ตอนที่ 580 : การประชุม
ภายใต้การนำทางของทหาร หวังเย่าก็ได้เข้ามาในห้องประชุมแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นห้องประชุมมีคนอยู่มากมาย คนระดับสูงของดาวทมิฬจะนั่งอยู่แถวหน้า ที่นั่งของหวังเย่าเองก็อยู่ด้านหน้าเช่นกัน
ฉากนี้มันดูแปลก ๆ หวังเย่ากลับได้ไปนั่งกับคนระดับสูงพวกนั้น ที่ด้านหน้านั้นหวังเย่าก็ยังเห็นคนคุ้นเคยอยู่
เจ้าชายฮาร์วี่, มิยายา, หลินฉี คนของเผ่าจิ้งจอกก็อยู่ที่นี่ด้วย
หลินฉี เจ้าหญิงคนเล็กได้หันกลับมามองที่ด้านหลัง เมื่อพบกับหวังเย่า เธอก็หันกลับและรีบไปสะกิดมิยายาและฮาร์วี่
ทั้งสามคนหันกลับมามองที่หวังเย่าเป็นตาเดียว สีหน้าของมิยายานั้นแสดงความตกตะลึงออกมา ส่วนฮาร์วี่แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
ทั้งสามหันกลับไปก่อนที่จะซุบซิบกัน
ผ่านไปสักพักม่านบนเวทีก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับเผยให้เห็นป้ายขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่ด้านบน การประชุมนักรบดาวทมิฬครั้งที่ 1
หลังจากที่พิธีกรพูดเปิดงานสั้น ๆ แล้ว คนแรกที่เดินขึ้นไปบนเวทีคือนายพลฟอเนอร์
เขาได้พูดถึงความพยายามของกองทัพตลอดหลายปีมานี้ในการกอบกู้ความยุติธรรมรวมไปถึงกฎหมายต่าง ๆ อีกทั้งยังมีเรื่องความปลอดภัยของผู้คนและทรัพย์สินด้วย
สุดท้ายเขาก็พูดถึงเรื่องประเทศอื่น ๆ ระหว่างนั้นก็ได้ทำการแนะนำหวังเย่าก่อนที่จอบนเวทีจะเริ่มเล่นวิดิโอที่มีการต่อสู้ของหวังเย่าออกมา
ฟอเนอร์เคยใช้ชีวิตในเหมืองมาก่อน เขาได้บอกเล่าเรื่องของหวังเย่า หลังจากที่ได้รู้ถึงตัวตนของฟอเนอร์และตกลงกันแล้ว หวังเย่าก็ช่วยพวกเขาในการเอาศพฟาโรห์ออกมาจากพีระมิด แต่หวังเย่าไม่อาจจะหนีออกมาได้ในตอนนั้น สุดท้ายเขาก็ต้องพึ่งความสามารถของตัวเองในการสู้กับกองกำลังในคุก….
ระหว่างนั้น หวังเย่าก็ได้ช่วยฝ่ายต่อต้านในการจัดการเก็บหลักฐานจำนวนมากจนทำให้ได้เบาะแสต่าง ๆ ในการจัดการคนทำผิด …
แน่นอนว่ามีหลายส่วนที่ฟอเนอร์แต่งขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้หวังเย่าดูยิ่งใหญ่กว่าเดิม
แม้ว่าการประชุมนี้จะไม่ได้เป็นการฉีกหน้าเผ่าจิ้งจอกโดยตรง แต่การที่เอาหวังเย่ามาเสนอให้กับทุกคนได้เห็นแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการฉีกหน้าพวกนั้น
แปะ ๆ ๆ….
เสียงปรบมือดังขึ้นไปทั่วทั้งห้อง
ตอนที่หวังเย่าเดินขึ้นไปบนเวที สีหน้าของเผ่าจิ้งจอกทั้งสามคนที่อยู่ด้านล่างก็บิดเบี้ยวไป
หวังเย่าโค้งให้กับทุกคน เมื่อเสียงปรบมือสิ้นสุดลง เขาก็กระแอมแล้วพูดขึ้นมา “แม้ว่าฉันจะถูกส่งไปที่คุกโดยฮาร์วี่…”
มันมีเสียงพึมพำดังขึ้นมาในตอนที่หวังเย่าพูดประโยคแรกนี้
ฮาร์วี่ถึงกับหน้าซีดไป เจ้าหญิงอีกสองคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูร้อนรนไปด้วย
“แต่ที่ฉันต้องการจะบอกคือมันมีกองกำลังชั่วร้ายอยู่ในคุกนั้น และเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต ส่วนเจ้าชายฮาร์วี่นั้น…”
ทุกคนต่างก็รอฟังจนบรรยากาศเงียบสนิท…
ไม่มีใครคิดว่าหวังเย่าจะพูดเรื่องนี้ออกมาในตอนนี้ การประชุมนี้ถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งดาว มันไม่อาจจะตัดสัญญาณได้
หากหวังเย่าบอกว่าเผ่าจิ้งจอกเป็นคนผิด งั้นแม้แต่ฟอเนอร์ก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ยังไง
แม้ว่าฝ่ายต่อต้านจะอยากบอกความจริงให้ทุกคนได้รู้ แต่ยังไงซะเผ่าจิ้งจอกก็มีอำนาจในดาวนี้มานาน มันยากที่จะถอนรากถอนโคนพวกเขาไปได้หมดในคราวเดียว
ฮาร์วี่เกือบจะลุกขึ้นยืนและตะโกนด่า แต่เมื่อเห็นกล้องรอบตัวเขาก็ต้องเงียบและได้แต่ยิ้มออกมา
หวังเย่าพูดขึ้นต่อ “ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ! ”
หือ….
ทุกคนพร้อมกับผู้ชมทางบ้านต่างก็ร้องออกมาด้วยความสับสน
แต่ทุกคนได้พากันเอาโทรศัพท์ขึ้นมาและค้นหาว่าทำไมหวังเย่าถึงโดนส่งไปที่คุกและเจ้าหน้าที่พวกนั้นเกี่ยวข้องกับ ฮาร์วี่ยังไง
ฟอเนอร์ยิ้มออกมาและพึมพำ “หวังเย่านี่ร้ายกาจจริง ๆ เล่นหนักแบบนี้ ฮาร์วี่คงหนีไม่รอดแน่”
นี่คือสิ่งที่ฝ่ายต่อต้านต้องการ และหวังเย่าเองก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง !
“เจ้าชายฮาร์วี่ น่ะเป็นเจ้าชายที่ดี ฉันทำตามแบบอย่างเขามาโดยตลอด เขาน่ะ…เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันสู้กับคนในคุก ! ”
แปะ ๆ ๆ ….
ทุกคนพากันปรบมือกันอีกรอบ
หวังเย่าได้ชูโล่นักสู้ดีเด่นขึ้นก่อนจะเดินลงจากเวที
ฮาร์วี่ลุกขึ้นยืนและจับมือหวังเย่าเอาไว้ก่อนจะกอดกันตามมารยาท
“แกทำให้ฉันสนใจจนได้” ฮาร์วี่กระซิบบอกหวังเย่า
“ฉันพยายามทำให้นายสนใจเลยนะ อย่าทำให้ฉันผิดหวังก็แล้วกัน” หวังเย่าหัวเราะออกมา
ทั้งสองคนกอดกันอีกครั้งก่อนที่กล้องจะจับภาพความเป็นมิตรของทั้งคู่ ซึ่งวันต่อมาก็ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ
“นายสนใจจะแสดงกับฉันอีกไหมล่ะ ? ” มิยายาลุกขึ้นยืนและกระซิบบอกกับหวังเย่า
“แน่นอน แต่หวังว่าครั้งหน้าเธอจะนอนอยู่ในโรงพยาบาลนะ” หวังเย่ายิ้มออกมา แต่คำพูดของเขากลับทำให้มิยายาถึงกับสีหน้าบิดเบี้ยวไป
หลินฉีเองก็ลุกขึ้นมาจับมือหวังเย่าด้วย
หวังเย่าจับมือและยิ้มให้กับเธอ “น่าสงสารเธอนะ ด้วยมือเล็ก ๆ น่าจะเหมาะที่จะชงกาแฟให้ฉัน ฉันอยากเห็นเธอในชุดสาวใช้จริง ๆ ”
หลินฉีหน้าซีดไป ปากของเธอสั่นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า “ บังอาจ…”
หวังเย่ากลับไปยังที่นั่งและจับมือกับนักสู้คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่แถวเดียวกันก่อนจะกลับไปยังที่นั่งตัวเอง
การประชุมครั้งนี้น่าตื่นเต้นดี ไม่ใช่แค่หวังเย่าได้เอาคืน แต่เขายังได้รับบทเป็นฮีโร่ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายอีกด้วย
ก่อนที่การประชุมจะจบลงนั้น ก็ได้มีงานเลี้ยงหลังงานประชุมซึ่งหวังเย่าไม่ได้เข้าร่วม
เขากำลังขับรถกลับ แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เขากดรับสายก่อนที่จะมีเสียงจากอีกฝั่งดังขึ้นมา
“หวังเย่า นายไม่ไปงานเลี้ยงรึไง ? ”
“มันไม่จำเป็น ว่าแต่นายรู้เบอร์ฉันได้ยังไง ฉันเพิ่งซื้อโทรศัพท์มาเอง”
“ฮ่าฮ่า อย่าลืมสิว่าฉันเป็นใคร ฉันว่าจะแนะนำคนระดับสูงของดาวทมิฬให้นายรู้จักสักหน่อย ”
“เรื่องนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน มันเสียเวลาเปล่า”
“งั้นนายมีแผนจะทำอะไรต่อ”
“ฉันอยากออกจากที่นี่และไปที่เขตดาวโบไลด์ นายช่วยฉันได้รึเปล่า ? ”
“ฉันขอคิดก่อน ….”
“อาทิตย์หน้าจะมีการแลกเปลี่ยนสินค้า เราจะส่งนักสู้ไปที่ดาวต่าง ๆ ถ้านายอยากออกจากที่นี่ก็มาหาฉัน” ฟอเนอร์ พูดขึ้น
“ได้ ”
หวังเย่าวางสายก่อนจะขับรถมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน