ที่ด้านนอก ซากสัตว์ป่าถูกวางเกลื่อนลานบ้าน
ภายในบ้านของซ่งฝูเซิง เด็กๆ อยู่กันเต็มเตียงเตา
ไม่กล้าให้พวกเด็กๆ ออกไป
เพราะเมื่อวานมีเด็กเล็กที่ไม่เชื่อฟัง กำชับเป็นพิเศษว่าห้ามออกไปดูก็ยังจะอยากรู้อยากเห็น หลบผู้ใหญ่แอบออกไปดูพวกสัตว์ป่าตายแล้วจนได้ ปรากฏว่าพอเห็นก็เอามือปิดหน้า ร้องไห้จนมืดฟ้ามัวดิน วิ่งกลับบ้าน ตกใจขวัญเสียไปทันที
ดังนั้น วันนี้ตอนที่ยังไม่ขนซากสัตว์กลับมา ซ่งฝูเซิงจึงให้ลูกสาวรีบรวบรวมเด็กพวกนี้ไว้ด้วยกัน ห้ามไม่ให้พวกเขาออกจากบ้าน
ที่ด้านนอก พวกผู้ใหญ่กำลังร่วมแรงร่วมใจลากซากสัตว์ป่าที่หนักถึงเจ็ดแปดร้อยจินลงมาจากแคร่เลื่อน
ภายในบ้าน พวกเด็กๆ กำลังเคลื่อนไหวร่างกาย แกว่งหมัดน้อยๆ ตะโกนกันอย่างพร้อมเพรียง “ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ ตุ้งตุ้งแช่ ตุ้งแช่ๆๆ พวกเรามีเนื้อหมูกินอีกแล้ว”
ฝีมือซ่งฝูหลิงก่อไว้ ตอนนี้กลับคุมไม่อยู่แล้ว สถานการณ์วุ่นวายเกินไป “เอ๊ะๆ อย่ากระโดดสิ เตียงจะพังเอา ซ่วนเหมียวจื่ออย่าเอาผ้าห่มไปเล่น ซู่ตุนจื่ออย่าเอาไม้กวาดกวาดเตียงไปแกว่ง เดี๋ยวโดนคนอื่น”
พวกเด็กๆ เวลาคึกขึ้นมาจะคุมคนไหนได้เล่า แต่ละคนเล่นกันจนเหงื่อแตก พออารมณ์ขึ้นอยากจะเล่นอะไรก็เล่นกันเต็มที่
ยายารู้สึกว่าตัวเองสวย ส่ายมือน้อยๆ สองมือ กระโดดเล่นกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ส่ายก้นไปมา ปากก็พูดว่า “ตุ้งแช่ๆ”
พวกเด็กผู้ชายตัวแสบไม่เพียงแต่จะพูดว่ามีเนื้อกินอีกแล้ว ยังเล่นเอาหัวขวิดกัน ดูว่าใครแข็งแกร่งกว่า สุดท้ายใครสามารถทำให้อีกฝ่ายล้มลงไปนั่งบนเตียงได้
พวกผู้ใหญ่ที่ด้านนอกเหนื่อยกันจนหอบแฮ่ก หันไปมองหน้าต่างบ้านซ่งฝูเซิง
เกิ่งเหลียงสะบัดน้ำในมือ เพิ่งล้างมือเสร็จ ร่างกายมีแต่เลือด
พอได้ยินเสียงครึกครื้นในบ้านซ่งฝูเซิง เขาเองก็หยุดยืนดู
มีเสียงตะโกนของซ่งฝูหลิงดังมาจากในบ้าน “หยุดกันให้หมดเลยนะ! ให้ตายเถอะ ข้าจะเป็นบ้าแล้ว ใครก็ได้มาช่วยที”
“พี่สาว แม่ทัพจินเป่ามาแล้ว!”
เกิ่งเหลียงมองเด็กผู้ชายที่ชื่อซ่งจินเป่าวิ่งผ่านหน้าเขาไป
ตอนเปิดประตูยังได้ตะโกนว่า “ทำไมทำให้พี่สาวข้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันต้องเจอฝ่ามือพิชิตมังกร”
เฉียนหมี่โซ่วที่อยู่บนเตียงตะโกนตอบกลับ “ข้าเฉียนหมี่โซ่ว จะทำอะไรเหตุใดต้องอธิบายกับเจ้า เจอนี่ซะ พลังมีดบิน ปิ้วๆ”
เกิ่งเหลียงฟังแล้วก็อึ้งไป
ซ่งฝูเซิงรู้สึกปวดหัว
วันๆ ลูกสาวเขาเล่าอะไรให้พวกเด็กๆ ฟังกันแน่
มีคนนอกอยู่ ทำไมเด็กพวกนี้ถึงไม่รู้จักท่องบทกลอนที่ดูมีความรู้สักบทสองบท แบบนั้นจะได้เชิดหน้าชูตาหน่อย
นี่กลับได้เรื่อง พอคนนอกมาก็ป่วนกันเต็มที่
“รองผู้บัญชาการเกิ่ง ข้าขอ ข้าขอไปที่นั่นก่อน” ซ่งฝูเซิงกลับบ้าน
พอเข้าไปก็ดุเสียงเบาหนึ่งยก
มีคนนอกอยู่ จะตะโกนด่าเด็กจนร้องไห้ก็คงดูไม่ดี
ถือไม้กวาดสำหรับกวาดเตียงอยู่ในมือ
พวกเด็กๆ ที่อยู่ในบ้าน แต่ละคนใบหน้าแดงก่ำ เล่นกันจนเหงื่อซ่ก
พอเห็นไม้กวาดในมืออาสาม สายตาก็สลดลง
ซ่งจินเป่ารู้สึกไม่ยุติธรรม เขาเพิ่งมาเองนะ
ซ่งฝูเซิงออกจากบ้าน พลางคิดในใจ รอคนกลับไปกันหมดก่อนเถอะ จะจับไปเรียนหนังสือให้หมด โต๊ะก็ทำเสร็จแล้วด้วย
แต่กลับนึกไม่ถึงว่าพวกเกิ่งเหลียงจะกลับกันเร็วจริงๆ
หัวหน้าตระกูลเหรินมีสีหน้าไม่เข้าใจ “ใต้เท้า นี่ก็มืดค่ำแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยไปไม่ดีกว่าหรือ ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย”
เกิ่งเหลียงสั่งให้พวกทหารไปจูงม้า
“ไม่ดีกว่า” มองหัวหน้าตระกูลเหรินแล้วตั้งใจหันไปมองลุงซ่งกับซ่งฝูเซิง รวมถึงทุกคนที่พอได้ยินว่าพวกเขาจะไป ต่างก็หยุดงานในมือลง
เกิ่งเหลียงกวาดตามองซ่งฝูกุ้ย ซื่อจ้วง เถียนสี่ฟา ต้าหลัง เกาเถี่ยโถว พวกป้าๆ น้าๆ ที่ทำอาหารให้พวกเขากิน
และยังมีท่านย่าหม่า
เย็นวันนี้เพิ่งจะได้คุยกับท่านย่าหม่าเป็นกิจจะลักษณะ ให้ขนมปังพวกเขาไปกินบนภูเขาตั้งมากมาย
เขาจำได้แล้ว เรียกว่าขนมปัง แห้งๆ ไม่อร่อยเท่าไร เนื้อตรงกลางเหนียวนิดหน่อยเหมือนยังทำไม่สุกดี
“พวกเราจะไปกันตอนนี้ รบกวนทุกคนมาหลายวันแล้ว…
…หมูป่าพวกนี้มีเจ็ดตัว ให้ในหมู่บ้านสี่ตัว ให้ทางนี้สามตัว…
…หนึ่งในนั้นมีตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ยกให้ทางนี้ก็แล้วกัน ถือเป็นเท่ากับสองตัว…
…ข้าตัดสินใจให้…
…ทิ้งหมาป่าพวกนี้เอาไว้ให้ ชาวบ้านทุกคนอย่ามัวแต่เสียดายไม่ยอมกิน ถือว่าเป็นน้ำใจจากพวกเรา”
ในขณะที่เกิ่งเหลียงพูด ซ่งฝูเซิงก็รีบขยิบตาให้กัวคนโตกับเถียนสี่ฟา ทั้งสองคนจึงแอบถอยออกไปจากกลุ่มคน เพื่อไปหยิบของที่เตรียมไว้แล้ว
อย่าเข้าใจผิด มันไม่ใช่พริก
ให้ไม่ได้หรอก ต้องปล่อยให้พริกมีเวลาเติบโตบ้าง
ของที่ให้ได้ก็ “เอาไป รีบรับไว้สิ” ท่านลุงซ่งใช้กระบอกยาสูบชี้ ให้คนของตัวเองยกมา มีอุ้งตีนหมี ดีหมี องคชาตเสือ กระดูกเข่าเสือ เอาทั้งหมดไปใส่รถปืนใหญ่ของพวกเกิ่งเหลียง
ในบรรดาของที่ให้ อันที่จริงกระดูกเข่าเสือก็คือกระดูกสะบ้าของเสือ ซึ่งจัดเป็นส่วนที่ดีที่สุดของกระดูกเสือ
หลายคนฆ่าเสือเพื่อเอากระดูกสะบ้า กระดูกสะบ้าที่ว่านี้มีแค่สองชิ้น เอาไปใช้ดองเหล้า ถือเป็นวัตถุดิบของเหล้ากระดูกเสือชั้นยอด
พวกท่านลุงซ่งรู้เพียงว่า อุ้งตีนหมี หนังเสือ คือสิ่งมีค่า อันที่จริงก็ไม่ค่อยเข้าใจรายละเอียดพวกนี้ แต่ซ่งฝูเซิงรู้ดี
เขาจึงบอกให้เอาสิ่งเหล่านี้ไปให้
ซ่งฝูเซิงเองก็เดาได้ว่า พวกเกิ่งเหลียงไม่มีทางเอาสัตว์ที่ล่ามาได้ไปด้วย ดูจากท่าทางก็รู้สึกได้ว่าขี้เกียจยุ่งยาก
แต่พวกเราจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้
ในเมื่อขี้เกียจยุ่งยาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะลากเสือกับหมีไปทั้งตัว แบบนั้นก็เอาไปแต่เฉพาะของดีอย่างแท้จริงแล้วกัน
ด้านหนึ่งก็เพื่อให้พวกเกิ่งเหลียงมีผลงานกลับไปรายงาน
อีกด้านหนึ่ง แท้จริงแล้วของดีจะตกไปอยู่ในมือคนอื่นเสียไม่ได้ ก็ต้องนำไปให้ลู่พั่นอยู่ดี
ถ้าให้ลู่พั่นจะไม่เสียดาย ท่านลุงซ่งแทบอยากจะถลกหนังสัตว์ที่มีเลือดอาบให้ลู่พั่นไปอีก
แต่ซ่งฝูเซิงห้ามไว้ บอกให้ล้มเลิกความคิดเสีย เขาถึงได้เลิกคิด
เกิ่งเหลียงปฏิเสธ “ไม่ล่ะ อย่าดีกว่า”
ท่านลุงซ่ง “อย่าปฏิเสธเลย ฟังพวกเราเถอะ เอากลับไป ไม่เท่าไรหรอก ถ้าเอาตามความคิดข้านะ อยากจะยกให้ทั้งตัว”
ทุกคนต่างก็ยิ้มพลางพูด “จะให้พวกท่านแสดงน้ำใจกับพวกเราฝ่ายเดียวได้อย่างไร พวกเราก็ต้องแสดงน้ำใจกลับด้วย”
“นั่นสิ ถ้าพวกท่านไม่รับไว้ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่รับไว้แล้ว”
ขณะพูดคุยทุกคนก็ยังหันไปยิ้มให้พวกทหารที่คุ้นเคยกัน
ซ่งฝูกุ้ยตะโกนเรียกภรรยาของเขา “เร็วหน่อย ทำไมช้าแบบนี้”
ภรรยาของเขาก็ไม่ได้จงใจ จะไม่ให้เก็บด้ายเลยหรือไง ใครจะไปคิดว่าจะกลับกันเร็วขนาดนี้
เมื่อตอนกลางวันนางยังต้องไปร้านขนมที่เมืองเฟิ่งเทียน ของสิ่งนี้ต้องใช้เวลาช่วงกลางคืนสองคืนถึงทำออกมาได้นะ
ซ่งฝูกุ้ยรับถุงมาจากภรรยาแล้วยื่นให้เกิ่งเหลียง
“ท่านรองผู้บัญชาการเกิ่ง รบกวนท่านนำที่ปิดหูสองอันนี้ไปให้ท่านซุ่นจื่อแทนข้าที…
…เขาให้เสื้อกันหนาวมาตั้งหลายตัว พวกเราก็ใส่แบบนี้กันหมด ร่างกายอบอุ่น หัวใจยิ่งอบอุ่น…
…แต่ในนี้มีทั้งหมดสี่อัน ถ้ารองผู้บัญชาการเกิ่งไม่รังเกียจ ก็เก็บเอาไว้สักสองอันสำหรับเปลี่ยนใช้ก็ได้นะขอรับ…
…ข้าเห็นพวกเด็กๆ ใส่เจ้าสิ่งนี้แล้ว ไปเล่นบนพื้นน้ำแข็งตั้งแต่เช้าจรดเย็นยังไงก็ไม่หนาวหู จึงให้คนในบ้านทำมาให้ท่านนิดหน่อยขอรับ”
ถูกต้อง มันคือที่ปิดหู
ใช้ลวดทำเป็นที่ปิดหูสองอันเชื่อมกัน
ตั้งแต่วันแรกที่ซ่งฝูกุ้ยได้รับเสื้อกันหนาวที่ซุ่นจื่อให้ ก็คิดมาตลอดว่าอยากให้ของขวัญตอบแทนบ้าง
พวกเราไม่ใช่คนร่ำรวย คิดอยู่ครึ่งค่อนคืนก็คิดไม่ออกว่าจะให้อะไรดี จะให้กันหมดทุกคนก็ไม่ดี แต่ประเด็นคือ ทุกคนต่างก็ไม่มีอะไร
ตอนที่ซ่งฝูกุ้ยลงจากเตียงไปฉี่ ไม่ทันระวังเหยียบที่ปิดหูของเนียนปาน้อยบนพื้น เกิดความคิดขึ้นมาทันที คิดได้ว่าจะให้อะไรที่คุ้มค่า ขี่ม้าทุกวัน ป้องกันไม่ให้หูเย็น ให้ที่ปิดหูก็แล้วกัน
คืนนั้น เขาปลุกภรรยาของเขาขึ้นมาสั่งว่า ขากลับจากเมืองเฟิ่งเทียนให้ซื้อเส้นลวด ดอกฝ้ายอย่างดี และก็ผ้าที่ทนทานไม่สกปรกง่าย ผู้ชายใช้ได้ กลับมาหน่อย