ตอนที่ 550 : ฆ่าเจฟ
ตอนที่เข่ากำลังจะถึงพื้นนั้น หวังเย่าก็ได้ดึงเอามีดออกมาก่อนจะฟันเข้าใส่เจฟทันที
เจฟที่แสดงสีหน้าภูมิใจกับลนลานและใช้ดาบในมือกันการโจมตีของหวังเย่าเอาไว้
ปัง !
เสียงดังก้องไปทั่ว
ทั้งสองคนมองหน้ากัน
เจฟขมวดคิ้วและพูดขึ้นมา “การกดดันทางสายเลือดใช้กับแกไม่ได้ผลได้ยังไง ? ”
หลังจากนั้นเขาก็มองออกไปข้าง ๆ และพบว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา เด็กผู้หญิงคนนี้ลอยตัวอยู่ มือของเธอกุมราวกับภาวนา และพื้นดินรอบตัวเธอก็มีค่ายกลสีเขียวส่องประกายออกมา สีของมันเหมือนกับต้นหญ้าที่ทำให้ยากที่จะมองเห็นได้
“สัตว์อสูร ! ” เจฟตกตะลึงขึ้นมาทันที
“ถูกแล้ว ! ”
ทั้งสองคนเข้าปะทะกันต่อ เจฟถีบหวังเย่าให้ถอยกลับก่อนจะพุ่งเข้าใส่เอไนน์
แฟนธอมได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับใช้เคียวรับมือกับดาบเอาไว้
เอไนน์ได้ใช้สกิลปกป้องตัวเองจนร่างกายของเธอเริ่มโปร่งใสขึ้นมา
ด้วยการขัดขวางของแฟนธอมและหวังเย่าแล้ว เจฟก็ไม่อาจจะทำอะไรได้
เขาฟันออกมาเพื่อถอยออกมาเว้นระยะห่าง ดาบในมือสั่นไหวก่อนที่สุดท้ายจะแยกตัวกลายเป็นดาบสองเล่ม
เขามองไปที่ตำแหน่งที่เอไนน์อยู่ ก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีหวังเย่าและแฟนธอมอีกครั้ง แต่ตอนที่กำลังจะปะทะกันนั้น เขาก็ได้โยนดาบเล่มหนึ่งเข้าใส่เอไนน์
ดาบได้หมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนจะตัดเข้าที่ตัวเอไนน์อย่างจัง
ฟรึบ !
แต่ทว่าการโจมตีก็ไม่ได้ผล !
ดาบนั้นฟันเข้าไปที่หัวของเธอ แต่มันกลับสะท้อนออกมาจนพุ่งกลับมาที่มือของเจฟ
“ต้านทานการโจมตีกายภาพ ! ”
“หวังเย่า แกนี่มันโชคดีจริง ๆ ที่ได้สัตว์อสูรแบบนี้มา” เจฟใช้ดาบในมือเข้าสู้กับหวังเย่าและแฟนธอมต่อ
สำหรับหวังเย่าแล้ว สัตว์อสูรสายซัพพอร์ตนี้ไม่ใช่แค่ทำให้เจฟอิจฉา แต่ยังยากที่จะจัดการได้ด้วย
เขาต้องต่อสู้กับทั้งสองคนและคอยสังเกตการณ์คูลดาวน์สกิลของเอไนน์อีกด้วย จนกระทั่งสกิลต้านทานของเอไนน์ จะหายไป เจฟก็ได้ยิ้มออกมา
ที่ด้านหลังเอไนน์ มีสัตว์อสูรที่คล้ายกับคนในชุดเกราะสีดำพร้อมกับโซ่สามอันปรากฏตัวขึ้นมา มันได้โผล่ขึ้นมาจากพื้น
มือของสัตว์อสูรกางออกพร้อมกับแรงกดดันที่แผ่ออกมา จากนั้นก็มีดาบแสงปรากฏขึ้นในมือ
เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาและมองไปที่เด็กผู้หญิงตรงหน้า ทุกคนไม่อาจจะเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ ไม่ทันไรดาบนั้นก็ได้ถูกฟันเข้าใส่ที่ด้านหลังของเอไนน์แล้ว
เอไนน์รับรู้ได้ถึงอันตรายจากทางด้านหลัง เมื่อเธอคิดจะหันกลับไปมองก็พบว่าแฟนธอมได้โผล่มาที่ด้านหลังพร้อมกับเคียวที่ปะทะกับดาบที่ฟันเข้ามา
เมื่อเห็นแฟนธอมมาช่วย เอไนน์ก็ไม่ลังเลที่จะทำตามแผนที่หวังเย่าได้บอกเอาไว้ เธอรีบถอยกลับออกมาทันที
สัตว์อสูรสายซัพพอร์ต แม้ว่าจะมีความสามารถในการต้านทานการโจมตีทางกายภาพ แต่สกิลก็ยังมีคูลดาวน์อยู่ มันไม่ใช่ว่าเธอจะไร้เทียมทานได้ตลอด
หลังจากที่ใช้สกิลไปแล้ว เธอก็ต้องถอยกลับออกมาโดยต้องพึ่งการช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีม
โชคดีที่สกิลของเธอมีคูลดาวน์ไม่นานนัก รวมถึงการที่มีเพื่อนร่วมทีมที่เข้าใจกลยุทธ์เป็นอย่างดีด้วย
ถ้าไม่มีแฟนธอมคอยช่วย หวังเย่าที่รับมือกับเจฟนั้นก็เริ่มเสียเปรียบ
ยังไงซะอีกฝ่ายก็เป็นเผ่าที่แข็งแกร่ง อีกฝ่ายมีสายเลือดระดับสูงกว่าหวังเย่าอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีพลังกดดันทางสายเลือดที่ทำให้เขาต้านทานไม่ได้ แต่ก็ยังทำให้พลังของหวังเย่าน้อยกว่าอยู่
หวังเย่าถอยกลับมาจากการโจมตีของเจฟ และรีบมองไปที่นักรบเกราะดำก่อนจะใช้ระบบตรวจสอบมันทันที
ชื่อ : ดิลเกสเลเวล : 87 ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์ สกิล : ดาบตัดเวลา กำเนิดขึ้นมาพร้อมกับทักษะดาบระดับสูง สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานและไม่มีคูลดาวน์ ความเสียหายต่ำแต่ศัตรูต้องใช้พลังอย่างมากเพื่อจะรับมือ, ดาบดิลเกส ใช้เลือดของตัวเองกว่าครึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับศัตรู เมื่อโจมตีครบ 10 ครั้งจะทำให้พลังของศัตรูลดลง 80 เปอร์เซ็นต์ จุดอ่อน : การใช้สกิลทั้งสองออกมาจะทำให้ยากที่จะสู้ต่อได้ข้อมูลของดิลเกสถูกส่งให้กับแฟนธอมจนทำให้เขาเองก็ต้องแปลกใจ
ดิลเกสมีสกิลแค่ 2 อย่าง แต่ด้วยสกิลแค่ 2 อย่างนี้ เขากลับแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
แทบจะรับมือไม่ไหว !
มันหมายความว่าสกิลตรึงนั้นใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ผล แฟนธอมไม่อาจจะลดพลังของอีกฝ่ายลงได้
ดิลเกสค่อย ๆ เดินเข้ามาพร้อมกับโซ่ที่ลอยอยู่ด้านหลังที่แผ่แรงกดดันอันมหาศาลออกมา
“สัตว์อสูรระดับเทพอย่างนั้นหรือ ? กว่าร้อยปีก่อนข้าก็เคยฆ่าสัตว์อสูรระดับเทพมา ไม่รู้ว่าแกจะแกร่งกว่าเจ้านั่นรึเปล่า ? ”
ดิลเกสพูดออกมาด้วยสีหนาเฉยเมยและหยิ่งทะนง
แฟนธอมมองไปที่ดิลเกสด้วยท่าทีเย็นชา “มาเป็นลูกน้องข้า แล้วข้าจะไม่ฆ่าแก”
เมื่อพูดจบแฟนธอมก็ผายมือออกก่อนที่ทั้งบึงจะตกสู่ความมืดมิด
อิ๊…
เสียงกรีดร้องของค้างคาวดังขึ้น ค้างคาวจำนวนมากได้บินเข้ามา
แฟนธอมโบกมือเบา ๆ ก่อนที่ค้างคาวเหล่านั้นจะพุ่งเข้าหาดิลเกส
ดิลเกสยกดาบในมือขึ้นใช้สกิลดาบตัดเวลาฟันเข้าใส่ค้างคาวที่อยู่รอบตัว
นี่ไม่ใช่การโจมตีทั่วไป แต่เป็นการโจมตีที่ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
ค้างคาวของแฟนธอมไม่อาจจะเข้าใกล้ตัวดิลเกสได้เลย มันมีแต่โดนทำลายไป
แฟนธอมพุ่งออกไปพร้อมเคียวในมือที่เข้าโจมตีดิลเกส
แสงนับไม่ถ้วนได้ระเบิดออกมากับการปะทะกันของทั้งสองนี้
ทั้งสองเข้าสู่การต่อสู้ที่ดุเดือด
แฟนธอมเหมือนจะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ เพราะการโจมตีของดิลเกส
ตอนนั้นผลการต่อสู้กำลังจะแสดงออกมา
“หวังเย่า หากเทียบกับสัตว์อสูรของแกแล้ว แกนี่มันแย่จริง ๆ ! ” เจฟพึ่งทักษะดาบและร่างกายของตัวเองจนได้เปรียบหวังเย่าอย่างมาก
ทุกครั้งที่ปะทะกันนั้น หวังเย่าจะรู้สึกเจ็บขึ้นมาที่มือ
ฟรึบ !
เจฟได้เปลี่ยนทิศทางของดาบแล้วแทงเข้าใส่ที่อกซ้ายของหวังเย่า
เจฟใช้โอกาสนั้นไล่กดดันหวังเย่าต่อ แต่เอไนน์ก็ได้ใช้สกิลฮีลออกมาช่วยเขา รอบตัวหวังเย่ามีแสงสีเขียวส่องประกายออกมาพร้อมกับบาดแผลที่ฟื้นฟูด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตอนนั้นเองสกิลคำอวยพรของภูติก็ได้เข้าปกคลุมไปรอบตัวหวังเย่าและแฟนธอม มีวงแหวนหนามก่อตัวขึ้นมา ความสามารถในการต่อสู้ของทั้งสองเพิ่มขึ้นมา 30 วินาที ต่อมาค่าสถานะของทั้งสองก็เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์
หวังเย่าที่เสียเปรียบยังพอรับมือกับการโจมตีได้และใช้ทักษะมีดพายุมังกรเข้าโจมตีใส่เจฟ
“สัตว์อสูรแกดีจริง ๆ ” เจฟปัดหวังเย่าจนกระเด็นแล้วยิ้มออกมา “3 ต่อ 2 ถ้าสู้กันแบบนี้ ฉันคงเสียเปรียบ…..ฉันจะแสดงให้แกเห็นแล้วกันว่าดิลเกสมีอะไรดี ”
เจฟได้รวมดาบทั้งสองให้เป็นเล่มเดียวก่อนจะยกดาบชูขึ้นไปบนฟ้า ตอนนั้นเองอยู่ ๆ ก็มีพายุก่อตัวขึ้นมาในบึง
ผมและชุดของเจฟสะบัดไปมาตามลมพร้อมกับแสงที่ส่องประกายออกมาจากดาบ
“ดาบแสงผู้พิทักษ์ !”
เจฟตะโกนออกมาพร้อมกับปักดาบลงที่พื้น รอบตัวเขามีแสงเจ็ดสีส่องประกายออกมาห่อหุ้มตัวของเขาเอาไว้
ภายใต้สายตาของหวังเย่า ระบบก็ได้บอกว่าการป้องกันของเจฟนั้นเพิ่มขึ้นมาราวกับติดจรวด
เมื่อมองไปที่ดิลเกสก็พบว่าที่ผิวของดิลเกสเองก็มีแสงเจ็ดสีส่องประกายออกมาเช่นกัน
การป้องกันของมันสูงกว่าของเจฟเสียอีก
“เพิ่มพลังป้องกันสองเท่างั้นหรือ ? ”
ด้วยสกิลของดิลเกสและด้วยชั้นป้องกันนี้ก็ทำให้ยากกว่าเดิมที่แฟนธอมจะฆ่าอีกฝ่ายได้
“นายท่าน เขาคิดจะฆ่าเราโดยใช้แค่ดิลเกสงั้นหรือ ? ” เอไนน์มองกลยุทธ์ของเจฟออก
เจฟเป็นตัวช่วยคอยซัพพอร์ตซึ่งทำให้ดิลเกสมีพลังป้องกันที่สูงขึ้นอย่างมาก
การโจมตีของดิลเกสดุดันขึ้น ตราบใดที่ศัตรูไม่อาจจะทำลายการป้องกันของเขาได้ เขาก็สามารถใช้งานสกิลโจมตีเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายใช้สกิลออกมา
เมื่อคู่ต่อสู้ใช้สกิลออกมาและอยู่ในช่วงคูลดาวน์ เขาก็จะทำการโจมตีที่ทำให้ยากที่คู่ต่อสู้จะรับมือได้
แม้ว่าแฟนธอมจะเป็นสัตว์อสูรแต่ก็ไม่อาจจะทนรับการโจมตีจากดิลเกสได้อย่างต่อเนื่อง หากไม่ใช่เพราะมีเอไนน์ที่คอยช่วย งั้นกลัวว่าเขาคงแพ้ไปแล้ว
สัตว์อสูรนี่น่ากลัวจริง ๆ !
หวังเย่าไม่ลังเลที่จะเอาธนูออกมาจากแหวนมิติแล้วเล็งไปที่ดิลเกสก่อนจะยิงเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง
ปัง !
ลูกธนูปะทะกับโล่แสงของดิลเกส มันเสียดสีกับโล่แสงอยู่ได้ไม่นานก่อนจะกระเด็นออกมา
“การป้องกันมันสูงจริง ๆ คงได้แต่ต้องจัดการกับแหล่งพลังของมัน”
หวังเย่ามองไปที่เจฟที่ยืนนิ่งอยู่
เจฟยิ้มออกมา ก่อนจะพูดว่า “หวังเย่า แกอย่าฝันไปเลย ที่นี่มีแค่สัตว์อสูรของแกเท่านั้นที่ทำลายโล่พลังได้ แต่ตอนนี้มันไม่อาจจะสลัดตัวออกมาได้ สุดท้ายมันจะโดนดิลเกสฆ่า จากนั้นแกก็จะตายในไม่ช้า ฮ่าฮ่า…”
หวังเย่ามองไปที่เจฟ ก่อนจะดึงเอาดินพลังงานออกมาจากแหวนมิติ
ดินพลังงานนี้ส่องแสงสีดำออกมาจนทำให้เจฟเกิดสนใจขึ้นมา เขาคิ้วขมวดเล็กน้อย “ นั่นมันอะไร ? ”
“แกบอกไม่ใช่รึไงว่าฉันทำลายการป้องกันของแกไม่ได้ ? งั้นก็มารอดูกัน ! ”
ภายใต้สายตาของเจฟ หวังเย่าก็ได้กินดินนั้นเข้าไปก่อนที่พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว…
สายตาของเจฟสั่นไหว เขารู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา !