ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 412-2 ใครก็ไม่ยอมให้ใครฉลองปีใหม่ (2) ……….

ตอนที่ 412-2 ใครก็ไม่ยอมให้ใครฉลองปีใหม่ (2) ..........

ตอนที่ 412-2 ใครก็ไม่ยอมให้ใครฉลองปีใหม่ (2)

……….

“มีผู้ฝึกยุทธ์ผ่านมางั้นเหรอ?”

ฟางผิงพึมพำในใจ คลื่นพลังปราณเมื่อกี้เบาบางมาก เขาสงสัยว่าตัวเองอาจรู้สึกคลาดเคลื่อนไปเอง

ครุ่นคิดแล้ว ฟางผิงก็ขยับหูเล็กน้อย

เขาหลอมกระดูกหูเสร็จสิ้นแล้ว ความสามารถในการได้ยินยอดเยี่ยมเช่นกัน

ตอนที่ฟางผิงเริ่มขยับหู เสียงที่อยู่ใกล้ๆ นับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้ามาในหูของเขาทันที ดังจนฟางผิงแทบจะเวียนหัว

“สามี สวัสดีปีใหม่!”

“พ่อครับ ผมอยากกินข้าว หิวจะตายอยู่แล้ว”

“…”

เสียงต่างๆ แพร่กระจายจากรอบด้านเข้ามาไม่ขาดสาย

ฟางผิงได้ยินถึงกระทั่งเสียงที่ไม่ควรได้ยิน อดลอบด่าในใจไม่ได้ นี่ยังไม่ดึกเลยเถอะ วันนี้วันส่งท้ายปีนะ พวกคุณสองสามีภรรยาจะฉลองปีใหม่กันแบบนี้หรือไง?

แม้จะด่าไปอย่างนั้น ไม่นานฟางผิงก็มองข้ามเสียงพวกนี้ไป พุ่งเป้าไปยังทิศทางเมื่อครู่

หลังจากนั้นสักพักฟางผิงก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

เขาไม่ได้ยินเสียงอะไร สิ่งที่ควรค่าพอให้สนใจมีแค่เสียงลมหายใจแผ่วเบา…นี่ยังไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นคือลมหายใจนั้นค่อนข้างยืดยาว

เนิ่นนานก่อนจะมีเสียงลมหายใจอีกที

นี่…มีแค่ผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้!

สูดลมหายใจเข้าลึกแล้ว ฟางผิงก็ใจเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ผู้ฝึกยุทธ์ผ่านทางมางั้นเหรอ?

ไม่แน่เสมอไป!

เห็นฟางหยวนยังมองตัวเอง ฟางผิงก็โบกไม้โบกมือ “เธอไปกินข้าวก่อนเลย”

“พี่…”

“ไป!”

บังคับให้ฟางหยวนออกไปแล้ว ฟางผิงก็ครุ่นคิดเล็กน้อย กดโทรศัพท์ออกไปทันที สายติดแล้วก็เอ่ยอย่างรวดเร็ว “แถวบ้านผมมีผู้ฝึกยุทธ์!”

“ขั้นไหน?”

“ไม่รู้”

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยอย่างครุ่นคิด “พี่มาพาครอบครัวผมไปที ผมจะสู้ไปด้วยถอยไปด้วย รบกวนแล้ว!”

“ฟางผิง…”

“พี่หวัง รบกวนด้วย!”

“ได้! ฉันจะแจ้งผู้บัญชาการไป๋ที่เฝ้าระวังในรุ่ยอัน รุ่ยอันห่างจากที่นี่แค่หนึ่งร้อยกว่าลี้ ผู้บัญชาการทุ่มสุดกำลัง อย่างมากใช้เวลาสิบนาทีถึงจะตามไปทัน!”

แม้จะพูดแบบนั้น แต่อีกฝ่ายเป็นปรมาจารย์ยอดฝีมือที่เฝ้าระวังในรุ่ยอัน จะเดินทางมาหรือเปล่ายังพูดยาก

ยังไงผู้บัญชาการไป๋ก็ต้องรับผิดชอบต่อถ้ำใต้ดินหนานเจียง

แม้จะรับปากมาจริงๆ ก็ต้องเตรียมตัวเช่นกัน สิบนาที…นั่นเป็นการคาดการณ์ที่ดีที่สุด ยังต้องดูว่าความเร็วของผู้บัญชาการไป๋เป็นยังไง

ฟางผิงไม่พูดมากอีก ไม่นานก็วางสายไป

ครุ่นคิดแล้วก็กดส่งข้อความออกไป

แม้ตอนนี้อาจจะไม่มีอันตรายเสมอไป บางทีผู้ฝึกยุทธ์อาจจะแค่ผ่านทางมา…แต่วันฉลองขึ้นปีใหม่ ผู้ฝึกยุทธ์ไม่ฉลองที่บ้าน กลับมารออยู่นอกชุมชนของเขาเนี่ยนะ?

แต่ไหนแต่ไรฟางผิงก็ใช้ความคิดในแง่ร้ายที่สุดในการคาดเดาคนอื่น

กันไว้ดีกว่าแก้

สำหรับชีวิตน้อยๆ ของเขาและความปลอดภัยของครอบครัว ฟางผิงเห็นความสำคัญอย่างมากเช่นกัน

ตอนแรกหวงปินที่อยู่ชั้นบนอาจจะไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่านั้น ฟางผิงไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ด้วยซ้ำ แต่ความคิดแรกที่แวบเข้ามาก็คือเป็นฝ่ายลงมือก่อนดีที่สุด

ตอนนี้แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ผ่านทางมาจริงๆ ฟางผิงก็ไม่อาจคลายความกังวลได้เช่นกัน

ทั้งยังล่วงเกินคนไปไม่น้อย

ช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งที่ฟางผิงคิดได้เป็นอันดับแรก ไม่ใช่ลัทธินอกรีต แต่เป็นสองบริษัทใหญ่!

ช่วงนี้การเปลี่ยนแปลงบางอย่างของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เป็นการล่วงเกินผลประโยชน์ของสองบริษัทใหญ่ เพื่อผลประโยชน์แล้ว คนสามารถทำเรื่องอะไรออกมาได้ทั้งนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เหมือนกัน

สูดลมหายใจเล็กน้อย เห็นว่าพ่อแม่และน้องสาวยังรอตัวเองที่ห้องนั่งเล่น ฟางผิงจึงสาวเท้าออกไป เอ่ยเสียงเบาว่า “พ่อครับแม่ครับ ออกไปข้างนอกก่อนได้หรือเปล่า เดินลงบันไดไป อย่าออกไปจากตึก! รออยู่ที่หน้าบันไดชั้นไหนสักชั้นก็ได้”

“พี่…”

“ผิงผิง…”

ฟางผิงหัวเราะ “ไม่มีอะไร แค่ผมกังวลใจอยู่บ้างเท่านั้น แต่พ่อแม่ออกไปก่อนเถอะครับ ถ้าไม่มีอะไร พวกเราค่อยกลับมากินข้าวอีกที”

ฟางหมิงหรงมองลูกชายแวบหนึ่ง เห็นเขาถือดาบยาว ผ่านไปสักพักก็พยักหน้าว่า “ได้ งั้นลูกระวังตัวด้วย!”

“พี่!”

ฟางหยวนกัดฟัน เอ่ยเสียงแผ่วว่า “ไม่มีอันตรายใช่หรือเปล่า?”

“แน่นอน เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ลงไปก่อน!”

ฟางหมิงหรงไม่ลังเลอีก ดึงหลี่อวี้อิงที่ยังคิดจะถามต่อให้ไปด้วยกัน ฟางหยวนทำหน้าไม่เต็มใจ กลับไม่ถามอะไรมาก ตามพ่อกับแม่ไปอย่างรวดเร็ว

ครอบครัวไปแล้ว ฟางผิงไม่ได้เคลื่อนไหวใหญ่โตอะไร แต่เลือกรอคอยอย่างเงียบๆ

ตอนนี้ฟางผิงยืนที่ระเบียง จงใจเผยตัวออกไป

ปลดปล่อยพลังจิตใจและการได้ยินเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด หันกลับไปในห้องเป็นครั้งคราวเหมือนว่ากำลังพูดกับใครอยู่

ผ่านไปสักพัก มือถือฟางผิงก็ดังขึ้น

“ถึงแล้ว”

“อย่าเดินเข้าประตูหลัก”

“รู้แล้ว”

“พ่อแม่ผมรออยู่ที่ประตูบันได พี่อย่าเพิ่งเข้ามา รอก่อน ถ้าพวกเขายังไม่ลงมือ งั้นก็อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว ถ้าลงมือแล้ว พี่ค่อยพาคนออกไป”

“ฟางผิง…”

หวังจินหยางถอนหายใจ กดเสียงว่า “ได้ ฉันรู้แล้ว ยืดเวลาเป็นหลัก”

ระหว่างที่พูด หวังจินหยางก็เอ่ยต่อ “ผู้บัญชาการไป๋ตอบรับแล้ว แต่ว่า…วันนี้วันส่งท้ายปี ยอดฝีมือที่เฝ้าระวังบนโลกไม่ค่อยเพียงพอ ผู้บัญชาการไป๋ต้องใช้เวลาจัดการเล็กน้อย”

สำหรับเรื่องนี้ฟางผิงไม่แปลกใจ ต่อให้ความปลอดภัยของฟางผิงสำคัญแค่ไหนก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าถ้ำใต้ดินหนานเจียง

ผู้บัญชาการไป๋ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดฝีมือที่มีพลังต่อสู้เพียบพร้อมที่สุดในหนานเจียง ทั้งยังเป็นคนของหน่วยทหาร ไม่อาจทิ้งหน้าที่โดยพลการได้ ตอบรับคำขอของฟางผิงได้ก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว

“เข้าใจแล้ว หวังว่าจะมาทัน”

“ไม่มีปัญหาหรอก”

หวังจินหยางเอ่ยแล้วก็ไม่พูดมากอีก วางสายไป

เขาไม่คิดจะไปสำรวจ ถูกคนเจอเข้าจะวุ่นวายกว่านี้

หากมีเจตนาร้ายกับฟางผิงจริงๆ คนที่มาต้องมีฝีมือไม่อ่อนด้อยอยู่แล้ว

หากไม่มีเจตนาร้าย…แม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องตลกก็ไม่มีปัญหาอะไร

เขาและฟางผิงต่างเป็นอัจฉริยะแนวหน้า แม้จะเป็นการเข้าใจผิดจริงๆ เอ่ยเป็นพิธี ขอโทษขอโพยแล้ว ปรมาจารย์ก็ไม่ถือสาเช่นกัน

และในเวลานี้ จู่ๆ ฟางผิงก็หยุดบทสนทนา

“เขายังอยู่ข้างหน้าต่าง”

นอกชุมชน ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปยังชั้นที่ฟางผิงอยู่ เห็นฟางผิงเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ก็เอ่ยอย่างครุ่นคิด “ฟ้ามืดแล้ว…จะลงมือตอนนี้เลยหรือเปล่า?”

ชายชราเอ่ยว่า “รออีกสักหน่อยเถอะครับ ตอนนี้พวกเราเข้าไปจะถูกพบเจอได้ง่าย”

ชายกลางคนขมวดคิ้ว ผ่านไปสักพักก็เอ่ยว่า “ไม่รอแล้ว เวลาไม่คอยท่า ยิ่งนานอุปสรรคยิ่งมีมาก นายลงมือก่อน ฉันจะอ้อมไปอีกทาง ลงมือพร้อมกัน!”

ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ชักช้าอีกเช่นกัน ลงจากรถไป

อีกคนก็ลงจากรถเช่นกัน แต่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เฝ้ารออยู่กับที่

ชายวัยกลางคนลงรถในเวลาเดียวกัน กลับไม่ได้เดินบนถนน แต่ทะยานขึ้นไปในอากาศ หายวับไปในท้องฟ้า

ภายในห้อง

ฟางผิงก่นด่าในใจ!

พุ่งเป้ามาที่เขาจริงๆ ด้วย

ทั้งตอนนี้อีกฝ่ายก็จะลงมือแล้ว เร็วกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ดูท่าคงยืดเวลารอผู้บัญชาการไป๋มาไม่ได้แล้ว

สูดลมหายใจเข้าลึก ฟางผิงถือดาบยาวไว้ ตอนนี้เขาหนีไปไม่ได้ หากไปแล้ว อีกฝ่ายโมโหขึ้นมา มีโอกาสที่จะทำลายตึกนี้ทิ้งสูง

แต่ต่อสู้กันขึ้นมา เขาคิดจะหลบหนี อีกฝ่ายคงไม่สิ้นเปลืองเวลาที่นี่นานเกินไปเช่นกัน

เวลานี้ฟางผิงเก็บงำลมหายใจทั้งหมด สร้างม่านพลังจิตใจขึ้นมาตรงหน้าตัวเอง ในมือรวบรวมพลังฟ้าดินไว้ ก่อนจะปล่อยลงสู่ดาบผิงล่วนอย่างรวดเร็ว

คนที่มาไม่ได้มีแค่คนเดียว จัดการคนหนึ่งแล้วค่อยว่ากันอีกที

พลังฟ้าดินจำนวนมากหลั่งไหลสู่ดาบ ฝ่ามือของฟางผิงมีเนื้อปริแตกขึ้นมาเช่นกัน

กระดูกสีทองเปล่งแสงเรืองรองออกมา

คนที่มาฝีมือเป็นยังไง ตอนนี้ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ แต่ไม่ใช่ระดับสูงแน่นอน จุดนี้ฟางผิงยังคงมั่นใจ

ไม่ใช่ระดับสูง ถูกเขาฆ่าตายด้วยดาบเดียวก็มีโอกาสสูงแล้ว

———————

……….

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Score 10
Status: Completed
ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์

Options

not work with dark mode
Reset