ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 507 : ฝันร้ายเทียม

ตอนที่ 507 : ฝันร้ายเทียม

    ตอนที่ 507 : ฝันร้ายเทียม

    “ทำไมถามถึงคนอื่นก่อน เจ้าควรแนะนำตัวก่อนไม่ใช่รึไง ? ”

    เสียงนี้มาจากทิศทางหนึ่ง และดูเหมือนว่ามันจะมาจากทางเดียวกันที่ชูหยุนชี้ไปที่นาฬิกา

    เขาเห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น แต่เมื่อตั้งใจลองมองดูดี ๆ แล้วกลับไม่เห็นอะไรเลย

    “เจ้าไม่ใช่คนเผ่าชูมิใช่หรือไม่ ? ” ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนนาฬิกา แสดงสีหน้าพอใจออกมา

    “นายรู้ได้ยังไง ? ”

    “ เพราะในความทรงจำเจ้าไม่เคยมีที่นั่นมาก่อน” ตอนนั้นเองฉากด้านหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นประเทศหัวเซี่ย

    “นายคือฝันร้ายสินะ”

    “ฝันร้าย ? ” ชายคนนั้นพูดขึ้น “ชื่อนี้มันฟังดูแย่ไปหน่อย”

    ฝันร้ายคือสัตว์อสูรที่ไม่มีเลเวล มันเรียกว่าสัตว์อสูรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันเหมือนกับภาพลวงตาแต่มีตัวตนอยู่จริง

    “นายเห็นความฝันของฉันงั้นหรือ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา

    “ใช่ ข้ามองความคิดของเจ้าออก ข้ายังมองเห็นโลกของเจ้ารวมถึงอดีตของเจ้าและสิ่งที่เจ้าทำด้วย”

    ฝันร้ายพูดแบบนั้นก็ทำให้หวังเย่าหน้าแดงขึ้นมา เพราะเรื่องที่เขาทำกับชาโรน่า ฝันร้ายคงเห็นแล้ว

    “ข้าจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับสาวน้อยเผ่าชูมิกับผู้หญิงชาวตะวันตกหรอก” ฝันร้ายหัวเราะออกมา

    ฉากรอบตัวได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง

    ฉากตรงหน้าหวังเย่าได้กลายเป็นซากเมืองอีกครั้ง ซึ่งครึ่งหนึ่งถูกฝังอยู่ภายใต้ผืนทราย

    มันมีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านในด้วย

    และชายคนนั้นก็นั่งอยู่ที่นั่น

    “มานั่งนี่ก่อนสิ” เสียงของชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้น

    “นายอยากจะฆ่าฉันงั้นหรือ ? ” หวังเย่ายังยืนนิ่ง

    ต่อหน้าฝันร้ายแบบนี้ก็ทำให้หวังเย่าปวดหัวอย่างมากเพราะเขาไม่มีทางที่จะกำจัดมันได้เลย

    ความคิดในหัวของหวังเย่าโดนมองออกทั้งหมด

    “นายอยากฆ่าเราไม่ใช่รึไง ? ”

    “ตอนนี้ข้ายังไม่อยากจะทำแบบนั้น ”

    เมื่อเห็นว่าหวังเย่าไม่เดินเข้ามานั่ง เขาก็เทชาให้กับตัวเอง

    ชานี้ส่งกลิ่นหอมอย่างมาก

    “นายเคยไปที่หัวเซี่ยมาก่อนรึเปล่า ? ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาชาขึ้นมารินใส่แก้ว หวังเย่าก็ถามขึ้นมา

    “ไม่เคย แต่ข้าได้เรียนรู้จากความทรงจำของเจ้า”

    “นายมีความสามารถที่ดีในการเรียนรู้” หวังเย่าพูดขึ้นพร้อมกับหยุดคิด

    “ทำไมอยู่ ๆ เจ้าถึงหยุดคิด ? ” อีกฝ่ายถามขึ้นมา “ไม่มีประโยชน์อะไร เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ ข้าไม่มีตัวตน ข้าเป็นแค่ความคิดที่อยู่ในหัวของเจ้า ข้าเห็นความคิดของเจ้าทั้งหมด”

    “มันหมายถึงอะไร ? ”

    “ไม่ว่าจะเป็นเผ่าชูมิรึคนเผ่าเจ้า สมองของทุกคนได้สร้างบางอย่างที่เรียกว่าความคิดขึ้นมา ตอนนี้ข้ากำลังครอบงำความคิดของเจ้าอยู่ ถ้าข้าอยากจะเปลี่ยนความคิดเจ้า ข้าก็ทำได้”

    หวังเย่าพยักหน้าและพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้น นายก็หมายถึงชูหยุนด้วยสินะ”

    “ชูหยุนเองก็ด้วย”

    เมื่อพูดถึงชูหยุน หวังเย่าก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

    หากมีแค่เขาคนเดียว เขาคงสลัดตัวออกจากฝันร้ายนี้ได้ แต่ชูหยุนนั้นอ่อนแอเกินไป เธออาจจะทนรับภาพในอดีตไม่ได้

    เขาต้องรีบแล้ว !

    หวังเย่าเดินไปที่โต๊ะแล้วนั่งลงไป เขาเทชาให้ตัวเองพร้อมคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย

    “นายคือฝันร้ายเทียมสินะ ? ”

    “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ? ” อีกฝ่ายไม่ได้แปลกใจที่หวังเย่าเดาออก

    “ฉันบอกว่านายไม่ใช่ฝันร้าย นายคือฝันร้ายเทียม”

    “เจ้ารู้ได้อย่างไร ? ” ตอนนี้เขาไม่คิดจะปกปิดอีกต่อไป เขากลับสารภาพออกมาตามตรง

    “เพราะรสชาติของน้ำชา ฝันร้ายมองเห็นความฝันของผู้คน ความทรงจำที่ผู้คนเคยผ่านมา ฉันน่ะไม่ชอบรสชาติชาขม ๆ แบบนี้เอามาก ๆ ”

    “แค่เพราะชานี่อย่างนั้นหรือ ? ”

    “ใช่ สำหรับฝันร้ายแล้ว การตรวจสอบความทรงจำใช้เวลาแค่วินาทีเดียวเท่านั้น ถ้านายเป็นฝันร้ายจริง ๆ ฉันอาจจะต้องยอมแพ้ไปแล้ว เพราะฝันร้ายน่ะรู้จักฉันดีกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก” หวังเย่าเงียบไปชั่วครู่และพูดต่อ “แต่นายรู้แค่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันตลอด 3 ปีมานี้เท่านั้น ซึ่งมันยังไม่เพียงพอ”

    “นี่คือความต่างงั้นหรือ ? ”

    หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ

    “แต่เจ้ายังไม่อาจจะมองจุดอ่อนของข้าออก เจ้ายังไม่อาจจะออกจากที่นี่ไปได้”

    หวังเย่ามองไปที่นาฬิกาแล้วพูดขึ้น “มันก็จริงที่ยังมองไม่ออก ”

    “งั้นมันจะสำคัญตรงไหนถ้าข้าไม่ใช่ฝันร้าย ? เจ้าก็ยังแพ้อยู่ดี เพราะถึงยังไงเจ้าก็ยังออกจากที่นี่ไปไม่ได้อยู่ดี”

    “ อย่างน้อยชูหยุนก็ไม่เป็นอะไรไม่ใช่รึไง ? ” หวังเย่าพูดขึ้น

    “เจ้าหมายความว่าอย่างไร !”

    “ นายควบคุมชูหยุนไม่ได้”

    อีกฝ่ายเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา “เจ้ารู้ด้วยงั้นหรือ ? ”

    “เพราะเธอน่ะยังแข็งแกร่งไม่พอ รึจะบอกว่านายไม่มีความสามารถในการควบคุมคนอ่อนแอ” หวังเย่าพูดขึ้น

    “เจ้ารู้ได้อย่างไร ? ” อีกฝ่ายรู้แล้วว่าเขาไม่อาจจะหลอกหวังเย่าได้อีก

    “ฉันรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับนาฬิกานั้น” หวังเย่าพูดขึ้น “ทันทีที่เห็นมัน ฉันก็รู้สึกไม่ชอบขึ้นมา ฉันคิดว่ามันน่าเกลียด ยิ่งดูยิ่งอารมณ์เสีย”

    “แค่นั้นเองหรือ ? ”

    “มันทำให้ฉันสงสัยว่าถ้านายเป็นฝันร้ายจริง ๆ งั้นเป้าหมายของนายก็ชัดเจนเกินไป” หวังเย่าสะบัดมือก่อนจะมีหอกมิติโผล่ขึ้นมา

    “นายไม่น่าจะทำให้ฉันไม่ชอบนาฬิกานั่นเลย” หวังเย่าให้ความสำคัญกับความคิดของตัวเองอย่างมาก “สิ่งสุดท้ายที่นายไม่ควรจะทำคือมายุ่งกับความคิดของฉัน แม้ว่าฉันจะรู้ว่านายน่ะไม่มีตัวตน แต่โชคร้ายที่ยิ่งนายพยายามปกปิดมันเท่าไหร่ มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น ถ้าฉันเดาไม่ผิด นาฬิกานั่นคงเป็นร่างของนายสินะ ? ”

    หวังเย่าได้พุ่งหอกมิติออกไป แต่มันเกิดแค่คลื่นกระจายออกมาเท่านั้น ไม่มีอะไรถูกทำลายไปเลย นาฬิกาเรือนนั้นก็ไม่ได้พังลงแบบที่หวังเย่าคิดเอาไว้

    มันต่างจากที่หวังเย่าคาดเดา !

    “เกิดอะไรขึ้น ? ”

    “ เมื่อเจ้าเดาออก คนอื่น ๆ ก็เดาออกเหมือนกัน มันไม่แปลกที่คนระดับ SSS จะมองออก แต่มองเห็นนาฬิกานั่นแล้วยังไง ? เจ้าก็ยังทำอะไรมันไม่ได้อยู่ดี เจ้ายังโดนขังไว้ที่นี่ เจ้าต้องกลายเป็นพลังงานให้กับข้า”

    หวังเย่าคิ้วขมวดและไม่ได้พูดอะไรออกมา

    ตามที่อีกฝ่ายบอกมา แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดีต่อเขาเลย

    

    แล้วเขาจะฝ่าออกไปยังไง ?

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset