Kill the Hero 073
“ช่วยสมาคมเมสสิอาห์เหรอ? ”
น้ำเสียงของกอร์บาชอฟนั้น ประหลาดใจชัดเจน ขณะที่เขาหยิบช็อกโกแลตที่โอเซชานซื้อให้เป็นของขวัญ
“ฮีโร่จะทำงาน เพื่อผลประโยชน์ไหม? คุณไม่ได้ขอให้พวกเขามอบรางวัลให้ ตอนที่คุณช่วยชีวิตคนใช่ไหมล่ะ? สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาจะไม่โจมตีผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขา อย่างน้อยก็ในขณะที่พวกเขายังสวมหน้ากากอยู่”
กอร์บาชอฟไม่ตอบกลับ แต่เขากินช็อกโกแลตชิ้นหนึ่ง และมองโอเซชานเก็บช็อกโกแลตสองชิ้นใส่ในกระเป๋าของเขา
หลังจากเคี้ยวอยู่ไม่กี่วินาทีด้วยสีหน้าจริงจัง เขาก็พูดกับโอเซชาน
“มันเป็นจิตวิทยาย้อนกลับ”
แผนของเซชานเรียบง่ายมาก
เขาต้องการเปลี่ยน ไอแซค อิวานอฟ ให้เป็นผู้กอบกู้สมาคมเมสสิอาห์
ถ้าเป็นเช่นนั้น สมาคมเมสสิอาห์ผู้กล้าหาญจะต้องดูแลผู้มีพระคุณของพวกเขาอย่างดีที่สุด
“มันอาจจะเป็นจิตวิทยาย้อนกลับ แต่ก็ยังเป็นวิธีการที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น มันจะดีมาก ถ้าผู้สนับสนุนของสมาคมเมสสิอาห์จะสนับสนุนเขาแทน”
เป้าหมายไม่ได้มีแค่สมาคมเมสสิอาห์ ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เขาจะได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมายที่สนับสนุนสมาคมเมสสิอาห์ด้วย
เช่นเดียวกับที่ศัตรูของสมาคมพระเมสสิอาห์ ที่ถูกโลกมองว่าโหดเหี้ยม และชั่วร้าย ผู้มีพระคุณของสมาคมเมสสิอาห์ก็จะได้รับตำแหน่งที่ดีกว่า
“สำหรับสมาคมเมสสิอาห์ ถ้าพวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนนี้แล้ว พวกเขาจะพูดอะไรก็ได้…”
กอร์บาชอฟคลายสีหน้าจริงจังลง และจ้องไปที่โอเซชาน
“แต่ทำไมคุณถึงตัดสินใจทำแบบนั้น ในตอนนี้?”
สำหรับคำถามนี้ โอเซชานยักไหล่
“นั่นเป็นเพราะฉันไม่เคยมีผู้เล่นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้”
“คุณจริงจังเหรอ?”
“ลองคิดดูสิ ใครจะสามารถช่วยสมาคมเมสสิอาห์ได้? สมาคมเมสสิอาห์ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ดีที่สุด”
“อ่า”
กอร์บาชอฟเอง ก็รู้ความจริงเกี่ยวกับคำพูดของโอเซชาน
ไม่ใช่ใครที่ไหนจะสามารถเป็นผู้มีพระคุณของสมาคมเมสสิอาห์ได้
การช่วยสมาคมเมสสิอาห์คงเป็นสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ การประชาสัมพันธ์ และความประทับใจ การกระทำดังกล่าวจะทำให้เกิดความรุนแรง
“ผู้เล่นที่ชื่อคิมวูจินเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
การใช้สิ่งนี้ในตอนนี้ หมายความว่าเขาเชื่อมั่นจริง ๆ ว่า คิมวูจินแข็งแกร่งกว่าสมาชิกของสมาคมเมสสิอาห์
“คุณเคยเห็นฉันจ่ายเงินโดยไม่จำเป็นไหม?”
ใช้เงิน
กอร์บาชอฟพยักหน้าให้สองคำนั้น
การได้เห็นโอเซชานใช้เงินมากขึ้นโดยไม่ลังเล เป็นสิ่งที่กอร์บาชอฟไม่เคยเห็นมาก่อน และอาจเป็นสิ่งที่เขาอาจจะไม่ได้เห็นในอนาคต
“ก็จริงนะ”
กอร์บาชอฟย้ายไปยังหัวข้อต่อไปที่เขาต้องการพูดถึง
“คำถามคือ เมื่อความจริงถูกเปิดเผย…คุณมั่นใจไหมว่าจะไม่ถูกจับได้?”
เว้นแต่ว่าสมาคมเมสสิอาห์จะไร้ประโยชน์ ในที่สุดพวกเขาก็จะตรวจสอบ และตระหนักได้ว่า ไอแซค อิวานอฟ เป็นตัวตนปลอม
“ฉันอาจจะถูกจับได้”
โอเซชานไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยว่า เขาจะสามารถหลบเลี่ยงการถูกจับได้
“ถ้าจู่ ๆ รัสเซียก็มีกระแสประชาธิปไตยในระดับเยอรมัน และการคอร์รัปชันทั้งหมดที่เกิดจากผู้มีอำนาจถูกเปิดเผย ในขณะที่คนระดับสูงทั้งหลายก็นั่งจิบว็อดก้า และดูทีวีกันอยู่ในห้องทำงาน ฉันคงจะถูกจับได้ในหนึ่งปี”
กอร์บาชอฟหัวเราะกับคำพูดของเขา
“คุณไม่ต้องกังวลมากถึงขนาดนั้น”
นั่นเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือมากกว่าสิ่งใด
“ถ้าอย่างนั้น นี่ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับพิธีการ”
“คุณจะไปแล้วเหรอ?”
“เพราะบริษัทกำลังขยายงาน จึงมีงานที่ต้องทำมากมาย เราต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีการตรวจพบตัวตนที่แท้จริงของ ไอแซค อิวานอฟ”
“ใช่ เราควรสนับสนุนให้มีการทุจริตมากขึ้น”
ตามที่กอร์บาชอฟพูด โอเซชานลุกขึ้นยืน เมื่อเขาลุกขึ้น เขาก็หยิบช็อกโกแลตอีกชิ้นหนึ่งใส่กระเป๋า
กอร์บาชอฟส่ายหัวอย่างจนปัญญา
“ทำไมคุณถึงเก็บช็อกโกแลตที่คุณให้ฉันเป็นของขวัญเข้ากระเป๋าตัวเอง? ”
“ฮะ? “
โอเซชานมองด้วยความประหลาดใจ และมองดูช็อกโกแลตในกระเป๋าตัวเอง
“อ่า มันเป็นนิสัยนิสัยน่ะ ทุกครั้งที่ไปร้านอาหารหรือธนาคาร ฉันมักจะหยิบขนมของที่นั่นไปด้วย ฮ่าฮ่า!”
โอเซชานยิ้มอย่างอึดอัดใจ และกอร์บาชอฟก็ส่ายหัวอีกครั้ง
“อา! ไอแซคเป็นยังไงบ้าง? ฉันหวังว่าเขาจะปลอดภัยนะ!” (TL : โทษนะ… ปลอมมาก )
…
ปึก!
การต่อสู้สิ้นสุดลง เมื่อหน้าอกของมนุษย์หมาป่าดำถูกแทงด้วยหอกที่ใช้ โดยทหารโครงกระดูกหุ้มเกราะ
นี่แสดงถึงการสิ้นสุดการต่อสู้ที่ยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างพวกเขากับมนุษย์หมาป่าดำเกือบพันตัว
“อา…”
“มันจบแล้วใช่ไหม? “
สนามรบเงียบสงัด เพราะไม่มีใครเหลือแรงจะโห่ร้องให้กับชัยชนะ
พวกเขาจ้องโครงกระดูกที่ยืนอยู่เหนือศพของมนุษย์หมาป่าดำ ด้วยท่าทางว่างเปล่า อย่างไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงดี
ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นในการต่อสู้
ภาพของกลุ่มโครงกระดูกหุ้มเกราะที่พุ่งเข้าสู่เกลียวคลื่นของมนุษย์หมาป่าดำ เป็นสิ่งที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของพวกเขาไปตลอดชีวิต
‘เมื่อกี้มันคืออะไร? ‘
‘พวกนี้เป็นมอนสเตอร์อะไร ..? ’
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น
การต่อสู้ของทหารโครงกระดูกดูเหมือนจะก้าวข้ามสามัญสำนึกของพวกเขาไปแล้ว
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกัปตันคังยองจีที่ได้สติจากการมึนงงก่อน
‘ฉันควรจะทักทายผู้ช่วยให้รอดของเรา’
หลังจากตัดสินใจแล้ว เธอก็เข้าไปหาคิมวูจินที่สวมหน้ากากหัวกะโหลก และก้มหัวลง
“ขอบคุณค่ะ”
ขณะที่เธอแสดงความขอบคุณ คิมวูจินก็หันไปมองคังยองจีผ่านหน้ากากของเขา
“โอ้ คุณอาจจะพูดภาษาเกาหลีไม่ได้…”
ตอนนั้นเธอก็จำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นชาวรัสเซีย
“ฉันพูดได้…ฉันต้องทำอะไร”
คิมวูจินพูดภาษาเกาหลีด้วยน้ำเสียงที่แห้งกร้าน
“อา”
คังยองจีพยักหน้า และโค้งคำนับอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตาม ขอบคุณค่ะ”
คิมวูจินก็พยักหน้าให้เธอ หลังจากนั้นเขาก็หันหลังให้ และเริ่มเดินจากไป
‘เอ่อ? ’
ดวงตาของคังยองจีเบิกกว้าง ขณะที่เธอมองดูเขาเดินจากไป
“เดี๋ยว – เดี๋ยวก่อน!”
เธอร้องเสียงหลง ขณะที่เริ่มเดินตามคิมวูจินอย่างประหลาดใจ
“มีอะไร…”
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอยังต้องการอย่างอื่นอีก หลังจากที่เขาช่วยสู้ในการต่อสู้ที่ดุเดือดครั้งนี้
แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องตอบรับเธออยู่ดี เมื่อคิมวูจินหยุดเดิน ทหารโครงกระดูกก็เข้ามาล้อมรอบเขา ดวงตาที่ลุกโชนของพวกมันจ้องมองคังยองจี
เขาวางแผนจะเริ่มการล่าในดันเจี้ยนตั้งแต่ตอนนี้
คังยองจีกลืนน้ำลายพร้อมกับพูดที่เธออยากจะพูด
(TL : รู้สึกตงิดใจกับการตั้งชื่อตอนของ EN …เหมือนว่าชื่อตอนจะเร็วกว่าเนื้อหานะ)
ปล. ผมไม่ได้ตรวจสอบทุกตอน แต่บางตอนก็สังเกตเห็นว่า เนื้อหาบางคำที่ก็อบลงในเว็บ ไม่เหมือนกับที่มีไฟล์ของผม เนื้อหาไม่ได้หายไปนะครับ แต่มันเพิ่มเข้ามามากกว่า เหมือนจะเป็นการซ้ำคำกัน