ตอนที่ 8 ความจริง ข้ออ้าง และความคิดลึกๆ
“ตามมาหน่อย”
ช่วงเวลาพักถัดมา หลังจากผมกลับมาจากห้องพยาบาล ยูกิก็เรียกตัวผมไปที่บันไดตรงชั้นพักระหว่างทางขึ้นไปยังดาดฟ้า พอเราหยุดตรงนั้น เธอก็หันกลับมามองผมด้วยสายตาสงสัย
“นี่มันอะไรกัน?”
ยูกิพูดพลางยื่นหนังสือที่ผมให้เธอยืมคืนมา
“ก่อนอื่น น่าจะขอบคุณกันหน่อยนะ?”
“ฉันไม่ได้ขอซะหน่อย อีกอย่าง ที่ว่าป่วยนี่โกหกใช่ไหม”
“ก็ใช่”
ถึงจะหลอกอาจารย์ได้ แต่คงไม่สามารถหลอกยูกิได้
“แล้วตกลงนายต้องการอะไร?”
เธอจ้องผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวง และเอียงศีรษะเล็กน้อย
“ฉันก็แค่หวังดี อยากช่วยเพราะเห็นว่าเธอลำบากน่ะ”
“โกหก”
“ทำไมถึงคิดว่าโกหกล่ะ?”
“จากประสบการณ์”
ยูกิถอนหายใจเหมือนเหนื่อยหน่าย และใช้มือกุมหัว
“ตั้งแต่ม.ต้นมา ฉันเจอแบบนี้มาตลอด คนที่บอกว่าจะช่วยฉัน มักจะมีแผนอะไรแอบแฝงเสมอ เช่น ‘ช่วยแล้วต้องคบกันนะ’ หรือไม่ก็ ‘แลกเมลกันเป็นการตอบแทน’ ทุกคนที่เข้ามาช่วยฉัน มีแต่คนหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น”
พอได้ฟัง ผมก็เริ่มเข้าใจเหตุผลที่ยูกิในช่วงเวลานี้เลือกจะปฏิเสธคนอื่น
ผมส่ายหัวช้าๆ พร้อมถอนหายใจ
“ไม่น่ารักเลยนะ ที่คิดว่าฉันเหมือนพวกนั้น”
“แล้วนายไม่เหมือนพวกนั้นหรือไง?”
“ถ้าถามว่าผมมีเจตนาแอบแฝงไหม…ก็มีนะ”
“นั่นไง ดูสิ”
“อันที่จริง บอกว่าผมมีแต่เจตนาแอบแฝงอย่างเดียวเลยจะดีกว่า”
“….”
ยูกิถอยหลังไปหนึ่งก้าว พร้อมตั้งการ์ดเหมือนจะป้องกันตัวเอง
“การที่ผู้ชายอยากสนิทกับผู้หญิงน่ารักๆ มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”
“น่าตกใจนะ ฉันนึกว่านายจะไม่ใช่คนประเภทนั้น”
ยูกิมองตราดาวเจ็ดแฉกสีทองบนหน้าอกของผม
“ฉันนึกว่านายเป็นคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการเรียนเหมือนฉันซะอีก”
“ชีวิตในโรงเรียนมัธยมปลายมีแค่สามปี ถ้าไม่สนุกทั้งการเรียน เล่น และความรัก คงจะน่าเสียดายนะ”
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นอะไรแบบนั้นหรอก…”
ยูกิบ่นเบาๆ พร้อมถอนหายใจด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย
“เข้าใจแล้ว งั้นก็รีบๆ ทำเถอะ”
“เอ๋? ทำอะไรเหรอ?”
“หือ? ก็สารภาพรักกับฉันไง”
คำพูดของเธอทำผมแทบล้มลง
“ท…ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“แล้วไม่ใช่หรือไง? ที่ผ่านมาผู้ชายมักจะสารภาพรักกับฉันในจังหวะแบบนี้ทุกที”
อะไรนะ? นี่มันเหมือนการบุกตายแบบไร้แผนชัดๆ
แต่ก็จริง ผู้ชายวัยมัธยมต้นส่วนใหญ่ก็มักจะสารภาพรักแบบเสี่ยงดวง
“งั้นขอถามไว้เป็นข้อมูลหน่อย ถ้าตอนนี้ฉันบอกว่า ‘ฉันชอบเธอ ช่วยคบกับฉันด้วย!’ ผลจะเป็นยังไง?”
“ก็ต้องปฏิเสธสิ ฉันไม่ได้อยากมีแฟน”
นั่นไงล่ะ…
ผมยิ้มเจื่อนๆ พร้อมตอบว่า
“งั้นอย่างน้อยก็เป็นเพื่อนกับฉันได้ไหม?”
“เพื่อน?”
“ใช่ แบบนั้นไม่เห็นจะเสียหายเลย”
“ทั้งที่บอกว่ามีเจตนาแอบแฝง?”
“พูดแบบนั้นด้วยเหรอ? จำไม่ได้แล้วแฮะ”
“ความจำดีแต่เรื่องที่ตัวเองได้ประโยชน์สินะ”
“อีกอย่าง ฉันชอบให้คนมาสารภาพรักมากกว่าที่จะไปสารภาพเองนะ”
“งั้นนายคงไม่มีวันได้คบกับฉันแน่ๆ”
ยูกิพูดพลางหันหลังกลับ
“ไม่มีทางที่ฉันจะชอบนายแน่นอน”
เธอกลับไปที่ห้องเรียน พร้อมทิ้งคำพูดเย็นชาไว้
แต่มันอาจจะเป็นไปได้นะ…
ผมได้แต่คิดในใจ
ถ้าเธอได้เห็นตัวเองในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า เธอจะมีปฏิกิริยายังไง? อยากให้เธอได้เห็นตัวเองในตอนที่อ้อนผมอยู่ในห้องนอนและเปรียบเทียบกับตัวเองในตอนนี้จริงๆ
ว่าแต่…คำถามเรื่องเป็นเพื่อนน่ะ ยังไม่ได้คำตอบเลยไม่ใช่เหรอ?
ผมพิงราวบันได พร้อมกับแหงนมองเพดาน
ถึงเราจะกลายเป็นคู่รักสุดหวานในอนาคต แต่ปาฏิหาริย์ที่เธอจะตกหลุมรักผมในตอนนี้…มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
‘ไม่ว่าจะกี่สิบ กี่ร้อยครั้ง นายก็ต้องสารภาพรักกับฉันนะ และช่วยสอนฉันให้รู้จักกับช่วงวัยรุ่นที่แท้จริงด้วยล่ะ’
ผมคิดถึงคำพูดของยูกิในอนาคต
คำพูดที่สะท้อนถึงความรู้สึกในตอนนี้ ว่าเธอไม่มีทางตอบรับคำสารภาพของผมได้เลย
ในตอนนี้ ผมก็เป็นแค่เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ที่เรียนเก่งนิดหน่อยในสายตาเธอ
“ว่าแต่ ชั่วโมงที่หกวันนี้มีการประชุมระดับชั้นนี่นะ ถือว่าดีเลย ไปเจอคนๆนั้นสักหน่อยดีกว่า”
ผมรู้ว่า “กุญแจสำคัญ” สำหรับการชนะใจเธออยู่ในโรงเรียนนี้แล้ว…