ตอนที่ 546 : ราชินีเอลฟ์
เมื่อมายังโลกด้านล่าง หวังเย่าก็ต้องตะลึงกับความงดงามของมิติลับที่นี่
แสงแดดที่สองประกาย นกและต้นไม้หลากหลายสีสัน ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าที่นี่งดงามแค่ไหน ทุกอย่างที่นี่ดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก แม้แต่จิตใจก็ยังรู้สึกว่าเด็กลงหลายสิบปีราวกับกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ตอนนี้หวังเย่าและเอไนน์สูงพอ ๆ กัน แฟนธอมเองก็เช่นกันเพราะเขากลายร่างเป็นเงาของหวังเย่า
เขาเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้สูงโดยรอบและพบว่ามีใบหน้าปรากกฏขึ้นมามองมาที่พวกเขา มีบางต้นที่ยังหนุ่ม มีหลายคนที่ดูแก่ผมขาวราวกับปู่ย่า
พวกนั้นมองดูหวังเย่าสักพักก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความเป็นมิตร
หวังเย่าเห็นว่าต้นไม้เหล่านั้นเริ่มขยับ รากมันถูกใช้เป็นเท้า พวกมันยกรากขึ้นจากดินแล้วค่อย ๆ เดินเข้ามา
“นี่…” หวังเย่าแปลกใจนิด ๆ
“พวกเขาสุภาพและจะออกไปเอง พวกเขาไม่อยากจะรบกวนเรา” เอไนน์อธิบาย
หวังเย่าแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา พวกนี้มีมารยาทดีขนาดนั้นเลยรึไง ? นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังเป็นที่ของพวกมัน พวกเขาเป็นแค่คนนอก
เมื่อต้นไม้หายไปแล้ว ก็เผยให้เห็นแม่น้ำ
น้ำในแม่น้ำนั้นใสเป็นประกายราวกับมีดาวนับไม่ถ้วนอยู่ในนั้น แสงสีเงินคอยสะท้อนออกมาอยู่ตลอดเวลา
แฟนธอมมองไปที่ภูเขาที่อยู่ไกลออกไปแล้วหรี่ตาลง “ฉันรู้สึกได้ถึงพลังงานของที่นี่ มันน่าจะมีบางอย่างที่พิเศษอยู่”
“เมล็ดดินถูกขุดขึ้นมาจากภูเขาลูกนั้น ที่นั่นมันมีผลไม้ที่เหมือนกับผลึกอยู่จำนวนมาก แต่มันหนักเกินไปที่ข้าจะเก็บไปได้” เอไนน์พูดขึ้น
หวังเย่าเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ถูเขาลูกนั้น แล้วพูดขึ้น “แฟนธอม ไปดูกันเถอะ”
แฟนธอมขยายร่างขึ้นมา ก่อนที่จะหยิบหวังเย่าวางไว้บนไหล่ ส่วนเอไนน์ก็ได้กระโดดขึ้นไปยืนบนไหล่ของแฟนธอมทันที
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนขึ้นมาบนตัวเขาแล้ว แฟนธอมก็ได้บินไปที่ภูเขาทันที
ภูเขาแห่งนี้ราวกับสรวงสวรรค์ เมื่อโผล่พ้นเมฆมาก็พบกับบ่อน้ำสวรรค์
น้ำพุในบ่อนั้นมีกลิ่นหอมอย่างมาก ราวกับน้ำที่ทำขึ้นมาจากผลไม้
หวังเย่าเดินเข้าไปก่อนจะตักน้ำขึ้นมา เมื่อได้กลิ่นน้ำในมือ หวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่น
“น้ำศักดิ์สิทธิ์ การดื่มอย่างต่อเนื่องจะช่วยพัฒนาร่างกาย แต่ไม่อาจจะเพิ่มอายุขัยได้
ระบบได้ส่งข้อมูลให้กับหวังเย่าทันที
หวังเย่ารีบเอาขวดน้ำออกมาจากแหวนมิติแล้วทำการเก็บน้ำทันที
หากรู้ว่าจะมีการผจญภัยแบบนี้ เขาคงเตรียมอุปกรณ์ระดับสูงมา อย่างน้อยเขาจะเก็บน้ำพวกนี้เป็นตัน ๆ กลับไป ยังไงซะนี่ก็ถือว่าเป็นสมบัติ ไม่ว่าจะอยู่ที่ดาวไหนแต่ก็ถือว่าเป็นของล้ำค่า
หลังจากที่ดื่มน้ำนี่แล้ว หวังเย่าก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าขนาดของร่างกายกลับมาเป็นปกติในทันทีโดยยังไม่ได้กินดินพลังงานเลย
ตอนนั้นเองกลับมีลมพัดแรงขึ้นมา
ครืน…
มองตอนแรกหวังเย่าก็พบว่าตัวเองอยู่ใจกลางสายฝน
ฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาจากฟ้าราวกับก้อนหิมะ ภายใต้แสงแดดที่สาดเข้ามา เม็ดฝนก็ไปเกาะตามใบไม้และหยดลงมา
เม็ดฝนได้ตกลงมาที่หัวของเอไนน์ จนทำให้มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เจ็บจริง ๆ ! ” หวังเย่าพบว่าเม็ดฝนและใบไม้เหล่านี้ไม่ใช่ของธรรมดา เพราะมันตกลงไปในบ่อน้ำแต่กลับจมไปด้านล่างทันที
“นี่คือวิธีการหมักน้ำศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ ? ”
หวังเย่าทึ่งกับความวิเศษของธรรมชาติที่นี่ เขายกมือขึ้นบังแสงดวงอาทิตย์แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
จนกระทั่งเมฆฝนกระจายไป เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อที่เหนือหัวของเขาได้ปรากฏต้นไม้ที่หนาทึบขึ้นมา ระหว่างกิ่งกับใบของพวกมันมีผลไม้หลากสีอยู่ ระหว่างผลไม้พวกนั้นก็ยังมีดอกไม้ที่ใสราวกับผลึก
ด้านนอกผลไม้เหล่านี้มีก้าวคลุมเอาไว้ มันห่อหุ้มสิ่งที่คล้ายกับสมองของคน ก่อนจะสั่นไหวเล็กน้อยแล้วแผ่พลังอันน่าทึ่งออกมา
“ค้นพบแหล่งพลังงาน สมองราชาภูติ ! ” ระบบได้ส่งข้อมูลให้กับหวังเย่าทันที
“สมองราชาภูติ ผลไม้หายากในจักรวาล ไม่ใช่แค่ให้ค่าประสบการณ์จำนวนมาก แต่ยังพัฒนาคุณภาพของสัตว์อสูรได้ คุณภาพที่ต่ำกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์จะได้ผลอย่างมาก มีโอกาสที่สัตว์อสูรจะเกิดใหม่หลังจากที่กินผลไม้นี้เข้าไป ซึ่งจะมีเลเวล 80-90 ทันทีโดยขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้กินมัน ”
หากผลไม้นี้ปรากฏขึ้นในโลกมนุษย์ หวังเย่าคิดไม่ออกเลยว่ามันจะสร้างความวุ่นวายมากแค่ไหน !
หวังเย่ากลืนน้ำลายและมองไปรอบ ๆ “ ลำต้นของต้นไม้นี้อยู่ที่ไหน ? ”
“ข้ารู้ เดี๋ยวข้าจะพานายท่านไปเอง” เอไนน์ตอบกลับ
ด้วยความแข็งแกร่งของแฟนธอม ก็ได้พาทั้งสองบินขึ้นไปโดยมีเอไนน์คอยนำทาง
หวังเย่าอยากเห็นว่าต้นมันจะเป็นแบบไหน
เอไนน์กระโดดลงจากไหล่ของแฟนธอม แล้วเดินนำหน้าไป
ที่ปลายผา หวังเย่าก็ได้พบกับลำต้นที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ขนาดของมันใหญ่กว่าที่เขาคาดเอาไว้อย่างมาก
ด้านบนหน้าผานั้นมีรากของต้นไม้อยู่ หวังเย่าและแฟนธอมที่ยืนอยู่บนรากนั้นไม่ต่างอะไรจากมดเลยในตอนนี้
ต้นไม้ยักษ์นี่งอกออกมาจากภูเขาแต่รากมันกลับหยั่งลึกจนโผล่มาที่ผิวดิน มันต้านลมแรงมาโดยตลอดจนทำให้ลำต้นของมันงอ
ยิ่งสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งต้านลมเท่านั้น ลำต้นขอมันเอียงเกือบ 90 องศา พุ่มไม้ด้านบนราวกับร่มที่ปกคลุมยอดเขาเอาไว้
เอไนน์กระโดดขึ้นไปที่เถาวัลย์โดยมีแฟนธอมและหวังเย่าตามไปติด ๆ กว่าที่พวกเขาปีนไปถึงยอดไม้ได้นั้น พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดินแล้ว
เมื่อมองผลไม้ที่เหมือนกับผลึกจำนวนมาก ทั้งสามคนก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
กรร…
พวกเขาได้ยินเสียงของสิ่งมีชีวิต เสียงของสมองราชาภูติ
เมื่อเดินมาถึงผลสมองราชาภูติ มันก็ได้สะท้อนเงาของทั้งสามคนออกมาที่ผิว
เส้นผ่านศูนย์กลางของผลไม้นี่คือ 5 เมตร มันหนักหลายสิบตัน ไม่แปลกเลยที่เอไนน์จะเอามันออกไปไม่ได้และไม่อาจจะเก็บมันไปไม่ได้ด้วย
หวังเย่ามองไปที่แฟนธอมแล้วพูดขึ้น “ คงเป็นหน้าที่ของนายแล้วแหละ ”
แฟนธอมพยักหน้าก่อนจะแยกร่างเป็นค้างคาวนับไม่ถ้วนเข้าไปห่อหุ้มผลไม้เอาไว้
หวังเย่าเอามีดออกมาจากแหวนมิติก่อนจะตัดก้านของมันออกโดยที่มีค้างคาวคอยบินพยุงมันเอาไว้
ตอนที่ผลไม้กำลังจะยิงแสงออกมาใส่หวังเย่า ค้างคาวก็บินหนีออกไปก่อนที่จะทำการรวมร่างกลับเป็นแฟนธอมอีกรอบ
แสงสีขาวนั้นพุ่งหนีไปก่อนที่ผลไม้จะหดตัวลงขนาดเท่ากับแอปเปิ้ลแล้วตกลงมาในมือหวังเย่า
เมื่อถือผลไม้ในมือ หวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงความหนักของมัน เมื่อมองไปที่เอไนน์ที่ยืนข้าง ๆ เขาก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น เอไนน์ เธอกินมันก่อน ฉันตั้งใจจะใช้มันในการเพิ่มเลเวลให้กับเธอ”
เอไนน์มองมาที่หวังเย่าด้วยความแปลกใจ “นายท่านแน่ใจหรือ ? ”
“ถ้าเธอไม่อยากให้แฟนธอมคิดว่าเธออ่อนแอ เธอก็รีบเพิ่มเลเวลซะสิ”
“ได้..” เอไนน์ตอบกลับ
หวังเย่าและเอไนน์มองหน้ากัน เมื่อเห็นว่ามันพร้อมแล้ว หวังเย่าจึงเปิดระบบและเลือกที่จะใช้งานผลไม้นี่
“ยืนยันการใช้งานผลสมองราชาภูติ ใช้ในการเพิ่มเลเวลเอไนน์และคุณภาพของเลือด ? ”
“ยืนยัน ! ”
หวังเย่าเลือกยืนยันก่อนที่จะรู้สึกวูบไปครู่หนึ่ง พร้อมกับพลังที่มาจากตัวไหลผ่านไปสู่เอไนน์
นี่คือสิ่งที่หวังเย่าไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันราวกับระเบิด เลือดในตัวราวกับไหลมารวมตัวกันที่สมอง
ความรู้สึกว่านี้ ไม่ใช่แค่ทำให้ทำให้เส้นเลือดแทบจะระเบิด แต่ยังทำให้เขารู้สึกหนักหัวด้วย
หวังเย่าแค่วูบไป แต่เอไนน์นั้นตัวเกือบที่จะระเบิดแล้ว
แสงได้ส่องประกายออกมาจากเท้าของเอไนน์ ก่อนที่มันจะลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกาย
ตาของแฟนธอมจับจอ้องไปยังร่างของเอไนน์ที่เริ่มใหญ่ขึ้น ๆ สุดท้ายมันก็เปลี่ยนเป็นสาวน้อย
ผิวขาวเนียนนั่งกอดเขาอยู่ ผมของเธอยาวถึงเอว ไม่นานก็มีดอกไม้รวมตัวกันกลายเป็นชุดของเธอขึ้นมา
“เลเวล 5 ! ”
“เลเวล 35 ! ”
ระบบได้ส่งข้อมูลมาและพบว่าสถานะของเอไนน์นั้นเพิ่มขึ้นมาอย่างมากราวกับติดจรวด
เอไนน์ดูดีใจอย่างมากและขยับตัวไปมาด้วยความตื่นเต้น แต่เสียงใส ๆ ที่เหมือนกับนกของเธอกลับทำให้ทุกคนรู้สึกตลก
“เลเวล 65 ! ”
อยู่ ๆ การเพิ่มเลเวลก็เริ่มช้าลง ตอนนี้การดูดซับของเอไนน์เหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ค่าประสบการณ์ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ดี
66, 67…..
สุดท้ายแสงจากตัวเธอก็หม่นลงพร้อมกับเลเวลที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นอีก
เลเวล 70 !
ใช้เวลาแค่เพียงครู่เดียวเอไนน์ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก !
เอไนน์ยืนเอามือกอดอกแล้วกลับลงมาที่พื้น เธอมองมาที่หวังเย่าด้วยท่าทีตกใจราวกับเห็นผี
สถานะของเอไนน์โผล่มาในหัวของหวังเย่าทันที
ชื่อ : ราชินีเอลฟ์ เอไนน์เลเวล : 70 ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์ สกิล : คำอวยพรจากภูติ สร้างวงแหวนรอบตัว หากสมาชิกทีมได้รับบาดเจ็บ ด้วยวงแหวนนี้แล้วจะทำให้ความเร็วในการฟื้นฟูเพิ่มขึ้น, ไม่ยอมแพ้ เพิ่มแรงต้านทานทางจิตใจ มีโอกาสสูงที่จะกันการกดดันทางสายเลือดได้ , ผู้พิทักษ์จิต ต้านทานอาการบาดเจ็บทางร่างกายระหว่างที่ใช้สกิล เมื่อบาดเจ็บร้ายแรงจะเข้าสู่ความว่างเปล่า ไม่อาจจะโจมตีรึโดนโจมตีได้ เมื่อสถานะว่างเปล่าหมดเวลาลง ร่างกายจะเข้าสู่การหลับใหล มันต้องใช้พลังงานเพื่อฟื้นฟูตัวเอง หลังจากนั้นสักพักจึงจะกลับมาเป็นปกติจุดอ่อน : แม้ว่าจะต้านทานการโจมตีทางกายภาพระหว่างที่ใช้สกิล แต่ไม่ได้ต้านทานการโจมตีทางจิตหรือการโจมตีธาตุ ร่างกายเปราะบางอย่างมาก เมื่อโดนโจมตีก็ถือว่าเป็นหายนะได้สิ่งที่ชอบ : แฟนธอม “ภูติงั้นหรือ ? น่าสนใจดีนี่ ฉันไม่เคยมีสัตว์อสูรแบบนี้มาก่อน” หวังเย่ายิ้มออกมา เขามองเอไนน์ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมายมากมายก่อนจะมองไปที่แฟนธอมแล้วยิ้มออกมา
“นี่คงเป็นโชคชะตาสินะ ? ”
แต่หวังเย่าไม่อยากพูดมันออกมา ไม่งั้นแล้วทุกอย่างคงดูน่ากระอักกระอ่วนไม่น้อย
ให้แฟนธอมรู้ตัวเองจะดีกว่า !
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้หวังเย่าตื่นเต้นคือสกิลที่สองของเธอ ไม่ใช่แค่จัดการเรื่องแรงกดดันทางสายเลือดได้ แต่สำหรับตัวเขาเองและสัตว์อสูรแล้วก็ทำให้จิตแกร่งขึ้นไปอีก
ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเลย !
แฟนธอมเห็นหวังเย่าหัวเราะพอใจก็มองไปที่สาวน้อย ก่อนจะพบว่าเอไนน์ก็มองมาที่เขาเช่นกัน
สายตาคู่โตอันเป็นประกายราวกับทิ่มแทงหัวใจของเขาอย่างจัง !