[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 53 – 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู

ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู

030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู

 

 

เสียงสายน้ำของลำธาร กลิ่นของต้นไม้ในป่าที่เข้ากระทบจมูก

 

อากาศที่ค่อนข้างเย็นเล็กน้อย

 

หากเงยหน้าขึ้นก็เริ่มเห็นว่าดวงอาทิตย์เริ่มเอียงไปอีกฝั่ง

 

ที่ไหนสักแห่งในป่าเราได้ยินเสียงนกร้อง ไม่รู้ว่าร้องเพราะเกี้ยวพาราสีหรือเสียงที่บ่งบอกว่าสงครามได้ปะทุขึ้น

 

ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ยังมีเวลาพอก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน

 

อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่าจะมีเวลาเหลือเฟือสำหรับท่านพี่ที่กำลังสนุกกับการล่าสัตว์

 

 

 

「งั้นไปกันเถอะ」

 

 

 

「「ค่า!」」

 

 

 

คำตอบอันแสนกระตือรือร้นออกมาจากปากของฉันและท่านอลิซ่า

 

ป่านั้นไม่ใหญ่มากไม่ต้องกลัวว่าจะหลง ถ้าหลงก็แค่บินไปบนฟ้าและมองหาทางเดินที่ใกล้ที่สุดก็พอ

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งใช้เวลาไม่นานสำหรับพวกเราในการค้นหามอนสเตอร์

 

ถ้าพวกเราตั้งใจใช้เวลาสักแปปเดียวก็เสร็จแล้ว และกลับบ้าน พร้อมกับไปทานข้าวเย็นที่คฤหาสน์

 

 

 

「――เอ่อ ช่วยรอสักครู่จะได้ไหม」

 

 

 

「หืม?」

 

 

 

ขระที่เรากำลังไล่ค้นหาศัตรู ก็มีคำพูดที่มาขัดจังหวะทำให้อารมณ์ดาวน์

 

 ด้วยใบหน้าที่บอกว่าน่ารำคาญ แต่ก็ยังไม่สูญเสียความสุภาพ คุณเกลซึ่งเป็นผู้นำของ『อัศวินทะเลสาบ』เข้ามาหาพวกเรา

 

 

 

「ก็รู้อยู่หรอกนะครับว่าพวกคุณนั้นแข็งแกร่ง และหากมีพวกปีศาจอยู่ที่นี่จริงๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะคิดว่ามันอาจจะหลงเหลืออยู่บ้าง และหากพิจารณาแล้วพวกเราจะบาดเจ็บกันโดยไม่จำเป็นนะครับ เพราะงั้นหลีกเลี่ยงพวกมันจะดีกว่า

 

 ――แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าพวกเธอแข็งแกร่งกว่าพวกเราที่เป็นแรงค์บรอนซ์และพวกเธอเป็นแรงค์ไอรอนที่เพิ่งลงทะเบียนวันนี้」

 

 

 

「อ่า ก็ความจริงนี่นะ」

 

 

 

「ใช่ ในฐานะรุ่นพี่แล้ว ชั้นไม่สามารถดูพวกเธอทำตัวบ้าบิ่นแบบนี้ได้หรอก ดังนั้นมีทางเลือกเพียงแค่สองทางสำหรับพวกเรา ตัวเลือกแรกพวกเราจะไม่ห้ามในสิ่งที่พวกเธอทำ แต่ว่าต้องให้พวกเราไปกับพวกเธอด้วย」

 

 

 

「ถ้างั้นฉันขอเสนอตัวเลือกที่สาม เอาเป็นว่าพวกเราไม่เคยพบกันมาก่อน โอเคไหม?」

 

 

 

เกลดูอึดอัดเล็กน้อยและพยายามไม่มองหน้าลูน่า

 

คำพูดของท่านพี่เป็นข้อเสนอที่ดี แต่เขาส่ายหัว

 

 

 

「ไม่ ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องมีรายงานเรื่องนี้ไป ในไม่ช้าพวกเธอก็จะถูกจับได้ในภายหลัง และอาจถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นนักผจญภัยเพราะฝ่าฝืนกฏได้」

 

 

 

อืม นั่นสินะ พนักงานต้อนรับเองก็พูดอะไรทำนองนั้นด้วย

 

ฉันนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้แล้วก็「โอ้วว~」ขึ้นมาล่ะ

 

อย่างน้อยก็ไม่มีกฏดังกล่าวในเกมจีบหนุ่ม ดังนั้นน่าจะเป็นเอกลักษณ์ของโลกใบนี้

 

 

 

「แล้วจะทำยังไง? พวกเรามาที่นี่เพราะคำขอรวบรวมสมุนไพร และพวกเราจะแต่งเรื่องว่าพวกเราแค่บังเอิญดวงซวยเจอกับเผ่าปีศาจจนต้องสู้เท่านั้น……」

 

 

 

「อืม แต่ดูยังไงมันก็เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นหรอกจากนักผจญภัยมือใหม่ว่ามั้ย?」

 

 

 

เกลพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น

 

 

 

「แต่จากสถานการณ์และความสามารถของพวกเธอแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะไปกับพวกเธอ」

 

 

 

「นี่ เกล?!」

 

 

 

คนที่พูดในที่นี้คือแลนเซอร์ที่ดูแลมาเรียตอนหมดสติและนอนหลับอยู่ ว่าแต่แลนเซอร์คืออะไรฉันไม่รู้จัก

 

 

 

「แน่นอนว่าพวกเราจะไม่ไปขัดขวางพวกเธอหรอก พวกเราจะพยายามรักษาระยะห่างไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของพวกเธอมากที่สุดโอเคไหม?」

 

 

 

คุณเกล————ตราบใดที่หลับตาฟังคำพูดของคุณ คำพูดและน้ำเสียงนั้นดูหล่อมากค่ะ

 

แต่ว่าหากมองใบหน้าของเขา จะเห็นได้ว่าเป็นพวกผู้ชายหน้าตามาตราฐาน มันทำให้ฉันสับสนหน่อยๆ

 

หากคิดว่านี่เป็นเกมจีบหนุ่ม ก็น่าจะมีตัวละครหน้าตาดีมาให้เห็นไปทั่วใช่ไหมล่ะ

 

 

เมื่อฉันกำลังดูกระบวนการคิดว่ามันเป็นปัญหาของคนอื่นจู่ๆท่านพี่ก็จ้องมองมาที่ฉัน

 

ฉันตื่นเต้นมาก

 

ท่านพี่ยิ้มด้วยท่าทางเซ็กซี่แปลกๆในขณะที่สะบัดผมยาวๆของเธอและพูดออกมา

 

 

 

「เอาล่ะ ถ้างั้น มาเรีย ฉันจะให้พวกเขาปกป้องเธอ」

 

 

 

「หาาาาาาาาาาา?」

 

 

 

ท่านพี่มองฉันด้วยสีหน้ารังเกียจเดียจฉันพร้อมกับลูบผมสีน้ำเงินของฉัน

 

หัวใจของฉันเต้นแรงและในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวด แต่ก็มีความสุข

 

เมื่อเธอทำเช่นนั้นเธอก็ลูบไล้นิ้วจากแก้มมาถึงต้นคอของฉัน

 

 

 

「แม้แต่มาเรียก็ยังกลัวแนวหน้าใช่ไหมล่ะ ดังนั้นเฝ้ามองจากระยะไกลไปก่อนนะ」

 

 

 

「ค่าาาาา……♡」

 

 

 

ปลายนิ้วของเธอที่ไหลไปตามซอกคอของฉันช่างน่าตื่นเต้น และพบว่าตัวเองดันพยักหน้าเห็นด้วย

 

 

 

(ท่านพี่……♡)

 

 

 

「พี่สาวเอ็นดูมาเรียมากเกินไปแล้วนะคะ ไม่เป็นห่วงความรู้สึกฉันบ้างเหรอคะ……」

 

 

 

ผมสีแดงของอลิซ่าแกว่งไปมาขณะเธอถอนหายใจ

 

อย่างไรก็ตามฉันไม่สามารถหลุดพ้นจากนิ้วมือของท่านพี่ได้ และในที่สุดฉันก็ดันมีอารมณ์และกอดท่านพี่อย่างรุนแรง

 

 「ถ้าเป็นคำสั่งของท่านพี่ฉันก็จะทำตามค่ะ!」โผล่งออกไปแบบนั้น

 

 

 

 

 

 ――คงจะบอกว่าร่วมมือกันได้ไม่เต็มปากเพราะ『อลิสเทีย』。นั้นมอบตัวเลือกให้กับอัศวินทะเลสาบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฉันด้อยความสามารถ ก็เลยต้องมาอยู่แนวหลังกับพวกเขา

 

มาเรียที่หายจากอาการเวียนหัวก็เข้าไปอยู่ในกลุ่มของเกล

 

เสียงการต่อสู้ดังขึ้นจากด้านหน้าเป็นครั้งคราวและเกลก็เอาโล่และแลนเซอร์ก็พุ่งเข้าโจมตี การต่อสู้จบลงภายในเวลาไม่ถึงสิบวิ

 

 

 

「นี่มาเรียจัง」

 

 

 

「คะ?」

 

 

 

ระหว่างทางมารีพูดกับฉัน

 

มารีเป็นผู้หญิงที่มีผมสั้นสีขี้เถ้า และเสื้อผ้าของเธอก็ดูเบากว่าชายทั้งสอง ฉันคิดว่าเธอน่าจะเป็นธีฟหรืออาจจะเป็นวิซาร์ด

 

 

 

เธอพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงสบายๆราวกับว่าเธออยากจะผ่อนคลาย

 

ฉันมองด้วยความสงสัย แต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้คนที่อยู่ข้างหน้าฉันสู้เพียงลำพังได้

 

 

 

「ผู้หญิงคนนั้น ลูน่าจังเป็นเด็กแบบไหนงั้นเหรอคะ?」

 

 

 

คำถามของมารีนั้นคลุมเครือมาก และฉันคิดว่าเธอน่าจะถามเกี่ยวกับความประทับใจส่วนตัวของฉันมากกว่า

 

 

 

「เป็นคนใจดีมาก แต่ก็เป็นคนที่นิสัยเสีย แต่ฉันก็รักเธอ」

 

 

 

「เข้าใจแล้วค่ะ」

 

 

 

มารีมองมาที่ฉันพร้อมกับยิ้มแย้ม

 

ฉันรู้สึกอายและหน้าแดงอย่างมาก

 

เธอเสริมว่า「แต่」

 

 

 

「หากพวกเธอเป็นเพื่อนรักของเธอ อย่าได้ละสายตาจากพวกเธอเชียวล่ะรู้ไหม?」

 

 

 

「หมายความว่ายังไงเหรอคะ……」

 

 

 

「เพราะพวกเธอนั้นเป็นตัวตนที่ห่างไกลเธอน่ะสิ เพียงละสายตาแค่เสี้ยววิ ราวกับตัวตนของพวกเธอจะจางหายไปเลย」

 

 

 

เธอพูดโดยมองแผ่นหลังเล็กๆ

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ

 

 

 

「……ค่ะ」

 

 

 

ฉันจึงพยักหน้าอย่างแรง

 

เธอที่อยู่ข้างๆฉันก็บอกว่า「ใช่ม้า?」

 

 

 

「ยังไงก็ตาม คุณโอไกเป็นคนแบบไหนเหรอคะ?」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

มารีเปลี่ยนหัวข้อเล็กน้อย

 

ฉันเผลอทำเสียงโง่ๆออกไปและพยายามนึกถึงสิ่งต่างๆเกี่ยวกับตัวเขา

 

 

 

「ขอโทษด้วยนะคะ พอดีฉันไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเขามากนัก พวกเราเพิ่งเจอกันได้ไม่นานค่ะ」

 

 

 

ฉันตอบพลางขอโทษ

 

 「งั้นเหรอคะ」เธอกล่าวเช่นนั้นพร้อมกับจ้องมองไปทางเขาด้วยสายตาที่แตกต่างจากลูน่า

 

 

 

(เอ๊ะ อย่าบอกนะว่า?!)

 

 

 

 แต่สำหรับฉัน เขาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่น่าาา……。

 

บางทีสเตตัสก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดทั้งหมดสินะ

 

ฉันรู้สึกผิดหวังกับค่าสเตตัสเล็กน้อย

 

 

 

 

 

 ――ในระหว่างทางท่านพี่ก็มาถึงด้านหน้าสุดของถ้ำ

 

ถ้ำนั้นถูกเปิดโดยมีเสาทั้งสองข้างประดับอยู่หน้าถ้ำ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปกติข้างในมีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร

 

ทั้งสามคนหยุดเดินและหลังจากนั้นพวกเราก็มาถึง

 

 

 

「มีอะไรงั้นเหรอคะ ท่านพี่?」

 

 

 

เธอจึงรีบเข้าไปหาท่านพี่

 

เธอมองข้ามไหล่ของฉันและชี้ไปที่เสาทางด้านขวา

 

 

 

「มาเรีย เธออ่านมันออกไหม?」

 

 

 

「เอ่อ……….เอ๊ะ เออออออออออออ๋?!」

 

 

 

แผ่นหินสี่เหลี่ยมจัตุรัสถูกแปะไว้บนเสาแทนป้ายชื่อ และลวดลายที่ไม่ใช่ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ถูกสลักไว้บนนั้น

 

 

 

「อ่านไม่ออกค่ะ」

 

 

 

ตัวอักษรที่ฉันไม่รู้จักแม้จะค้นหาความทรงจำจากชาติก่อนร่วมด้วย มันคืออักษรกรีก หรือจะบอกว่าไงดีมันเป็นอักษรภาษาอังกฤษที่ผสมกับตัวอักษรรูปลิ่ม

 

เธอมองหน้าฉันอีกครั้ง พยายามอ่านสีหน้าของฉัน และหายใจออกมา

 

 

 

「ฉันอ่านได้บางส่วน、เจ้า××จะถูกทดสอบครั้งที่สองการชดใช้บาปของ△△และ○○มัน ที่ทำพันธสัญญากับ△△เทพเจ้าโบราณ…ฉันสงสัยว่าตัวอักษรที่อ่านไม่ออกน่าจะเป็นชื่อของบางสิ่ง?」

 

 

 

「สุดยอดไปเลยค่ะ ท่านพี่!」

 

 

 

ฉันมองด้วยความเคารพ

 

ไม่ มันสุดยอดมากเลย แม้แต่ฉันก็ยังอ่านไม่ออกเลย ใครจะอ่านตัวอักษรที่ไม่รู้จักออกกัน

 

แต่ว่า ท่านพี่ดูเศร้าเล็กน้อย

 

 

 

「ช่างตัวอักษรที่อ่านไม่ได้ในตอนนี้ไปก่อน สิ่งที่กวนใจฉันคือ “การทดสอบครั้งที่สอง”…….ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ ดังนั้นก็เลยอยากจะถาม แต่ฉันแค่สงสัยว่า “ถ้ำแห่งการทดลอง” นั้นมีหลายแห่งงั้นเหรอ?」

 

 

 

ฉันรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กวนใจในขณะที่ฉันมองไปทางอื่น

 

ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ

 

 

 

เมื่อพูดถึงถ้ำแห่งการทดลอง มันเป็นชื่อดันเจี้ยนที่ปรากฏใน “ฟ้าคราม”

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่มันมีหลายที่ไม่ได้ถูกระบุไว้

 

ไม่สิ ถ้าให้พูดแบบจริงจังแล้ว มันถูกวางเป็นตำแหน่งในดันเจี้ยนแต่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่

 

 

 

「แต่ว่าดันเจี้ยนนั้นปรากฏขึ้นเฉพาะซีรีย์ “ฟ้าคราม” เวอร์ชั่น “R P G” เท่านั้นนี่น่าทำไมถึงมีอยู่ในโลกนี้……」

 

 

 

「――?!!」

 

 

 

บางทีเธออาจจะฟังเสียงพึมพำของฉัน และเธอแสดงสีหน้าประหลาดใจขึ้นมา

 

 

 

「มาเรีย มานี่สักครู่สิ」

 

 

 

「เอ๊ะ ท่านพี่?!」

 

 

 

เธอคว้ามือฉันแน่นและลากออกไปด้วยกัน

 

เมื่อมาถึงจุดที่คนอื่นไม่น่าจะได้ยินพวกเราก็คุยกัน

 

 

 

「อาสึพี้จิบาน คืออะไร?」(TN: ลูน่าออกเสียงภาษาอังกฤษไม่เป็น)

 

 

 

「เอ่อ “ฟ้าคราม” ซึ่งเป็นโลกเกมจีบหนุ่มที่พวกเราอยู่นั้นมีทั้งหมดห้าซีรีย์ได้แก่ ออริจินัล ภาคสอง ภาคสาม RPG และ SLG แต่ RPG เป็นเกมเดียวที่เหมือนจะมีเรื่องถ้ำการทดลองหลายแห่ง」

 

 

 

 อธิบายแบบนี้จะเข้าใจไหมนะ?

 

ฉันคิดว่าท่านพี่เองก็เป็น “ผู้กลับชาติมาเกิด” อย่างแน่นอน แต่ว่าท่านพี่นั้นเป็นคนญี่ปุ่นสมัยใหม่เหมือนกับฉันที่มาเกิดในโลกแห่งนี้รึเปล่านั่นล่ะปัญหา

 

 นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าไม่น่าจะรู้เรื่อง “ฟ้าคราม”ได้……。

 

 

 

ฉันได้รู้หลังจากคิดเกี่ยวกับมัน

 

ฉันสงสัยว่าท่านพี่ที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นกลับมาเกิดในโลกแห่งนี้แต่ดันรู้จัก “ฟ้าคราม” ได้ยังไง

 

แต่ก่อนที่จะได้ถามคำถามเหล่านั้นฉันก็ต้องหวาดกลัว

 

 

 

「งั้นเองเหรอ………………….เคยดูถูกยัยนั่นว่าเป็นแค่หมาโง่ แต่ดูเหมือนจะเป็นแบบนี้เองสินะ」

 

 

 

เธอซึ่งแสดงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด

 

ฉันตัวสั่นเมื่อเห็นท่านพี่ที่ปกติจะใจดีอยู่ตลอด

 

 

 

「มาเรีย พวกเราเดินอ้อมระหว่างกลับกันดีกว่านะ พอดีฉันอยากได้ยินหลายๆมุมของ “ฟ้าคราม” น่ะ」

 

 

 

อุหวาาาาาาาาาาาาา

 

ฉันทำได้แต่สำลักและพยักหน้าตอบตกลงกับท่านพี่ที่ยิ้มอย่างน่ากลัว

 

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Options

not work with dark mode
Reset