ไม่นาน ร่างของยาก็เปลี่ยนเป็นแสงอย่างสมบูรณ์ บนหน้าจอของลูกบาศก์ มีเพียงร่างมนุษย์เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ ถ้าเขาขยับเล็กน้อย แสงจะเปลี่ยนไป ทำให้ไม่มีใครมองเห็นรูปร่างหน้าตาของเขา
แต่เนื่องจากดาบอมตะบรรพกาลยังไม่ถึงระดับความกลัว มันจึงยังคงอยู่ในมือของยา
“ผู้พิทักษ์ที่เจ้าหลอมรวมอยู่ที่ระดับความกลัวแล้วงั้นหรือ” จักรพรรดิรัตติกาลถามในขณะที่เขาชื่นชมจงซือหยาที่ใช้ร่างความกลัว
“ใช่” จงซือหยาตอบ
“ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า มันไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเจ้าที่จะดูดซับผู้พิทักษ์แบบนี้ เจ้าทำได้ยังไง?” จักรพรรดิรัตติกาลถามต่อ
“สัญญาเดิมพัน” จงซือหยาตอบ
คนอื่นอาจไม่เข้าใจว่าสัญญาเดิมพันคืออะไร แต่จักรพรรดิรัตติกาลรู้ดี เมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขาก็ถามด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้าเดิมพันอะไรกับมัน”
“อันดับหนึ่งในการจัดอันดับ” จงซือหยาตอบ
จักรพรรดิรัตติกาลหัวเราะ “เจ้ารู้ไหมว่าเส้นทางนี้ยากแค่ไหน? เป็นไปไม่ได้ที่เผ่าพันธุ์ต่างมิติจะปล่อยให้ ครึ่งมนุษย์กลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย”
“เมื่อลำบากเท่านั้นจึงจะมีความสนุก” มือของจงซือหยาที่ถือดาบนั้นเปล่งประกายเจิดจ้า ดาบอมตะบรรพกาลและฝักในมือของเขาค่อยๆ สว่างขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงในที่สุด
“น่าสนใจ แล้วให้ข้าดูว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่จะเดินไปสู่จุดสิ้นสุดหรือไม่” จักรพรรดิรัตติกาลก้าวไปข้างหน้าและเขตแดนอย่างคงามมืดเกิดขึ้นบนสนามประลองอีกครั้ง ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นความมืด
มนุษย์ทุกคนในโลกรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก มันเหมือนกับการดูหนังเส็งเคร็งที่น่าเบื่อในโรงภาพยนตร์ หลังจากทนอยู่เป็นชั่วโมงและในที่สุดก็เห็นสาวสวยกำลังจะอาบน้ำ แต่หน้าจอเปลี่ยนเป็นสีดำในทันที ได้ยินแต่เสียงน้ำกระเซ็นเท่านั้น มันอึดอัดจนทำให้คนอยากจะบ้า
โจวเหวินรู้สึกไม่ดีเช่นกันเพราะเขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน
ไม่นานก็มีจุดสว่างปรากขึ้นบนหน้าจอมืด จุดแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะส่องบริเวณที่มืดเหมือนภูเขาไฟระเบิด
ในที่สุด แสงก็แรงมาก มันทำให้ไม่สามารถมองตรงไปได้ มันสว่างจนไม่สามารถลืมตาได้
เมื่อแสงจางลง หน้าจอของลูกบาศก์ก็กลับมาเป็นปกติในที่สุด ร่างของยาและจักรพรรดิรัตติกาลปรากขึ้น ทั้งสองมองหน้ากันไกลๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใครชนะ?”
“ฉันไม่รู้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“มันน่ากลัวเกินไป เราไม่เห็นการต่อสู้ในระดับนั้นด้วยซ้ำ หากคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ต้องการสังหารมนุษย์ เราจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อต้าน”
…
ทุกคนพูดคุยกันอย่างร่าเริงขณะที่โจวเหวินมีท่าทางงุนงง เขาไม่รู้ว่าใครชนะหรือแพ้
“ข้าหวังว่าเจ้าจะเดินไปจนสุดทาง” หลังจากจักรพรรดิรัตติกาลพูดอย่างนั้น เขาก็หันหลังกลับและหายตัวไปท่ามกลางความมืด
“แน่นอน” จงซือหยาตอบ
หน้าจอของลูกบาศก์เป็นสีดำก่อนที่จะกลับสู่การจัดอันดับ ยายังคงอยู่ในอันดับหนึ่ง จักนพรรดิรัตติกาลไม่ปรากในการจัดอันดับ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ายาชนะอีกครั้ง
หลังจากที่ยาชนะในครั้งนี้ ผู้พิทักษ์ก็ไม่มาท้าทายเขาเหมือนเมื่อก่อน ไม่มีผู้ท้าทายแม้แต่คนเดียว
นี่เป็นเพราะผู้พิทักษ์รู้ดีว่ามีเพียงระดับความกลัวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะระดับความกลัวได้ ถ้าพวกมันท้าทายเขาอีกครั้ง มันจะไม่เป็นการท้าทาย แต่เป็นการ่าตัวตาย
นับถอยหลังอีกไม่ถึงสี่สิบชั่วโมง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ยาน่าจะมีโอกาสได้อันดับหนึ่ง ใช่ไหม? โจวเหวินพึมพำกับตัวเอง
“เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้อันดับหนึ่ง” หุ่นมนุษย์ขนาดเท่าฝ่ามือเดินผ่านมา แต่เสียงที่เปล่งออกมาจากหุ่นกระบอกนั้นเป็นของเทพธิดาแห่งดวงจันทร์
“ทำไมจะไม่ล่ะ? เขาอยู่ระดับความกลัวแล้ว แม้ว่าเขาจะเจอระดับความกลัว เขาน่าจะมีโอกาสชนะ ใช่ไหม” โจวเหวินไม่รู้ว่าทำไมเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ถึงมั่นใจว่าจงจื่อหยาจะไม่ได้อันดับหนึ่ง
“อย่างที่จักรพรรดิรัตติกาลพูด มันเป็นไปไม่ได้ที่ต่างมิติจะให้มนุษย์ได้อันดับหนึ่ง” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตอบ
โจวเหวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าว “ถ้ามนุษย์ได้อันดับหนึ่ง ก็หมายความว่าไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนสามารถควบคุมโลกได้เป็นเวลาหนึ่งปี ฉันสามารถเข้าใจได้ แต่ยาถือได้ว่าเป็นมนุษย์เพียงครึ่งเดียว ถ้าเขาชนะ แสดงว่าเผ่าพันธุ์ของผู้พิทักษ์ที่หลอมรวมกับยาก็ชนะ ใช่ไหมล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงยอมรับไม่ได้”
“ถ้าเขาไม่ใช่ญาติของเรา เขาคงมีความคิดที่ต่างไปจากเดิม มันเหมือนกันสำหรับสิ่งมีชีวิตต่างมิติ ถ้ายาได้สัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง เจ้าคิดว่าเขาจะมอบมันให้กับสิ่งมีชีวิตต่างมิติไหม? เทพธิดาแห่งดวงจันทร์หยุดชั่วคราวก่อนจะพูดต่อ “ที่สำคัญที่สุด กงล้อมิตินั้นไม่สามารถส่งให้สิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดมนุษย์ได้ ไม่อย่างนั้น แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญของต่างมิติจะลงมาด้วยตัวเองก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะเอาชนะมนุษย์ที่มีกงล้อมิติในโลกนี้”
“กงล้อมิติถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตต่างมิติ เป็นไปได้ไงที่พวกเขาไม่สามารถจัดการกับมัน” โจวเหวินถามด้วยความสงสัย
“ใครบอกเจ้าว่ากงล้อมิติถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตต่างมิติ?” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ถาม
“ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?” โจวเหวินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“แน่นอนว่าไม่ สิ่งที่เรียกว่ากงล้อมิติจริงๆแล้วเป็นสัตว์อสูร” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์กล่าว
“สัตว์อสูร? ระดับไหน?” โจวเหวินค่อนข้างง
“มันยากที่จะบอกว่ามันระดับไหน แต่เจ้านายของสัตว์อสูรตัวนั้นคือคนที่มีผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น ในยุคนั้นพวกเขาต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังนับไม่ถ้วนในโลกและได้อันดับหนึ่งในที่สุด กงล้อมิติมีส่วนช่วยอย่างมาก”
เทพธิดาแห่งดวงจันทร์หยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ท้ายที่สุด ผู้พิทักษ์ในยุคนั้นไม่ได้อ่อนแอเหมือนตอนนี้ นี่เป็นเพราะการต่อสู้ของผู้พิทักษ์ใช้เวลานาน ผู้พิทักษ์ทุกคนมีเวลาเพียงพอที่จะแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ ในยุคนั้น เผ่าพันธุ์ต่างๆของต่างมิติเพิ่งทำข้อตกลง กไม่เข้มงวดมากเท่าไหร่ สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่แข็งแกร่งจำนวนมากได้ควบคุมการต่อสู้ของผู้พิทักษ์อย่างลับๆ ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดของเขาในยุคนั้นและยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้คือการดำรงอยู่ที่ทรงพลังอย่างมาก”
“ยุคไหนคือยุคที่คุณพูดถึง? ใครคือผู้พิทักษ์ที่ได้อันดับหนึ่ง? ใครเป็นผู้ทำสัญญาของเขา” โจวเหวินรู้สึกงงงวย
“ชื่อของมนุษย์คนนั้นคือซวนหยวน ชื่อผู้พิทักษ์คือจักรพรรดิแห่งความลึกลับ” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตอบ
“ซวนหยวน! อาจจะเป็นจักรพรรดิเหลือง!? ถ้าอย่างนั้นซือโหยวอยู่ท่ามกลางคู่ต่อสู้ของเขาไหม” โจวเหวินตื่นตระหนกขณะที่เขารีบถาม
“มีคนคนนั้นจริงๆ เขายังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบจะได้อันดับหนึ่งในเวลานั้น ผู้พิทักษ์ของเขาคือจ้าวศาสตราวุธ ฉันยังจำได้ว่าถ้าซวนหยวนไม่ได้นำกงล้อมิติกลับมา มนุษย์ที่คว้าชัยชนะครั้งสุดท้ายในยุคนั้นอาจเป็นซือโหยว” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์กล่าว
“คุณหมายความว่าไง? คุณบอกว่ากงล้อมิติเป็นสัตว์อสูรของจักรพรรดิเหลืองไม่ใช่เหรอ?” โจวเหวินยิ่งงงมากขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ถูกตัอง จักรพรรดิเหลืองหยิบไข่สัตว์อสูรกงล้อมิติ ดังนั้นกงล้อมิติจึงกลายเป็นสัตว์อสูรของเขาโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เดิมซือโหยวมีโอกาสได้รับไข่กงล้อมิติ ไม่สิ ควรจะกล่าวได้ว่ากงล้อมิติเดิมเป็นของซือโหยวและจ้าวแห่งศาสตราวุธ” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์กล่าวหลังจากครุ่นคิด