บทที่ 973 สามีภรรยาพบหน้า (ฉบับเซียวจี่ vs ซิ่นหยาง) (2)
……….
โลกแบ่งออกเป็นหกส่วน แต่นอกเหนือจากหกแคว้นแล้ว ยังมีชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่อีกหลายกลุ่ม เช่น ชาวทูเจวี๋ยทางตอนเหนือของแคว้นจิ้น หรือตงอี๋ ทางชายแดนด้านตะวันออกของแคว้นเจา
อวี้จิ่นถามอย่างสงสัย “ตงอี๋ไม่ได้สมคบกับโจรและกำลังสู้รบกับกองทัพของราชสำนักหรอกหรือ เหตุใดคนตงอี๋ถึงได้มาทำตัวเป็นอันธพาลในเมืองของแคว้นเจาได้”
ชายวัยสามสิบต้นๆ เอ่ย “พวกเขากำลังจะเจรจาสงบศึกกัน!”
องค์หญิงซิ่นหยางขมวดคิ้ว “เจรจาสงบศึก ใครเป็นคนตัดสินใจ!”
ฮ่องเต้ไม่ได้มีราชโองการเช่นนี้!
นางดูมีอำนาจมาก จนทำให้ทุกคนในที่นั้นหวาดกลัวไปชั่วขณะ
ชายชราเป็นคนแรกที่ได้สติ เขามององค์หญิงซิ่นหยางและอวี้จิ่นหมดจรดเท้า ทั้งสองแต่งกายเรียบง่ายแต่ท่าทางสง่างาม อย่าบอกนะว่าเป็นขุนนางจากเมืองหลวงหรอกกระมัง
เป็นไปไม่ได้ ขุนนางจากเมืองหลวงจะมาที่แบบนี้ได้อย่างไร
เขาสงบสติอารมณ์พลางเอ่ย “แน่นอนว่าเป็นความคิดของเซวียนผิงโหว”
อวี้จิ่นแย้ง “เซวียนผิงโหวจะไปเจรจากับชนเผ่าป่าเถื่อนเล็กๆ ได้อย่างไร การบุกเข้าไปในเผ่าของพวกเขาต่างหากที่เป็นวิธีของเซวียนผิงโหว!”
ชายชราไม่ได้ตอบ แต่ชายวัยสามสิบต้นๆ เป็นคนเอ่ย เขาหัวเราะเสียงเย็นพลางเอ่ย “ไม่ใช่เพราะตงอี๋ถวายสาวงามให้เซวียนผิงโหวหรอกหรอกหรือ ว่ากันว่านางเป็นไข่มุกแห่งตงอี๋ ลูกสาวคนเล็กที่กษัตริย์ตงอี๋รักมากที่สุด คนกลุ่มนั้นที่อยู่ข้างนอกกำลังคุ้มกันรถม้าที่องค์หญิงน้อยของเผ่าตงอี๋นั่งอยู่ ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมถึงห้ามไม่ให้พวกเจ้าไปตาย”
อวี้จิ่นมองเจ้านายของเขาด้วยความกังวล “องค์หญิง…”
ขนตาขององค์หญิงซิ่นหยางสั่นเทา รังสีเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของนาง
อวี้จิ่นมองไปที่คนเหล่านั้นพลางเอ่ยอย่างจริงจัง “เซวียนผิงโหวมีภรรยาแล้ว เขาจะไม่ทำอะไรที่ทำให้องค์หญิงซิ่นหยางเสียใจ”
ชายคนนั้นหัวเราะ “เซวียนผิงโหวเจ้าชู้ ไม่ลงรอยกับองค์หญิงซิ่นหยางมานานแล้ว ยิ่งกว่านั้นองค์หญิงน้อยตงอี๋ผู้นั้นก็สวยจริงๆ ไม่มีผู้ชายคนไหนเห็นแล้วไม่หวั่นไหว”
องค์หญิงซิ่นหยางออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“องค์… องค์หญิง! องค์หญิง!”
อวี้จิ่นหยิบเงินเศษหนึ่งชิ้นจากกระเป๋าเงินวางไว้บนโต๊ะและรีบตามออกไป
ทั้งชายชราและชายหนุ่มมองไปที่เงิน หยุดไปสามวินาที แล้วลุกขึ้นเพื่อรับเงินโดยไม่ได้นัดหมาย คนงานตาไวรีบวิ่งเข้ามาคว้าเงินใส่กระเป๋าเสื้อก่อนทั้งสองคน
จากนั้นเขาก็หยิบเหรียญทองแดงโหลหนึ่งออกมาแล้ววิ่งไปที่โต๊ะหน้าร้าน “เถ้าแก่ ตรงนั้นจ่ายเงินแล้ว”
ชายชราและชายหนุ่มเบ้ปากอย่างผิดหวัง
คนตงอี๋จากไป หญิงสาวและเด็กก็จากไป ขอทานที่บาดเจ็บก็ถูกเพื่อนพยุงออกไป
องค์หญิงซิ่นหยางมองถนนที่ว่างเปล่าอีกครั้ง ไฟที่ไม่มีชื่อในใจของนางก็ลุกโชนมากยิ่งขึ้น
นางขึ้นรถม้า
อวี้จิ่นตามขึ้นไปอย่างหวาดกลัว นั่งลงข้างๆ นาง ถามอย่างลังเล “องค์หญิง อย่าใส่ใจเลย พวกเขาไม่รู้จักท่านโหว พวกเขาปั้นน้ำเป็นตัวเพคะ”
องค์หญิงซิ่นหยางเอ่ยอย่างเย็นชา “นิสัยเช่นเขายังต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกรึ”
อวี้จิ่นหัวเราะเจื่อน “เมื่อก่อนพวกท่านไม่ถูกกัน ท่านไม่ได้อยากเป็นสามีภรรยากับเขาจริงๆ ไม่ใช่หรือเพคะ”
องค์หญิงซิ่นหยางเสียงเย็นชา “ตอนนี้ข้าก็ไม่ได้บอกว่าจะเริ่มต้นใหม่กับเขา”
อวี้จิ่นเอ่ยเบาๆ “อ๋อ ถ้าอย่างนั้น ท่านโหวจะไปหาเศษหาเลยกับคนอื่นก็ไม่เป็นไรสินะเพคะ”
องค์หญิงซิ่นหยางตวัดสายตามองนาง
ขนของอวี้จิ่นลุกซู่ รีบเอ่ยในทันใด “แต่เขาจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนเพคะ!”
องค์หญิงซิ่นหยางหลับตา “ไปกันเถอะ”
อวี้จิ่นถามเบาๆ “เรายังไปค่ายทหารต่อไหมเพคะ”
องค์หญิงซิ่นหยางเอ่ยอย่างแผ่วเบา “กลับเมืองหลวง”
สีหน้าของอวี้จิ่นเปลี่ยนไป “องค์หญิง!”
องค์หญิงซิ่นหยางเอนหลังพิงเบาะอีกครั้ง หลับตาลง “ข้าตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องพูดมาก”
“…เพคะ” อวี้จิ่นตอบอย่างไม่เต็มใจ
น่าเสียดายจริงๆ
อีกแค่ก้าวเดียวก็จะได้เจอท่านโหวแล้ว ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้
คนขับรถม้าเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าเดินทางกลับ
อวี้จิ่นพยายามเกลี้ยกล่อมหลายครั้ง แต่อย่างไร องค์หญิงซิ่นหยางก็ไม่เปลี่ยนใจ
ไม่แปลกที่องค์หญิงยอมทิ้งศักดิ์ศรีแล้วมาไกลถึงชายแดน เมื่อจู่ๆ ได้ยินข่าวนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้
ท่านโหว ท่านโหว นี่ไม่ใช่ว่าข้าไม่ช่วยพวกท่านนะ แต่มันเป็นโชคชะตา
แต่แล้ว เมื่อรถม้ากำลังจะออกจากอำเภอลี่ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น พวกเขาไปที่ศาลพักม้าเพื่อเปลี่ยนม้า แต่กลับไปเจอกับคนตงอี๋กลุ่มนั้น และพวกเขาก็ชอบม้าตัวเดียวกัน
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋สวมผ้าคลุมหน้าลงจากรถม้า ร่างของหญิงสาวบอบบางอรชร ตั้งแต่หัวจรดเท้าเปล่งปลั่งไปด้วยความเยาว์วัย ดวงตาของนางเย้ายวนเป็นประกายระยิบระยับราวกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วง
สมกับเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของตงอี๋
องค์หญิงซิ่นหยางสวมหมวกฟางและผ้าคลุมหน้ายาว เผยให้เห็นเพียงโครงร่างใบหน้าที่เลือนลาง ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของนางได้
หญิงสองคนพบกันในศาลพักม้า
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋เอ่ยอย่างหยิ่งยโส “ข้าต้องการม้าตัวนี้ เจ้าไปเลือกตัวอื่นเถอะ”
องค์หญิงซิ่นหยางเอ่ยอย่างจริงจัง “มาก่อนย่อมได้ก่อนเสมอ ข้าเลือกก่อน เจ้าไปเลือกตัวอื่นเถอะ”
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋หัวเราะพลางเอ่ย “มาก่อนก็ได้ก่อนหรือ ข้ามีเงินมากมาย เจ้าจะจ่ายเท่าไหร่ ข้าจ่ายสองเท่า!”
องค์หญิงซิ่นหยางมองด้วยสายตาเย็นชา “มีเงินแล้ววิเศษหรือไร ยังสาวแล้ววิเศษหรือ เจ้ามีเงิน ข้าไม่มีงั้นรึ”
มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นสาว คนผู้นี้วาจาแปลกนัก
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋มองนางอย่างสงสัย ยื่นมือออกมาพลางเอ่ยอย่างเย็นชา “มีเงินก็เอาออกมาสิ!”
อวี้จิ่นกระซิบข้างองค์หญิงซิ่นหยาง “องค์หญิง เงินของเราเกือบหมดแล้ว”
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋เอ่ยกับคนดูแลม้า “เอาเงินคืนให้นาง! ข้าจะซื้อม้าตัวนี้!”
“ขอรับ ขอรับ!” คนดูแลม้าไม่กล้าขัดใจ “คนในใจ” ของเซวียนผิงโหว รีบเข้าไปคืนเงินสองตำลึงให้อวี้จิ่น
องค์หญิงซิ่นหยางแผ่รังสีอำมหิตออกมา “บังอาจนัก!”
คนดูแลม้าตกใจกลัว!
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าจะดุอะไรนักหนา เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”
องค์หญิงซิ่นหยางเอ่ยประชดประชัน “รู้ ลูกสาวคนโปรดของตงอี๋ที่ตามตื๊อเซวียนผิงโหว แค่ชนเผ่าเล็กๆ ก็กล้าเรียกตัวเองว่าองค์หญิง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
“เจ้า!” องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋โกรธกริ้ว “ข้าไม่ตีผู้หญิงหรอก! คุกเข่าขอโทษข้าเสีย! ข้าจะยกโทษให้เจ้า!”
องค์หญิงซิ่นหยางเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าต่างหากที่ต้องคุกเข่าขอโทษข้า!”
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋โกรธจนกระทืบเท้า ตะโกนเสียงแหลม “ไม่รับไมตรีก็ต้องเจอของแข็ง! พวกเรา! สั่งสอนพวกนางสองคนนี้!”
องครักษ์ตงอี๋แปดคนกรูเข้ามา ล้อมองค์หญิงซิ่นหยางและอวี้จิ่นไว้
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “กลัวแล้วใช่ไหม ตอนนี้จะขอร้องก็ยัง…”
คำสุดท้ายเอ่ยได้เพียงครึ่งเดียว ร่างกำยำก็ทะยานลงมาจากฟ้า
ไม่มีใครเห็นว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร พริบตาเดียว องครักษ์ตงอีแปดคนก็ล้มลง!
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋มองดูองครักษ์ที่ล้มลงกับพื้นอย่างไม่เชื่อสายตา “เป็นไปไม่ได้ นี่… เจ้า… เจ้าใช้เวทมนตร์อะไร! พวกเรา! เข้าไป!”
คนที่เหลืออีกสิบสองคนก็พุ่งเข้าหาองค์หญิงซิ่นหยางและพวก
แต่คนเหล่านี้จะเอาอะไรไปสู้หลงอี
หลงอีจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
หลงอีพุ่งไปข้างหน้าองค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋ในพริบตา องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋มองดูชายสวมหน้ากากที่เคลื่อนไหวรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็นด้วยความหวาดกลัว จนพูดไม่ออก
หลงอีกลอกตาไปมา ยกนิ้วขึ้น แล้วดีดเบาๆ ที่หน้าผากของนาง นางทรุดลงไปนั่งกับพื้น
องค์หญิงซิ่นหยางเดินเข้ามาหานางทีละก้าว มองลงมาจากเบื้องบน “ตอนนี้ ยังจะแย่งของคนอื่นอีกไหม”
องค์หญิงน้อยแห่งตงอี๋ปาดน้ำตาแล้วเอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าเป็นใคร เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแกล้งข้า!”
องค์หญิงซิ่นหยางมองนางด้วยสายตาเฉียบคม “ข้าคือองค์หญิงซิ่นหยางแห่งแคว้นเจา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเซวียนผิงโหว จะแกล้งเจ้าแล้วอย่างไร!”
ทันทีที่เอ่ยจบ นางรู้สึกได้ถึงสายตาสองคู่ที่มองมาที่นาง
นางหันกลับไปโดยไม่รู้ตัว และเห็นเซวียนผิงโหวยืนอยู่ที่ลานโล่งไม่ไกล มองนางด้วยความตกตะลึง
……….