[นิยายแปล] Game of the World Tree 121 พวกมันบ้าไปแล้ว!

ตอนที่ 121 พวกมันบ้าไปแล้ว!

หินเทา เป็นหนึ่งในสุดยอดนักรบแห่งเผ่าถ้ำหิน 

ด้วยตำแหน่งนักรบระดับเหล็กขั้นสูงซึ่งหาได้ยากในเผ่าของเขา หินเทาไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความแกร่งกล้าและกล้าหาญ แต่ยังเป็นผู้นำของหน่วยรบที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยสองมือของตัวเอง

อายุห้าสิบปีของเขาเต็มไปด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่ผ่านการสังหารศัตรูมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ อสูร หรือแม้แต่เหล่าเอลฟ์ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่

ในสายตาของหินเทา เอลฟ์เป็นได้เพียงพวกใสซื่อและไร้เดียงสา เผ่าพันธุ์ที่ช่างน่าสงสารและน่าเวทนา! 

เขาเคยเข้าร่วมการล้อมปราบและไล่ล่าเอลฟ์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

แต่วันนี้กลับต่างออกไป นี่คือครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เห็นเอลฟ์กล้าหาญพอจะเปิดฉากบุกโจมตีเหล่าออร์ค!

“นี่มัน…เรื่องตลกชัด ๆ!”

หินเทาคิดในใจพร้อมหัวเราะหยัน

“จำนวนพวกมันน้อยแค่นั้น จะเอาอะไรมาสู้กับพวกเรา?”

ในอดีตร่วมพันปีก่อน เอลฟ์อาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม แต่ในปัจจุบันนี้ พวกมันก็เหมือนเสือแก่ที่ไร้เขี้ยว หรือกระต่ายตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีพิษสงอะไร

กระต่ายคิดจะเผชิญหน้ากับเหยี่ยวงั้นเรอะ? 

พวกมันต้องเสียสติไปแล้วแน่ ๆ!

หรือบางที…

อาจเป็นมังกรดำที่บีบพวกเอลฟ์ให้ยอมเป็นบริวาร และสั่งให้พวกมันเปิดศึก?

ความคิดแวบหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวหินเทา

แต่เมื่อเขาเห็นมหาคีรี หัวหน้านักบวชของเผ่า ผู้ยืนอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของกองทัพ พร้อมท่าทีที่ดูราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่สำคัญที่สุดในชีวิต หินเทาก็เริ่มรู้สึกแปลกใจ

ยิ่งไปกว่านั้น มหาคีรียังออกคำสั่งเด็ดขาดว่า ‘อย่าปล่อยให้พวกมันรอดชีวิตแม้แต่ตนเดียว!’

นี่มัน…เอลฟ์นะ!

จับพวกมันแค่ตัวเดียว แม้จะเป็นเอลฟ์ชาย ก็ยังสามารถแลกกับเสบียงหนึ่งเกวียนได้!

หินเทานึกค้านในใจ 

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ มหาคีรีได้ปิดบังความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเอลฟ์ไว้ นักบวชชราไม่ต้องการให้ความกลัวแพร่กระจายในหมู่ออร์ค 

เพราะความจริงก็คือ… เหล่าเอลฟ์สามารถฟื้นคืนชีพได้!

การรู้ว่ากำลังต่อสู้กับศัตรูที่ไม่อาจฆ่าให้ตายได้อย่างแท้จริง สามารถทำให้แม้แต่นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดรู้สึกหวาดหวั่น

สำหรับนักรบออร์คอย่างหินเทา พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้ความจริงที่ยุ่งยากหรือซับซ้อน สิ่งเดียวที่สำคัญคือการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ด้วยคำสั่งจากมหาคีรี หินเทาได้นำกองกำลังของตนเองเข้าสู่แนวหน้าของกองทัพ พร้อมมุ่งหน้าสู่เนินเขา ที่ซึ่งเหล่าเอลฟ์กำลังตั้งมั่นรอการมาถึงของพวกเขา

และเมื่อพวกเขาเข้าใกล้… สิ่งที่หินเทาได้เห็นกลับทำให้เขาตกตะลึง

เอลฟ์ที่ยืนอยู่ในแนวหน้าของกองทัพ ไม่เพียงแต่ไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อพวกออร์คที่พุ่งเข้าใส่พวกเขาเหมือนน้ำป่าไหลหลาก… แต่กลับระรื่นไปด้วยแววตาแห่งความตื่นเต้น

นอกจากนี้ ยังมีรอยยิ้มที่ดูราวกับพวกเขากำลังสนุกสนาน

สีหน้าแบบนี้… ข้ารู้จักมันดี!

หินเทาขมวดคิ้ว 

มันคือสีหน้าแห่งความตื่นเต้นและความบันเทิง เช่นเดียวกับที่เขาและนักรบคนอื่น ๆ ในเผ่าแสดงออกมาเสมอ เวลาพวกเขากลับจากล่าสัตว์และเริ่มมวยปล้ำ หรือเล่นพนันในยามราตรี

รอยยิ้มและแววตาเช่นนี้ ทำให้หินเทารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับกลุ่มคนที่ไม่ได้มาต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่เพื่อสนุกกับการรบอย่างแท้จริง

พวกมันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!?

สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้หินเทาต้องหยุดชะงัก เขาเริ่มลังเลว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นนั้นเป็นความจริงหรือแค่ภาพลวงตา

ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรต่อไป ระลอกเวทมนตร์หลากสีก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง!

หินเทาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

อะไรกัน!? เวทมนตร์มากมายขนาดนี้!

เผ่าเอลฟ์ไปหานักเวทสายโจมตีมาจากไหนกันมากมายขนาดนี้?!

ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างตื่นตระหนก

เอลฟ์ถือเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความถนัดทางด้านเวทมนตร์โดยธรรมชาติ แม้แต่นักรบเผ่าเอลฟ์ก็ยังมีพลังเวทมนตร์มากพอที่จะเรียนรู้เวทมนตร์พื้นฐานได้หนึ่งหรือสองบท 

แต่โดยทั่วไป เอลฟ์ซึ่งเป็นชนเผ่าที่รักสงบ มักหลีกเลี่ยงการเรียนรู้เวทมนตร์สายโจมตีที่รุนแรง

แต่สิ่งที่หินเทาเห็นในขณะนี้ คือแสงเวทมนตร์ที่ระเบิดออกมา ทั้งหมดล้วนเป็นเวทมนตร์สายโจมตี แถมยังเป็นเวทมนตร์ที่เน้นพลังทำลายล้างสูงสุดอีกด้วย!

มันกลายเป็นพวกบ้าพลังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

สีหน้าของหินเทาเปลี่ยนไปทันที เขายกโล่ประจำตัวขึ้นตั้งรับ 

โล่นั้นเต็มไปด้วยอำนาจเวทมนตร์จากมหาคีรี สามารถลดทอนความเสียหายจากเวทมนตร์ได้ระดับหนึ่ง

แต่พลังมหาศาลของเวทมนตร์ที่พุ่งเข้าใส่เขายังคงสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วบริเวณ เสียงกรีดร้องโหยหวนของนักรบออร์คดังลั่นหุบเขา ราวกับเสียงกรีดร้องของเหล่าโหงพราย

ในพริบตาเดียว นักรบออร์คจำนวนมากล้มลงกับพื้นด้วยบาดแผลฉกรรจ์ แต่กระนั้น กองกำลังจากแนวหลังยังคงกรูเข้ามาแทนที่ทันที

หินเทารอดมาได้ มีเพียงแค่รอยขีดข่วนจากเวทมนตร์สายลมที่ฟันผ่านแขน

 เขาเลียเลือดที่แขนเบา ๆ ดวงตาเป็นประกายด้วยความดุร้าย ก่อนจะคำรามสั่งทัพ

“กระจายกำลังออกไป!”

การยืนแนวแถวที่อัดแน่นเกินไปนั้นเป็นเป้าหมายชั้นเยี่ยมสำหรับเวทมนตร์วงกว้าง 

เมื่อได้รับคำสั่ง เหล่าออร์คแนวหน้าก็เร่งกระจายแถวทันที พร้อมปรี่เข้าหาพวกเอลฟ์อย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน เหล่านักรบเอลฟ์ในแนวหน้าก็ส่งเสียงตะโกนกึกก้อง

“อูลาาาาา—!”

เสียงคำรามที่สะท้อนผ่านแนวรบสร้างแรงกระตุ้นให้กับกองทัพเอลฟ์ พวกเขาจับอาวุธในมือแน่น พร้อมที่จะพุ่งลงจากที่สูง สร้างความได้เปรียบที่พวกเขารู้ดีว่ามีค่ามหาศาล

การบุกโจมตีจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเปรียบเสมือนกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่ง 

แม้ร่างกายของออร์คจะมีกำลังมหาศาลและแข็งแกร่ง แต่ความได้เปรียบจากชัยภูมิกลับบั่นทอนพลังของพวกมันไปอย่างมาก

แต่ถึงอย่างนั้น… เหล่าออร์คยังคงไม่ใส่ใจเอลฟ์ผู้บอบบางในสายตาของพวกมัน

และเมื่อสองกองทัพปะทะกัน เสียงอาวุธกระทบกัน เสียงกรีดร้อง และเสียงคำรามดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ความโกลาหลระเบิดขึ้นทั่วแนวรบ

หินเทาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ปกติจากการต่อสู้ครั้งนี้ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ยาวนาน เขารู้ว่าเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่รักสงบและหวงแหนชีวิต ด้วยอายุขัยอันยาวนานแต่จำนวนประชากรอันน้อยนิด พวกเขามักเลือกที่จะต่อสู้ด้วยความระมัดระวังและการวางแผนที่รอบคอบ

แต่เอลฟ์ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้กลับแสดงพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง!

พวกมันโจมตีด้วยความบ้าคลั่ง การเหวี่ยงอาวุธและการร่ายเวทมนตร์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง พวกมันดูเหมือนไม่สนใจว่าพลังชีวิตหรือพลังเวทมนตร์ของตัวเองจะลดลงเร็วเพียงใด แม้พวกมันจะบาดเจ็บก็ยังคงบุกต่อโดยไม่ถอย

พวกมัน… ยังเป็นเอลฟ์อยู่จริงหรือ?

หรือพวกมันเป็นออร์คในคราบเอลฟ์กันแน่?

หินเทาตั้งคำถามในใจ 

ดวงตาของเขาจับจ้องพวกเอลฟ์ด้วยความไม่เชื่อ ก่อนจะพึมพำเสียงสั่น

“พวกมัน… กำลังคลุ้มคลั่งชัด ๆ!”

เอลฟ์เหล่านี้ช่างอ่อนแอ ไร้ซึ่งประสบการณ์และการควบคุมจังหวะรุกและรับที่เหมาะสม

พวกมันไม่รู้จักการยับยั้งชั่งใจในการต่อสู้ แต่กลับเลือกที่จะพุ่งเข้าโจมตีอย่างหนักหน่วงราวกับนักรบวิปลาส!

นี่คือเอลฟ์ที่ครั้งหนึ่งเคยสง่างามจริงหรือ?

หินเทาอดตั้งคำถามไม่ได้

วิธีการต่อสู้เช่นนี้ แม้จะดูรวดเร็วและทรงพลังในช่วงแรก แต่เขารู้ดีว่าอีกไม่นาน พวกมันจะหมดแรงจนไม่อาจยืนหยัดต่อไปได้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่รอคอยการสังหาร

“ต่อให้พวกมันมากันสักกี่ตน ก็เท่ากับโยนชีวิตทิ้งทั้งนั้น!”

แท้จริงแล้ว เหล่าผู้เล่นไม่ได้ตั้งใจจะสู้แบบบ้าบิ่นเช่นนี้ หากแต่ในฐานะฝ่ายป้องกัน พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นเพราะเบื้องหลังพวกเขาคือวงเวทเคลื่อนย้ายที่ต้องปกป้องอย่างสุดชีวิต 

ท่ามกลางแรงกดดันจากออร์คที่แข็งแกร่งและจำนวนมหาศาล ผู้เล่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ความดื้อรันเพื่อดึงความได้เปรียบ และด้วยภูมิประเทศที่คับแคบ พวกเขาไม่สามารถกระจายกำลังเพื่อสร้างความยืดหยุ่นได้

อย่างไรก็ตาม ความคับแคบของสนามรบนี้ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับผู้เล่นเพียงฝ่ายเดียว กองกำลังออร์คที่จำนวนมากกว่าก็ไม่สามารถกระจายตัวได้เช่นกัน

แนวหน้าของสมรภูมินั้นมีเพียงพื้นที่แคบ ๆ ที่ใช้ต่อสู้ ฝูงออร์คส่วนใหญ่ต้องรออยู่ด้านหลังเพื่อเข้าแทนที่เมื่อแนวหน้าบาดเจ็บ

แต่ทว่า ความบ้าเลือดของผู้เล่นกลับสร้างผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีระลอกแรกจากออร์คได้อย่างน่าทึ่ง

หินเทาแค่นเสียงเยาะ ขณะใช้ดาบฟาดฟันเอลฟ์นักรบคนหนึ่งจนร่างล้มลงกับพื้น เขาตะโกนก้องด้วยความมั่นใจ

“บุกทะลวง! พวกมันมีจำนวนไม่มาก อีกไม่นานก็จะจบแล้ว!”

แต่ในทันทีที่คำสั่งของเขาดังขึ้น หินเทาก็ต้องหยุดนิ่ง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

เหล่านักรบเอลฟ์แถวหน้าพร้อมใจกันเปิดทาง และจากแนวหลัง กลุ่มเอลฟ์หลายสิบตนก็วิ่งพุ่งออกมาในสภาพที่สวมเพียงกางเกงขาสั้น!

สีหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความดุร้าย และดวงตาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นราวกับกำลังเล่นสนุก พวกมันส่งเสียงร้องตะโกนขณะวิ่งตรงเข้าหาฝูงออร์ค

“พวกมันคิดจะทำอะไร?! วิ่งไปตายหรือไง?!”

หินเทาตะลึงงัน เขาสะบัดดาบฟันเอลฟ์อีกตนที่พุ่งเข้ามาในระยะจนร่างล้มลง แต่สิ่งที่เขาเห็นต่อมาทำให้เขาอ้าปากค้าง

เหล่าเอลฟ์ที่สวมเพียงกางเกงขาสั้นกลับพุ่งเข้าไปหากลุ่มออร์คที่บาดเจ็บ พร้อมกับกอดพวกมันแน่นราวกับจะไม่ปล่อยให้หนีไปไหน

ออร์คที่ถูกกอดต่างขัดขืนอย่างโกรธเกรี้ยว ใช้ขวานและดาบฟาดฟันใส่พวกเอลฟ์อย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของเอลฟ์เหล่านั้นเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดสีแดงฉานไหลนองอาบผิวจนแทบไม่เห็นสีนวล

แต่สิ่งที่ทำให้หินเทาตื่นตระหนกคือ แม้พวกมันจะถูกฟันจนใกล้ตาย เอลฟ์เหล่านั้นกลับไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าความเจ็บปวดไม่มีผลต่อพวกมัน สิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าของพวกมันกลับเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ

“พวกบ้า…พวกมันเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว!”

หินเทาอ้าปากค้าง มองดูเอลฟ์ที่กอดร่างออร์คไว้แน่น ราวกับการกระทำเหล่านั้นเป็นชัยชนะที่พวกมันโหยหา

รอยยิ้มแสยะของพวกมันเต็มไปด้วยความยินดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้เขาตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ

เอลฟ์ที่อยู่ในสภาพใกล้ตายเงยหน้าขึ้นและคำรามกึกก้องราวกับประกาศชัยชนะ

“บึ้มชั้นเลย!”

บึ้ม?

หินเทาขมวดคิ้วด้วยความงุนงง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตีความคำพูดเหล่านั้น แสงเวทมนตร์จ้าก็ปรากฏขึ้นจากแนวหลังของเอลฟ์

คลื่นเวทมนตร์ควบคุมพุ่งตรงเข้ามา รวบตรึงทั้งออร์คและเอลฟ์ที่กอดรัดกันไว้แน่น ปิดผนึกทุกการเคลื่อนไหวของทั้งคู่

จากนั้นก็เกิดสิ่งที่หินเทาไม่เคยเห็นมาก่อน—การโจมตีเวทมนตร์ที่ทรงพลังที่สุดในชีวิตของเขา ระลอกพลังเวทมนตร์ที่มุ่งสังหารพุ่งออกมาพร้อมกับลูกธนูที่อาบมนตรา เป้าหมายคือทั้งออร์คและเอลฟ์ที่ติดอยู่ในอ้อมกอดแห่งความตาย

เสียงระเบิดดังกึกก้องทั่วทั้งสนามรบ พื้นดินสั่นสะเทือนลั่น เศษดินและควันลอยคลุ้งไปทั่ว เสียงกรีดร้องระงมดังก้องไปทั่วสนามรบ

เมื่อควันจางลง ออร์คและเอลฟ์ที่อยู่ในแนวระเบิดเหลือเพียงเศษซากกระจัดกระจาย บางร่างถูกฉีกกระชากจนไม่เหลือเค้าเดิม บางร่างกลายเป็นเป้าของลูกธนูจนแทบมองไม่เห็นผิวหนัง

หินเทายืนนิ่ง ร่างกายแข็งค้างอยู่กับที่ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความสับสนปนหวาดหวั่น เขาจ้องมองภาพเบื้องหน้า รู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังเต้นแรงจนเจ็บ

“บ้า… พวกมันเป็นบ้าไปหมดแล้ว!”

เขาพึมพำออกมา ราวกับไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้เห็น

นี่มันกลยุทธ์อะไรกัน? การฆ่าตัวตาย? การแลกชีวิต?

พวกเอลฟ์เหล่านี้เสียสติไปแล้วหรือ?

แม้ว่าในใจหินเทาจะดูถูกพลังของเอลฟ์มานาน แต่ในฐานะเผ่าพันธุ์ที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต เขาอดไม่ได้ที่จะนับถือพวกมันอยู่ลึก ๆ

ชีวิตของเอลฟ์หนึ่งชีวิต ช่างมีคุณค่าเกินกว่าชีวิตของออร์คสิบชีวิตด้วยซ้ำ!

ในตลาดค้าทาสใต้ดิน เอลฟ์หนึ่งชีวิต สามารถแลกกับออร์คได้เป็นสิบตัว และต่อให้เป็นเอลฟ์ชายที่ไร้พลัง มันก็ยังมีค่ามากกว่าชีวิตออร์คธรรมดาหลายเท่า

พวกมันกำลังทำอะไรอยู่? 

พวกมันไม่เห็นค่าชีวิตตัวเองแล้วอย่างนั้นหรือ?

หินเทากัดฟันแน่น เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าเอลฟ์เหล่านี้ซึ่งเคยรักสงบและทะนุถนอมชีวิตของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ กลับเลือกที่จะเสียสละตัวเองเพียงเพื่อฆ่าออร์คหนึ่งตัว

มันแค้นอะไรกันนักหนา?!

พวกมันยังเหลือประชากรอีกเท่าไหร่? 

และพวกมันยังจะยอมทิ้งชีวิตอีกสักกี่ตน?

คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของหินเทา ราวกับความวิปลาสของเอลฟ์เหล่านี้ได้ท้าทายทุกสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอด

“พวกมัน… บ้าไปแล้ว!”

  …

  …

~~ ~~ ❀ ~~ ~~

T/N: ช่วงสงครามนี่แปลเพลินจนหยุดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ วันนี้ขออีกซักตอนนะ  ?

คำถามจากหินเทา: “พวกมันบ้าไปแล้วหรือ?”

บอกเลยค่ะว่า ไม่ใช่แค่หินเทาที่ถาม– คนแปลเองก็สงสัยเหมือนกันค่ะ…

     อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413  

     ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

     Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432  

~~ ~~ ❀ ~~ ~~

[นิยายแปล] Game of the World Tree

[นิยายแปล] Game of the World Tree

Score 10
Status: Completed
สงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อนก่อให้เกิดการจุดสิ้นสุดของยุคแห่งองค์มหาพฤกษาโลกาอันเป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมของเหล่าเอลฟ์ นำไปสู่การล่มสลายของอารยธรรมเอลฟ์ภายหลังจากเหตุการณ์นั้น ... ผ่านไปกว่า 10 ศตวรรษ ต้นไม้โลกต้นใหม่ถือกำเนิดขึ้น อีฟ อึกก์ดราซิลล์ ผู้เป็นดั่งมารดาแห่งสรรพสิ่ง มาพร้อมกับความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนดาวเคราะห์สีคราม อีฟได้เริ่มแผนการดึงตัวเหล่าผู้เล่นจากดาวแห่งนั้นมาช่วยในการฟื้นฟูอารยธรรม เพื่อพาตนผองเผ่ากลับไปสู่ความเกรียงไกรเช่นในอดีต

Options

not work with dark mode
Reset