย ยูกิที่อยู่ข้าง ๆ กลับทำหน้าหงอย ๆ
“สภานักเรียนที่ฉันจินตนาการไว้…ไม่เหมือนอย่างนี้เลย…”
เธอบ่นพลางทำหน้าผิดหวังอย่างชัดเจน