(WN) ผมจะเอาหัวหน้าห้องสุดเคร่งขรึมมาเป็นแฟนได้หรือป่าวนะ? 2 ความสัมพันธ์ลับ ๆ ของทั้งสองคนที่โรงเรียน

ตอนที่ 2 ความสัมพันธ์ลับ ๆ ของทั้งสองคนที่โรงเรียน

“มอนิ่งนะครับ เเม่”

“มอนิ่งนะ อากิโตะ เมื่อวานก็ไปทำงานพิเศษอีกแล้วเหรอ? ไม่คิดจะเข้าชมรมบ้างเหรอ? นี่ก็เดือนเมษาแล้วนะ แม่ว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีนะ ถ้าอยากวิ่งจริงๆ ก็ไปวิ่งในชมรมสิ”

“ไม่อะ ชมรมมันไม่ใช่แนวของผม ที่สำคัญการเข้าชมรมมันไม่ได้เงินหน่ะ แต่ถ้าทำงานที่ร้านคุณย่าผมก็จะได้เงินน้า”

“มีแต่เงินๆๆ ลูกนี่นะ สิ่งที่ลูกต้องทำหน่ะมันคือ การใช้ช่วงเวลาแห่งวัยรุ่น ต่างหากล่ะ!”

“ครับ ๆ อย่างน้อยผมก็ยังไปโรงเรียนอยู่นะ”

ผมวางกระเป๋าลงและนั่งลงบนเก้าอี้

อาหารเช้าก็เหมือนเดิมกับทุก ๆ วัน ขนมปัง ไข่เจียว ไส้กรอก กับกาแฟ

ขณะที่กำลังทาแยมลงบนขนมปัง ผมก็หันหน้าไปมองพ่อที่นั่งอยู่ข้างๆ

“พ่อครับ เครื่องปริ้นเตอร์ ผมซ่อมให้แล้วนะ กระดาษมันยับและติดเพราะใส่กระดาษผิดขนาดนะครับ”

“โอ้ อากิโตะ ขอบใจมากเลย เอ๊ะ พ่อใส่ขนาดผิดเหรอ? พ่อว่าพ่อก็ใช้กระดาษแบบเดิมนี่นา”

“กระดาษที่ออกมามันขนาด B5 นะครับ”

“เดี๋ยวผมซื้อกระดาษแบบยกกล่องให้ก็แล้วกัน ใช้แบบนั้นนะครับ”

“โอเคๆ ช่วยได้มากเลย”

“แล้วถ้าเครื่องมันมีปัญหา ก็อย่าไปมั่ว ๆ กับมันสิค้าบ อ่านข้อความผิดพลาดก่อนสิ”

“ค้าบ ๆ “

ผมดื่มกาแฟพลางส่ายหน้าเบาๆ อย่างเหนื่อยใจกับท่าทีของพ่อที่ดูไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย

ครอบครัวของผมนั้นป็นครอบครัวธรรมดา ๆที่แม่ทำงานพาร์ทไทม์ที่ซูเปอร์มาเก็ตใกล้บ้าน ส่วนพ่อนั้นก็เป็นพนักงานบริษัท

ผมเป็นลูกคนเดียวของบ้านนี้ และพูดตามตรง ผมนั้นโตมาแบบไม่ขาดอะไรเลย 

แต่ก็ดันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนมัธยมต้นตอนที่ผมอยู่ชมรมวิ่ง

ในตอนนั้นเอง มีเหตุการณ์ “แอบถ่าย” เกิดขึ้น และผมก็ถูกสงสัยว่าเป็นคนทำ

ถึงแม้ว่าไม่นานนักคนร้ายตัวจริงจะถูกจับได้ และผมก็ได้รับชื่อเสียงกลับคืนมา แต่ผมกลับรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียนแล้วอีกช่วงแรก  ๆช่วงแรกๆ แม่ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับผม แต่ไม่นานนัก เธอก็เอาแต่พูดเรื่องที่ว่าผมเรียนช้ากว่าคนอื่น และถามว่าผมจะเอายังไงกับการสอบเข้ามัธยมปลาย

คำพูดที่แม่มักพูดบ่อยที่สุดก็คือ “ถ้าลูกไม่ไปโรงเรียน ลูกจะไม่มีทางมีชีวิตที่ธรรมดาได้นะ”
จนตอนนั้นเอง ผมถึงรู้ว่าแม่ผมให้ความสำคัญกับคำว่า “ธรรมดา” มากแค่ไหน

ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะคุณย่า
คุณย่าเป็นคนตรงข้ามกับแม่ผมโดยสิ้นเชิง เธอเป็นคนแปลกแหวกแนวสุด ๆ
ถึงขั้นที่ว่าตอนผมไม่ไปโรงเรียนได้แค่สามวัน คุณย่าก็ลากคอผมไปโยนทิ้งไว้ในย่านการค้า

เรื่องที่ทำให้เห็นความแปลกของคุณย่าชัดเจนที่สุดคือ ตอนที่ผมอยู่ ม.1 เธอบอกว่า
“จะให้อั่งเปาผมตลอดชีวิต” แล้วก็ยื่นเงินหนึ่งล้านเยนมาให้ผม

แม่ตกใจมากและพยายามจะคืนเงินให้คุณย่า
แต่คุณย่าไม่ยอมแล้วก็สวนกลับว่า
“เงินล้านนี้จะช่วยอากิโตะมองเห็นทิศทางที่ควรจะเลือกเดินได้”

เอาตรง ๆ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมก็เอาเงินนั้นไปซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโปรแกรมแต่งภาพที่ผมอยากได้มาตลอด

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมกลายเป็นคนเก่งเรื่องคอมฯ และคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากเรื่องนี้ก็คือพ่อผมนั่นเอง 

ครอบครัวธรรมดาอย่างแม่และพ่อ รวมกับคุณย่าที่สุดโต่ง
รวมถึงที่ทำงานพิเศษของผม ผมก็ไม่ได้เกลียดอะไรเลย

“ไปก่อนนะครับ”

“จ้ะ ระวังตัวด้วยนะ ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นรีบบอกแม่เลยนะ”

“……ครับ ๆ “

ตั้งแต่ผมกลับไปเรียนใหม่หลังจากเหตุการณ์นั้น แม่ก็มักจะใช้คำพูดนี้ส่งผมออกจากบ้านตลอด

ถึงจะอยากให้เลิกพูดได้แล้วก็เถอะนะ แต่ที่จริงผมว่ามันคงจะแฝงความหมายว่า
“ขออย่าให้ลูกไม่ไปโรงเรียนอีกเลย”

ก่อนที่จะหยุดเรียนไป ผมมีโอกาสจะได้เข้าโรงเรียนมัธยมปลายด้วยการใช้คะแนนรับรองแต่เพราะขาดเรียนไปหนึ่งเดือน โอกาสนั้นเลยหายไป

สุดท้ายผมจึงเลือกเข้าโรงเรียนเอกชนที่ต้องนั่งรถไฟไปถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งค่าเทอมแพงกว่าและคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าโรงเรียนที่เคยหวังไว้แน่นอนว่าผมรู้ว่าตัวเองทำให้พ่อแม่ลำบาก ผมเลยตั้งใจที่จะยอมรับความเป็นห่วงของแม่อย่างเต็มใจ

“โย่ อากิโตะ! เช้านี้โคตรง่วงเลยว่ะ เมื่อคืนดันดูสตรีมสนุกจนเผลออีกทีก็ดันเช้าเลย”

“ส่วนเมื่อวานฉันก็โคตรลำบากมากเลยว่ะ อาจารย์อุจิดะดันโยนงานยุ่งยากมาให้ทำ ทำให้วุ่นวายไปหมดเลย”

“เอาเถอะถึงแกจะขอให้ฉันช่วย ฉันก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ดีนั่นเเหละ ฮ่าๆ”(TL:เพื่อนแท้จริง ๆ )

ที่ล็อกเกอร์เก็บรองเท้า ผมเจอเพื่อนสนิทในห้องเดียวกัน นาคาโซโนะ ทัตสึยะ
เขายักคิ้วแล้วยิ้มทะเล้น จากนั้นก็ขยิบตาให้ผม

ให้ตายสิ…น่าหมั่นไส้จริงๆ แต่ก็เถอะ ถ้าผมเป็นเขา ผมก็คงหาทางเลี่ยงงานเหมือนกัน

ทัตสึยะเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยมต้นเดียวกันกับผม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฉลาดหรือคิดอะไรลึกซึ้งนัก แต่เขาเป็นคนที่พูดอะไรตรงไปตรงมา แถมยังชอบคอมพิวเตอร์เหมือนผม เลยสนิทกัน

ตอนเกิดเรื่องที่ผมโดนกล่าวหาว่าเป็นคนแอบถ่าย ก็ได้เขานี่แหละที่เป็นคนแรกที่พูดว่า “อากิโตะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอก”

ถึงแม้ผมจะเสียดายที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนที่คะแนนเฉลี่ยสูงกว่า แต่ว่าการมีทัตสึยะอยู่ด้วยมันก็ดีไม่น้อย

พอเข้าไปในห้องเรียน ผมก็เห็นโยชิโนะกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะแถวหน้า

ต่างจากเมื่อคืนนี้อย่างสิ้นเชิง

เธอรวบผมบ็อบสั้นอย่างเรียบร้อย นั่งตัวตรง และใส่แว่นตา

เมื่อคืนเธอแต่งตัวเซ็กซี่มาก แต่ตอนนี้เธอกลับดูเรียบร้อยมาก ผมแอบตกใจกับภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันของเธอ แต่ก็รู้สึกใจเต้นในเวลาเดียวกัน

โยชิโนะซังเหมือนจะสังเกตเห็นผม เธอวางหนังสือในมือลงจากมองมาทางผมแวบหนึ่ง แล้วก็ยิ้มบางๆ

ผมรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาทันที มันเหมือนกับว่าเรามีความลับร่วมกัน

จากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือน LINE

ข้อความนั้นมาจากโยชิโนะซัง

“รออยู่เลย อรุณสวัสดิ์นะ~ วันนี้ก่อนไปทำงานพิเศษพอจะมีเวลาคุยกันได้ไหม?”

“พอมองไปที่โยชิโนะซังก็เห็นว่าเธอวางมือถือไว้บนโต๊ะขณะที่อ่านหนังสืออยู่

เธอคงกำลังรอผมอยู่สินะ

มือที่กำมือถือของผมเริ่มชื้นเหงื่อจนต้องเช็ดกับเสื้อ

ในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าว ผมกับโยชิโนะซังที่เมื่อวานยังเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นธรรมดา กำลังคุยกันด้วยหัวข้อที่มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่รู้ นั่นทำให้ผมรู้ตื่นเต้นสุด ๆ

‘ร้านอยู่ตรงนี้นะ ผมเลิกเรียนแล้วจะไปถึงประมาณห้าโมงเย็น เพราะเริ่มงานตอนหกโมง’

ไม่นานข้อความก็ขึ้นว่าอ่านแล้ว

‘ฉันก็เริ่มตอนหกโมง งั้นห้าโมงเจอกันเนอะ! ได้คุยกันตั้งหนึ่งชั่วโมงเลย ไว้เจอกันนะ~!’พร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์น่ารัก

เมื่อผมเหลือบมองไปทางโยชิโนะซังอีกครั้ง ก็พบว่าเธอกำลังเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพื่อน ๆ คนอื่น

ผมเก็บมือถือเข้ากระเป๋า พร้อมกัดริมฝีปากที่กำลังยิ้มจนหุบไม่ได้

“นี่มันอะไรกัน สนุกแบบสุด ๆ ไปเลย”

ในขณะที่ผมกำลังนั่งยิ้มอยู่ จู่ ๆ โทรศัพท์จอยักษ์ของทัตสึยะก็โผล่เข้ามาในสายตาของผม

บนจอแสดงภาพการแข่งขันเกม FPS

“เฮ้ อากิโตะ ดูนี่ดิ Aimแม่นเกินไปมั้ยวะ?”

“…ไม่ไหวแล้ว ใจแม่งโคตรสั่นเลย”

“ดูตรงมุมนี้ดิ นี่มันแบบโคตรจะเหลือเชื่อ ทำไมถึงตอบสนองได้ขนาดนี้ว่ะ อย่างเอา”

“กุตื่นเต้นจนจะไม่ไหวแล้ว แม่มเอ้ยอยากให้ถึงตอนนั้นเร็ว ๆ จัง “(TL: คนนึงติดเกม อีกคนติด** ขออภัยสำหรับคำหยาบครับ สต. มองว่าน่าจะได้อรรถรสมากกว่าคิดเห็นไงบอกกันได้นะครับ)

จริงๆ แล้วตอนนี้หัวใจผมยังเต้นแรงอยู่เลย ทำให้ไม่ได้ฟังที่ทัตสึยะพูดเลยสักนิดส่วนผมก็แค่เพ้ออะไรออกไปเรื่อยเปื่อยเองแหละส่วนทัตสึยะมันก็สนใจอยู่แต่กับเกมของมัน เลยไม่สนใจหรอกว่าผมจะฟังอยู่หรือเปล่า ซึ่งผมว่ามันดีเเล้วแหละ

“เขาว่ากันว่าเป็นเพราะแลคนะ แกดูแล้วคิดว่าไงวะ?”

เขาดันจอมาใกล้จนผมต้องหันกลับมาสนใจ

“…แข่งเมื่อคืนนี้ใช่ป่ะ?”

“ใช่แล้ว ดูเพลินจนตีสองเลยวะ ง่วงชะมัดเเล้วก็การบ้านยังไม่ได้ทำเลยขอลอกหน่อยดิ”

“ไปทำเองไป!”

ทัตสึยะเป็นคนที่สอบเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด 

แต่ว่าเขาดันเล่นเกมเก่งถึงขนาดมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับโปรเพลเยอร์หลาย ๆ คน แถมยังทำสตรีมแบบเปิดหน้าอีกด้วย

ผมก็ชอบเล่นเกมนะ แต่ผมไม่เคยเล่นเกินสองชั่วโมงเลยเพราะเวลสแพ้แล้วมันน่าหงุดหงิดนี่หน่า

ส่วนเขาเล่นเกมวันละ 7 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เห็นได้ชัดเลยว่าเขา “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้”

ระหว่างที่คุยกัน ผมเหลือบไปเห็นโยชิโนะซังเดินอยู่ที่ระเบียง พร้อมกับช่วยอาจารย์อุจิดะขนเอกสารจำนวนมาก

จากนั้นเธอก็เดินกลับไป

…ให้เดาเธอคงมีอะไรที่ต้องไปขนมาอีกสินะ

ผมอยากคุยกับเธอสักหน่อย แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

เพื่อที่จะยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ใช่ความฝัน

ผมบอกทัตสึยะว่า “จะไปเข้าห้องน้ำ” แล้วแอบตามโยชิโนะซังไป

เธอเดินเข้าไปในห้องเก็บเอกสาร แล้วหยิบกองเอกสารออกมา

ผมเดินเข้าไปข้างๆ แล้วพูดขึ้น

“…เดี๋ยวผมช่วยถือนะครับ”

“อ๊ะ…ขอบคุณค่ะ”

ผมแบ่งกองเอกสารมาถือครึ่งหนึ่ง แล้วเธอก็ขยับเข้ามาใกล้จนไหล่ของเธอชนผมเบาๆ

เอ๊ะ? หรือว่าผมควรจะไม่เข้าไปใกล้เธอในโรงเรียน? หรือผมล้ำเส้นไป?

แต่เมื่อหันไปมอง เธอกลับโน้มตัวเข้ามากระซิบที่หูผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ขอบคุณมากนะ ฉันโดนให้ขนของแบบนี้บ่อยมากรู้สึกเหมือนเป็นทาสเลย แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยอีกครั้งนะ”

ลมหายใจที่แตะเข้าที่หูของผม และกลิ่นหอมหวานจากแชมพูของเธอ บวกกับวิธีพูดแบบเดียวกับเมื่อคืน

แต่ตอนนี้เป็นโยชิโนะซังในชุดนักเรียน

…โธ่เอ๊ย เมื่อวานนี้มันไม่ใช่ฝันแน่ ๆ

โยชิโนะซังเมื่อคืนกับตอนนี้ คือคนเดียวกันจริง ๆ

ผมพยายามเก็บอาการ แล้วช่วยเธอถือเอกสารกลับไปที่ห้อง

พอเข้าห้องเรียนมา ผมก็รู้สึกเลยว่าเวลามันผ่านไปช้ามากเลยนะเนี่ย ผมนั่งเรียนไปเรื่อย ๆ แล้วก็แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่คุยกับโยชิโนะซังเป็นระยะ ๆ พอถึงเวลาเลิกเรียน ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ชุดทำงานที่ร้านมีกลิ่นน้ำมันแรงมาก ถ้าไปเจอเธอแบบนี้คงไม่ดีแน่ เลยตัดสินใจว่าจะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยแอบออกมา

 

พูดคุยหลังแปล

เอาละขอบอกเลยว่าสอบเสร็จเเล้ววุ้ยยย เเล้วที่สำคัญอืมคงเป็นอาจจะมีการใช้คำหยาบ ถ้าไม่ชอบบอกได้ครับจะปรับปรุงเอาละมาประเด็กหลักเลยคือ ติดเกมครับแน่นอนว่า คือเกม strinova คือเเรงค์ไต่ทั้งวันเเรงค์เท่าเดิม เเล้วก็นิยายก็อย่างที่เห็นเนอะช่วงนี้นิยายเลิฟคอมผุดมาเป็นดอกเห็ด สุดท้ายขอขอบคุณที่ตามกันนะค้าบ

(WN) ผมจะเอาหัวหน้าห้องสุดเคร่งขรึมมาเป็นแฟนได้หรือป่าวนะ?

(WN) ผมจะเอาหัวหน้าห้องสุดเคร่งขรึมมาเป็นแฟนได้หรือป่าวนะ?

Score 10
Status: Completed
สึจิโอะ อากิโตะ ค่นักเรียนมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่งที่ดันทำงานพาร์ทไทม์ส่งอาหารในย่านที่เต็มไปด้วยร้านค้าในวงการบันเทิงผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นความลับที่เขาไม่เคยบอกเพื่อนร่วมชั้น วันหนึ่ง เขาได้เข้าไปช่วยสาวแกลจากการถูกลวนลาม แต่ดันปรากฏว่าสาวแกลที่เขา ช่วย นั้นเธอคือโยชิโนะ ซาระ เพื่อนร่วมชั้นของเขาเองที่แปลงโฉมมา ซาระมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เธอไม่สามารถถอดหน้ากากนักเรียนตัวอย่างที่โรงเรียนได้ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อยากเป็นตัวของตัวเอง ความสัมพันธ์ลับๆ ของทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้น ทั้งที่โรงเรียนและที่ทำงานพาร์ทไทม์

Options

not work with dark mode
Reset